4 วิธีเจาะกลุ่มลูกค้าคนจีน - Amarin Academy

4 วิธีเจาะกลุ่มลูกค้าคนจีน

4 วิธีเจาะกลุ่มลูกค้าคนจีน

นักท่องเที่ยวจีน ถือเป็นกลุ่มลูกค้าที่น่าจับตาอย่างมาก เพราะเป็นตลาดขนาดใหญ่และมีกำลังซื้อสูง จากสถิติของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาระบุว่า ในปีนี้มีนักท่องเที่ยวจีนที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทยมากกว่า 9 ล้านคน มีเม็ดเงินในการใช้จ่ายมากกว่า 5 แสนล้านบาท ฉะนั้นถ้าผู้ประกอบการสามารถจับตลาดนักท่องเที่ยวจีนได้ ก็สามารถสร้างยอดขาย ขยายโอกาสเติบโตได้ไม่ยาก วันนี้เราจะมาเผยเคล็ดลับการจับตลาดลูกค้าคนจีนให้รู้กัน!

1.ทำความรู้จักไลฟ์สไตล์ของเขา

รู้เขา รู้เรา รบร้อยครั้ง ชนะร้อยครั้ง! การทำความเข้าใจไลฟ์สไตล์ของนักท่องเที่ยวชาวจีน จะช่วยให้เราทำการตลาดได้อย่างตรงจุด ทั้งนี้บริษัท ท่องไทย มีเดีย แอนด์ เซอร์วิส จำกัด เผยว่า

“พฤติกรรมการช้อปปิ้งของคนจีนเวลาที่เดินทางออกนอกประเทศ นิยมซื้อสินค้า 2 อย่าง คือ 1. สินค้าแบรนด์เนม เพราะคนจีนมองว่าซื้อสินค้าแบรนด์เนมที่ต่างประเทศ ถูกกว่าซื้อในประเทศจีนและไม่เสี่ยงของปลอม 2. จีนมีวัฒนธรรมเวลาไปเที่ยว ต้องซื้อของฝาก อย่างเวลาไปเที่ยวเกาหลี – ญี่ปุ่น คนจีนนิยมซื้อผลิตภัณฑ์ความงาม ขณะที่มาเที่ยวเมืองไทย คนจีนชอบซื้อผลไม้อบแห้ง เพราะเมืองไทยเด่น Tropical Fruit แต่นอกจากผลไม้อบแห้งแล้ว ก็ควรสร้างสินค้าอื่นๆ ที่ทำให้คนจีนนึกถึง และต้องซื้อเป็นของฝากเวลามาเมืองไทย”

เมื่อรู้ไลฟ์สไตล์และพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวชาวจีนแล้ว อย่าลืมนำข้อมูลเหล่านี้พัฒนาสินค้าให้ตรงจุดและทำการตลาดให้ตรงใจกันนะ

2.ปรับปรุงสินค้าให้ตรงใจ

เคยรู้สึกไหมว่า สินค้าบางชนิดมองปุ๊บ ก็รู้ปั๊บว่าจับตลาดนักท่องเที่ยวจีน นั่นเป็นเพราะเขามีการออกแบบสินค้าให้จับตลาดคนกลุ่มนี้โดยเฉพาะ จากงานวิจัย “หนีห่าว มาร์เก็ตติ้ง” เคล็ดลับมัดใจนักท่องเที่ยวจีนสไตล์ FIT  ของวิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล” หรือ CMMU ระบุว่า ปัจจัยสำคัญที่ทำให้สินค้าของเราเอาชนะใจลูกค้าชาวจีนได้ คือ “คุณภาพ” โดยสินค้าต้องมีคุณภาพดีและเชื่อถือได้ และอีกสิ่งที่ไม่ควรมองข้ามคือบรรจุภัณฑ์ โดยบรรจุภัณฑ์ที่สามารถเจาะตลาดชาวจีนต้องประกอบด้วย

  1. มีคำอธิบายคุณภาพสมบัติของสินค้าและแหล่งที่มา
    2. คำบรรยายภาษาจีน หรืออังกฤษ
    3. ต้องมีคำว่า “Product of Thailand” เนื่องจากคนจีนมีการรับรู้ที่ดีต่อสินค้าไทย
    4. มีลวดลายเอกลักษณ์ไทย เพื่อบ่งบอกว่าเป็นแบรนด์ไทย
    5. บรรจุภัณฑ์ต้องสามารถมองเห็นสินค้าภายในได้ชัดเจน เพื่อให้มั่นใจก่อนตัดสินใจซื้อ

 

3.สื่อสารให้ถึงกลุ่มเป้าหมายด้วยช่องทางที่เหมาะสม

ไม่ว่าสินค้าดีแค่ไหน ถ้าสื่อสารไม่ตรงกลุ่มเป้าหมาย การทำการตลาดนั้นก็ไม่มีทางประสบความสำเร็จ และอย่างที่รู้กันดีว่าประเทศจีนมีการใช้สื่อที่ต่างจากช่องทางอื่นๆ (ไม่ได้ใช้ Google / Facebook เหมือนบ้านเรา) ดังนั้นผู้ประกอบการใดที่อยากจับตลาดชาวจีน จึงต้องทำความรู้จักแพลตฟอร์มที่ชาวจีนนิยมใช้โดยบริษัท เลเวลอัพ โฮลดิ้ง จำกัด เอเจนซีการตลาดออนไลน์ในจีน เผยว่า 3 แพลตฟอร์มหลักที่คนจีนใช้กันมากที่สุด ได้แก่

Baidu” เป็น Search Engine อันดับ 1 ที่จีน เปรียบได้กับ Google ซึ่งคนจีนใช้แพลตฟอร์มนี้ในการค้นหารีวิวเป็นหลัก ฉะนั้นถ้าอยากเจาะตลาดจีน จะต้องทำให้แบรนด์ของเราติดเสิร์ชใน Baidu ให้ได้ โดยอาจใช้กลยุทธ์ดึงให้ลูกค้ารีวิวสินค้าบนโลกออนไลน์ หรือใช้ “KOL” (Key Opinion Leader) ในการรีวิวสินค้า เช่น Blogger เนื่องจากคนจีนเชื่อ Blogger มากกว่าแบรนด์

Weibo” เป็นเป็นแพลตฟอร์มสื่อสังคมออนไลน์อันดับ 1 ของประเทศจีน มีลักษณะเช่นเดียวกับ Facebook ซึ่งผู้ประกอบการที่อยากเข้าถึงนักท่องเที่ยวชาวจีนก็ควรทำความเข้าใจแพลตฟอร์มนี้ โดยเนื้อหาที่จะสื่อสารไม่ควรมุ่งแต่จะขายสินค้าเพียงอย่างเดียว แต่ต้องเปลี่ยนตัวเองให้เป็น “เพื่อน” กับผู้บริโภค คอยให้คำแนะนำและความรู้ควบคู่กันไปด้วย

“WeChat” คล้ายกับแอปพลิเคชัน “LINE” แต่ครบวงจรกว่า เพราะ WeChat ต้องการเป็น Super Application ทั้งค้นหาข้อมูล จองตั๋วหนัง จองรถ ฯลฯ ทำให้คนจีนนิยมใช้ WeChat เป็นทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตประจำวัน โดยประเภทคอนเทนต์ที่เหมาะกับ WeChat นั้นต้องเป็นคอนเทนต์ที่สนุกสนาน สร้างความรู้สึกร่วมให้ผู้บริโภคได้

4.การใช้จ่ายต้องง่ายและสะดวกที่สุด

จากงานวิจัย “หนีห่าว มาร์เก็ตติ้ง” ระบุเพิ่มเติมอีกว่า ระยะเวลาที่ชาวจีนมาท่องเที่ยวในประเทศไทยเฉลี่ยอยู่ที่ 5 – 7 วัน มีค่าใช้จ่ายอยู่ที่ 25,000 – 50,000 บาท ต่อคนต่อทริป โดยรูปแบบการจ่ายเงินค่าสินค้าและบริการที่ชาวจีนนิยมมากที่สุด คือ “Alipay” 42% ตามมาด้วย “WeChat Pay 22% และ เงินสด 11%

จากตัวเลขดังกล่าวชี้ให้เห็นว่า ถ้าอยากอำนวยความสะดวกให้ลูกค้าชาวจีน ร้านค้าก็ต้องปรับตัว ขยายช่องทางการใช้จ่ายให้สะดวกสะบายมากที่สุด โดยตอนนี้ SCB ก็มีบริการ QR Alipay & WeChat Pay ช่องทางการชำระเงินรูปแบบใหม่ ที่ลูกค้าชาวจีนสามารถจ่ายเงินด้วยแอปฯ Alipay หรือ WeChat Pay โดยการสแกน QR Code ของร้านค้า ซึ่งระบบจะตัดเงินลูกค้าจาก E-Wallet Alipay หรือ WeChat Pay ของลูกค้า หมดกังวลเรื่องเงินทอนและการแลกเปลี่ยนสกุลเงิน โดยยอดเงินเข้าบัญชีร้านค้าในวันถัดไป สำหรับร้านค้าไหนสนใจรับ QR Alipay & WeChat Pay ติดต่อได้ที่ธนาคารไทยพาณิชย์ทุกสาขา หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมโทร 02-722-2222

ขอบคุณข้อมูลจาก

https://goo.gl/Gzrne1

https://goo.gl/s26EzM

https://goo.gl/MbV5hc

เรื่องแนะนำ

สื่อสาร

5 ข้อควรรู้ สื่อสาร บนโลกออนไลน์ไม่ให้เกิดดราม่า

สื่อออนไลน์นับเป็นช่องทางการทำการตลาดยอดนิยม แต่หากคุณ สื่อสาร บนโลกออนไลน์ผิดพลาด อาจกลายเป็น “ดราม่าใหญ่” จนทำให้ยอดขายตกฮวบได้

5 ข้อน่าอ่าน ทำไมร้านอาหารควรมี Instagram

5 ข้อน่าอ่าน ทำไม ร้านอาหารควรมี Instagram โพสต์ภาพลงเฟซแม่ก็ไลค์ด่วนจี๋ แชร์ภาพอะไรพ่อก็มาตามแชร์ต่อ” แน่นอนว่า Social Media ยอดนิยมในไทย คงหนีไม่พ้น Facebook บางคนเบื่อกับเรื่องเหล่านี้ คนที่ไม่อยากให้พ่อแม่มาติดตาม หรือ คนที่ไม่อยากให้เจ้านายมาเห็น รวมทั้งคนที่เบื่อเนื้อหาต่าง ๆ ที่แชร์ผ่าน Facebook ทำให้คนเหล่านี้ ย้ายมา Platform อื่น ๆ แทน ซึ่ง IG กลายเป็นพื้นที่ใหม่ที่ผู้บริโภคกำลังเพิ่มมากขึ้น เจ้าของธุรกิจร้านอาหารหลายเจ้า จึงเริ่มโปรโมทร้านอาหารต่อยอดทางการตลาด เน้นภาพสวย ติดแฮชแท๊ก ผ่าน Instagram (IG) ร้านไหนที่ยังไม่ได้เปิดใช้งานแอพพลิเคชั่นนี้ ลองมาดูกันค่ะว่า ทำไมร้านอาหารควรมี IG และ IG จะช่วยโปรโมทธุรกิจร้านอาหารได้อย่างไร   1. Follower บน Instagram มีคุณค่ามากกว่าบน Facebook ด้วย IG กำลังกลายเป็นพื้นที่ที่กำลังมีความสำคัญอย่างมาก และเริ่มเข้าไปมี […]

โฆษณาร้านอาหารผ่าน facebook

โปรโมทร้านให้เข้าถึงลูกค้า! วิธี โฆษณาร้านอาหารผ่าน Facebook

        โฆษณาร้านอาหารผ่าน Facebook เป็นช่องทางสำคัญที่จะช่วยให้กลุ่มลูกค้าเป้าหมายของเราได้ทำความรู้จัก สั่งซื้ออาหาร หรือจดจำร้านของเราได้ และมีข้อดีต่างๆ มากมาย เช่น สามารถเริ่มต้นด้วยงบประมาณน้อยๆ ได้เลย  เฟสบุ๊คเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่เฉพาะเจาะจงได้ง่าย  เพิ่มยอดขายได้ในระยะเวลาที่จำกัด  ทำได้สะดวกโดยใช้แค่โทรศัพท์มือถือ หรือคอมพิวเตอร์  เป็นโซเชียลมีเดียที่คนไทยนิยมใช้กันมากที่สุด  เจาะกลุ่มลูกค้าที่ควร  โฆษณาร้านอาหารผ่าน Facebook         สิ่งที่ทำให้ facebook โดดเด่นมาก คือข้อมูลของผู้ใช้บริการที่มีอยู่ ไม่ว่าจะเป็นอายุ ที่อยู่อาศัย การศึกษา เพจที่กดถูกใจ การเช็คอินในสถานที่ต่างๆ หรือเหตุการณ์สำคัญในชีวิต เช่น วันครบรอบวันเกิด การแต่งงาน เรียกได้ว่ารู้จักผู้ใช้บริการอย่างละเอียด          ทำให้การทำการตลาดผ่าน Facebook สามารถกำหนดกลุ่มเป้าหมายได้อย่างเจาะจงมาก และเพิ่มโอกาสที่ลูกค้ากลุ่มเป้าหมายของร้านจะเลือกซื้ออาหารกับร้านของเรามากยิ่งขึ้น แต่การกำหนดกลุ่มเป้าหมายบน facebook ควรจะกำหนดอย่างไร ลองมาดูในแต่ละหัวข้อกันครับ  ตำแหน่งที่ตั้ง (Location)    […]

ทำเล

แชร์กลยุทธ์ ทำอย่างไรให้ร้านขายดีในทุกๆ ทำเล

เชื่อว่าผู้ประกอบการหลายๆคน ก่อนจะเปิดร้านอาหาร แน่นอนว่า คุณต้องมองหาทำเลเป็นอันดับแรกๆ ซึ่งใครๆ ก็อยากได้ทำเลที่ดีทั้งนั้น แต่ใช่ว่าทุกร้าน จะได้ทำเลดีที่ตั้งใจไว้เสมอไป อีกทั้งบางร้าน ทำเลดี แต่ขายไม่ดี ก็มี หรือ ทำเลไม่ดี แต่ก็ขายดีได้ ดังนั้นเราจะมาแชร์เคล็ดลับทำอย่างไรให้ร้านของคุณขายดีได้ ในทุกๆ ทำเล   แชร์กลยุทธ์ ทำอย่างไรให้ร้านขายดีในทุกๆ ทำเล   “เลือกทำเลดี มีชัยไปกว่าครึ่ง” ใครๆก็พูดแบบนั้น เพราะแน่นอนว่า ถ้าร้านคุณอยู่ในทำเลที่ดี ตั้งอยู่หัวมุมถนน อยู่ในย่านที่ผู้คนผ่านไปมา แถมลูกค้าที่แวะเวียนมาก็มีทั้งขาประจำและขาจร ย่อมโกยรายได้มากกว่าร้านที่ตั้งอยู่ในซอยลึก ที่แม้จะอยู่ในย่านเดียวกันก็ตาม แต่คุณรู้อะไรไหมว่า หนึ่งในกลยุทธ์ที่จะทำให้ร้านคุณขายดี แม้ตั้งอยู่บน ทำเล ไม่ดี มีเคล็ดลับอยู่ที่ คุณต้องขยันทำ “การประชาสัมพันธ์ร้านตัวเอง”  สักหน่อย หรือที่เรียกง่ายๆ ว่า “โฆษณาร้าน” หัวใจสำคัญก็คือ “อย่ามัวรอให้ลูกค้าเข้าไปหาคุณเพียงฝ่ายเดียว คุณต้องเดินเข้าไปหาเขาด้วย”  การประชาสัมพันธ์ตัวเองในที่นี้ ผู้ประกอบการก็ควรจัดสรรวิธีให้เหมาะสมทั้งด้านออนไลน์ (Online)  และ ด้านออฟไลน์ (Offline) แน่นอนว่ายุคที่การแข่งขันสูงแบบนี้ […]

Follow Me

Contact

เว็บไซต์ : amarinacademy.com
บริษัท อมรินทร์ คอร์เปอเรชั่นส์ จำกัด (มหาชน)
Tel : 02-422-9999 ต่อ 4662 หรือ 4669, 092-254-0742
Email : amarin.academy@gmail.com

ติดต่อแจ้งปัญหาหรือร้องเรียน
02-422-9999 ต่อ 4180
(จันทร์ – ศุกร์ เวลา 09.00 – 18.00 น)
bdcx@amarin.co.th

สนใจลงโฆษณากับเว็บไซต์ Amarin Academy
Tel. 081-664-0666, 091-729-8060
E-mail : sineenart_ya@amarin.co.th

© COPYRIGHT 2024 Amarin Corporations Public Company Limited.