4 เหตุผลสำคัญที่ทำให้ “ พนักงานดีๆ ลาออก ” - Amarin Academy

4 เหตุผลสำคัญที่ทำให้ “ พนักงานดีๆ ลาออก ”

4 เหตุผลสำคัญที่ทำให้ “ พนักงานดีๆ ลาออก ”

เชื่อว่าปัญหาน่าปวดหัวอันดับหนึ่งของร้านอาหาร คือเรื่อง “คน” ใช่ไหมครับ ทั้งเรื่องขาด ลา มาสาย บริการไม่ดี ไม่พัฒนาตัวเอง และที่สำคัญ พนักงานลาออกกันเป็นว่าเล่น แต่สิ่งที่ทำให้เจ้าของร้านอาจต้องนั่งกุมขมับคือ การที่พนักงานดีๆ ที่ตั้งใจจะปั้นให้เป็นมือขวาหรือมือซ้าย ดันมาลาออกซะนี่! จะหาคนมาแทนก็ยากลำบาก ฉะนั้นถ้าไม่อยากให้ปัญหานี้เกิดขึ้น มาลองดู 4 เหตุผล ที่อาจส่งผลให้ พนักงานดีๆ ลาออก กันดีกว่า เผื่อจะช่วยป้องกันปัญหานี้ได้บ้าง

1.เพราะตัวคุณเอง

หากพนักงานดีๆ ของคุณตัดสินใจลาออก ก่อนที่จะโทษว่าพนักงานไม่อดทน หรือมองว่ามาจากสาเหตุอื่นๆ ลองย้อนกลับมามองที่ตัวคุณเองก่อนว่า เป็นเพราะว่าคุณเป็นเจ้านายที่ไม่ดีหรือเปล่า
ส่วนใหญ่แล้วพฤติกรรมที่ลูกน้องมักไม่ชอบสุดๆ คือ การที่เจ้าของร้านด่าทอ ต่อว่าลูกน้องตลอดเวลา โดยไม่สมเหตุสมผล แถมยังไม่ช่วยหาทางออกหรือวิธีแก้ไขปัญหาให้ด้วย (ลองคิดดูว่า ถ้าคุณเป็นลูกน้อง คงไม่อยากได้หัวหน้าที่มีนิสัยเหมือนเชฟกอร์ดอน แรมซีย์ ที่เอาแต่ตะโกนด่าลูกทีมตลอดเวลา แบบไม่ไว้หน้าหรอก จริงไหม?)
หรืออีกพฤติกรรมหนึ่งที่พนักงานส่วนใหญ่รับไม่ได้คือ ความไม่ยุติธรรมของเจ้าของร้าน เช่น หากพนักงานบางคนขาด ลา มาสาย หรือทำงานผิดพลาดบ่อยๆ แต่เจ้าของร้านกลับไม่ลงโทษ หรือไม่มีกฎเกณฑ์ในการตัดสินความผิดตายตัว วันนี้อารมณ์ดี ก็แค่ตักเตือน อีกวันหนึ่งอารมณ์ไม่ดี ก็เปลี่ยนจากการตักเตือนเป็นตัดเงินเดือนหรือสั่งพักงาน การไม่มีระบบที่ชัดเจน จะทำให้ลูกน้องบางคนรู้สึกว่าตัวเองไม่ได้รับความยุติธรรม
หากพนักงานดีๆ ของคุณรับไม่ได้กับพฤติกรรมหรือวัฒนธรรมดังกล่าว ย่อมตัดสินใจลาออก เพื่อสิ่งที่ดีกว่าก็ได้

2.เพราะไม่โตสักที

เคยไหม ทำงานเป็นปีๆ แต่ตำแหน่งงานก็ยังอยู่เท่าเดิม ไม่ได้ขยับขยาย เงินเดือนก็ขึ้นทีละเล็ก ทีละน้อย เป็นใครก็ไม่อยากอยู่ต่อจริงไหมครับ ฉะนั้นเจ้าของร้านอาหารต้องวางแผนการเติบโตให้ทีมงานด้วย เช่น อาจลองประเมินผลงานของลูกน้องทุกครึ่งปี บอกให้เขารับรู้ว่าการทำงานของเขาเป็นอย่างไร สมควรปรับปรุงหรือพัฒนาในส่วนไหนบ้าง หากเขาปรับปรุงหรือพัฒนาได้ตามเป้า จะได้รับผลอะไรตอบแทน วิธีนี้จะทำให้เขารู้สึกว่าการทำงานมีเป้าหมาย และได้รับผลตอบแทนที่วัดผลได้อย่างชัดเจน
นอกจากจะช่วยให้เขาอยากทำงานกับเราต่อแล้ว ยังทำให้เขาได้พัฒนาตัวเองตลอดเวลา ส่งผลดีต่อธุรกิจของเราอีกด้วย

3.เพราะเพื่อนร่วมงานแย่

ปัญหาเรื่องเพื่อนร่วมงานเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้เกิดการลาออก เช่น หากพนักงานคนอื่นเฉื่อยชา ไม่กระตือรือร้น พนักงานดีๆ ย่อมรู้สึกว่าตัวเองขยันไป หรือทำดีไปก็ไม่เกิดประโยชน์ ทางเลือกของพวกเขามักมี 2 ทาง คือ ไหลไปตามน้ำ “ในเมื่อไม่มีใครขยัน แล้วฉันจะทำไปเพื่ออะไร อย่างนั้นก็ทำงานตามหน้าที่ก็พอ” หรืออีกทางหนึ่งคือ ลาออก เพื่อไปหาสังคมใหม่ๆ ที่ดีกว่า
แน่นอนว่าทั้งสองทางเลือกย่อมส่งผลเสียต่อร้านอาหารทั้งคู่ ฉะนั้นจึงเป็นหน้าที่ของเจ้าของร้านที่จะสร้างวัฒนธรรมที่ดีให้กับลูกน้อง หากพบพนักงานที่มีพฤติกรรมไม่ดีต้องรีบตักเตือนและแก้ไข ไม่อย่างนั้นอาจส่งผลกระทบในระยะยาวได้

4.เพราะไม่มีระบบ อุปกรณ์ไม่พร้อม

ระบบคือสิ่งสำคัญที่สุดในการทำร้านอาหาร ยิ่งคุณวางระบบได้ดีมากเท่าไร ปัญหาก็ยิ่งมีน้อยมากเท่านั้น แต่หากคุณไม่วางระบบการทำงานเลย นอกจากตัวคุณเองต้องปวดหัวกับสารพัดปัญหาที่เกิดขึ้นแล้ว พนักงานก็ต้องคอยมานั่งแก้ปัญหาเฉพาะหน้าตลอดเวลาเช่นกัน เช่น ปัญหาอาหารออกช้า เพราะวัตถุดิบหมด (เนื่องจากไม่เคยมีการเช็คสต็อกวัตถุดิบเลย) ต้องรีบให้พนักงานไปซื้อ นอกจากจะเสียเวลาแล้ว พนักงานรับออร์เดอร์อาจจะต้องถูกลูกค้าตำหนิจากความไม่พร้อม หากโดนบ่อยๆ เข้าก็พนักงานคงเซ็งไปตามๆ กัน

นอกจากนี้ความไม่พร้อมของเครื่องไม้ เครื่องมือ อุปกรณ์ต่างๆ ที่จำเป็นต่อการทำงาน ก็ส่งผลให้พนักงานลาออกได้เช่นกัน เช่น เคาท์เตอร์ครัวอาจจะสูงเกินไป ทำให้ปรุงอาหารไม่สะดวก ต้องก้มๆ เงยๆ ทำให้มีปัญหาสุขภาพ แจ้งเจ้าของร้านไปก็ไม่มีแนวโน้มว่าจะช่วยแก้ปัญหา เป็นใคร ใครก็ลาออกครับ เพราะห่วงสุขภาพตัวเองมากกว่า

ปัจจัย 4 ข้อที่ว่ามานี้ เป็นปัจจัยหลักๆ ที่อาจส่งผลให้พนักงานลาออก แต่จริงๆ แล้วยังมีปัจจัยอื่นๆ มากมาย เช่น เรื่องเงินเดือน สวัสดิการต่างๆ ที่อาจไม่ตรงกับความคาดหวังของพนักงาน หรือปัญหาส่วนตัวของลูกน้อง เจ้าของร้านลองพิจารณากันดูนะครับ ว่ามาจากสาเหตุอะไร จะได้แก้ไขได้ตรงจุด

เรื่องแนะนำ

5 เรื่องรู้ก่อน….เปิดร้านอาหาร รู้แล้วร้านคุณจะไม่เจ๊ง

5 เรื่องรู้ก่อน….เปิดร้านอาหาร รู้แล้วร้านคุณจะไม่เจ๊ง! เชื่อหรือไม่…กว่าครึ่งของร้านอาหารที่เปิดใหม่ในทุกปี ประสบกับปัญหาจนต้องปิดตัวลง ถ้าคุณมีเงินทุนมากพออาจจะได้ประสบการณ์และเริ่มต้นใหม่ได้อย่างรวดเร็ว แต่หลายคนที่ใช้เงินเก็บมาทั้งชีวิตเพื่อลงทุนเปิดร้านอาหาร ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะลุกขึ้นได้อีกครั้ง ถ้าหากความฝันของคุณคือการเปิดร้านอาหาร มีร้านกาแฟเล็ก ๆ เป็นของตัวเอง นี่คือ 5 ข้อ ที่คุณต้องเข้าใจมันอย่างถ่องแท้ ก่อนเริ่มต้นทำความฝันของคุณให้เป็นจริง   รู้จักตลาด….. รู้ว่าจะขายอะไร และขายอย่างไร 9 %* คือตัวเลขของร้านอาหารที่เพิ่มขึ้นในปีล่าสุด มีร้านค้ากว่าหมื่นรายกระจุกตัวอยู่ในกรุงเทพ และจังหวัดอื่น ๆ คุณจะเป็น 1 ใน 9 % ที่คงอยู่หรือปิดตัวลงไปในแต่ละปี จำเป็นต้องศึกษาข้อมูลทางการตลาดที่จะทำให้คุณมองเห็นภาพรวม สามารถกำหนดจุดยืน และทิศทางการตลาดให้เหมาะสมกับสภาพสังคมปัจจุบัน แนวโน้มพฤติกรรมของผู้บริโภค ทำให้เห็นโอกาสทางธุรกิจ เช่น การให้ความใส่ใจเรื่องสุขภาพการกินอาหารมากขึ้น สังคมที่มีผู้สูงอายุมากขึ้นแต่มีร้านอาหารที่ตอบโจทย์น้อย  อิทธิพลของอาหารจากต่างประเทศ พฤติกรรมการสั่งอาหารผ่านผู้ให้บริการเดลิเวอรี่ ที่ส่งผลกระทบต่อยอดขายร้านอาหารในปัจจุบัน *ข้อมูลอ้างอิงจากศูนย์วิจัย กสิกรไทย ณ มีนาคม 2562   รู้ทำเล….รู้ว่าจะขายที่ไหน ทำเลเป็นปัจจัยสำคัญ หากตัดสินใจเลือกทำเลแล้ว คุณจะไม่สามารถเปลี่ยนทำเลไปไหนได้เลยนอกเสียจากว่าเปลี่ยนร้านให้เข้ากับทำเลนั้น ๆ […]

วัดความสำเร็จของร้านอาหาร……ที่ไม่ใช่แค่ยอดขาย

วิเคราะห์ตัวเลข ตัวเลขรายได้รวม ความสำเร็จของร้านอาหารไม่สามารถวัดได้ด้วยยอดขายปัจจุบันเสมอไป ร้านอาหารจำเป็นที่จะต้องวิเคราะห์ตัวเลขรายได้จริงที่เกิดขึ้นทั้งหมด โดยนำรายได้ปีที่ผ่านมา และปีปัจจุบัน มาเปรียบเทียบ เพื่อให้สามารถคาดการณ์ถึงรายได้ในอนาคต การขยายสาขาใหม่แสดงถึงการสามารถทำรายได้ที่มากขึ้นก็จริง แต่รายได้นั้นมีอัตราการเติบโตที่เหมาะสมในการลงทุนหรือไม่ เมื่อเปรียบเทียบกับต้นทุนต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้น   ตัวเลขยอดขายต่อบิล ร้านมีกลยุทธ์การขายที่สามารถเพิ่มค่าใช้จ่ายต่อบิลได้ สามารถเจาะกลุ่มลูกค้าที่หลากหลายไม่ว่าจะด้วยเมนู หรือการจัดการส่งเสริมการขาย แสดงถึงความสำเร็จ และแนวโน้มของการสร้างรายได้ในอนาคต   ตัวเลขอัตราส่วนกำไรขั้นต้น  (Gross Profit Margin) การที่จะวัดว่าร้านอาหารประสบความสำเร็จ หรือมีแบรนด์ที่แข็งแกร่งหรือไม่ ร้านจะต้องมีอัตราส่วนกำไรขั้นต้นต่อหน่วยที่อยู่ในระดับสูง ซึ่งแสดงถึงความสามารถควบคุมต้นทุนการผลิตได้ดี ตัวเลขที่บอกอัตราส่วนกำไรขั้นต้น ต้องนำไปเปรียบเทียบกับกิจการคู่แข่ง หรือตัวเลขเฉลี่ยจากร้านอาหารในตลาดเดียวกัน    ระบบร้านอาหารที่ดี ระบบร้านอาหารที่ดี ไม่ว่าจะเป็นการบริการ การจัดการด้านครัวและวัตถุดิบ พนักงาน  โดยมีตัวชี้วัดที่มีประสิทธิภาพเกิดข้อผิดพลาดด้านการจัดการน้อย แสดงถึงความสามารถในการควบคุมการจัดการร้านอาหารได้เป็นอย่างดี มีส่วนสำคัญอย่างมากกับการทำร้านอาหาร โดยเฉพาะในสภาพการแข่งขันปัจจุบัน หากร้านอาหารของคุณขายดีมาก ๆ แต่ไม่มีระบบจัดการร้านอาหารที่ดี ต้องแก้ปัญหารายวัน ย่อมส่งผลต่อตัวเลขรายได้   Brand Royalty ของลูกค้า             เนื่องจากลูกค้าร้านอาหารมีตัวเลือกเยอะ และหลากหลาย ทำให้เป็นธุรกิจที่ลูกค้ามี […]

ทำร้านอาหารให้น่าประทับใจ

8 เทคนิค ทำร้านอาหารให้น่าประทับใจ

เปิดร้านอาหารทั้งที ก็อยากทำให้ดีที่สุด แต่จะทำอย่างไรให้ลูกค้าชื่นชอบและประทับใจในทุกๆ ด้าน วันนี้เรามี 10 เทคนิค ทำร้านอาหารให้น่าประทับใจ มาแนะนำ

กรณีศึกษา แค่การสั่งเมนู อาจทำให้ลูกค้ารู้สึก “เสียหน้า” เพราะความเข้าใจไม่ตรงกันกับร้าน

กรณีศึกษา แค่การสั่งเมนู อาจทำให้ลูกค้ารู้สึก “เสียหน้า” เพราะความเข้าใจไม่ตรงกันกับร้าน แชร์ประสบการณ์โดยสมาชิกกลุ่ม “คนบ้ากาแฟ” พร้อมรวมคำแนะนำต่าง ๆ ที่น่าสนใจ แอดได้ไปเจอ Topic หนึ่งในกลุ่ม “คนบ้ากาแฟ” แล้วเห็นว่าน่าสนใจมาก ๆ นั่นก็คือเรื่อง ความเข้าใจของลูกค้า กับคนขายกาแฟ ที่บางครั้งอาจจะต่างกัน ทำให้เกิดความสับสนหรือเข้าใจผิด นำไปสู่การทำเครื่องดื่มที่ไม่ใช่แบบที่ลูกค้าสั่ง หรือไม่ตรงกับที่ลูกค้าอยากได้ แต่เจ้าของร้านจะสื่อสารอย่างไร ไม่ให้ลูกค้ารู้สึก “เสียหน้า” ล่ะ ? ซึ่งสำหรับปัญหาความเข้าใจของลูกค้ากับคนขายกาแฟที่บางครั้งอาจจะต่างกันนั้น ได้มีผู้ประกอบการร้านกาแฟท่านหนึ่งได้มาแสดงความคิดเห็นเชิงแนะนำได้อย่างน่าสนใจว่า “ความเข้าใจของลูกค้ากับคนขายกาแฟมักจะต่างกัน แต่หากลูกค้าเอื้อนเอ่ยออเดอร์ใด ที่เราคิดว่าชื่อไม่ถูก เราแค่ทวนออเดอร์และส่วนผสมก็พอ อย่าทำให้ลูกค้ารู้สึกเสียหน้า ลูกค้าบางท่านอาจจำชื่อมาแค่นั้น หรือไม่ได้เข้าร้านกาแฟบ่อยๆ และเขาไม่ต้องการให้เราสอนเขา 1.ถ้าลูกค้าสั่งเครื่องดื่มไม่หวาน เราแค่ทวนว่าไม่หวานเลยหรือใส่นิดหน่อย 2.ถ้าลูกค้าสั่งเอสเพรสโซ่ร้อนใส่น้ำเยอะ ๆ ถ้าเขาไม่ได้เรียกอเมริกาโน่ ก็ไม่เป็นไร ทำให้เขานะ มันเหมือนกัน 3.คาปูชิโน่ไม่ใส่ฟองนม ไม่ใส่ช็อคโกเลต ก็แค่ตอบว่า ค่ะ แล้วถามว่า “หวานปกติไหมคะ” ตอนวัยรุ่นเคยสั่งชาเขียวปั่นร้านหนึ่ง เขาบอกไม่มีค่ะ มีแต่ […]

Follow Me

Contact

เว็บไซต์ : amarinacademy.com
บริษัท เอเอ็มอี อิมเมจิเนทีฟ จำกัด
ในเครือ บริษัท อมรินทร์ คอร์เปอเรชั่นส์ จำกัด (มหาชน)
Tel : 02-422-9999 ต่อ 4662 หรือ 4669, 092-254-0742
Email : amarin.academy@gmail.com

ติดต่อแจ้งปัญหาหรือร้องเรียน
02-422-9999 ต่อ 4180
(จันทร์ – ศุกร์ เวลา 09.00 – 18.00 น)
bdcx@amarin.co.th

สนใจลงโฆษณากับเว็บไซต์ Amarin Academy
Tel. 081-664-0666, 091-729-8060
E-mail : sineenart_ya@amarin.co.th

© COPYRIGHT 2025 AME IMAGINATIVE COMPANY LIMITED.