ซื้อวัตถุดิบเอง VS ซื้อวัตถุดิบจาก Supplier - Amarin Academy

ซื้อวัตถุดิบเอง VS ซื้อวัตถุดิบจาก Supplier

ซื้อวัตถุดิบเอง VS ซื้อวัตถุดิบจาก Supplier

ซื้อวัตถุดิบเองหรือ ซื้อวัตถุดิบจาก Supplier ดี ? นี่เป็นคำถามที่ร้านอาหารถามกันเข้ามาเยอะมาก เพราะมักไม่รู้ว่าควรเลือกทางไหนจึงจะคุ้มค่ากว่า ซึ่งเจ้าของร้านส่วนใหญ่มักเลือกซื้อเอง เพราะคิดว่าราคาถูกกว่า แต่จริงๆ แล้วการซื้อวัตถุดิบเอง มีต้นทุนบางอย่างที่คุณอาจมองข้ามไป

ซื้อวัตถุดิบเอง

ต้นทุนที่มองเห็น

1.ค่าวัตถุดิบ > ซึ่งมักถูกกว่าการสั่งจาก Supplier

2.ค่าเดินทาง > ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางด้วย Taxi หรือรถส่วนตัว

3.ค่าแรงพนักงาน > จากปกติพนักงานอาจจะต้องเข้างานเวลาเปิดร้าน ก็ต้องเริ่มงานเร็วขึ้น เพื่อเดินทางไปซื้อวัตถุดิบก่อน

ต้นทุนที่มองไม่เห็น

1.ค่าเสียเวลา > แทนที่คุณหรือพนักงานของคุณจะมีเวลาไปทำอย่างอื่น แต่ต้องเสียเวลาเดินทางไปซื้อวัตถุดิบแทบทุกวัน และเมื่อซื้อกลับมาแล้ว ก็ต้องมาจัดเตรียมและตัดแต่งอีกเป็นชั่วโมง

นอกจากนี้ช่วงเวลาที่วัตถุดิบแต่ละชนิดเข้ามาที่ตลาดยังไม่เท่ากัน เช่น ผักบางชนิดเข้ามาช่วงตี 1 บางชนิดเข้ามาช่วง ตี 3 ถ้าคุณอยากซื้อของดี ก็ต้องไปให้ตรงช่วงเวลานั้นๆ เพราะถ้าไปช้า เจ้าอื่นๆ ก็จะเลือกของดีไปหมด ส่วนคุณก็จะได้ของคุณภาพต่ำ ไม่ตรงตามความต้องการ

2.ค่าความเสี่ยง > ความเสี่ยงนี้มีหลายด้าน

2.1 ด้านการขนส่ง >> หลังจากที่เราซื้อวัตถุดิบแล้ว ระหว่างการขนส่ง หากวัตถุดิบเสียหาย เช่น ผักช้ำ อุณหภูมิของเนื้อตก เราจะไม่สามารถเรียกร้องความเสียหายใดๆ จากเจ้าของร้านได้เลย เพราะหลังจากที่คุณจ่ายเงิน ภาระความรับผิดชอบก็จะตกที่คุณทันที

2.2 ด้านปริมาณและคุณภาพ >> หากร้านของคุณใส่ใจเรื่องคุณภาพวัตถุดิบ จำเป็นต้องใช้วัตถุดิบเกรดนี้เท่านั้น เช่น กุ้งต้องคัดไซส์ ผักต้องคุณภาพดี และในแต่ละวันต้องใช้ปริมาณเท่านี้ จึงจะเพียงพอต่อการใช้งาน การซื้อวัตถุดิบเองถือว่ามีความเสี่ยงสูงมาก ไม่มีใครมาการันตีคุณภาพให้ว่าจะได้ตรงตามสเป็กทุกครั้ง หรือมีปริมาณตามที่คุณต้องการทุกวัน

2.3 ด้านราคาที่ผันผวน >> อย่างที่รู้กันว่าราคาวัตถุดิบมีความผันผวนตลอดเวลา ขณะที่ราคาขาย (กว่าจะปรับขึ้นทีต้องคิดแล้วคิดอีก) โดยเฉพาะวัตถุดิบจำพวกผักและอาหารทะเล ที่ถือว่าผันผวนสุดๆ ถ้าคุณซื้อวัตถุดิบเอง ก็ต้องยอมรับความผันผวนนี้ให้ได้

3.ค่า Food waste > วัตถุดิบส่วนใหญ่ที่ซื้อจากตลาด มักไม่ผ่านการตัดแต่งมาก่อน ทำให้คุณต้องมาตัดแต่งให้พร้อมใช้งาน โดยเฉพาะผัก ไม่ว่าจะเป็นการนำผักใบแก่ ใบเหี่ยว ออก แทนที่จะใช้วัตถุดิบได้เต็ม 100% บางทีอาจต้องทิ้งเกือบครึ่ง (อ่านเพิ่มเติม 7 Wastes ในร้านอาหาร ลดได้ กำไรพุ่ง!)

นี่คือต้นทุนที่คุณต้องจ่าย หากคุณซื้อวัตถุดิบเอง กลับกัน หากคุณสั่งวัตถุดิบจาก Supplier ต้นทุนที่คุณต้องจ่ายมีดังนี้

รับวัตถุดิบจาก Supplier

ต้นทุนที่มองเห็น

1.ค่าวัตถุดิบ > อาจราคาสูงกว่าการซื้อเอง

2.ค่าขนส่ง > กรณีนี้ขึ้นอยู่กับจำนวนการสั่งซื้อ หากคุณสั่งซื้อจำนวนมาก บางเจ้าอาจไม่คิดค่าส่ง

ต้นทุนที่มองไม่เห็น

ค่าเสียโอกาสในการสั่งขั้นต่ำ > Supplier ส่วนใหญ่มักมีการกำหนดจำนวนวัตถุดิบขั้นต่ำในการสั่งซื้อ ซึ่งถือเป็นปัญหาใหญ่สำหรับร้านอาหารเล็กๆ ที่จำนวนยอดขายไม่สูงนัก หากต้องสั่งวัตถุดิบมากักตุนจำนวนมาก

  • ส่งผลให้วัตถุดิบเน่าเสีย หากเก็บรักษาได้ไม่เหมาะสม
  • ต้นทุนจม การเงินขาดสภาพคล่อง เพราะต้องสั่งซื้อจำนวนมาก

ขณะที่ต้นทุนที่มองไม่เห็นด้านอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็น

ค่าเสียเวลา

Supplier ก็เป็นผู้จัดส่งวัตถุดิบ เราเพียงแค่รอรับที่ร้าน ไม่ต้องเสียเวลาตัดแต่งวัตถุดิบ เนื่องจาก Supplier บางรายมีผักตัดแต่งแล้วจำหน่าย

ค่าความเสี่ยง

  • ด้านการขนส่ง >> ตราบใดที่เรายังไม่เซ็นรับสินค้า ที่มาส่งหน้าร้าน ความรับผิดชอบก็เป็นของ Supplier
  • ด้านปริมาณและคุณภาพ >> Supplier ส่วนใหญ่สามารถการันตีเรื่องปริมาณและคุณภาพวัตถุดิบให้ร้านอาหารได้ โดยเราสามารถกำหนดมาตรฐานและทำสัญญากับ Supplier ได้ตั้งแต่เริ่มสั่งวัตถุดิบ
  • ด้านราคาที่ผันผวน >> Supplier ส่วนใหญ่มักสามารถคุมราคาวัตถุดิบได้ในระดับหนึ่ง เพราะเขาสั่งปริมาณมากจึงมีอำนาจต่อรองสูงกว่า

ค่า Food waste

Supplier ส่วนใหญ่มักมีวัตถุดิบตัดแต่งแล้วจำหน่าย ซึ่งสามารถนำวัตถุดิบเหล่านั้นมาใช้ได้เกือบ 100% จึงมีอัตราวัตถุดิบเหลือทิ้งน้อยกว่าปกติ

แม้ว่าราคาวัตถุดิบจาก Supplier จะสูงกว่า แต่เมื่อเทียบกับต้นทุนแฝงต่างๆ แล้ว ก็ถือว่าคุ้มค่าสมราคา เจ้าของร้านไม่ต้องปวดหัวแบกรับต้นทุนและความเสี่ยงอื่นๆ ที่ตามมาสารพัด

หากคุณเปิดร้านอาหาร จะเลือกทางไหน ?

เรื่องแนะนำ

จิตวิทยาบริหารคน

จิตวิทยา บริหารคน ฉีกกฎในตำรา ขจัดทุกปัญหาเรื่องคน!

Copper ขึ้นชื่อว่าเป็นสังคมการทำงานร้านอาหารที่ดีที่สุด เราถอดบทเรียนการใช้หลัก จิตวิทยา บริหารคน ออกมาได้ 5 ข้อหลักๆ ซึ่งแทบทุกข้อฉีกทุกกฎในตำราก็ว่าได้!

“กะหล่ำผัดน้ำปลา” หรือ “กะหล่ำทอดน้ำปลา” คือเมนูเดียวกันไหม?

“กะหล่ำผัดน้ำปลา” หรือ “กะหล่ำทอดน้ำปลา” เมนูคิดไม่ตก ทั้งร้านและลูกค้า สั่งอันนี้ได้อีกอย่าง ตกลงเมนูเดียวกันไหม? “กะหล่ำผัดน้ำปลา” หรือ “กะหล่ำทอดน้ำปลา” เมนูเดียวกันหรือเปล่า? เป็นเมนูที่ค่อนข้างสร้างความสับสนให้กับทั้งคนกิน คนขาย เป็นอย่างมากกับเมนู “กะหล่ำผัดน้ำปลา” และ “กะหล่ำทอดน้ำปลา” ที่บางทีก็ทำให้เกิดความเข้าใจที่ไม่ตรงกันระหว่างลูกค้าและร้านได้ เมื่อเมนูนี้มาเสิร์ฟ ซึ่งล่าสุดก็ได้มีผู้ใช้ทวิตเตอร์คนหนึ่งได้มาทวีตภาพเปรียบเทียบให้เห็นชัด ๆ ว่าจริง ๆ แล้ว 2 เมนูนี้ คือคนละเมนูกัน! โดยผู้ใช้ทวิตเตอร์รายนี้ได้ทวีตรูป 2 เมนูที่เป็นประเด็นพร้อมข้อความว่า “เทียบให้เห็นภาพ ซ้าย กะหล่ำ “ผัดน้ำปลา” ขวา กะหล่ำ “ทอดน้ำปลา” ที่เรามีปัญหาเพราะร้านอาหารส่วนมากจะเขียนลงเมนูว่า กะหล่ำทอดน้ำปลา แต่ทำออกมาหน้าตาแบบกะหล่ำผัด กะหล่ำผัดน้ำปลาจะน้ำเจิ่งนอง ผัดนิ่ม กะหล่ำทอดน้ำปลาจะแห้ง น้ำมันเคลือบผิวกะหล่ำ เกรียม ๆ น้ำปลาไหม้ ต่างอย่างเห็นได้ชัด” 🔸ความเห็นชาวเน็ต💬 ซึ่งหลังจากที่โพสต์นี้ออกไปก็ได้มีผู้ใช้ทวิตเตอร์ต่างเข้ามาแสดงความคิดเห็นแชร์ประสบการณ์ของตนเองด้วยเหมือนกัน เช่น 🗣💬 “เคยทำให้แฟนกินครั้งนึง เราทำออกมาแบบขวา ผช.บอกทำกับข้าวแค่นี้ก็ไหม้ […]

เลือกทำเลที่เหมาะ

เลือกทำเลที่เหมาะ ต้อง “เหมาะ” กับอะไร?

หลายคนคงเคยได้ยินคำว่า จะเปิดร้านอาหารทั้งทีก็ต้อง เลือกทำเลที่เหมาะ ๆ แต่คำว่า “เหมาะ” คือเหมาะสมในด้านไหนบ้าง วันนี้เราจะมาอธิบายให้ฟัง

6 เคล็ดลับ การเปิดร้านอาหาร ให้ “รอด” และ “รวย”

บางคนคิดว่า การเปิดร้านอาหาร เป็นเรื่องง่ายมีเงินก็สามารถเปิดร้านได้แล้ว แต่จะเปิดให้อยู่รอดได้นั้นยากมาก แล้วเคล็ดลับที่จะทำให้ร้านอาหารอยู่รอด คืออะไร? ” การเปิดร้านอาหาร นั้นง่าย แต่ให้อยู่รอดนั้นยาก” คำกล่าวที่ใครหลายๆคนพูดไว้ ธุรกิจร้านอาหารเป็นธุรกิจสำหรับคนที่พอมีเงินลงทุน มักจะเลือกลงทุน เพราะคิดว่าเป็นธุรกิจที่ไม่ยุ่งยาก อย่างไรก็ตามกลับพบว่า ร้านอาหารที่เปิดขึ้นมากมายในแต่ละปีนั้น ปิดตัวลงไปหลายร้าน สาเหตุอาจมาจาก รายได้ไม่เป็นไปตามที่คิด เงินทุนสำรองไม่พอ ค่าใช้จ่ายสูง ในที่สุดก็ต้องปิดกิจการลง สำหรับมือใหม่ที่อยากมีอาชีพด้วยการเปิดร้านอาหาร วันนี้เรามีเคล็ดลับการเปิดร้านอาหาร ให้รอด และ รวย  มาฝากคนที่อยากทำร้านอาหารค่ะ   1.ทำเลที่ตั้ง คนที่อยากจะเปิดร้านอาหาร ไม่ว่าใครต่อใครก็อยากอยู่ในบริเวณแหล่งชุมชนคนเยอะๆ ถ้าจะให้ดีควรลงพื้นที่สำรวจและสังเกตว่ามีกลุ่มลูกค้ามากน้อยแค่ไหน ดูว่ากลุ่มคนแถวนั้นเป็นลูกค้ากลุ่มใด เช่น พนักงานบริษัท กลุ่มคนทำงานโรงงาน กลุ่มนักเรียน นักศึกษา หรือพ่อบ้านแม่บ้าน เพราะกลุ่มคนจะสัมพันธ์กับชนิดสินค้าและราคาที่เราจะขาย เช่น เราคงไม่เปิดร้านอาหาร Fine Dining ในย่านสถานศึกษาเพื่อขายนักเรียน แต่ควรขายของที่กินง่ายๆ อย่างไก่ป๊อบทอด เฟรนช์ไฟลส์ทอด ในราคาไม่แพง นอกจากนั้นต้องรู้ว่าเวลาเข้างาน พักเที่ยง เลิกงาน  เพื่อให้เรารู้ว่าเวลาไหนคนเยอะคนน้อย เตรียมของขายได้ถูกช่วงเวลา […]

Follow Me

Contact

เว็บไซต์ : amarinacademy.com
บริษัท อมรินทร์พริ้นติ้งแอนด์พับลิชชิ่ง จำกัด (มหาชน)
Tel : 02-422-9999 ต่อ 4662 หรือ 4669, 092-254-0742
Email : amarin.academy@gmail.com

สนใจลงโฆษณากับเว็บไซต์ Amarin Academy
Tel. 081-664-0666, 091-729-8060
E-mail : sineenart_ya@amarin.co.th

© COPYRIGHT 2023 AMARIN PRINTING AND PUBLISHING PUBLIC COMPANY LIMITED.