4 สัญญาณเตือนที่บอกว่า คุณกำลังมี ปัญหากับหุ้นส่วน - Amarin Academy

4 สัญญาณเตือนที่บอกว่า คุณกำลังมี ปัญหากับหุ้นส่วน

4 สัญญาณเตือนที่บอกว่า คุณกำลังมี ปัญหากับหุ้นส่วน

“ถ้าไม่อยากเสียเพื่อน อย่าริทำธุรกิจกับเพื่อน” คำเตือนจากหลายๆ คน เมื่อการทำธุรกิจกับเพื่อนไม่ได้เป็นไปอย่างที่คิด อะไรคือสัญญาณเตือนก่อนที่จะเกิด ปัญหากับหุ้นส่วน และบอกคุณว่า ถึงเวลาแล้วที่คุณกับหุ้นส่วนจะต้องจับเข่าคุยกันเสียที ก่อนที่แตกคอกันจนมองหน้าไม่ติด

1. ละเลย

การสื่อสารอย่างเข้าใจ เป็นสิ่งสำคัญในทุกความสัมพันธ์ ผมไม่ได้หมายถึงแค่ ความสัมพันธ์ระหว่างคุณ กับหุ้นส่วน แต่การสื่อสารใช้ได้ทั้งสามี-ภรรยา พ่อแม่-ลูก เจ้านาย-ลูกน้อง โดยเฉพาะทั้งเขาและคุณ มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันมาก่อน การพูดคุยกันเป็นปัจจัยหลัก ที่ทำให้ทุกความสัมพันธ์สามารถเดินหน้าต่อ การพูดคุยไม่ได้จำกัดแค่ว่า ต้องเป็นประเด็นสำคัญ ที่ทำให้เกิดผลกระทบกับคุณ หรือ ธุรกิจของคุณ แต่อีกสิ่งหนึ่งที่ควรคำนึงถึง คือ ปัญหาเล็กๆ รายละเอียดยิบย่อย ที่คุณเองมองข้าม แต่อาจจะเป็นเรื่องที่หุ้นส่วนของคุณมอง เป็นเรื่องใหญ่สำหรับเขาก็ได้

หลายครั้งที่ปัญหาต่างๆ ไม่สามารถแก้ได้ด้วยใครคนใดคนหนึ่ง การแก้ปัญหาด้วยกัน คิดด้วยกัน ก็มักจะมีประสิทธิภาพมากกว่า คุณลงเรือลำเดียวกับเพื่อนแล้ว เวลาเรือรั่ว คงไม่ใช่หน้าที่ใครคนใดหนึ่ง ที่ต้องคอยตักน้ำออก แต่ทว่าอีกคนควรช่วยตัก อีกคนหาทางอุดรอยรั่ว เรือก็คงไม่มีทางจมแน่นอนครับ หากใครคนใดคนนึงมองข้าม บวกกับอีกคนหนึ่งไม่พูด กลายเป็นว่า ทั้งคุณและเพื่อนเองรอเวลาให้ปัญหามันสะสมไปเรื่อยๆ จนเกินแก้ไข ฉะนั้นการสื่อสารถือว่าเป็นปัจจัยสำคัญในการทำธุรกิจร่วมกับคนอื่นครับ

2. บทบาทหน้าที่ไม่ชัดเจน

ในการทำธุรกิจ คุณเองอาจจะเป็นคนที่ทำหน้าที่ทุกอย่าง หรือ คุณเองอาจจะไม่ได้รับผิดชอบอะไรมากนัก ปล่อยให้งานหลักเป็นหน้าที่ของหุ้นส่วน แต่แท้จริงแล้ว คุณจะต้องแบ่งหน้าที่การทำงานให้ชัดเจน ว่าใครรับผิดชอบเรื่องอะไร เชื่อเถอะครับว่า ไม่มีใครอยากโดนเอาเปรียบ ด้วยการทำงานมากกว่าอีกคน แต่คาดหวังที่จะได้ผลตอบแทนเท่าๆ กัน สิ่งหนึ่งที่สำคัญ ตั้งแต่เริ่มทำธุรกิจ คือ หาหุ้นส่วนที่มีวิสัยทัศน์เหมือนกัน มองธุรกิจในอนาคตไปในทิศทางเดียวกัน และมีความสามารถ หรือความรู้ที่เกื้อหนุนกัน ทำได้โดย ดูจากประสบการณ์การทำงานที่ผ่านมาของแต่ละคน คุณอาจจะเก่งเรื่องการตลาด เก่งในด้านการขาย เหมาะกับการพบปะลูกค้า ในขณะเดียวกันหุ้นส่วนของคุณ อาจจะมีประสบการณ์ในการทำบัญชี เก่งในเรื่องการเงิน และตัวเลขมากกว่าคุณ การแบ่งหน้าที่การทำงานก็จะง่ายขึ้น เพราะคุณเองก็รู้อยู่แล้วว่าหน้าที่ไหน ที่ใครจะสามารถจัดการได้ดีกว่า แถมยังเป็นการนำความรู้เฉพาะทาง ของแต่ละคนมาช่วยกันทำธุรกิจด้วยครับ

ข้อควรระวังคือ การแบ่งงานที่ไม่สำคัญให้กับอีกคน ก็อาจจะทำให้เกิดการอิจฉา และทำให้เขารู้สึกเป็นส่วนเกินได้ การแบ่งงาน สามารถแบ่งตามเงินลงทุนก็ได้ เช่น ลงทุนมาก ความรับผิดชอบก็มากขึ้นครับ เพราะเท่ากับว่าคุณได้ผลตอบแทนมากกว่า และต้องรักษาผลประโยชน์ของตัวเองมากกว่าคนที่ลงทุนน้อย ส่วนนี้ต้องเคลียร์กันให้ชัดเจนเลยครับ

3.ไม่ไว้ใจ

หุ้นส่วน ควรจะเป็นคนช่วยที่ทำให้การตัดสินใจในเรื่องต่างๆ มีประสิทธิภาพมากขึ้น ถ้าการตัดสินใจในเรื่องต่างๆ ทำโดยใครคนใดคนหนึ่งเป็นส่วนใหญ่ นั่นหมายความว่า เขาไม่วางใจที่จะให้อีกฝ่ายตัดสินใจอะไรเลย อย่างไรก็ตาม ไม่มีมาตรฐานวัดว่า การตัดสินใจแบบไหนที่เรียกว่าดี เพราะสุดท้ายแล้วก็ไม่มีใครรู้ว่า ตัดสินใจออกไปแล้ว ผลลัพธ์จะเป็นอย่างไร แต่สิ่งหนึ่งที่สำคัญคือ ไม่ว่าจะเรื่องอะไร คุณกับหุ้นส่วนจะต้องเห็นพ้องต้องกัน เวลาผลลัพธ์ออกมาไม่ดี ก็จะได้ไม่ต้องโทษกันและกัน และอีกอย่างหนึ่งที่คนทำธุรกิจก็ต้องพึงเอาไว้ คือ ไม่แปลกเลยครับ ที่จะมีความคิดเห็นไม่ตรงกันบ้าง แค่คุณต้องหาวิถีประนีประนอมให้ได้ หากหุ้นส่วนมากกว่าสอง เวลาตัดสินใจเรื่องอะไรก็ง่ายหน่อยครับ ใช้การโหวตดูคะแนนเสียงฝั่งมาก ถ้าทำกันสองคนแล้วตกลงกันไม่ได้สักที คงต้องคุยกันให้มากครับ วิเคราะห์ทั้งความเสี่ยง และ ข้อดีก่อนที่จะตัดสินใจ

4. แยกแยะไม่เป็น

งานก็คืองาน เพื่อนก็คือเพื่อน เสร็จงาน ความเป็นหุ้นส่วน หรือ เจ้านายกับลูกน้อง ก็คือจบครับ ทะเลาะกันเรื่องงาน  พอนอกเวลาก็คุยกันแบบเพื่อนได้ คอนเซ็ปต์ในฝันสำหรับคนที่อยากทำธุรกิจกับเพื่อนเลยครับ ถ้าคุณแยกเรื่องต่างๆ ได้ชัดเจนแบบนี้ คุณตัดปัญหาเรื่องเสียเพื่อนได้แน่นอน แแต่เรื่องจริงมันไม่ได้ง่ายอย่างที่คิดสิครับ เมื่อการทำงานเริ่มมีอารมณ์เข้ามาเกี่ยว มีปัญหากันเรื่องงาน ก็ลามไปถึงความสัมพันธ์ส่วนตัว กลายเป็นว่าเรื่องงานก็คุยไม่รู้เรื่อง เรื่องส่วนตัวก็คุยกันไม่ได้ เผลอๆ กลายเป็นทะเลาะกันใหญ่โต ทั้งงานทั้งความสัมพันธ์ พังทั้งคู่ครับ ถ้าคุณยังให้อารมณ์มาเหนือกว่าเหตุผล การทำธุรกิจกับเพื่อนตัดไปก่อนได้เลยครับ ในทางกลับกันถ้าหุ้นส่วนแยกแยะไม่ได้ คุณควรพิจารณาได้แล้วครับว่าควรแก้ปัญหายังไง ควรตัดไฟตั้งแต่ต้นลม ก่อนที่คุณจะเสียทั้งเพื่อนและเสียทั้งงานหรือไม่

อีกอย่างหนึ่งที่อยากแนะนำครับ คือ ทำทุกอย่างให้เป็นลายลักษณ์อักษร ทั้งสัญญาการร่วมลงทุน สัดส่วนการถือหุ้น ชี้แจ้งเงินลงทุนให้ชัดเจน รายรับ-รายจ่าย บันทึกให้เป็นกิจจะลักษณะครับ เวลามีปัญหาอะไร จะได้เคลียร์กันง่ายๆ โดยเฉพาะเรื่องเงิน อย่าคิดว่าเป็นเพื่อนกันไว้ใจกันได้ การทำธุรกิจคือ การลงทุนในความเสี่ยง ทั้งเรื่องเงิน เรื่องความสัมพันธ์ ฉะนั้นควรจัดการเรื่องนี้ให้ดีครับ

การเลือกหุ้นส่วนทางธุรกิจ ผมว่าคล้ายกับการเลือกหุ้นส่วนชีวิต ความสัมพันธ์ของคุณจะยืดยาวหรือไม่ ก็มาจากตัวเองคุณเองด้วย แม้จะเลือกถูกแล้ว มีผิดใจบ้างก็คงเป็นเรื่องปกติ แต่ถ้าเราอยู่บนพื้นฐานความเข้าใจ เข้าใจบทบาทหน้าที่ และความรับผิดชอบของตัวเอง ลองสังเกตว่าอะไรที่ควรแก้ อะไรที่ยอมกันได้ อะไรที่ควรเปลี่ยน แค่นี้ก็ทำให้ธุรกิจเดินไปข้างหน้าได้แล้วครับ

บทความที่น่าสนใจ เมื่อ การเงินในธุรกิจ มีปัญหา ต้องจัดการอย่างไร? วิธีการจัดการเบื้องต้น เมื่อระบบการเงินในธุรกิจเริ่มฝืดเคือง รายรับรายจ่ายไม่สมดุลกัน

เรื่องแนะนำ

หุ้นกับเพื่อนเปิดร้านอาหารดี….แต่ต้องคุยเรื่องนี้กันก่อน

คนที่มีความฝันเหมือนกัน ตกลงจับมือร่วมกันทำธุรกิจร้านอาหาร แต่เมื่อลงขันร่วมกันแล้ว กลับขัดแย้งกันในทุกเรื่อง ก็ไม่สามารถทำร้านอาหารให้ประสบความสำเร็จได้   เมื่อต้องลงเรือลำเดียวกัน เป้าหมายในการทำร้านอาหาร และทัศนคติในการทำธุรกิจเป็นสิ่งสำคัญที่จะต้องทำความรู้จักหุ้นส่วนให้มากพอ นอกจากนี้การเลือกหุ้นส่วนที่มีความถนัดที่แตกต่างกันจะช่วยส่งเสริมในส่วนที่อีกฝ่ายหนึ่งขาด และควรมอบสิทธิ์ขาดในการตัดสินใจในเรื่องที่แต่ละคนถนัดดูแล ก็เป็นอีกแนวทางในการสรุปข้อขัดแย้งที่เกิดจากการคิดเห็นที่ไม่ตรงกันได้   ลงทุนกับลงแรง การลงทุนทำร้านอาหารกับเพื่อนมักเป็นลักษณะลงทั้งทุนและแรงด้วยกัน เมื่อมีฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดต้องทำมากกว่า หรือได้รับค่าตอบแทนน้อยกว่า จะนำไปสู่ข้อขัดแย้งได้มากที่สุด เพราะฉะนั้นต้องแบ่งเรื่องงานและเรื่องเงินให้ลงตัว ถ้าลงแรงด้วยควรกำหนดค่าตอบแทนเงินเดือนให้อยู่ในค่าใช้จ่าย ในขณะเดียวกันควรมีระบบตรวจสอบที่โปร่งใส และสัดส่วนต้องเป็นไปตามเงินลงทุนตามหุ้นที่กำหนดไว้ตั้งแต่แรก   ไม่มีสัญญาใจ ในโลกของการทำธุรกิจ อย่าทำสัญญาปากเปล่าแม้ว่าจะเป็นเพื่อนสนิทหรือคนรัก ถึงจะเป็นแค่ร้านอาหาร หรือร้านกาแฟเล็ก ๆ ที่เริ่มต้นลงทุนไม่กี่บาทก็ตาม การเขียนข้อสัญญาร่วมกันมีผลทางด้านกฎหมาย ซึ่งจะต้องกำหนดบทบาทหน้าที่รับผิดชอบ เงินลงทุน จำนวนหุ้น  การคิดเงินปันผลและระยะเวลาในการคืนผลกำไร ยังเป็นหลักฐานการจ่ายเงิน ที่ยืนยันการร่วมลงทุนระหว่างคุณและหุ้นส่วน ซึ่งหากสุดท้ายเกิดปัญหาจนไปต่อไม่ได้ ข้อกำหนดที่ทำร่วมกันยังเป็นประโยชน์กับทุกฝ่ายในการหาข้อสรุปข้อขัดแย้งร่วมกันด้วย   อย่าอะไรก็ได้….แผนธุรกิจต้องชัดเจน ช่วงเริ่มต้นอะไรก็ดี เพราะไม่มีใครมองเห็นถึงปัญหา และมักจะตกม้าตายด้วยความคิดที่ว่าคนกันเองไม่โกงแน่นอน แผนธุรกิจจะช่วยให้การทำกิจการร้านอาหารเป็นไปอย่างมีทิศทาง ทั้งงบประมาณในการลงทุน การทำการตลาด การพัฒนาสินค้าและบริการ เป้าหมายธุรกิจ รวมถึงระยะเวลาในการลงทุนเพิ่ม ควรเลือกที่จะทะเลาะกันตั้งแต่มันอยู่ในกระดาษ ก่อนที่จะเริ่มปฏิบัติงานจริงที่เป็นการตกลงแล้วของทุกฝ่ายเท่านั้น    อย่ามองข้าม…เรื่องเล็กที่กลายเป็นเรื่องใหญ่ ไม่ใช่เพียงแค่ผลประโยชน์ที่ทำให้หุ้นส่วนร้านขัดแย้งกันเสมอไป […]

ตั้งราคาขาย

ตั้งราคาขาย อย่างไร ให้ขายได้และร้านอยู่รอด

        ในช่วงวิกฤตแบบนี้ สิ่งสำคัญที่จะช่วยให้ร้านอาหารอยู่รอดได้ คือการบริหารจัดการต้นทุนที่ดี และการ ตั้งราคาขาย (Price Strategy) ของอาหารที่เหมาะสม โดยเฉพาะในวงการอาหารเดลิเวอรีที่มีการแข่งขันสูง มีร้านอาหารแบบเดียวกันเป็นจำนวนมาก ผู้ประกอบการจะต้องใช้กลยุทธ์ทุกอย่างที่ทำได้ เพื่อให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อจากร้านของเรา ลองมาดูการตั้งราคาขายอาหารและกลยุทธ์ต่างๆ ที่อาจจะช่วยร้านของคุณได้ครับ ตั้งราคาขาย อย่างไร  ให้ขายได้และร้านอยู่รอด         พื้นฐานของการ ตั้งราคาขาย อาหาร ต้องคำนวณมาจากต้นทุนของร้าน เช่น ต้นทุนวัตถุดิบ ควรอยู่ที่ 30-35% ของยอดขาย ตัวอย่างเช่น ต้นทุนวัตถุดิบเท่ากับ 30 บาท ราคาขายก็ควรจะตั้งไว้ประมาณ 100 บาท เป็นต้น          แต่ไม่ใช่ว่าการคำนวณแบบนี้จะเหมาะสมกับทุกร้านอาหาร เพราะยังมีต้นทุนอื่นๆ ได้แก่ ค่าจ้างพนักงาน ค่าเช่าที่ และค่าการตลาดอื่นๆ ส่วนใครที่นำร้านอาหารเข้าร่วมกับผู้ให้บริการเดลิเวอรีต่างๆ ก็อย่าลืมต้นทุนค่า GP […]

5 บริการสุดห่วย ที่ทำให้ลูกค้าไม่อยากมาร้านของคุณ

1.การบริการที่ทำให้รู้สึกเหมือน ‘ไม่มีตัวตน’ หนึ่งในประสบการณ์ที่ลูกค้าร้านอาหารยอมรับว่าทำให้รู้สึกแย่ ก็คือ การที่พนักงานของร้านไม่ให้ความสนใจในการบริการโดยเฉพาะอย่างยิ่งการกล่าวต้อนรับ ลองจินตนาการระหว่างร้าน A : ซึ่งมีพนักงานต้อนรับกล่าวคำทักทาย และจัดการที่นั่งอย่างรวดเร็ว กับร้าน B: ที่ปล่อยให้ลูกค้ายืนรอ ไม่กล่าวคำทักทาย จนคุณต้องเดินเข้าไปหาที่นั่งเอง ร้านไหนที่คุณอยากเดินเข้าไปกินมากกว่ากัน การทักทายนั้นมีความสำคัญมากและเป็นด่านแรกในการสร้างความประทับใจ ซึ่งถ้าหากลูกค้ารู้สึกไม่ดีตั้งแต่เริ่มต้นก็มีแนวโน้มที่จะไม่พอใจในเรื่องอื่น ๆ ด้วย   2.พนักงานดูแลเหมือนเพื่อนสนิท…… จนเกินไป           บริการดุจญาติมิตรนั้นอาจดีสำหรับธุรกิจบางประเภท แต่การบริการสำหรับธุรกิจร้านอาหารนั้นลูกค้าส่วนใหญ่มักต้องการเวลาส่วนตัว การที่พนักงานคุยเล่นกันข้ามหัวลูกค้า หรือใช้คำพูดในการบริการที่แสดงความเป็นกันเองกับลูกค้ามากจนเกินไป นอกจากจะทำให้ลูกค้ารู้สึกตะขิดตะขวงใจ ยังแสดงถึงความไม่เป็นมืออาชีพในการให้บริการอีกด้วย     3.พนักงานไม่แม่นข้อมูลอาหาร และการบริการ           ร้านอาหารอร่อยขายได้ แต่ร้านอาหารอร่อยที่ขายดีอยู่ที่พนักงานให้บริการและให้คำแนะนำเมนูต่าง ๆ ได้อย่างมืออาชีพ ลองจินตนการว่า การที่ลูกค้ามีคำถามแล้วพนักงานเสิร์ฟต้องวิ่งไปถามพ่อครัว ถามผู้จัดการ นอกจากจะทำให้การบริการสะดุดแล้ว ลูกค้าย่อมรู้สึกถึงความไม่พร้อมในการให้บริการ หากพนักงานบริการได้อย่างเป็นลำดับขั้นตอน รู้จังหวะในการเข้าถึงลูกค้า การแนะนำเมนูที่เหมาะสมได้อย่างลื่นไหล สิ่งเหล่านี้จะสร้างความประทับใจให้กับลูกค้าได้อย่างแน่นอน   4.การบริการที่สร้างความลำบากให้แก่ลูกค้า           ในยุคนี้การอำนวยความสะดวกสำคัญไม่แพ้รสชาติอาหาร เพราะเมื่อไหร่ที่ลูกค้ารู้สึกถึงความยุ่งยากในการบริการจากร้านของคุณ เขาจะตัดสินใจไปร้านอื่นทันที ยกตัวอย่างเช่น […]

ออกแบบเมนูร้านอาหาร เมนูไหนควรเชียร์ขาย เมนูไหนควรตัดทิ้ง!

ไม่รู้จะตัดเมนูไหนทิ้งหรือควรเชียร์ขายเมนใด เรามีหลักการง่ายๆ ที่ช่วยให้คุณ ออกแบบเมนูร้านอาหาร ให้เหมาะสมยิ่งขึ้น มาแชร์ให้รู้กัน!

Follow Me

Contact

เว็บไซต์ : amarinacademy.com
บริษัท เอเอ็มอี อิมเมจิเนทีฟ จำกัด
ในเครือ บริษัท อมรินทร์ คอร์เปอเรชั่นส์ จำกัด (มหาชน)
Tel : 02-422-9999 ต่อ 4662 หรือ 4669, 092-254-0742
Email : amarin.academy@gmail.com

ติดต่อแจ้งปัญหาหรือร้องเรียน
02-422-9999 ต่อ 4180
(จันทร์ – ศุกร์ เวลา 09.00 – 18.00 น)
bdcx@amarin.co.th

สนใจลงโฆษณากับเว็บไซต์ Amarin Academy
Tel. 081-664-0666, 091-729-8060
E-mail : sineenart_ya@amarin.co.th

© COPYRIGHT 2025 AME IMAGINATIVE COMPANY LIMITED.