ก่อน เริ่มทำธุรกิจ ถามตัวเองให้ชัดด้วยคำถามสำคัญต่อไปนี้ : Amarinacademy

คำถามสำคัญที่คุณควรถามเมื่อ เริ่มทำธุรกิจ

คำถามสำคัญที่คุณควรถามตัวเองเมื่อ เริ่มทำธุรกิจ

สำหรับคนที่กำลัง เริ่มทำธุรกิจ คงมีเรื่องให้ต้องคิดมากมายใช่ไหมครับ แล้วเคยสงสัยไหมครับว่า ทำไมขายของสิ่งเดียวกัน บางร้านถึงขายได้ดีกว่าอีกร้านหนึ่ง?

“ทำไม Apple ถึงขายดีกว่าแบรนด์อื่น ทั้งๆ ที่ก็ขาย มือถือ ขายคอมพิวเตอร์ ไม่ต่างกัน” เป็นประโยคที่ทำให้ผมฉุกคิด เมื่ออ่านหนังสือ “Start with why” โดย Simon Sinek นักเขียนและนักสร้างแรงบันดาลใจชื่อดัง

เขาเปรียบเทียบให้เห็นภาพง่ายๆ ว่า คนส่วนใหญ่มักจะทำธุรกิจ โดยตั้งคำถามว่า What (อะไร) และ How (อย่างไร)

คนส่วนใหญ่ มองหาว่าอยากขายสินค้าอะไร (ไม่งั้นจะเริ่มธุรกิจได้เหรอ จริงไหมครับ) หลังจากนั้น ก็หาวิธีทาง ทำอย่างไรเพื่อให้ได้สินค้านี้มาขาย

เปรียบเทียบกับ ที่เฮียสตีฟ จ๊อบส์ ทำเสมอมา คือเริ่มจากว่า “ทำไมเขาถึงต้องทำธุรกิจนี้”

  • (ทำไม?) เพราะสตีฟจ๊อบส์ ต้องการทำลายความเชื่อแบบเก่าๆ โดยการสร้างความแตกต่างให้กับอุตสาหกรรมคอมพิวเตอร์ในสมัยนั้น
  • (อย่างไร?)คอมพิวเตอร์จะต้องมีลักษณะสวยงาม และต้องใช้งานง่ายสุดๆๆๆ
  • (อะไร?)สตีฟ จ๊อบส์เลยสร้างคอมพิวเตอร์ที่ยอดเยี่ยมขึ้นมา จากเดิมที่คอมพิวเตอร์ต้องเป็นเครื่องสี่เหลี่ยมทื่อๆ การใช้งานก็ขัดกับความรู้สึกคนใช้ มาเป็นคอมพิวเตอร์ที่มีสไตล์ การใช้งานหลุดออกจากกรอบ โดยใช้สันชาตญาณมนุษย์เป็นหลักในการใช้ ภายใต้แบรนด์ที่รู้จักกันดี Apple

เพียงแค่วิธีคิดต่าง หัดตั้งคำถาม “ทำไม” บ่อยๆ ก็ทำให้ Apple กลายเป็นสินค้าในดวงใจคนทั้งโลก มีสาวกมากมาย และเป็นบริษัทที่มูลค่ามากที่สุดในโลกตอนนี้ครับ

เคยถามตัวเองหรือไม่ ว่าทำไมเราถึงอยากจะเริ่มทำธุรกิจนี้ขึ้นมา?

“คุณอิก บรรพต ต้องรู้ก่อนว่า ทำไมเราถึงอยากจะเริ่มทำธุรกิจนี้ขึ้นมา” เป็นคำถามแรกที่คุณเจริญ รุจิราโสภณ เจ้าของแบรนด์ ส.ขอนแก่น ธุรกิจอาหารชื่อดังระดับประเทศและยังเป็นเจ้าของร้านอาหาร “แซ่บ คลาสสิค” ถามผมตอนที่เจอกันเมื่อไม่นานมานี้

ร้าน ”แซ่บ คลาสสิค” เป็นร้านอาหารอีสานแนวทันสมัย ที่มีส้มตำรสจัดจ้าน ไก่ย่างหนังกรอบ ต้มแซ่บกระดูกหมูอ่อน เป็นอาหารจานเด็ด ตอนนี้มี 14 สาขาทั่วประเทศ (เป็นแฟรนไชส์ 5 สาขา)

ทำไมต้องเปิดร้าน “แซ่บ คลาสสิค”

คุณเจริญ เล่าให้ผมฟังต่อว่า กว่าจะเป็นร้านแซ่บ คลาสสิค อย่างที่เราเห็นนี้ ตลอด 7 ปีที่ผ่านมาก็ผ่านร้อนผ่านหนาวมาเยอะ

ช่วงนั้นเป็นช่วงที่คุณเจริญอยากจะต่อยอดธุรกิจพันล้านที่ตัวเองปั้นมากับมือ “ส.ขอนแก่น” ผู้ผลิตและจำหน่ายอาหารแปรรูปจากเนื้อสัตว์ สารพัดอย่างตั้งแต่ หมูยอ, แหนม, ลูกชิ้น, หมูหยอง, หมูแผ่น, แคปหมู (ผมเชื่อว่าหลายท่านน่าจะเคยทานนะครับ แหม..ท้องร้องเลยทีเดียว)

“สำหรับผม ผมสร้างร้านอาหารนี้ขึ้นมาเพื่อเป็นโชว์รูมครับ” ผู้บริหารมากประสบการณ์ที่อยู่ในวงการอาหาร 40 ปีเฉลยให้ผมฟังครับ

ทำไมต้องเป็นร้านอาหารอีสาน?

“นั่นเป็นเพราะในไทย มีอาหารเหนือ อาหารอีสาน อาหารใต้ แต่สังเกตให้ดีว่า คนเหนือมักจะไม่ชอบทานอาหารใต้, คนใต้ก็มักจะไม่ชอบทานอาหารเหนือ แต่ทุกคนชอบหรืออย่างน้อยก็ทานอาหารอีสานได้ นั่นเลยทำให้ตลาดอาหารอีสานเป็นตลาดที่ใหญ่ น่าเข้าไปทำธุรกิจ”

เป็นไงครับสำหรับแนวคิดการมองหาตลาด ตามสไตล์ของคุณเจริญ ผู้นำธุรกิจอาหารของไทย ที่เน้นมองหาน่านน้ำที่ใหญ่ก่อนนะครับ

ทำไมต้องเป็น โชว์รูม??

คำว่า” โชว์รูม” ความหมายของคุณเจริญคือ ภายในร้าน “แซ่บ คลาสสิค” ถ้าสังเกตให้ดีบนโต๊ะอาหารจะเห็นขนมขบเคี้ยว ของ ส.ขอนแก่น เช่น หมูแผ่น แคปหมู หรือในเมนูก็จะเห็นหมูยอ ลูกชิ้น ให้สั่งมาเป็นกับแกล้ม ทานเล่นๆ

แปลว่า ลูกค้าที่มาทานอาหารที่ร้าน “แซ่บ คลาสสิค” จะมีโอกาสเห็นสินค้าในเครือ ส.ขอนแก่น บ่อยๆ

พอเห็นบ่อยๆ ก็จะอยากทานขึ้นมา ลูกค้าก็จะไปซื้อได้ตามซุปเปอร์มาร์เกต และร้านสะดวกซื้อ ที่มีสาขารวมกันเป็นหมื่นสาขา ทำให้มีโอกาสทำกำไรมากกว่าการขายในร้าน “แซ่บ คลาสสิค” ที่มีเพียง 14 สาขา

ที่สำคัญ ร้าน “แซ่บ คลาสสิค” จะเป็นจิ๊กซอว์สำคัญในการเชื่อมภาพให้ ส.ขอนแก่น เป็นธุรกิจอาหารแบบครบวงจรครับ

ตั้งแต่ การเลี้ยงสัตว์ –> การแปรรูป –> ไปจนถึงมีร้านอาหาร ที่คุณเจริญให้นิยามว่า “From Farm to table” ทำให้มีต้นทุนที่ดีกว่า เมื่อเทียบคนอื่น (ควบคุมได้ตั้งแต่ต้นทุนวัตถุดิบ และราคาขาย)

ทำไมลูกค้าต้องมาทานอาหารที่ร้านของเรา?

แม้จะตั้งใจให้ร้านอาหารเป็นโชว์รูม แต่ก็ต้องเป็นโชว์รูมที่มีคุณภาพนะครับ

คุณเจริญให้คาถาการทำร้านอาหารให้ขายดี 4 ข้อครับ โดยให้คิดเสมอว่า ทำไมลูกค้าต้องเลือกเรา?

  1. คุณภาพ: อาหารต้องอร่อยอันนี้เป็นเรื่องพื้นฐานมากๆ ถ้าร้านอาหารไม่อร่อย ลูกค้าลองมาทานแค่ครั้งเดียวก็คงจะไม่กลับมาแล้ว (แซ่บ คลาสสิคใช้เวลาในการวิจัยนานถึง 2 ปีก่อนเปิดร้านอาหารจริง เพื่อให้ได้เมนูอาหารที่ถูกปากคนไทยมากที่สุด)
  2. คุณค่า: ราคาของอาหารต้องไม่แพงกว่าคู่แข่งมากไปและลูกค้าต้องรู้สึกว่าได้คุณค่าอะไรบางอย่างมากกว่าเจ้าอื่น
  3. บริการ: ต้องดีต้องประทับใจ (ในอนาคตอันใกล้ แซ่บ คลาสสิค จะสร้างโรงเรียนเพื่อฝึกพนักงานให้ได้มาตรฐานการบริการ ก่อนจะป้อนให้แต่ละสาขา)
  4. ความสะอาด: ทั้งหน้าร้าน, อาหาร, ห้องน้ำต้องสะอาดเสมอ (เป็นเรื่องเล็กน้อย แต่เจ้าของร้านอาหารเองก็ตกม้าตายมา หลายเจ้าแล้ว)

ทำไมร้านอาหารขายอาหารเหมือนกัน แต่ขายได้ไม่เท่ากัน

การทำให้ลูกค้าชอบร้านเรา ไม่ใช่เรื่องยาก แต่ถ้าจะให้เขาติดใจเรา นึกถึงเรานานๆ หัวใจสำคัญอยู่ที่การรักษาคุณภาพครับ ลูกค้าไปทานสาขาที่ 1 กับสาขาที่ 14 รสชาติก็ต้องเหมือนเดิม บริการก็ต้องดีไม่ต่างกัน

สิ่งที่คุณเจริญทำคือ สร้างระบบครัวกลางขึ้นมา และส่งอาหารให้กับสาขาต่างๆ และใช้เทคโนโลยีทำให้อาหารยังสดใหม่เสมอ รสชาติไม่เปลี่ยน

ข้อดีนอกจากการรักษารสชาติอาหารแล้วคือ ไม่ต้องพึ่งพาพ่อครัวคนใดคนนึง พนักงานเสิร์ฟเองก็สามารถเป็นพ่อครัวทดแทนกันได้ นอกจากนี้ยังส่งทีมจากส่วนกลางไปสุ่ม ทดสอบชิมอาหาร และดูบริการแต่ละสาขา แบบไม่ได้แจ้งล่วงหน้าเพื่อให้พนักงานรักษามาตรฐานของตัวเองอยู่เสมอ

ไม่แปลกครับที่ร้าน “แซ่บ คลาสสิค” จะมียอดขายเป็นหลักร้อยล้านบาท และมีส่วนช่วยทำให้ยอดขายของ ส.ขอนแก่น สูงเกือบ 3 พันล้านบาทในปีที่ผ่านมา!!!

สรุปข้อคิด จาก “ถามอีก กับอิก เรื่องลงทุน”

คนส่วนใหญ่มักจะมอง “ความสำเร็จของนักธุรกิจในวันนี้” มากกว่าจะมองว่า “กว่าจะมาถึงทุกวันนี้ เขาต้องผ่านอะไรมาบ้าง”

กว่าจะตกผลึกเป็นการสร้างธุรกิจระดับพันล้านแบบนี้ได้นั้น จะเห็นว่าคุณเจริญเริ่มต้น จากการตั้งคำถามว่า “Why” ทำไมๆๆ มาเยอะมากๆ ครับ

คุณเจริญไม่ได้หวังกำไรระยะสั้น เพราะการสร้างร้านอาหารร้านนึงขึ้นมามีเรื่องปวดหัวเยอะครับ นี่ยังไม่นับต้นทุนของการขยายกิจการอีกมหาศาล แต่แกสร้างร้านอาหารเพื่อหวังผลระยะยาว ทำให้ยอมทุ่มเงินลงทุนเพื่อรักษามาตรฐานได้มาก

เริ่มเห็นพลังของการตั้งคำถามว่า “ทำไม” แล้วหรือยังครับ

เมื่อ ฝึกคิดบ่อยๆ เราจะตั้งคำถามให้ถูกจุดมากขึ้น เราก็จะได้คำตอบที่ถูกต้อง ไม่หลงทาง เข้าใกล้ความฝันของเรามากขึ้นครับ

แล้วคุณละ……ทำธุรกิจร้านอาหารขึ้นมาทำไม , ทำไมลูกค้าต้องเลือกทานที่ร้านของคุณ?

สู้ๆครับ เจ้าของร้านอาหารที่มีความฝันทุกท่าน

ขอให้ทุกท่านโชคดีในการทำธุรกิจ+ทำธุรกิจอย่างมีความสุขครับ

เรื่องแนะนำ

“อร่อยไม่ซ้ำ จำสูตรไม่ได้” ประโยคแซวขำๆ ที่ลูกค้าอาจไม่ขำ 3 องค์ประกอบที่ต้องยึด ควบคุมรสชาติอาหาร

“อร่อยไม่ซ้ำ จำสูตรไม่ได้” ประโยคแซวขำๆ ที่ลูกค้าอาจไม่ขำ 3 องค์ประกอบที่ต้องยึด ควบคุมรสชาติอาหาร “อร่อยไม่ซ้ำ จำสูตรไม่ได้” ประโยคที่แซวเล่นกันขำๆ แต่ลูกค้าอาจไม่ขำ และถือเป็นวิธีไล่ลูกค้าวิธีหนึ่งเลยก็ว่าได้ วันก่อนแอดได้มีโอกาสพูดคุยกับเจ้าของร้านคาเฟ่มือใหม่คนหนึ่ง ถึงวิธีการทำร้าน การจัดการต่าง ๆ โดยระหว่างที่คุยกันตอนหนึ่งของบทสนทนาเจ้าของร้านก็ได้เปิดใจกับแอดว่า “ด้วยความที่เขาเป็นมือใหม่ เพิ่งเปิดร้านได้ไม่นาน ทำให้ยังกะส่วนผสมเครื่องดื่มแต่ละแก้วไม่โปรเท่าไหร่ หลายครั้งจึงประสบปัญหาลูกค้าคอมเพลนเรื่องรสชาติ รสชาติไม่เหมือนเดิมบ้าง เข้มไปบ้าง จนบางทีก็ทำให้เขารู้สึกเสียเซล์ฟจนอยากปิดร้านไปเลย” . ต้องยอมรับว่าเรื่อง “มาตรฐานรสชาติ” ถือเป็นเรื่องสำคัญมากอย่างหนึ่งสำหรับร้านอาหาร และร้านเครื่องดื่ม ยิ่งมีหลายสาขา ก็ยิ่งต้องควบคุมมาตรฐานรสชาติให้ดี ให้เหมือนกันในทุก ๆ สาขา เพราะมาตรฐานของรสชาติเป็นสิ่งที่เรากำหนดขึ้นและลูกค้าส่วนใหญ่ก็พอใจและยอมรับในรสชาตินี้ ดังนั้นจึงต้องปรุงให้มีรสชาติที่คงที่ เพื่อรักษาความพึงพอใจของลูกค้า แล้วจะทำให้ทุกจาน ทุกแก้วรสชาติเหมือนกันต้องทำยังไง ? โพสต์นี้มีคำตอบ! . การสร้างมาตรฐานรสชาติ มีองค์ประกอบอยู่ 3 อย่าง วิธีการทำ . ร้านอาหารอาจอาศัยการทำ SOP (Standard Operating Procedure) “คู่มือมาตรฐานเชิงปฏิบัติการ” หรือจะเรียกง่าย […]

ลูกค้าอยากบอกเจ้าของ

8 ข้อสำคัญที่ลูกค้า อยากบอกเจ้าของร้านอาหาร

รู้ไหม นอกจากรสชาติอาหารและการบริการ ลูกค้ายังมีความคาดหวังอื่นๆ ซ่อนอยู่ด้วย เราจึงขอรวบรวม 8 ข้อสำคัญที่ ลูกค้าอยากบอกเจ้าของ ร้านอาหารมาให้คุณ

เทคนิค หาพนักงานร้านอาหาร ชั้นเซียน ก่อนเปิดร้าน!

หาพนักงานร้านอาหาร จนท้อ แถมทำงานได้ไม่ถึงเดือนก็ลาออก ต้องหาพนักงานมาแทนกันให้วุ่น ลดปัญหาน่าปวดหัวเรื่องพนักงาน ด้วยเทคนิคการหาคนให้ตรงใจตั้งแต่เริ่มต้น เพื่อลดผลกระทบที่เกิดกับร้านของคุณให้มากที่สุดกันดีกว่า   เทคนิค หาพนักงานร้านอาหาร ก่อนเปิดร้าน! WHAT  หาอะไร ประเภทของร้านอาหารแต่ละแบบ ต้องการพนักงานที่ต่างประสบการณ์กัน  รวมถึงจำนวนที่เหมาะสมก็ต่างกันด้วย เพื่อให้สอดคล้องกับการวางโครงสร้างต้นทุนร้านอาหารที่เหมาะสม ทีมงานร้านอาหารแบ่งเป็น 2 ทีมงานหลัก ๆ  คือ ทีมงานหลังบ้าน เช่น เชฟ ผู้ช่วยเชฟ คนปรุงอาหาร คนแพ็คอาหาร พนักงานล้างจาน และทีมงานหน้าบ้าน เช่น  ผู้จัดการร้าน ผู้ช่วยผู้จัดการ พนักงานต้อนรับ แคชเชียร์พนักงานรับออร์เดอร์  ซึ่งแต่ละตำแหน่งมีหน้าที่การทำงานที่ชัดเจน จำนวนการจ้างงานก็ขึ้นอยู่กับความจำเป็นของร้าน เช่น ถ้าคุณทำร้านอาหาร Quick Service  เน้นพนักงานแคชเชียร์รับ Order ลูกค้า ไม่ต้องจ้าง Food Runner  ก็ได้  หรือร้านขนาดเล็ก ผู้จัดการคนเดียว โดยไม่ต้องมีผู้ช่วยก็สามารถดำเนินงานได้ Tips : ต้นทุนแรงงานเป็น Fix […]

เปลี่ยนเรื่องยากของธุรกิจร้านอาหารให้เป็นเรื่องง่ายที่ OfficeMate

การทำธุรกิจร้านอาหารมักมีโจทย์มาให้แก้ทุกวัน หนึ่งในโจทย์ที่เจ้าของธุรกิจร้านอาหารต้องเจอก็คือเรื่องของ “เวลา” เพราะธุรกิจร้านอาหารประกอบด้วยฟังก์ชั่นงานต่างๆมากมาย เริ่มตั้งแต่ งานตกแต่งร้าน งานครัว งานทำความสะอาด งานบัญชี งานไอที รวมไปถึงงานบริหาร ยิ่งมีงานเหล่านี้มากขึ้น คำถามคือ จะจัดการงานทั้งหมดอย่างไรในเวลาที่มีอยู่เท่าเดิม? แถมยังต้องมาเสียเวลาไปกับการเดินทางไปที่ต่างๆ เพื่อเลือกซื้ออุปกรณ์และของใช้เข้าร้านอีก จะดีกว่าไหมหากเราสามารถลดต้นทุนแฝงส่วนนี้ลงได้? และมีเวลาเหลือไปทำงานอย่างอื่นให้มีประสิทธิภาพเพิ่มมากยิ่งขึ้น ใช้เวลาอย่างคุ้มค่า เลือกซื้อสินค้าสำหรับร้านอาหารที่ OfficeMate OfficeMate เป็นผู้ช่วยชั้นเยี่ยมสำหรับเจ้าของธุรกิจร้านอาหารที่มีสินค้าที่ตอบโจทย์ธุรกิจอย่างครบครัน เรียกได้ว่าครอบคลุมแทบทุกส่วนงาน ตั้งแต่อุปกรณ์สำหรับขั้นตอนการตกแต่งร้าน และอุปกรณ์ที่ใช้ระหว่างดำเนินกิจการ รวมถึงของใช้เบ็ดเตล็ดอื่นๆ ทำให้การเลือกซื้อสินค้าที่ออฟฟิศเมท ช่วยประหยัดเวลาของเหล่าผู้ประกอบการร้านอาหาร และเพิ่มโอกาสประสบความสำเร็จในธุรกิจในเวลาเดียวกัน ลดต้นทุนเวลา มาที่เดียวจบ เพราะทุกสิ่งมีครบที่ OfficeMate             อย่างที่บอกไปว่าการเลือกซื้ออุปกรณ์และของใช้สำหรับธุรกิจร้านอาหารที่ OfficeMate ครอบคลุมงานแทบทุกส่วน มาดูกลุ่มสินค้าหลักๆ ที่สามารถเลือกซื้อได้ที่ OfficeMate กันค่ะ   สร้างมุมสวยด้วยเฟอร์นิเจอร์หลากหลายสไตล์ มุมสวยๆ เฟอร์นิเจอร์เก๋ๆ คือ องค์ประกอบที่ขาดไม่ได้ของร้านอาหารยุค 4.0 เพราะลูกค้านิยมถ่ายรูปลง Social Media ดังนั้นร้านอาหารที่เลือกเฟอร์นิเจอร์ในการตกแต่งร้านได้สวยและมีเอกลักษณ์ ย่อมสามารถเข้าไปอยู่ในใจลูกค้าทั้งขาประจำและขาจรได้ง่ายขึ้น แถมเป็นการโฆษณาร้านอาหารของเราทางอ้อมอีกด้วย แต่การเดินหาเฟอร์นิเจอร์มาตกแต่งร้านก็ใช้เวลาไม่ใช่น้อยเลย […]

Follow Me

Contact

เว็บไซต์ : amarinacademy.com
บริษัท เอเอ็มอี อิมเมจิเนทีฟ จำกัด
ในเครือ บริษัท อมรินทร์ คอร์เปอเรชั่นส์ จำกัด (มหาชน)
Tel : 02-422-9999 ต่อ 4662 หรือ 4669, 092-254-0742
Email : amarin.academy@gmail.com

ติดต่อแจ้งปัญหาหรือร้องเรียน
02-422-9999 ต่อ 4180
(จันทร์ – ศุกร์ เวลา 09.00 – 18.00 น)
bdcx@amarin.co.th

สนใจลงโฆษณากับเว็บไซต์ Amarin Academy
Tel. 081-664-0666, 091-729-8060
E-mail : sineenart_ya@amarin.co.th

© COPYRIGHT 2025 AME IMAGINATIVE COMPANY LIMITED.