6 เหตุผล ทำไมร้าน Potato Corner ถึงดังติดตลาด - Amarin Academy

6 เหตุผล ทำไมร้าน Potato Corner ถึงดังติดตลาด

6 เหตุผล ทำไมร้าน Potato Corner ถึงดังติดตลาด

Potato Corner ร้านเฟรนฟรายส์เจ้าดังที่เข้ามาตีตลาดในประเทศไทยได้ไม่นาน แต่กลับสามารถขนาดได้ถึง 20 สาขา ภายใน 2 ปี แถมยังมีแนวโน้มเติบโตขึ้นเรื่อยๆ รู้ไหมว่าเคล็ดลับความสำเร็จของธุรกิจนี้ มีจุดร่วมไม่ต่างจากบริษัทยักษ์ใหญ่ระดับโลกอย่าง Apple

“คุณพ่อของผมเป็นคนที่ใสใจทุกรายละเอียดครับ” สตีฟ จ๊อบส์ ศาสดาผู้เปลี่ยนโลกเคยเล่าให้สื่อสหรัฐฟังเมื่อถูกถามว่า ใครที่มีอิทธิพลต่อชีวิตของคุณบ้าง

“คุณพ่อเป็นคนที่ชอบสร้างอะไรขึ้นมาด้วยตัวของเขาเอง” “ถ้าอยากได้ตู้ ก็จะสร้างตู้ขึ้นมาเอง ถ้าอยากได้รั้วบ้าน เขาก็จะสร้างขึ้นเองเช่นกัน” สตีฟ จ๊อบส์ กล่าวอย่างชื่นชมครับ

เขาเล่าต่อว่า โดยทั่วไปแล้วช่างไม้ส่วนใหญ่ชอบใช้แผ่นไม้ข้างหลังตู้ เป็นไม้ราคาถูกเพื่อลดต้นทุน แต่คุณพ่อของเขาเลือกที่จะไม่ทำอย่างนั้น

คุณพ่อจะใช้วัสดุที่ดีทุกอย่าง เขาใส่ใจทุกรายละเอียด แม้ว่าจะเป็นส่วนที่คนอื่นมองไม่เห็นก็ตาม

ใครจะไปคิดล่ะครับว่า ประโยคนี้ประโยคเดียวจะกลายเป็นปรัชญาที่สตีฟ จ๊อบส์ ยึดถือมาโดยตลอด และสร้างผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ ดีไซน์สวยงาม โดนใจสาวกอย่างมาก จนสร้างอาณาจักรธุรกิจที่มีมูลค่ามากที่สุดในโลกในยุคนี้

วันก่อนผมมีนัดกับ คุณป๋อง-ชยภัทร ทองเจริญ นักธุรกิจหนุ่ม เจ้าของธุรกิจนำเข้าเฟรนช์ฟรายส์ ปรุงรส ชื่อดังระดับโลกจากประเทศฟิลิปปินส์ “โปเตโต้ คอร์เนอร์ (Potato Corner)”

เรานั่งคุยกันประมาณเกือบชั่วโมง แต่ผมว่าเฟรนช์ฟรายส์น่าจะหมดไปประมาณ 3 ถังละครับ คือต้องบอกว่า หยุดไม่ได้จริงๆ เคี้ยวเพลินสุดๆ

อร่อยขนาดนี้ไม่แปลกใจเลยครับว่า ทำไมโปเตโต้ คอร์เนอร์ใช้เวลาเพียงแค่ 2 ปีเท่านั้น ตอนนี้มีแล้วกว่า 20 สาขาทั่วประเทศ (เป็นแบรนด์น้องใหม่ที่มาแรงแซงทางโค้งรุ่นพี่ไปหลายแบรนด์)

“ผมยืนยันว่า ความสำเร็จของแบรนด์เราไม่ใช่เพราะ พีช พชร อย่างเดียว แต่เป็นเพราะทีมงานทุกคนทำงานหนักใส่ใจทุกรายละเอียด ตามหน้าที่ของตัวเองครับ” คุณป๋องเกริ่น เพราะหลายคนน่าจะทราบแล้วว่า คุณพีช พชร นักแสดงชื่อดังเองก็เป็นหุ้นส่วนในธุรกิจนี้เช่นกันครับ

“หลายคนเห็นโอกาสในตลาด มองออกว่าอะไรที่น่าจะขายได้ แต่พอเปิดมากลับไม่ปังอย่างที่คิด ทำให้ต้องปิดกิจการไปหลายแห่ง อะไรที่ทำให้ธุรกิจคุณจะไม่เป็นอย่างนั้น” ผมยิงคำถามที่คาใจมานาน

  1. รู้จักผู้บริโภคให้ดี เหมือนรู้จักตัวเอง

คุณป๋อง เล่าให้ฟังอย่างมั่นใจว่า อย่างแรกเลย คุณต้องเข้าใจตลาดก่อนครับ “คนไทยจริงๆแล้วชอบทานเฟรนช์ฟรายส์นะ เป็นสินค้าที่ขายดีที่สุดในร้านฟาสต์ฟู้ด แต่ไม่มีรสชาติอะไรแปลกใหม่ เคยทานยอย่างไรในอดีต ตอนนี้ก็ทานแบบเดิมๆ”

เหมือนโชคชะตาฟ้าลิขิตครับ ที่เพื่อนของคุณป๋องที่เป็นชาว ฟิลิปปินส์ แนะนำให้รู้จัก โปเตโต้ คอร์เนอร์ (ปัจจุบันมีสาขาอยู่ทั่วโลก ทั้งในสหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย ปานามา อินโดนีเซีย รวม 900 สาขา)

ทันทีที่ลองทานเท่านั้นแหละครับ คุณป๋องฟันธงเลยว่า นี่แหละคือสินค้าที่น่าจะเหมาะกับคนไทยก็เลยติดต่อเพื่อนำเข้ามาขายในเมืองไทย

  1. เข้าเมืองตาหลิ่ว ต้องหลิ่วตาตาม

คุณป๋องเล่าให้ฟังว่า โปเตโต้ คอร์เนอร์ ในฟิลิปปินส์ ขายในห้างแม้จะเป็นบูธเล็กๆ แต่ก็ขายดีมาก แต่ในเมืองไทยจะทำอย่างนั้นไม่ได้

“เราต้องการให้โปเตโต้ คอร์เนอร์ เป็นเฟรช์ฟรายส์ พรีเมียม” “ลูกค้าถึงจะกล้าซื้อในราคา 79 บาท เราก็ต้องให้ประสบการณ์ที่ดีที่สุดสำหรับลูกค้า”

ถ้าไปตามสาขาต่างๆ จะเห็นเลยว่า เขาตกแต่งแบบจัดหนักจัดเต็ม ดูดี สีสันเขียว-เหลือง สดใส เตะตาอย่างมากครับ

นอกจากนี้ยังปรับรสชาติให้ถูกปากคนไทยอีกด้วย “โปเตโต้ คอร์เนอร์ในไทย เป็นประเทศแรก และประเทศเดียวที่ีมีรสลาบ”

คุณป๋องเห็นโอกาสจากการที่สังเกตว่าคนไทยชอบทานลาบ เลยลองทำวิจัย ทดลองขาย และพอเห็นรอยยิ้มของลูกค้าก็เลยมั่นใจว่าขายได้แน่ๆ ก็เลยเริ่มขายเลย

3.การตั้งราคา ไม่ใช่แค่กำหนดตัวเลข

“ที่นี่ขาย ราคา 39, 59, 79, 129 บาท ขึ้นอยู่กับขนาด” คุณป๋องเล่าให้ฟังต่อ

แน่นอนครับ เลข “9” เตะตาผมอย่างมากเลยถามว่ามีสูตรในการตั้งราคาอย่างไร

“ความรู้สึกมันต่างนะ เช่น เราเริ่มต้นราคา 39 บาท มันให้ความรู้สึกดีมากเวลาที่เราจ่ายแบงค์ 20 จำนวน 2 ใบแล้วได้เงินทอน”

อีกหนึ่งเหตุผลที่ไม่ได้ตั้งราคาแพงเกินไป คือ อยากให้เป็นเฟรนช์ฟรายส์ ที่ทุกคนเข้าถึงได้ เป็นเฟรนช์ฟรายส์ ที่ทานแล้วสนุก กินกันทั้งครอบครัว เป็นความสุขของการทำธุรกิจครับ

4.ใช้เงินการตลาดให้คุ้มค่า

กลุ่มลูกค้าที่ โปเตโต้ คอร์เนอร์ เลือกทำตลาดก่อนคือ กลุ่มวัยรุ่น เพราะเป็นกลุ่มที่ชอบแชร์ ชอบบอกต่อๆ กันไป โดยเน้นทำการตลาดออนไลน์ ถ้าได้ใจกลุ่มนี้ก็จะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายการตลาดได้มาก เพราะเขาจะโพสต์ Like comment share ทำให้แบรนด์ติดตลาดได้เร็วขึ้น

  1. ซื้อบ้านยังต้องดูหวงจุ้ย เลือกร้านต้องเลือกทำเลให้ดี

โปเตโต้ คอร์เนอร์ พิถีพิถันในการเลือกทำเลอย่างมาก “ถ้าจำเป็นต้องรอ 3 เดือน เพื่อให้ได้พื้นที่ที่ดี ผมก็จะรอครับ” (เพราะถ้าเลือกทำเลผิด ชีวิตเปลี่ยนเลยนะครับ)

ในมุมมองของคุณป๋อง ทำเลที่เหมาะสำหรับโปเตโต้ คอร์เนอร์ คือ พื้นที่เกาะกลางของห้างครับ เพราะเฟรนช์ฟรายส์ เป็นสินค้าที่ “impulse buying” เห็นแล้วต้องอยากทานทันที

เป็นทำเลที่ใครผ่านไป ผ่านมา ก็เห็นได้จากทุกทิศทุกทาง เห็นโลโก้รอบร้านมากที่สุด มองว่าวิธีนี้ทรงพลังมากกว่าโฆษณาช่องทางอื่นเสียอีกครับ

6.ชมตัวเอง ไม่เท่ากับคนอื่นชม

แบรนด์ส่วนใหญ่จะบอกว่า สินค้าของตัวเองดีที่สุดในโลก แต่เราไม่อยากพูดตั้งแต่แรก แต่เราอยากให้สินค้า พูดด้วยตัวของมันเอง ลูกค้าจะเชื่อมากกว่า

คุณป๋อง เล่าให้ผมฟังต่อว่า วัตถุดิบเป็นเกรดพรีเมียม ส่งตรงนำเข้าจากประเทศเบลเยียม ภายใต้การควบคุมอุณหภูมิที่เหมาะสม ถ้าลูกค้ามองว่า เฟรนช์ฟรายส์ไม่สด ไม่กรอบ ลูกค้าก็สามารถขอเปลี่ยนใหม่ได้ทันที เพื่อการันตีคุณภาพ

“ในเมื่อลูกค้ายอมจ่ายราคาสูง เราก็ต้องให้สิ่งที่สมบูรณ์แบบที่สุด” นี่คือคำยืนยันของนักธุรกิจหนุ่มไฟแรงคนนี้

เรื่องคุณภาพของสินค้า สำคัญมากและมีผลต่อการขยายกิจการด้วย สังเกตไหมครับว่า หลายแบรนด์พอเริ่มโด่งดัง ก็จะเร่งขยายสาขาจนทำให้คุณภาพลดลง ทำให้ในท้ายที่สุดก็ไปไม่รอด

“ถ้าคุณภาพไม่ 100% เราจะไม่ขยายสาขา ต่อให้กระแสมาแรง เราก็จะยังไม่ขยาย” คุณป๋องบอกทิ้งท้ายที่ฟังดูแล้ว ต้องบอกเลยครับว่า ผู้บริหารทีมนี้ไม่ธรรมดาครับ

ความเห็นของ ถามอีกกับอิก เรื่องลงทุน

ผมมองว่า โปเตโต้ คอร์เนอร์ ไม่เพียงแต่สามารถทำให้สินค้าติดตลาดได้อย่างรวดเร็วเท่านั้น แต่มุมมองการทำธุรกิจของคุณป๋องและทีมงาน เป็นแนวคิดที่ไม่ได้ทำธุรกิจแบบฉาบฉวย ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำธุรกิจให้ประสบความสำเร็จระยะยาว

สังเกตไหมครับ ว่าทีมนี้เขา “ใส่ใจทุกรายละเอียด” เก็บทุกเม็ด ตั้งแต่คุณภาพสินค้า หรือหลักการทำการตลาดเจาะกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย

ผมเชื่อว่า การที่เราใส่ใจรายละเอียดเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้ามากขึ้นเรื่อยๆ วันละเล็กวันละน้อย ถึงจุดหนึ่งเราก็จะสร้างความแตกต่างจากคู่แข่งและได้ใจลูกค้าไปตลอดกาล

ขอบคุณภาพจาก Potato Corner

เรื่องแนะนำ

factory coffee

Factory Coffee ผู้พิสูจน์ว่าร้านกาแฟคือธุรกิจที่ยั่งยืน!

ทุกวันนี้ใครๆ ก็อยากเปิดร้านกาแฟ และเชื่อว่าทุกคนคงเปิดได้ (ถ้ามีทุนมากพอ) แต่จะทำอย่างไรให้อยู่รอดได้ท่ามกลางการแข่งขันที่รุนแรง นี่สิปัญหา

QQ dessert

QQ dessert ขนมหวานเพื่อสุขภาพ เริ่มจากความชอบสู่ 6 สาขาทั่วกรุงเทพฯ

หลายคนคงชอบกินขนมหวานต่อท้ายมื้ออาหาร พอกินเสร็จแล้วก็รู้สึกผิดกับตัวเอง แต่ขนมหวานของ QQ dessert ทำให้ทุกคนได้สัมผัสกับรสชาติหวานน้อย อร่อยหนัก

Specialty Coffee คืออะไร ? แตกต่างจากคาเฟ่ทั่วไปอย่างไร ?

Specialty Coffee คืออะไร ? แตกต่างจากคาเฟ่ทั่วไปอย่างไร ? แชร์มุมมองโดย คุณมิน เจ้าของร้าน Gorilla Coffee&Bakery ทุกวันนี้มีร้านกาแฟให้เราได้เลือกกินอยู่เต็มไปหมด ซึ่งก็มีทั้งร้านที่เป็นรูปแบบคาเฟ่ ร้านกาแฟทั่วไป รวมถึงร้านแบบ Specialty ที่หลายคนให้คำจำกัดความร้านรูปแบบนี้ว่าเป็นร้านกาแฟที่มี “ความพิเศษ” ที่ต่างออกไปจากร้านกาแฟแบบอื่น ๆ ว่าแต่มันพิเศษยังไงล่ะ ? ลองมาดูมุมมองต่อความเป็นร้านกาแฟ Specialty ของคุณมิน ธมลวรรณ เจ้าของร้าน Gorilla Coffee&Bakery ร้านกาแฟ Specialty ย่านลาดกระบังกัน! . นิยามของ Specialty . ในมุมมองของเรา Specialty Coffee คือ กาแฟที่พิเศษแตกต่างจากกาแฟทั่ว ๆ ไป เพราะเราให้ความใส่ใจ สนใจตั้งแต่ต้นทางถึงปลายทาง ตั้งแต่การเลือกสายพันธ์ุกาแฟ ประเทศที่ปลูก การชง คาแรกเตอร์ของกาแฟแต่ละแบบ เอามาให้ผู้บริโภคเลือกมากกว่าร้านที่ขายกาแฟแบบปกติ เพราะคาแรกเตอร์แต่ละประเทศก็จะแตกต่างกัน เมื่อก่อนคนกินกาแฟ ก็อาจจะดูจากเรื่องความขม ให้ความกระปรี้กระเปร่า แต่เดี๋ยวนี้คนให้ความสนใจกับรสชาติ […]

คุ้มกะตังค์

คุ้มกะตังค์ ต้นแบบการจัดการร้านอาหารอย่างมืออาชีพ

คุ้มกะตังค์ ร้านอาหารในเครือ บริษัท มัลลิการ์ ตั้งราคาไม่เกิน 59 บาท แถมยังใช้วัตถุดิบมีคุณภาพ ได้มาตรฐาน แนวคิดการบริหารงานเป็นอย่างไร เราจะมาไขความลับกัน

Follow Me

Contact

เว็บไซต์ : amarinacademy.com
บริษัท อมรินทร์ คอร์เปอเรชั่นส์ จำกัด (มหาชน)
Tel : 02-422-9999 ต่อ 4662 หรือ 4669, 092-254-0742
Email : amarin.academy@gmail.com

ติดต่อแจ้งปัญหาหรือร้องเรียน
02-422-9999 ต่อ 4180
(จันทร์ – ศุกร์ เวลา 09.00 – 18.00 น)
bdcx@amarin.co.th

สนใจลงโฆษณากับเว็บไซต์ Amarin Academy
Tel. 081-664-0666, 091-729-8060
E-mail : sineenart_ya@amarin.co.th

© COPYRIGHT 2024 Amarin Corporations Public Company Limited.