6 เทคนิค ตั้งชื่อร้านอาหาร ให้โดนใจ - Amarin Academy

6 เทคนิค ตั้งชื่อร้านอาหาร ให้โดนใจ

6 เทคนิค ตั้งชื่อร้านอาหาร ให้โดนใจ

การจะเริ่มต้นทำธุรกิจร้านอาหารถือเป็นงานที่ท้าทายและมีรายละเอียดปลีกย่อยค่อนข้างมาก ตั้งแต่การเลือกสถานที่ตั้ง การออกแบบตกแต่งร้าน การเลือกเมนูอาหาร ฯลฯ แต่สิ่งสำคัญที่สุดคงหนีไม่พ้นการ ตั้งชื่อร้านอาหาร เพราะถ้าชื่อร้านโดนใจ ก็เป็นปัจจัยที่ทำให้ร้านเราโด่งดังและเป็นที่รู้จักในชั่วข้ามคืน แต่หลายคนประสบปัญหาว่า คิดชื่อร้านเท่าไร ก็คิดไม่ออกสักที อย่างนั้นมาดูเทคนิคง่ายๆ ในการตั้งชื่อร้านให้โดนกันดีกว่า

ร้านอาหารย่านกลางเมือง
Central Cafe คือตัวอย่าง ร้านอาหารที่ตั้งชื่อเชื่อมโยงกับสถานที่ เนื่องจากตั้งอยู่กลางเมือง

1.ตั้งชื่อร้านให้เชื่อมโยงกับสถานที่

เคยได้ยินชื่อกล้วยแขกนางเลิ้ง ข้าวขาหมูตรอกซุง ข้าวมันไก่ประตูน้ำกันไหมครับ แต่ละร้านถือเป็นระดับตำนานทั้งนั้น นี่แหละ คือตัวอย่างที่ดีที่สุดในการตั้งชื่อร้านให้เชื่อมโยงกับสถานที่ แต่ถ้าบางคนคิดว่าการตั้งชื่อร้านแบบนี้อาจยังไม่โดนใจเท่าไรนัก อย่างนั้นต้องลองเปลี่ยนให้ดูเจ๋งขึ้น เช่น หากร้านคุณตั้งอยู่ในย่านที่เคยเป็นแหล่งปั้นหม้อโบราณ คุณลองตั้งชื่อร้านให้เชื่อมโยงกับสถานที่นั้นดู เช่น ร้านช่างปั้นหม้อ และออกแบบร้านให้มีบรรยากาศเหมือนห้องทำงานของช่างปั้นหม้อ เพียงเท่านี้ร้านของคุณก็จะเป็นที่จดจำได้ง่ายขึ้น เพราะคนท้องถิ่นก็รู้อยู่แล้วว่า บริเวณนี้เคยเป็นแหล่งปั้นหม้อมาก่อน รวมทั้งนักท่องเที่ยวก็อาจอยากมาสัมผัสบรรยากาศเก่าๆ ก็ได้

ร้านอาหาร The French Laundry รัฐแคลิฟอเนีย สหรัฐอเมริกา ถือเป็นอีกหนึ่งร้านที่ประสบความสำเร็จจากการตั้งชื่อร้านให้เชื่อมโยงกับสถานที่เช่นกัน โดยในศตวรรษที่ 19 อาคารหลังเก่า (ซึ่งเป็นที่ตั้งร้านในปัจจุบัน) เคยเป็นร้านซักรีดมาก่อน ร้านอาหารจึงใช้ประโยชน์จากความเก่าแก่นั้น ทำให้ร้านเป็นที่รู้จดจำในเวลาอันรวดเร็ว

2.ตั้งชื่อร้านให้สอดคล้องกับสไตล์อาหาร

เทคนิคนี้ต้องบอกว่าร้านอาหารจีนและญี่ปุ่นถือว่าประสบความสำเร็จมาก เพราะแค่ตั้งชื่อร้านเป็นภาษานั้นๆ ลูกค้าก็รู้ทันทีว่าร้านเสิร์ฟสัญชาตินั้นเป็นหลัก แต่หากร้านอาหารของคุณจำหน่ายอาหารหลากหลายสไตล์ ทั้งไทย จีน ยุโรป คุณต้องหลีกเลี่ยงการตั้งชื่อตามเทคนิคนี้ เพื่อป้องกันลูกค้าสับสน

3.ตั้งชื่อร้านตามชื่อเจ้าของ

ข้อนี้หลายคนคงคุ้นเคยดี เพราะมองไปทางไหนก็เห็นชื่อร้านตามชื่อเจ้าของเต็มไปหมด แต่หากคุณกลัวว่าจะซ้ำกับร้านอื่นๆ คุณลองพลิกแพลง เปลี่ยนจากการนำชื่อของคุณไปตั้งชื่อร้าน เป็นการหาคำที่มีความหมายเหมือนชื่อคุณมาตั้งแทนก็ได้ เพื่อให้ดูแปลกใหม่ขึ้น หรือหากคุณยายของคุณเป็นแรงบันดาลใจที่ทำให้คุณเปิดร้านอาหาร ลองนำชื่อท่านมาตั้งแทนก็ได้นะครับ แล้วลองแชร์เรื่องราวน่ารักๆ ระหว่างคุณกับคุณยายลงในโซเชียลมีเดีย เชื่อว่าต้องมีลูกค้าหลายคนสนใจแน่นอน

4.ใช้คำแปลกๆ ใหม่ๆ

การตั้งชื่อร้านไม่จำเป็นต้องมีความหมายเกี่ยวกับอาหารเสมอไป ลองคิดค้นคำใหม่ๆ แปลกๆ และแตกต่างจากผู้อื่น เพราะความแปลกใหม่นี้จะกลายเป็นที่จดจำในทันที เช่น ร้าน The Bag Lady ร้านอาหารแห่งแรกของ Paula Deen เชฟเซเลบริตี้ และพิธีกรรายการอาหารชื่อดังในสหรัฐอเมริกา ที่ตั้งชื่อร้านโดยไม่เกี่ยวข้องกับอาหารแม้แต่น้อย แต่ชื่อนี้มีที่มา เพราะเธอและลูกชาย รับจ้างทำอาหารกลางวันและนำใส่กระเป๋าไปส่งให้พนักงานบริษัทท้องถิ่น เธอจึงนำเรื่องราวนั้นมาตั้งเป็นชื่อร้าน หรืออีกตัวอย่างที่น่าสนใจไม่แพ้กันคือร้านอาหารของ เชฟชื่อดัง Wolfgang Puck ที่ตั้งชื่อร้านว่า Spago เป็นคำแสลงแปลว่า สปาเก็ตตี้ในภาษาอิตาเลียน ทำให้ร้านอาหารแห่งนี้ดูน่าสนใจมากขึ้น

paula-deen-cafe-the-bag-lady
The bag lady ตัวอย่างร้านอาหารที่ตั้งชื่อร้านอาหารโดยใช้คำแปลกๆ ใหม่ๆ

5.สำนวนดีมีชัยไปกว่าครึ่ง

ข้อนี้ใครที่ชอบเล่นคำ เก่งด้านการคิดคำคล้องจองคงยิ้มออก เพราะนี่เป็นเทคนิคง่ายๆ ที่ทำให้ร้านอาหารเป็นที่จดจำ แต่หากไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไร ลองหาคำที่เป็นที่รู้จักเป็นวงกว้างแล้วนำมาดัดแปลงดูก็ได้นะครับ เช่น Lord of The Wings หรือ Frying Nemo Fish and Chips ลองคิดเล่นๆ ดูนะครับ บางทีความคิดสนุกๆ นั้นอาจทำให้เกิดชื่อร้านเจ๋งๆ ก็ได้

6.หลีกเลี่ยงการใช้ชื่อซ้ำกับร้านอาหารเจ้าอื่น

จะเริ่มต้นทำร้านอาหารทั้งที เช็คดีๆ นะครับว่าชื่อร้านเราไม่ซ้ำกับเจ้าอื่น เพราะคุณจะกลายเป็นผู้ตามทันที ยิ่งตั้งชื่อซ้ำกับร้านอาหารเจ้าดังยิ่งเป็นปัญหาหนัก นอกจากลูกค้าจะจำเราไม่ได้แล้ว ยังเสี่ยงเรื่องการละเมิดลิขสิทธิ์อีกต่างหาก ฉะนั้นก่อนตั้งชื่อร้านอาหารตรวจสอบก่อนนะครับว่าชื่อร้านของเรามีเอกลักษณ์ จดจำง่ายและสะท้อนถึงตัวตนแบรนด์ได้ดี ที่สำคัญ ต้องไม่ซ้ำกับคนอื่นๆ ด้วย

6 ข้อนี้เป็นเพียงเทคนิคง่ายๆ แต่หากใครมีขั้นแอดวานซ์กว่านี้อย่าลืมนำมาแชร์ให้พวกเราฟังบ้างนะครับ

ขอบคุณ: https://www.thebalance.com

Have custom dissertation help you ever asked yourself, are we alone in the universe.

เรื่องแนะนำ

ถอดบทเรียนสุกี้ตี๋น้อย เหตุผลของปรากฎการณ์ 5 ทุ่มก็ยังคิวล้นร้าน

ถอดบทเรียน สุกี้ตี๋น้อย เหตุผลของปรากฎการณ์ 5 ทุ่มก็ยังคิวล้นร้าน ผู้บริโภคตั้งคำถาม หลังอยากกิน ตี๋น้อย แต่คิวยาวทุกร้าน พร้อมรวมเหตุผลจากผู้บริโภคหลายคนพูดเป็นเสียงเดียวกัน เป็นเหมือนกันไหม ? อยากกิน ตี๋น้อย แต่คิวยาวเกิ้น… ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งได้มาโพสต์ตั้งคำถามใน “กลุ่มคนรักบุฟเฟต์ (Buffet Lovers)” ถึงเรื่องการไปใช้บริการร้านสุกี้ตี๋น้อย ที่มักจะพบว่าทุกสาขามีลูกค้ารอคิวอยู่ยาวเหยียดตลอด พร้อมตั้งคำถามถึงการใช้กลยุทธ์การตลาดของร้านดังกล่าว ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายนี้โพสต์ว่า “การตลาดตี๋น้อยเขาดีหรืออะไรยังไง เมื่อคืน5ทุ่มกว่าๆ ไปกินคิดว่าไม่มีคิว พอไปถึงคิวยาวเหยียด วนรถไปอีกสาขาก็คิวยาวเหมือนกัน ยอดขายจะปังไปไหน” ซึ่งเมื่อเรื่องนี้ออกไปก็ได้มีสมาชิกกลุ่ม ผู้บริโภคต่างเข้ามาแสดงความคิดเห็นถึงเหตุผลที่ใครต่อใครมักจะไปใช้บริการร้านสุกี้ตี๋น้อย จนทำให้ทุกสาขามีคิวยาวอย่างที่เห็น โดยสามารถสรุปเป็นเหตุผลหลัก ๆ ดังนี้ ความคุ้มค่า เรื่องราคาเป็นเหตุผลอันดับแรก ๆ ที่หลายคนบอกว่าเป็นปัจจัยที่ทำให้พวกเขามาใช้บริการร้านสุกี้ตี๋น้อย เนื่องจากสุกี้ตี๋น้อย ถือว่าอยู่ในเรทราคาที่จับต้องได้ และสามารถทานได้หลายอย่าง โดยบางคนได้ยกตัวอย่างว่าถ้าเทียบกับร้านอื่นที่เรทราคาเท่ากัน บางร้านอาจจะไม่มีอาหารประเภทซีฟู้ดรวมอยู่ด้วย แต่สุกี้ตี๋น้อยมี และที่สำคัญคุณภาพของวัตถุดิบที่ใช้ ก็อยู่ในระดับที่เขาพึงพอใจ ประกอบกับบรรยากาศของร้านสุกี้ตี๋น้อยที่อยู่ในห้องแอร์ มีที่นั่งกว้างขวาง จึงทำให้เขารู้สึกคุ้มค่าในการมาใช้บริการ ช่วงเวลาในการเปิด ต่อมาคือช่วงเวลาในการเปิดปิดร้านที่เปิดตั้งแต่ 12.00-05.00 ด้วยช่วงเวลาเปิดที่ยาวนานถึงดึก ตรงนี้จึงเป็นจุดหนึ่งที่ตอบโจทย์ลูกค้าที่ไม่มีเวลามาใช้บริการในช่วงกลางวัน […]

5 กลยุทธ์ ออกโปรโมชั่น ให้ปัง

ปฏิเสธไม่ได้ว่าโปรโมชั่น เป็นหนึ่งในกลยุทธ์กระตุ้นยอดขายที่ดีวิธีหนึ่ง เราจึงมีเทคนิคดีๆ ในการ ออกโปรโมชั่น ที่ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ทำแล้วประสบความสำเร็จ

“อาหารเพื่อสุขภาพ” เทรนด์มาแรงสายคลีน โอกาสทองของคนอยากมีธุรกิจ

หนึ่งในปัจจัยภายในที่จะทำให้มีสุขภาพที่ดีได้นั้น คงหนีไม่พ้น “อาหาร” นาทีนี้เรื่องของ “อาหารเพื่อสุขภาพ” หรือ อาหารคลีนฟู้ด กำลังได้รับความนิยม อาจเรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเทรนด์มาแรงของคนยุคใหม่ ที่หันมาใส่ใจเรื่องสุขภาพมากยิ่งขึ้น ส่งเสริมให้ตลาดธุรกิจร้านอาหารเพื่อสุขภาพขยายตามไปด้วยเช่นกัน สำหรับคนที่สนใจอยากเปิดร้านอาหาร การลงทุนกับอาหารเพื่อสุขภาพเป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจและเริ่มต้นได้ไม่ยาก วันนี้เราจึงขอนำเสนอแนวทางที่จะช่วยให้ทุกคนตีโจทย์ลักษณะของธุรกิจร้านอาหารเพื่อสุขภาพมาเป็นแนวทางในการนำไปเริ่มธุรกิจกัน 1.จุดยืนของอาหารเพื่อสุขภาพ ธุรกิจอาหารเพื่อสุขภาพเป็นธุรกิจที่ต้องสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภคว่า อาหารของเราทำมาจากวัตถุดิบที่สดใหม่และได้คุณภาพ ปรุงรสและผ่านกรรมวิธีที่ไม่ได้ลดคุณค่าทางอาหารจนเกินไป หากสนใจลงทุนกับธุรกิจด้านนี้แล้ว เจ้าของธุรกิจอย่างเราก็ควรศึกษาหาความรู้เรื่องโภชนาการและคุณค่าทางอาหารต่างๆ ด้วยเช่นกัน เพราะเมื่อเอ่ยถึงอาหารเพื่อสุขภาพแล้ว ผู้บริโภคล้วนมองหาสิ่งดีๆ ที่จะช่วยให้พวกเขามีสุขภาพที่ดีมาจากภายใน  เรื่องของคุณภาพวัตถุดิบที่คัดสรรมาเป็นอย่างดี กรรมวิธีการปรุงอาหารที่ไม่มากเกินไปจนทำให้เสียคุณค่าทางอาหาร สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นสิ่งสำคัญที่กลุ่มคนรักสุขภาพมองเป็นหลัก ส่วนใหญ่มักจะมองหาอาหารที่ช่วยควบคุมแคลอรี่และน้ำหนัก แต่ขณะเดียวกันก็ต้องมีรสชาติที่ดี  มีเมนูให้เลือกอย่างหลากหลาย ไม่จำเจหรือน่าเบื่อจนเกินไป จะเป็นเมนูอาหารเช้า ขนมทานเล่น ของหวาน หรือเมนูหลักก็สามารถสร้างสรรค์ให้หลากหลายได้ หลักในการปรุงส่วนใหญ่นั้น  ร้านควรเน้นวัตถุดิบเพื่อสุขภาพ ไม่มีวัตถุดิบพวกหมักดอง หรือ ขัดขาว เช่นน้ำตาลทรายขาว ข้าวขาว อาหารควรไร้ไขมัน มีน้ำมันประกอบอาหารได้ในจำนวนน้อยและใช้น้ำมันพืชที่ดี เช่น น้ำมันมะกอก น้ำมันดอกทานตะวัน และปรุงรสให้กลมกล่อมแบบกลางๆมากกว่าการเน้นรสจัด ที่สำคัญควรต้องครบห้าหมู่ 2.กลุ่มผู้บริโภคอาหารเพื่อสุขภาพ แม้จะดูเหมือนว่าอาหารเพื่อสุขภาพเป็นธุรกิจที่เจาะตลาดเฉพาะกลุ่ม แต่แท้จริงแล้วกลุ่มผู้บริโภคอาหารเพื่อสุขภาพกระจายอยู่ในหลายอาชีพและช่วงอายุ ทั้งกลุ่มนักศึกษาที่อยู่หอพักหรือคอนโด ซึ่งไม่ได้มีพื้นที่ในการทำอาหารมากนัก, กลุ่มพนักงานออฟฟิศที่ไม่ได้มีเวลาดูแลตัวเองเท่าที่ควร หรือกลุ่มผู้สูงอายุซึ่งต้องเริ่มใส่ใจกับอาหารการกินมากขึ้น จะเห็นได้ว่ากลุ่มผู้บริโภคไม่ได้เฉพาะเจาะจงแค่กลุ่มคนรักสุขภาพที่เข้าฟิตเนส […]

ทำเลไม่ดี

เจ้าของร้านอ่านเลย! แชร์ 7 วิธี ทำเลไม่ดี ทำอย่างไรให้ขายดี

การจะเปิดร้านอาหาร ใครๆ ก็คงอยากจะได้ทำเลที่ดี หรือทำเลทองจริงไหมครับ เพราะหากเลือกทำเลในการเปิดร้านได้ดี ร้านของคุณก็มีโอกาสที่จะขายได้ หรือเป็นที่รู้จักของลูกค้ามากกว่า แต่ก็ใช่ว่าทุกร้านจะได้ทำเลดีที่ต้องการเสมอไป ด้วยปัจจัยหลายๆอย่าง ที่ทำให้ร้านของคุณต้องไปอยู่ในทำเลที่ไม่ดี แต่ก็ไม่ใช่ว่าอยู่ในทำเลไม่ดีแล้วคุณจะไม่มีทางออก มีเจ้าของร้านหลายรายที่ประสบความสำเร็จได้แม้จะอยู่ในทำเลที่ไม่ดี วันนี้เราเลยขอแชร์ 7 วิธี ทำเลไม่ดี ทำอย่างไรให้ขายดี มาดูกันครับ แชร์ 7 วิธี ทำเลไม่ดี ทำอย่างไรให้ขายดี วิธีที่ 1 ทำป้ายโฆษณาให้คนรู้จัก แม้วิธีนี้จะดูเป็นวิธีที่ค่อนข้างเก่า ดั้งเดิม แต่ก็ยังคงใช้ได้อยู่ เพราะหากร้านคุณอยู่ในทำเลที่ไม่ดี ไม่มีคนเดินผ่าน ก็ทำให้ไม่มีใครเห็นร้านคุณ อย่างน้อยก็ควรมีป้ายโฆษณาเพื่อบอกว่าพิกัดร้านคุณอยู่ที่ไหน อาจจะทำป้ายแนะนำร้านแล้วนำไปวางไว้ในจุดที่มีผู้คนสัญจรไปมา เพื่อให้ลูกค้ามีโอกาสที่จะเดินทางเข้ามาที่ร้านได้อย่างง่ายขึ้น และเริ่มรู้จักร้านของคุณ แต่การใช้วิธีนี้ เจ้าของร้านอาจจะต้องวางแผนในการทำป้ายโฆษณาด้วย ไม่ว่าจะเป็นใบปลิว แผ่นพับ หรือป้ายโฆษณา เพื่อช่วยควบคุมเรื่องต้นทุนค่าใช้จ่าย   วิธีที่ 2 กระตุ้นยอดขาย ด้วยโปรโมชั่น การจัดโปรโมชั่นในกรณีนี้ หวังผลให้ลูกค้าได้เห็นและได้รู้จักทำเลที่ตั้งของร้าน โดยอาจใช้ส่วนลดเป็นแรงจูงใจในการเข้ามาที่ร้าน แต่ทั้งนี้การจัดโปรโมชั่นกระตุ้นยอดขาย เพื่อดึงลูกค้าไม่ควรใช้บ่อยจนเกินไป เพราะจะเป็นการลดทอนคุณค่าร้านของคุณ และทำให้ลูกค้าสนใจร้านคุณแค่ช่วงมีโปรโมชั่นเท่านั้น แต่แนะนำให้ใช้วิธีนี้เป็นใบเบิกทางไปสู่วิธีการอื่น ๆ ให้คนได้รู้จักร้านของคุณมากขึ้น […]

Follow Me

Contact

เว็บไซต์ : amarinacademy.com
บริษัท เอเอ็มอี อิมเมจิเนทีฟ จำกัด
ในเครือ บริษัท อมรินทร์ คอร์เปอเรชั่นส์ จำกัด (มหาชน)
Tel : 02-422-9999 ต่อ 4662 หรือ 4669, 092-254-0742
Email : amarin.academy@gmail.com

ติดต่อแจ้งปัญหาหรือร้องเรียน
02-422-9999 ต่อ 4180
(จันทร์ – ศุกร์ เวลา 09.00 – 18.00 น)
bdcx@amarin.co.th

สนใจลงโฆษณากับเว็บไซต์ Amarin Academy
Tel. 081-664-0666, 091-729-8060
E-mail : sineenart_ya@amarin.co.th

© COPYRIGHT 2025 AME IMAGINATIVE COMPANY LIMITED.