วิธี วิเคราะห์ SWOT อย่างง่ายๆ เปิดร้านอาหารไม่มีเจ๊ง - Amarin Academy

วิธี วิเคราะห์ SWOT อย่างง่ายๆ เปิดร้านอาหารไม่มีเจ๊ง

วิธี วิเคราะห์ SWOT อย่างง่ายๆ เปิดร้านอาหารไม่มีเจ๊ง

การ วิเคราะห์ SWOT คือเทคนิคการวิเคราะห์ จุดอ่อน – จุดแข็ง – โอกาส – อุปสรรค ในการทำธุรกิจ ซึ่งเป็นหนทางหนึ่งที่ทำให้เจ้าของกิจการเห็นภาพรวมของธุรกิจและรู้ว่าควรจะดำเนินกิจการไปในทิศทางใด หลายคนสงสัยว่า แค่เปิดร้านอาหารเล็กๆ จำเป็นต้องทำขนาดนี้เลยหรือ แต่เชื่อเถอะว่า มันคุ้มค่าแน่นอน

 S หรือ Strengths หมายถึง จุดแข็งที่คุณมีแล้วคนอื่นเทียบไม่ติด

ก่อนเปิดร้านอาหารคุณควรหาจุดยืนของตัวเองให้ชัดเจนว่า “คุณเก่งเรื่องอะไร” เช่น ร้านอาหารของคุณ ใครๆ มาก็ต้องสั่งกาแฟดื่ม เพราะทุกคนชื่นชอบในรสชาติที่หอมกรุ่ม เข้มข้นไม่เหมือนเจ้าอื่น ลูกค้าคนไหนได้ดื่มเป็นต้องชม คุณก็ควรชูจุดเด่นในเรื่องนี้ เช่น อาจจะจัด อีเว้นท์เล็กๆ  one “cup” free สร้างสังคมคนรักกาแฟขึ้นในร้าน เป็นต้น

หรือหากร้านอาหารของคุณเด่นเรื่องการบริการ ที่ใครมาเป็นต้องยิ้มกลับไปทุกครั้ง เช่นกัน คุณก็ควรนำข้อนี้มาเป็นจุดเด่น อาจจโพสต์รูปพนักงานยิ้มต้อนรับลูกค้าลงในแฟนเพจ เพื่อตอกย้ำภาพลักษณ์การบริการที่อบอุ่นให้มากขึ้น

แต่หากคุณยังไม่รู้ว่าจุดแข็งของตัวเองคืออะไร ลองสังเกตจาก Feedback ของลูกค้า ว่าเขาพึงพอใจกับร้านอาหารของคุณด้านใดมากที่สุด แล้วนำตรงนั้นมาพัฒนาให้เจ๋งสุดๆ ไปเลย

W หรือ Weaknesses หมายถึง จุดอ่อนที่คุณต้องพัฒนา

แน่นอนว่ามีจุดแข็ง ย่อมต้องมีจุดอ่อน แต่คุณต้องไม่ยอมให้จุดอ่อนนั้นมาทำให้ธุรกิจคุณต้องพังทลาย เช่น หากร้านอาหารของคุณโดนลูกค้าบ่นเป็นประจำเรื่องการเสิร์ฟอาหารช้า แทนที่เมื่อลูกค้าเร่งที พนักงานก็วิ่งไปในครัว ลัดคิวทำให้ก่อน คุณต้องย้อนกลับไปที่ต้นตอของปัญหาที่แท้จริงว่าเป็นเพราะอะไร พนักงานในครัวขาดแคลนหรือเปล่า เมนูที่ลูกค้าสั่งซับซ้อน มีขั้นตอนการทำมากไปหรือไม่ อาจจะสอบถามต้นเหตุของปัญหากับเชฟว่าเป็นเพราะอะไร แล้วหาทางแก้ร่วมกัน เพื่อลบจุดอ่อนของร้านออกไปให้หมด

หรือหากร้านอาหารของคุณโดนตำหนิ เรื่องพนักงานบริการไม่ดี หน้าตาบึ้งตึง แทนที่จะไล่บี้กับพนักงานว่าต้องบริการดีๆ หรือสั่งผู้จัดการให้ควบคุมพนักงานให้ได้ คุณลองเรียกพนักงานมาสอบถามถึงสาเหตุว่าเป็นเพราะอะไร ชี้แจงให้เห็นว่ามีคำตำหนิมากน้อยแค่ไหน และคุณเองต้องทำเป็นตัวอย่างด้วย แต่จริงๆ แล้วมีเทคนิคหนึ่งที่ร้านอาหารส่วนใหญ่มักทำ คือ จ้างพนักงานด้วยราคาค่าแรงที่สูงกว่าทั่วไปสักเล็กน้อย (ส่วนใหญ่) จะได้พนักงานที่มีคุณภาพมากกว่า

O หรือ Opportunities หมายถึง โอกาสในตลาด

ข้อนี้ต้องอาศัยการติดตามข่าวสารทางการตลาดให้มาก สังเกตดูว่าตอนนี้มีช่องทางใดที่ธุรกิจจะสามารถเติบโตได้บ้าง เช่น หากเทรนด์อาหารสุขภาพกำลังมาแรง พนักงานออฟฟิศหันมาใส่ใจดูแลร่างกายมากขึ้น และร้านอาหารของคุณจำหน่ายของอาหารสุขภาพอยู่พอดี แทนที่จะขายอาหารตามปกติเหมือนเดิม อาจจะเพิ่มบริการส่งตรงถึงออฟฟิศ โดยจัดเป็นคอร์ส กินคลีน 1 สัปดาห์ เป็นต้น และโปรโมทผ่านช่องทางต่างๆ ทั้งหน้าร้าน ตามอาคารสำนักงานใกล้เคียง หรือในโซเชียลมีเดีย จะช่วยให้ธุรกิจของคุณเติบโตได้อย่างแน่นอน

 T หรือ Threats หมายถึง อุปสรรคที่ท้าทายให้คุณต้องก้าวผ่าน

เช่นกัน เมื่อมีโอกาส ย่อมมีอุปสรรค อุปสรรคในที่นี่แตกต่างจากจุดอ่อนตรงที่ อุปสรรคเป็นปัจจัยภายนอก ที่เราไม่สามารถควบคุมได้ ขณะที่จุดอ่อน เราควบคุมได้

เมื่อมีอุปสรรคเกิดขึ้นแทนที่จะปล่อยไปตามกลไกตลาด คุณควรออกกลยุทธ์ใหม่ๆ เพื่อเปลี่ยนอุปสรรคให้เป็นความสำเร็จให้ได้ เช่น จากกระแสอาหารสุขภาพที่กำลังมาแรง ทุกคนเห็นโอกาสในการเติบโตทั้งหมด จึงหันมาร่วมเล่นในตลาดนี้ด้วย จากเดิมที่คุณเป็นร้านอาหารสุขภาพเพียงเจ้าเดียวในละแวกนั้น วันดีคืนดีกลับมีร้านอาหาร เพิ่มขึ้นมาอี 5 ร้าน ทำให้ยอดขายของคุณตกฮวบอย่างควบคุมไม่ได้

แทนที่จะปิดร้านหนี คุณต้องหากลยุทธ์ที่ทำให้ลูกค้าหันกลับมาใช้บริการร้านคุณเหมือนเดิมให้ได้ เช่น การเพิ่มโปรโมชั่นสำหรับสมาชิก เพิ่มบริการเมนูให้หลากหลาย แต่คงคุณภาพเช่นเดิม ปรับปรุงบริการให้ดียิ่งขึ้น รักษาฐานลูกค้าเก่าเอาไว้ และขายฐานลูกค้าใหม่ๆ ควบคู่กันไป

การ วิเคราะห์ SWOT ไม่ใช่เรื่องยาก หากเจ้าของร้านอาหารลองทำตาม จะช่วยให้ร้านอาหารของคุณอยู่รอดได้ท่ามกลางการแข่งขันที่รุ่นแรงแน่นอน

เรื่องแนะนำ

ทำร้านอาหาร

ทำร้านอาหาร มีแต่ passion ไม่มีระบบ ไม่รอดนะ!

เวลาได้คุยกับคนที่เริ่ม ทำร้านอาหาร หลายคนชอบบอกว่าเขาอยากทำร้าน เพราะชอบทำอาหาร เวลาทำให้ญาติหรือเพื่อนๆ กินมีแต่คนบอกว่าอร่อย และเชียร์ให้เปิดร้านเลย

จ้างเชฟ

4 สิ่งที่ควรเช็ค ก่อนตัดสินใจ จ้างเชฟ

ก่อนเปิดร้านสิ่งที่เราต้องคิดให้หนัก คือการ จ้างเชฟ เพราะตำแหน่งนี้คือ คนสำคัญที่จะสร้างมาตรฐาน ให้ร้านอาหาร มาดูกันดีกว่าว่า ก่อนจ้างเชฟเราต้องเช็คอะไรบ้าง

ลดต้นทุน เพิ่่มกำไร

ลด ต้นทุน อย่างมืออาชีพ เพิ่มกำไรให้ร้านอาหารสูงสุด

หัวใจของการลด ต้นทุน ในร้านอาหาร อยู่ที่การจัดการกับวัตถุดิบ ไม่ว่าจะเป็นการเลือกซื้อวัตถุดิบ ขั้นตอนการเตรียมและปรุงอาหาร แม้จะเป็นงานที่ต้องอาศัยความละเอียดรอบคอบ แต่เจ้าของร้านไม่ควรละเลย เพราะช่วยลดต้นทุน และเพิ่มกำไรให้กับร้านได้จริง โดยไม่ต้องขึ้นราคาอาหารให้ลูกค้าหนีไปไหน  ลด ต้นทุน อย่างมืออาชีพ เพิ่มกำไรให้ร้านอาหารสูงสุด หากร้านของคุณยังมีปัญหาต้นทุนอาหารสูง วัตถุดิบขาดสต๊อกจนไม่พอขาย หรือมากเกินไปจนใช้ไม่ทัน จัดเก็บวัตถุดิบไม่ดีจนบางส่วนเน่าเสีย หรือลืมใช้วัตถุดิบจนหมดอายุ ทั้งหมดนี้เป็นเงินทุนของเราที่เสียไปโดยเปล่าประโยชน์ทั้งนั้น ลองเอาวิธีการลดต้นทุนร้านอาหารเหล่านี้ไปปรับใช้ดูนะครับ ใส่ใจการจัดการวัตถุดิบอาหาร เรียงลำดับการใช้วัตถุดิบ ทำ Tracking number หรือจัดเรียงวัตถุดิบแบบ FIFO (First In First Out) ให้วัตถุดิบที่หมดอายุเร็วกว่าให้ถูกหยิบไปใช้ก่อน ป้องกันไม่ให้วัตถุดิบเสื่อมคุณภาพหรือหมดอายุ สร้างมาตรฐานการปฏิบัติงาน (SOP) เช่น สเต็กหนึ่งจาน จะใช้เนื้อปริมาณกี่กรัม เพื่อเตรียมแบ่งวัตถุดิบเนื้อเป็นไซส์เท่าที่ต้องการเท่า ๆ กันไว้ให้พร้อมใช้งาน ช่วยควบคุมต้นทุนอาหาร และมาตรฐานของอาหารแต่ละจานให้คงที่ ทำให้เจ้าของร้านวางแผนได้คร่าวๆ ว่าควรสต๊อกวัตถุดิบไว้เท่าไหร่ และคำนวณต้นทุนได้ง่ายขึ้น   ปรับปริมาณอาหารให้เหมาะสม อาหารในแต่ละเมนูควรจะเสิร์ฟในปริมาณที่เหมาะสม ซึ่งสังเกตจากปริมาณอาหารที่เหลือกลับมาในแต่ละเมนู ถ้าจานไหนมีอาหารเหลือบ่อยๆ อาจจะปรับปริมาณให้เหมาะกับการทานมากขึ้น หลักการปรุงแบบ […]

เทียบ ข้อดี – ข้อพิจารณา บริการน้ำเปล่า “ตั้งน้ำไว้บนโต๊ะให้ลูกค้าหยิบ” กับ “ให้ลูกค้าสั่งกับพนักงาน”

เทียบ ข้อดี – ข้อพิจารณา บริการน้ำเปล่า “ตั้งน้ำไว้บนโต๊ะให้ลูกค้าหยิบ” กับ “ให้ลูกค้าสั่งกับพนักงาน” บริการแบบไหนเหมาะกับร้านคุณ!? เวลาไปร้านอาหารคุณชอบบริการแบบไหนมากกว่ากัน!? ระหว่างร้านที่ “ตั้งน้ำไว้บนโต๊ะให้ลูกค้าหยิบ” กับ “ให้ลูกค้าสั่งกับพนักงาน” ในแง่ของผู้ประกอบการรูปแบบบริการ 2 อย่างข้างต้นต่างก็มีข้อดี ข้อด้อยแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับความเหมาะสมกับร้าน แต่แล้วจะรู้ได้ยังไงว่าแบบไหนเข้ากับร้านเราล่ะ ? ลองมาดูข้อดี ข้อด้อยของบริการน้ำดื่ม 2 รูปแบบนี้เพื่อช่วยในการตัดสินใจนำมาปรับใช้กับร้านคุณสิ! . หมายเหตุ: น้ำดื่มที่ยกมาพูดถึง คือ น้ำเปล่า ซึ่งในที่นี้จะขอเรียกสั้น ๆ ว่า “น้ำ” . <<ตั้งน้ำไว้บนโต๊ะให้ลูกค้าหยิบ>> ข้อดี 1.แน่นอนว่าวิธีนี้ทำให้ลูกค้าสามารถหยิบน้ำดื่มเติมเองได้ทันที ไม่ต้องรอเรียกพนักงานให้มารับออเดอร์หรือรอพนักงานเดินไปหยิบน้ำมาเสิร์ฟ เรียกได้ว่าเป็นวิธีที่ทันใจลูกค้า 2.เนื่องจากการมีน้ำมาตั้งอยู่ใกล้ ๆ ทำให้ลูกค้ามีแนวโน้มเปิดเครื่องดื่มเพิ่มมากกว่าการต้องสั่งให้พนักงานมาเสิร์ฟ เพราะลูกค้าสามารถตัดสินใจได้เดี๋ยวนั้น จะดื่มก็หยิบเพิ่มเลย ในทางกลับกันถ้าต้องใช้เวลาในการรอ ลูกค้าก็อาจจะเปลี่ยนใจแล้วเลือกที่จะกลับไปกินที่บ้านหรือที่อื่นแทน เพราะเพียงเสี้ยวนาทีก็มีผลต่อการตัดสินใจ 3.เมื่อมีน้ำไว้บริการบนโต๊ะอยู่แล้วทำให้ภาระงานของพนักงานลดลง ข้อนี้อาจเห็นได้ไม่ชัดในการเสิร์ฟรอบแรก เพราะถึงพนักงานไม่ได้มาเสิร์ฟน้ำ แต่ก็อาจมีการเสิร์ฟน้ำแข็ง และต้องเสิร์ฟอาหารอยู่แล้ว แต่เมื่ออาหารออกหมด ลูกค้ารับประทานมาได้สักพักน้ำก็อาจจะหมด ทีนี้เมื่อมีน้ำอยู่บนโต๊ะ […]

Follow Me

Contact

เว็บไซต์ : amarinacademy.com
บริษัท เอเอ็มอี อิมเมจิเนทีฟ จำกัด
ในเครือ บริษัท อมรินทร์ คอร์เปอเรชั่นส์ จำกัด (มหาชน)
Tel : 02-422-9999 ต่อ 4662 หรือ 4669, 092-254-0742
Email : amarin.academy@gmail.com

ติดต่อแจ้งปัญหาหรือร้องเรียน
02-422-9999 ต่อ 4180
(จันทร์ – ศุกร์ เวลา 09.00 – 18.00 น)
bdcx@amarin.co.th

สนใจลงโฆษณากับเว็บไซต์ Amarin Academy
Tel. 081-664-0666, 091-729-8060
E-mail : sineenart_ya@amarin.co.th

© COPYRIGHT 2025 AME IMAGINATIVE COMPANY LIMITED.