ระบบเรียกคิวไร้สาย ข้ามข้อจำกัดเดิมๆ สู่ร้านอาหารยุคใหม่: Amarinacademy

ก้าวข้ามข้อจำกัดเดิมๆ เสริมภาพลักษณ์ของร้านให้ดูทันสมัยด้วย ระบบเรียกคิวไร้สาย

ระบบเรียกคิวไร้สาย ข้ามข้อจำกัดเดิมๆ เสริมภาพลักษณ์ของร้านให้ดูทันสมัย 

หากคุณอยากจะเริ่มวางแผนบริหารจัดการร้าน และลดต้นทุนในการทำธุรกิจ เทคโนโลยี ระบบเรียกคิวไร้สาย คือตัวช่วยสำคัญที่จะเข้ามาช่วยจัดการระบบเรียกคิวในร้านให้ดีขึ้นกว่าเดิม

เพราะธุรกิจร้านอาหาร นับเป็นหนึ่งในธุรกิจที่มีต้นทุนด้านการบริหารจัดการสูงกว่าที่หลายคนคาดคิด นอกจากต้นทุนด้านวัตถุดิบ ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายหลักของร้านอาหารแล้ว ยังมีต้นทุนแรงงาน หรือต้นทุนพนักงาน ที่ส่งผลต่อค่าใช้จ่ายของร้านอาหารมากที่สุด เมื่อรู้อย่างนี้แล้ว อย่ามัวแต่สนใจแต่การเพิ่มยอดขาย จนลืมวางแผนและบริหารจัดการต้นทุนด้านแรงงาน เพื่อประหยัดต้นทุน และเพิ่มกำไรให้ธุรกิจกันด้วยนะครับ

และตอนนี้อีกหนึ่งตัวช่วยที่จะทำให้เพื่อนๆ ได้ลดต้นทุนให้กับร้านอาหาร และยังสามารถสร้างภาพลักษณ์ที่ดี ทำให้ร้านดูทันสมัยขึ้นได้ง่ายๆ ด้วยเครื่องเรียกคิวไร้สาย เทคโนโลยีใหม่ ตัวช่วยสำหรับร้านอาหาร

ในฐานะลูกค้าบางคน อาจเคยได้สัมผัสกับเจ้าเทคโนโลยีนี้กันมาบ้างแล้ว ตัวเครื่องเรียกคิวไร้สายก็คือเครื่องกลมๆ ขนาดเท่าฝ่ามือ เมื่อสั่งอาหารเสร็จแล้ว คุณจะได้รับเจ้าสิ่งนี้จากพนักงานรับออเดอร์ เมื่อออเดอร์พร้อมแล้วเครื่องเรียกคิวก็จะส่งสัญญาณเตือนให้เราได้รับรู้ เป็นการเปลี่ยนประสบการณ์จากการที่ต้องยืนรอคิวเป็นเวลานาน ก็เปลี่ยนเป็นเอาเวลาให้ลูกค้าไปนั่งรอชิลๆ พร้อมพูดคุยกับเพื่อนๆ ดีกว่า และเมื่อถึงคิวของตัวเอง ก็สามารถเดินมารับอาหารและเครื่องดื่มได้เลย เท่านี้ก็สามารถลดบรรยากาศการต่อคิวที่แสนแออัดและน่าเบื่อออกไปได้

ที่สำคัญ การใช้เครื่องเรียกคิวแบบไร้สาย จะช่วยเปลี่ยนบรรยากาศภายในร้านให้น่านั่งมากกว่าเดิม เพราะไม่มีเสียงตะโกนเรียกคิวหรือเสียงโหวกเหวก ไม่มีภาพของคนยืนเรียงรายอยู่หน้าเคาท์เตอร์ให้ลูกค้าต้องรำคาญใจ นอกจากนี้ยังช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์ธุรกิจของคุณให้ดูทันสมัยมากยิ่งขึ้น ด้วยการใช้เจ้าระบบนี้เข้ามาช่วยจัดการร้านอาหารของคุณ ไม่ยากเลยใช่ไหม

ถ้าสังเกตดู คาเฟ่ชิคๆ เดี๋ยวนี้ ก็เปลี่ยนมาใช้ ระบบเรียกคิวแบบไร้สาย กันแล้วหลายร้าน

เครื่องเรียกคิวไร้สาย คิวตี้ (QtY) จะทำให้การจัดการคิว เป็นเรื่องง่ายๆ เพียงแค่ปลายนิ้ว อีกทั้งยังติดตั้งง่ายและใช้งานได้สะดวก แม้กระทั่งมือใหม่หัดใช้ก็ไม่ใช่เรื่องวุ่นวายอะไร เพียงเสียบปลั๊กก็สามารถใช้งานได้ทันที และการทำความเข้าใจเรื่องใช้เครื่องนี้กับลูกค้าก็เป็นเรื่องง่าย แม้กลุ่มคนสูงอายุ ที่ไม่ค่อยเข้าใจเทคโนโลยี ก็ไม่มีปัญหา

สำหรับธุรกิจบริการที่มีพนักงานน้อย ก็หมดความกังวลใจในข้อนี้ไปได้เลย เพราะการใช้เครื่องเรียกคิวไร้สายนั้น ไม่จำเป็นต้องใช้พนักงานมากเกินความจำเป็น และยังช่วยประหยัดค่าใช้จ่าย ในส่วนของค่าอัตราจ้างพนักงานบริการออกไปอีก พอเรากลับมาคำนวณเงินดูแล้วอาจต้องจ่ายในส่วนนี้มากถึงปีละหลายแสนบาท ซึ่งเราสามารถให้เทคโนโลยีมาช่วยเพิ่มกำไรให้กับธุรกิจได้มากขึ้น แถมยังไม่ต้องมานั่งกังวลกับปัญหาเรื่องการบริหารคนในร้านอีกด้วย เรียกว่ามีแต่คุ้มกับคุ้มเท่านั้น

แน่นอนว่าการใช้เทคโนโลยี ย่อมมีค่าใช้จ่ายเช่นเดียวกัน แต่ถ้าเพื่อนๆ ลองคำนวนเงินที่ต้องจ่าย กับต้นทุนที่เราสามารถลดได้ แถมยังสร้างระบบระเบียบให้ร้านดูน่านั่งมากขึ้นแล้ว อาจจะเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าก็เป็นได้นะครับ

สร้างความประทับใจให้กับลูกค้าในทุกครั้งที่มาใช้บริการ เพิ่มความสะดวกสบายในการบริหารจัดการ ด้วยเครื่องเรียกคิวไร้สาย คิวตี้ (QtY) ท่านที่สนใจสามารถศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับเครื่องเรียกคิวไร้สายเพิ่มเติมได้ที่นี่ หรือ Line : @qtyq และ Facebook : Qtyqcalling

เรื่องแนะนำ

โออิชิ

โออิชิ กรุ๊ป เปิดกลยุทธ์ ปี 2020 บุกตลาดเครื่องดื่ม ร้านอาหาร และอาหารพร้อมทาน

ปีที่ผ่านมาธุรกิจหลักของ โออิชิ กรุ๊ป ที่เราเห็นได้ชัดก็คือ ธุรกิจเครื่องดื่ม ที่เรารู้จักกันก็คือ เครื่องดื่มชาเขียว  ต่อมาคือ ธุรกิจร้านอาหาร ซึ่งเป็นร้านอาหารญี่ปุ่น แต่ในช่วงปีที่ผ่านมา โออิชิ ได้เริ่มกลับมาดันธุรกิจกลุ่มอาหารพร้อมทาน หรือแพ็กเกจจิ้งฟู้ด อีกครั้ง เพื่อตอบรับพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงไปของผู้บริโภค ที่ต้องการความสะดวกสบายมากขึ้น สำหรับผลประกอบการของ โออิชิ กรุ๊ป รอบปีงบประมาณ 2562 (ตั้งแต่ 1 ต.ค. 2561 ถึง 30 ก.ย. 2562) มียอดรายได้รวม 13,631 ล้านบาท เติบโต 8.2% และผลกำไรสุทธิอยู่ที่ 1,229 ล้านบาท ธุรกิจเครื่องดื่ม 6,501 ล้านบาท เติบโต 6% ธุรกิจอาหาร 7,130 ล้านบาท เติบโต 9% กำไรสุทธิรวมของบริษัท 1,229 ล้านบาท เติบโต 9% กำไรจากธุรกิจเครื่องดื่ม 869 ล้านบาท เติบโต […]

วิกฤต COVID-19

ธุรกิจอาหารที่สามารถอยู่รอดได้ใน วิกฤต COVID-19

ธุรกิจอาหารที่สามารถอยู่รอดได้ ใน วิกฤต COVID-19 ในช่วงที่ผ่านมา รัฐบาลได้มีแถลงการณ์เกี่ยวกับสถานการณ์ COVID-19 ทั้งเรื่องของจำนวนผู้ป่วยที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ และมาตรการควบคุมการระบาดของไวรัส ด้วยการปิดสถานที่ต่างๆ ที่มีการรวมตัวของผู้คนจำนวนมาก จากข่าวดังกล่าวยิ่งทำให้ประชาชนเกิดความวิตกกังวล และเปลี่ยนพฤติกรรมการดำเนินชีวิต จนทำให้ธุรกิจต่างๆ ได้รับผลกระทบอย่างเห็นได้ชัด โดยพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปในช่วงเวลานี้ ได้แก่ หลีกเลี่ยงการออกไปยังสถานที่สาธารณะ ที่มีผู้คนรวมตัวกันและใช้เวลาที่บ้านมากขึ้น  สั่งอาหารเดลิเวอรี่มากขึ้น เพื่อลดการพบปะกับผู้อื่นขณะออกไปซื้ออาหาร ซื้อของใช้ที่จำเป็น และกักตุนอาหารเพื่อเตรียมรับมือกับการแพร่ระบาด ซื้อของมากขึ้นในแต่ละครั้ง เพื่อหลีกเลี่ยงการออกจากบ้านโดยไม่จำเป็น  ใส่ใจเรื่องความสะอาด และที่มาของอาหารมากขึ้น  เกิดกระแส “Work form home” หรือการทำงานที่บ้าน    รณรงค์ให้มีการเว้นระยะห่างจากสังคม หรือ Social distancing เพื่อลดการแพร่ระบาดของไวรัส ธุรกิจอาหาร ร้านอาหารต่างๆ แน่นอนว่าเป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตนี้ค่อนข้างมาก โดยเฉพาะร้านอาหารที่มีหน้าร้านเพียงอย่างเดียว เพราะตามที่มีการประกาศล่าสุดคือ ร้านอาหารสามารถเปิดให้บริการได้ แต่จะต้องเป็นการซื้อกลับบ้านเท่านั้น ทำให้หลายร้านต้องเริ่มปรับตัวมากขึ้น เพื่อให้ร้านสามารถไปต่อได้ แต่เชื่อว่าในวิกฤตย่อมมีโอกาสบางอย่างซ่อนอยู่เสมอ ยังคงมีธุรกิจอาหารบางประเภทที่ยังสามารถไปต่อได้ในสภาวะแบบนี้ และคิดว่าผู้ประกอบการหลายรายก็ได้เริ่มทำบ้างแล้ว มาดูกันว่าธุรกิจอาหารที่สามารถอยู่รอดได้ใน วิกฤต COVID-19 มีอะไรบ้าง เผื่อเป็นไอเดียให้กับผู้ประกอบการรายอื่นๆด้วย   […]

ดังกิ้น

ดังกิ้น โดนัท ทุ่ม 10 ล้าน ลุย Food Truck เข้าหาลูกค้าถึงที่

การรอให้ลูกค้าเข้ามาหาอย่างเดียวนั้น คงจะใช้ไม่ได้แล้วในยุคนี้ ยุคที่มีการแข่งขันกันสูงมาก ไม่เว้นแม้แต่ธุรกิจอาหารในบ้านเรา ที่เติบโตขึ้นเรื่อยๆ มีผู้ประกอบการหน้าใหม่เกิดขึ้นมากมาย เหล่าธุรกิจอาหารแบรนด์ใหญ่ ก็ใช่ว่าจะอยู่นิ่ง  ต้องวิ่งตามผู้บริโภคให้ทันอย่างเช่นแบรนด์โดนัทชื่อดัง ดังกิ้น โดนัท   ดังกิ้น โดนัท ทุ่ม 10 ล้าน ลุย Food Truck เข้าหาลูกค้าถึงที่ ล่าสุดดังกิ้น โดนัท แบรนด์โดนัทชื่อดังที่เราคุ้นเคย ก็ลุกขึ้นมาลุยทำการตลาดที่เข้าหาผู้บริโภคมากขึ้น และดังกิ้น เลือกที่จะทำ Food Truck หรือหน่วยรถขายโดนัท พร้อมเครื่องดื่ม ที่เปิดให้บริการนอกสถานที่ โดยรถคันนี้จะเข้าหาลูกถึงที่แบบใกล้ชิด เน้นเจาะตามชุมชนต่างๆ เช่น สถาบันการศึกษา โรงพยาบาล และคอมมูนิตี้มอลล์ ปัจจุบันเริ่มเปิดให้บริการแล้ว 2 สาขา คือ สาขาอิมแพค เมืองทองธานี และสาขาเดอะซีน ทาวน์อินทาวน์ การทำ Food Truck ในครั้งนี้ ของดังกิ้น ใช้งบลงทุนโดยเฉลี่ย ประมาณ 1 ล้านบาท […]

สรุป 4 ความรู้สำคัญจาก AA Sharing ครั้งที่ 1 โดย Amarin Academy

เริ่มแล้ว! สำหรับกิจกรรรมใหม่ AA Sharing ครั้งที่ 1 โดย Amarin Academy กิจกรรมสังสรรค์แบบเป็นกันเอง ของผู้ประกอบการร้านอาหาร เหล่าผู้เชี่ยวชาญในแวดวงธุรกิจอาหาร และงานดีไซน์ รวมถึงตัวแทนจากทีมงาน Amarin Academy ที่พร้อมมาแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ปรึกษาปัญหากับกูรูอย่างใกล้ชิด แบบ Case by Case ซึ่งสำหรับการจัดในครั้งแรกนั้น ได้รับกระแสตอบรับดีเกินคาด   AA Sharing ครั้งที่1  โดย Amarin Academy AA Sharing  เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่ทาง Amarin Academy จัดขึ้น เพื่อต้องการให้ผู้เชี่ยวชาญในแวดวงธุรกิจอาหาร และผู้ประกอบการได้มาพบปะ พูดคุยกัน และรับประทานอาหารร่วมกันในบรรยากาศแบบเป็นกันเอง ซึ่งจะเป็นลักษณะกลุ่มเล็กๆ เพื่อให้เจ้าของร้านอาหารได้มีโอกาสแบ่งปันเรื่องราว ปรึกษาปัญหาที่ร้านกำลังประสบอยู่ รวมถึงขอคำแนะนำจากเหล่ากูรูแบบใกล้ชิด และเจาะลึกมากขึ้น ซึ่งกิจกรรมนี้จะจัดขึ้นเดือนละ 1 ครั้ง และมีการผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนเจ้าของร้านไปในแต่ละครั้ง สำหรับในครั้งแรกนี้จะมีใครมาร่วมโต๊ะกับเราบ้าง และมีเนื้อหาอะไรบ้าง มาดูกันครับ ผู้ร่วมกิจกรรม AA Sharing […]

Follow Me

Contact

เว็บไซต์ : amarinacademy.com
บริษัท เอเอ็มอี อิมเมจิเนทีฟ จำกัด
ในเครือ บริษัท อมรินทร์ คอร์เปอเรชั่นส์ จำกัด (มหาชน)
Tel : 02-422-9999 ต่อ 4662 หรือ 4669, 092-254-0742
Email : amarin.academy@gmail.com

ติดต่อแจ้งปัญหาหรือร้องเรียน
02-422-9999 ต่อ 4180
(จันทร์ – ศุกร์ เวลา 09.00 – 18.00 น)
bdcx@amarin.co.th

สนใจลงโฆษณากับเว็บไซต์ Amarin Academy
Tel. 081-664-0666, 091-729-8060
E-mail : sineenart_ya@amarin.co.th

© COPYRIGHT 2025 AME IMAGINATIVE COMPANY LIMITED.