ถ้า ยอดขายตก อย่าเพิ่งลดราคา - Amarin Academy

ถ้า ยอดขายตก อย่าเพิ่งลดราคา

ถ้า ยอดขายตก อย่าเพิ่งลดราคา

ช่วงนี้ไม่ว่าจะคุยกับผู้ประกอบ ทั้งในธุรกิจอาหาร หรือธุรกิจอื่นๆ ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ยอดขายตก ขายไม่ดีเลย โดยส่วนใหญ่ สิ่งที่เจ้าของร้านคิดจะทำเป็นอย่างแรก เมื่อประสบปัญหานี้คือ การลดราคา

กลยุทธ์การลดราคาไม่ใช่สิ่งที่ผิด แต่อยากให้ทำเป็นสิ่งสุดท้าย เพราะการลดราคาใครๆ ก็ทำได้ ซึ่งในช่วงแรก คุณอาจจะได้ยอดขายกลับมา แต่คุณต้องไม่ลืมว่า หากคุณทำให้ลูกค้าเกิดความเคยชินกับการลดราคา วันไหนที่คุณเลิกลดราคา หรือมีร้านอื่นลดราคามากกว่าคุณ ลูกค้ากลุ่มนั้นก็พร้อมจะเปลี่ยนอีกร้านทันที

แล้วอย่างนี้คุณไม่ต้องลดราคาไปเรื่อยๆ หรือ?

ฉะนั้นก่อนที่คุณจะทำกลยุทธ์ใดๆ อยากให้ลองวิเคราะห์ถึงสาเหตุ ที่ทำให้ยอดขายคุณตกเสียก่อน โดยทั่วไปแล้วอาจเกิดได้จาก 2 สาเหตุหลักๆ คือ

  1. เกิดจากการแข่งขัน

ข้อนี้ถือเป็นปัจจัยภายนอก ที่คุณแทบจะควบคุมไม่ได้เลย เช่น การมีคู่แข่งรายใหม่มาเปิดร้านใกล้ๆ กัน มีคู่แข่งเข้ามาขายตัดราคา หรือลูกค้าอาจจะเปลี่ยนเทรนด์ไปกินอาหารรูปแบบอื่นๆ โดยทางออกไม่ได้มีแค่การลดราคาเพียงอย่างเดียว เราอาจจะใช้กลยุทธ์อื่นๆ เพื่อกระตุ้นยอดขายได้

-กลยุทธ์ของแถม แทนที่จะลดราคา ซึ่งทำให้รายได้เราลดลง อาจเพิ่มของแถมที่ราคาไม่สูงนัก เพื่อดึงดูดให้ลูกค้าจ่ายเงินเท่าเดิม เช่น หากสั่งอาหารครบ 800 บาท รับฟรีไอศกรีมพร้อมแก้วลายน่ารัก เป็นต้น

-โปรโมทสินค้า ไปยังกลุ่มผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง โดยทุกวันนี้ช่องทางการโปรโมทสินค้าก็ง่ายมากขึ้น เช่น สื่อสังคมออนไลน์ Facebook Instagram เป็นต้น

-เพิ่มช่องทางการขาย เช่น เดิมอาจจะต้องเข้ามานั่งกินที่ร้าน ก็เพิ่มบริการส่งตรงถึงบ้าน หรือรับทำอาหารสำหรับงานเลี้ยง เป็นต้น

-ผลิตสินค้าใหม่ๆ ออกมาเพื่อดึงดูดความสนใจผู้บริโภค เช่น คิดค้นอาหารเมนูใหม่ๆ ที่กำลังอยู่ในกระแส โดยหากร้านของคุณขายสเต็กเป็นหลัก อาจเพิ่มเมนู สเต็กฟองดูว์ชีส ตัดเนื้อเป็นชิ้นเล็กๆ แล้วจุ่มลงในชีสร้อนๆ รับรองว่าลูกค้าต้องอยากมาลอง พร้อมถ่ายรูปลง Facebook หรือ IG แน่นอน

-ลองวางแผนทำตลาดใหม่ ขยายฐานผู้บริโภคให้ใหญ่ขึ้น เพื่อเพิ่มยอดขายให้ได้มากที่สุด เช่น เดิมกลุ่มเป้าหมายของคุณอาจเป็นวัยรุ่น อาจขยายสู่วัยทำงานมากขึ้น โดยออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ให้โดยใจพวกเขา

ฯลฯ

แต่การแก้ไขด้วยวิธีที่กล่าวไปข้างต้นจะไม่ช่วยอะไรเลย หากปัญหามันเกิดจากข้อที่กำลังจะกล่าวถึงต่อไปนี้

  1. เกิดจากตัวเอง

การที่ยอดขายลดลงอาจเป็นเพราะอาหารของคุณมีมาตรฐานต่ำลง ไม่อร่อย บริการแย่ การจัดการภายในร้านไม่เป็นระบบ ออร์เดอร์ผิดพลาดบ่อย เป็นต้น

หากเกิดจากสาเหตุนี้คุณไม่จำเป็นต้องทำโปรโมชั่นใดๆ เลย เพราะถึงจะทำโปรโมชั่นมากขนาดไหน ก็ไม่ช่วยกระตุ้นยอดขายให้ดีขึ้นได้แน่นอน ดังนั้นคุณต้องแก้ปัญหาที่ตัวเองก่อน แล้วลูกค้าจะกลับมาหาคุณเอง

ก่อนจะวางกลยุทธ์เพื่อกระตุ้นยอดขาย อยากให้ลองวิเคราะห์สาเหตุดูก่อนว่า การที่ยอดขายคุณตกเกิดจากปัจจัยภายในหรือภายนอก เพื่อจะได้วางแผนแก้ไขได้ตรงจุด

เรื่องแนะนำ

สังคมผู้สูงอายุ

เจาะโอกาสทอง! ร้านอาหารในยุค Aging Society ( สังคมผู้สูงอายุ )

ประเทศไทยกำลังจะเข้าสู่ สังคมผู้สูงอายุ หรือ Aging Society และในปี 2564 ประเทศไทยจะมีประชากรผู้สูงอายุ 20 % หรือมากกว่า 13 ล้านคน ซึ่งถือว่าเป็นกลุ่มใหญ่ และยังมีจำนวนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆอีกด้วย ซึ่งผู้ประกอบการธุรกิจอาหารไม่ควรมองข้าม ลูกค้ากลุ่มนี้ เพราะอาจเป็นโอกาสทองสำหรับธุรกิจอาหารของคุณในอนาคตก็เป็นได้ แล้วเพราะอะไรจึงต้องให้ความสำคัญ และหันมาเจาะตลาดลูกค้ากลุ่มผู้สูงอายุ   เจาะโอกาสทอง! ร้านอาหารยุค Aging Society ( สังคมผู้สูงอายุ ) มีกำลังซื้อสูง เนื่องจากมีสถานะทางการเงินที่ดีกว่ากลุ่มอายุอื่น และพร้อมที่จะจ่ายเพื่อให้ได้สิ่งที่มีคุณภาพ นอกจากนี้ ผู้สูงอายุในปัจจุบันยังมีการซื้อสินค้าทั้งออนไลน์และออฟไลน์มากขึ้น โดยเฉพาะการซื้อสินค้าที่เกี่ยวกับสุขภาพ มีช่องว่างทางการตลาด คู่แข่งน้อย สิ่งที่กลุ่มผู้สูงวัยต้องการเป็นอันดับ 1 คือร้านอาหารที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับให้บริการผู้สูงอายุ เช่น บริการเรื่องรถเข็น หรือการเดินของผู้สูงอายุให้มีความสะดวก ซึ่งในปัจจุบันร้านที่ตอบโจทย์สิ่งนี้ยังมีไม่มากนัก Brand Loyalty ลูกค้ากลุ่มนี้มีโอกาสในการเป็นลูกค้าประจำสูง เนื่องจากผู้สูงอายุมีความผูกพันกับร้านอาหารที่ตัวเองรู้สึกชอบมากกว่าลูกค้าในวัยอื่นๆ ซึ่งอาจจะทำให้ร้านได้ฐานลูกค้าที่กลับมาซื้อซ้ำสูงขึ้นมาก กลุ่มลูกค้าที่ได้กลับมาไม่ใช่แค่ผู้สูงอายุ แต่ยังรวมถึงลูกหลานที่พาครอบครัวมารับประทานอาหารในโอกาสต่างๆ หรือซื้อเพื่อนำกลับไปฝากผู้ใหญ่ที่บ้านด้วย สิ่งที่ต้องคำนึง ในการเปิดร้านอาหารเพื่อเจาะตลาดกลุ่มผู้สูงอายุ มี 3 […]

วิเคราะห์ ปัญหาร้านอาหาร ทำการตลาดดีแต่ไม่มีลูกค้าประจำ

เชื่อไหมว่า… ปัญหาร้านอาหาร ที่เจ้าของร้านประสบชะตากรรมยอดขายตก มักจะมีคำถามว่าทำการตลาดอย่างไรดีช่วงนี้ให้ลูกค้าเข้าร้านเยอะ ๆ แทนที่จะตั้งคำถามว่า Operation อย่างไรให้ดี จนลูกค้าบอกต่อโดยไม่ต้องทุ่มงบทำการตลาด ซึ่งเจ้าของร้านอาหารบางท่าน ก็ไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่า Operation ทำหน้าที่ไล่ลูกค้าไปกี่คนแล้วต่อเดือน !   ทำไมการตลาดเรียกลูกค้า Operation ไล่ลูกค้า ?             ไม่ว่าจะเป็นการโฆษณา การจัดทำโปรโมชั่น ล้วนเป็นการสร้างความเคลื่อนไหวให้กับร้าน ทำให้ลูกค้าเกิดความสนใจ และตัดสินใจลองใช้บริการมากขึ้นในช่วงนั้น ๆ ซึ่งร้านอาหารมีโอกาสที่จะเปลี่ยนลูกค้าใหม่ให้เป็นลูกค้าประจำ และทำให้ลูกค้าประจำมีการซื้อมากขึ้นได้ ในทางกลับกันถ้า Operation มีจุดบอดก็จะเปิดโอกาสให้ลูกค้ามาเจอกับประสบการณ์ที่ไม่ดีได้มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นพนักงานบริการไม่ดี อาหารออกช้า ความไม่คงที่ของรสชาติและปริมาณ แทนที่จะเพิ่มยอดขาย กลับทำให้ร้านเกิดผลกระทบด้านลบในระยะยาวแทน เช่นเดียวกัน ถ้าหากร้านของคุณยังมีปัญหาด้าน Operation ก็ยากที่จะครองใจลูกค้าไว้ได้ แม้จะดันการตลาดมากแค่ไหนก็ตาม   การตลาดที่ดีต้องคำนึงถึงการ Operation หน้าร้านด้วย             กรณีศึกษา เกิดขึ้นกับร้านอาหารในประเทศจีน ทำการตลาดกินฟรี โดยกำหนดช่วงเวลา เพื่อหวังให้ร้านเป็นที่รู้จักในระยะเวลาอันรวดเร็ว แต่ปรากฏว่าการจัดการหน้าร้านไม่สามารถรองรับจำนวนลูกค้าที่ล้นหลามได้ และยังทำให้ร้านอาหารประสบกับปัญหาขาดทุนจากการจัดการต้นทุนที่ผิดพลาด แทนที่ร้านจะมีชื่อเสียงกลับทำให้เจ้าของร้านต้องตัดสินใจปิดร้านในเวลาอันรวดเร็ว การทำการตลาดจึงต้องคำนึงถึงความพร้อมของการจัดการหน้าร้านด้วย […]

Hyper-Personalization

อ่านใจลูกค้าออก บริการได้ตรงใจ ด้วยการตลาดแบบ Hyper-Personalization

อ่านใจลูกค้าออก บริการได้ตรงใจ ด้วยการตลาดแบบ Hyper-Personalization อยากมัดใจลูกค้าให้อยู่หมัด ก็ต้องอ่านใจลูกค้าให้ออก.. ทุกวันนี้เราอยู่ในยุคที่ผู้บริโภคอยากรู้ทุกอย่าง และสามารถเข้าถึงข้อมูลทุกเรื่องได้ด้วยปลายนิ้ว ฉะนั้นการทำการตลาดแบบเดิมๆ อาจไม่ได้ผลอีกต่อไป ไม่ว่าจะเป็นการจำชื่อลูกค้า, ส่งข้อความ หรืออีเมล์ไปอวยพรวันเกิด พร้อมส่วนลดต่างๆ ซึ่งวิธีเหล่านี้กำลังจะกลายมาเป็นเพียงข้อมูลพื้นฐานสำหรับการทำการตลาดเท่านั้น ดังนั้นธุรกิจร้านอาหารหรือแบรนด์ที่จะสะกิดใจคนได้ ต้องเป็นแบรนด์ที่รู้จักและรู้ใจลูกค้า ด้วยการทำการตลาดแบบ Hyper-Personalization ซึ่งเป็นการตลาดที่เข้าถึงตัวบุคคลมากขึ้น เพื่อตอบโจทย์ความต้องการที่ตรงใจลูกค้ามากกว่าที่เคย อย่าปล่อยให้เสียเวลาเปล่า เจ้าของธุรกิจทั้งหลายต้องรีบทำความเข้าใจ เรียนรู้ และปรับตัว รวมถึงเปลี่ยนรูปแบบวิธีการทำงานให้เข้ากับสถานการณ์ แล้วจะช่วยให้ลูกค้าเดินเข้าร้านได้อย่างยิ้มแย้มและเต็มใจ หัวใจของ Hyper Personalization อยู่ที่ “Big Data” ก่อนอื่นต้องอธิบายให้เข้าใจง่ายๆ ก่อนว่าการตลาดแบบ Hyper Personalization เป็นการนำ Big Data แบบเรียลไทม์มาใช้ในการคาดเดาความต้องการของผู้บริโภค ไม่ใช่แค่ข้อมูลจากประวัติการสั่งซื้อทั่วไป แต่เป็นการเอาข้อมูลเหล่านั้นมาวิเคราะห์ออกมาเป็นพฤติกรรมการซื้อ เพื่อให้สามารถคาดการณ์ล่วงหน้าได้ว่าลูกค้าคนนี้อยากจะซื้อกับเราครั้งถัดไปเมื่อไหร่ หรือจะกระตุ้นเขาให้ซื้อได้ด้วยวิธีไหน ซึ่ง Big Data คือการนำข้อมูลรอบๆ ตัว จากหลายๆ ส่วนมาประมวล วิเคราะห์ เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ต่อ  จึงเป็นเรื่องสำคัญสำหรับเจ้าของร้านอาหาร ที่จะนำมาวิเคราะห์ข้อมูลพฤติกรรมลูกค้า […]

คู่แข่งร้านอาหาร

Marketing Collaboration สร้างพันธมิตรจาก คู่แข่งร้านอาหาร

“Marketing Collaboration”  สร้างพันธมิตรจาก คู่แข่งร้านอาหาร ในช่วงหลายปีมานี้ ถือเป็นยุคแห่งการ Collaboration หรือการจับมือกันของธุรกิจอาหาร เราจะเห็นหลาย ๆ แบรนด์สร้างสินค้าหรือโปรโมชั่นใหม่ร่วมกัน ทำให้เกิดความแปลกใหม่ในวงการธุรกิจอาหารมากยิ่งขึ้น เป็นการสร้างพันธมิตรจาก คู่แข่งร้านอาหาร ซึ่งการร่วมมือกันระหว่างธุรกิจอาหารนี้ มีประโยชน์มากมาย ดังนี้ สร้างความน่าสนใจและให้ประสบการณ์ใหม่ๆ กับผู้บริโภค ปลุกกระแสทางการตลาดให้เป็นไวรัล และได้รับการพูดถึงในวงกว้าง แลกเปลี่ยนกลุ่มลูกค้าระหว่างแบรนด์ ขยายฐานลูกค้าใหม่ๆ ลดการแข่งขัน และเพิ่มพันธมิตรทางการค้า ทำให้แบรนด์ดูทันสมัย และเข้าถึงกลุ่มลูกค้ารุ่นใหม่มากขึ้น ใช้จุดแข็งของพาร์นเนอร์มาชดเชยจุดอ่อนของแบรนด์ตัวเอง   เหล่านี้ถือเป็นกลยุทธ์ที่กำลังมาแรงทีเดียว กับการสร้างพันธมิตรจาก คู่แข่งร้านอาหาร เราลองมาดูตัวอย่างความร่วมมือในธุรกิจอาหารที่น่าสนใจกัน ว่ามีแบรนด์ไหน จับมือกับแบรนด์ไหนบ้าง   4 Case Study: เปลี่ยนคู่แข่งเป็นคู่ค้าร้านอาหาร Bar B Q Plaza X Pizza Hut ในปีที่ผ่านมา บาร์บีคิวพลาซ่าและพิซซ่าฮัท ได้จัดแคมเปญและออกเมนูฟิวชั่นร่วมกัน โดยทางร้านบาร์บีคิวพลาซ่าจะมีเมนูหมูที่เสิร์ฟแบบใหม่บนถาดพิซซ่า เครื่องเคียงแบบพิซซ่าและน้ำจิ้มใหม่ ส่วนร้านพิซซ่าฮัท ก็มีพิซซ่าหน้าหมูบาร์บิกอนในซอสใหม่ เป็นการรวมจุดเด่นของทั้งสองแบรนด์เข้าด้วยกัน สร้างความตื่นเต้นแก่ลูกค้า และเกิดเป็นกระแสในโซเชียลมีเดียในช่วงนั้นได้  […]

Follow Me

Contact

เว็บไซต์ : amarinacademy.com
บริษัท เอเอ็มอี อิมเมจิเนทีฟ จำกัด
ในเครือ บริษัท อมรินทร์ คอร์เปอเรชั่นส์ จำกัด (มหาชน)
Tel : 02-422-9999 ต่อ 4662 หรือ 4669, 092-254-0742
Email : amarin.academy@gmail.com

ติดต่อแจ้งปัญหาหรือร้องเรียน
02-422-9999 ต่อ 4180
(จันทร์ – ศุกร์ เวลา 09.00 – 18.00 น)
bdcx@amarin.co.th

สนใจลงโฆษณากับเว็บไซต์ Amarin Academy
Tel. 081-664-0666, 091-729-8060
E-mail : sineenart_ya@amarin.co.th

© COPYRIGHT 2025 AME IMAGINATIVE COMPANY LIMITED.