ร้านอาหาร ประเภท ไหน เหมาะกับเรามากที่สุด - Amarin Academy

ร้านอาหาร ประเภท ไหน เหมาะกับเรามากที่สุด

ร้านอาหาร ประเภท ไหน เหมาะกับเรามากที่สุด

หนี่งในสิ่งที่คุณต้องตัดสินใจก่อนเปิดร้านอาหารคือการกำหนดประเภทร้านอาหารให้แน่ชัด ฟังเหมือนง่าย แต่เป็นเรื่องที่ต้องคิดหนัก เพราะร้านอาหารแต่ละประเภทก็มีลักษณะแตกต่างกัน อย่างนั้นลองมาดูลักษณะของร้านอาหารแต่ละประเภทกันดีกว่า จะได้รู้ว่า ร้านอาหาร ประเภท ไหนเหมาะกับเรามากที่สุด

1.Buffet

ร้านอาหารประเภทนี้เกิดขึ้นตั้งแต่ศตวรรษที่ 16 ในประเทศฝรั่งเศส และเป็นที่นิยมมากในปัจจุบัน ร้านอาหารประเภทบุฟเฟต์นั้น คงไม่ต้องอธิบายว่ามีลักษณะอย่างไร เพราะทุกคนคงคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี โดยเฉพาะเอกลักษณ์เฉพาะคือเสิร์ฟทุกอย่างไม่อั้น ในราคาตายตัว แม้จะได้รับราคาต่อหัวค่อนข้างสูง แต่กำไรกลับไม่ได้มากเหมือนร้านอาหารประเภทอื่นๆ อยู่ที่ประมาณ 10-15 เปอร์เซ็นต์ของรายรับทั้งหมดเท่านั้น

  1. Fast Casual

เกิดจากการผสมผสานระหว่าง Fast food กับ Casual dinning เป็นร้านอาหารที่กำลังมาแรงในตลาดต่างประเทศ คือเสิร์ฟอาหารจานด่วนที่มีคุณภาพสูงกว่า Fast food เช่น แทนที่จะเสิร์ฟเบอร์เกอร์แป้งขัดขาวธรรมดา ก็เสิร์ฟเบอร์เกอร์แป้งโฮลวีททำจากข้าวสาลีออร์แกนิค หรืออาหารที่เสิร์ฟจะผ่านกระบวนการปรุงแต่งน้อยกว่า เป็นต้น และบรรยากาศของร้านจะผ่อนคลายมากกว่า มีโต๊ะและเก้าอี้บริการมากกว่า แต่ไม่ได้มีบริการแบบเต็มรูปแบบ เหมือน Casual dinning

  1. Café & Bistro

ร้านอาหารประเภทนี้กำลังมาแรงสุดๆ โดยเฉพาะในประเทศไทย ที่มองไปทางไหนก็เจอแต่งคาเฟ่เต็มไปหมด และรูปแบบก็เปลี่ยนแปลงไปตามการตีความของแต่ละบุคคล แต่คาเฟ่ในแบบฉบับต่างประเทศ คือร้านอาหารที่เสิร์ฟเมนูเบาๆ ของกินเล่น ไม่มีพนักงานมาบริการที่โต๊ะ ลูกค้าต้องสั่งอาหารจากเคาท์เตอร์ เดินไปรับมาที่โต๊ะเอง (บางร้านให้เก็บเองด้วย) ส่วน Bistro ก็เช่นเดียวกัน เพียงแต่มีเสิร์ฟอาหารมื้อหนักด้วย การบริการลักษณะนี้จะช่วยประหยัดงบประมาณด้านการจ้างพนักงาน รวมทั้งลดปัญหาเรื่องคนลงไปส่วนหนึ่ง

4.Casual

เป็นร้านอาหารที่ให้บริการอาหารระดับราคาปานกลาง ในบรรยากาศสบายๆ เป็นกันเอง ส่วนใหญ่เป็นที่นิยมสำหรับกลุ่มเพื่อนและกลุ่มครอบครัว

5.Fine Dinning

หมายถึงร้านอาหารมีบริการแบบเต็มรูปแบบ มีโต๊ะอาหารเต็มที่ ตกแต่งร้านอย่างสวยงาม มีกฎระเบียบในการให้บริการและการใช้บริการ ราคาอาหารสูงเมื่อทเยบกับร้านอาหารประเภทอื่นๆ เนื่องจากมีค่าบริหารจัดการส่วนต่างๆ ค่อนข้างมาก ส่วนใหญ่ลูกค้ามักไปร้านอาหารจำพวกนี้เนื่องในโอกาสพิเศษต่างๆ และคาดหวังว่าจะต้องได้รับบริการที่ดีกลับไป

  1. Franchise

ร้านอาหารประเภทนี้เราคงคุ้นเคยกันดี เพราะไปห้างไหนก็ต้องเจอ เฟรนไชส์มีข้อดีต่อผู้ลงทุนคือ ไม่ต้องเสียเวลาสร้างแบรนด์เอง อาหารทุกอย่างได้มาตรฐาน มีการบริหารจัดการอย่างเป็นระบบ ไม่ว่าเปิดที่ไหนก็มีลูกค้า เพราะเป็นที่รู้จักอยู่แล้ว แต่ข้อด้อยคือ ส่วนใหญ่มักมีกฎข้อบังคับที่เข้มงวด

  1. Food Truck

ทุกวันนี้เราจะเห็นร้านอาหารประเภทนี้บ่ยขึ้น คือการทำรถบรรทุกขนาดเล็กให้เป็นร้านอาหารที่ทำครบ จบทุกอย่างนรถคันเดียว การลงทุนค่อนข้างต่ำ ไม่ต้องเสียเวลาเลือกพื้นที่ หากขายแล้วทำเลไม่ดีก็สามารถเปลี่ยนที่ไปได้เรื่อยๆ ไม่ต้องอาศัยพนักงาน แต่ข้อเสียก็มีเช่นกัน เพราะสร้างลูกค้าประจำได้ยาก และเจ้าของต้องทำเองแทบทุกอย่าง ขยับขยายกิจการได้ยาก

8.Catering

ร้านอาหารประเภทรับจัดอาหารนอกสถานที่ มีทั้งแบบที่เปิดเป็น catering โดยเฉพาะ จำพวกโต๊ะจีน จัดตามงานแต่งงาน งานสัมมนา เป็นต้น หรือมีหน้าร้านปกติ แต่ทำ catering เป็นรายได้เสริม การทำ catering ก็มีหลากหลายประเภทอีกเช่นกัน ทั้งแบบทำอาหารไปส่งเพียงอย่างเดียว กับแบบ full service มีเครื่องดื่ม โต๊ะ เก้าอี้ และพนักงานไปบริการ

ร้านอาหารทั้ง 8 ประเภทที่ยกมา เป็นเพียงส่วนหนึ่งของประเภทร้านอาหารทั้งหมดเท่านั้น หากใครสนใจลงทุนในธุรกิจอาหาร ต้องศึกษารายละเอียดเกี่ยวกับการบริหารจัดการให้รอบคอบ ว่าแบบไหนเหมาะกับตัวเรามากที่สุด จะได้ทำงานได้อย่างมีความสุข

เรื่องแนะนำ

พนักงานเปลี่ยนงานบ่อย

เคล็ด (ไม่) ลับ ขจัดปัญหา พนักงานเปลี่ยนงานบ่อย

ปัญหาส่วนใหญ่ที่ร้านอาหารมักเจอคือ อัตราการลาออกของพนักงานสูงมาก ส่งผลให้การทำงานสะดุด วันนี้เราจึงรวบรวมเทคนิคดีๆ ขจัดปัญหา พนักงานเปลี่ยนงานบ่อย มาฝาก

เปิดร้านอาหารวันแรก

เปิดร้านอาหารวันแรก ต้องเจอปัญหาอะไรบ้าง

เปิดร้านอาหารวันแรก หลายคนคงตื่นเต้นและดีใจที่ความฝันของตัวเองสำเร็จสักที แต่อย่าเพิ่งดีใจจนเกินไป เพราะบางครั้งวันแรกก็ไม่ได้ราบรื่นอย่างที่คิด

ทำธุรกิจให้สำเร็จ

ทำธุรกิจให้สำเร็จ มาจากการติดกระดุมเม็ดแรกถูก!

ถ้าคุณเลือกทำเลผิดหรือลงทุนมากไป จะย้อนกลับไปแก้ไขไม่ได้เลย เหมือนการติดกระดุมเม็ดแรกผิด เม็ดต่อไปก็ผิดหมด ผมจะมาบอกเคล็ดลับ ทำธุรกิจให้สำเร็จ ให้ทราบกัน

6 ปัญหาที่ต้องระวัง  ในการนำ ร้านอาหารเข้าระบบเดลิเวอรี

6 ปัญหาที่ต้องระวัง เมื่อนำ ร้านอาหารเข้าระบบเดลิเวอรี

        การจะนำ ร้านอาหารเข้าระบบเดลิเวอรี เป็นทางเลือกกึ่งบังคับของผู้ประกอบการหลายๆท่าน ในช่วงที่มีการ Shutdown กรุงเทพฯ รวมถึงอีกหลายจังหวัดจากการแพร่ระบาดของ COVID-19 การปรับตัวเข้าสู่ระบบเดลิเวอรี จึงเป็นการเพิ่มโอกาสทำยอดขายทางออนไลน์ เพื่อชดเชยกับยอดขายหน้าร้านที่ลดลง รวมถึงเป็นการเพิ่มช่องทางในการขายใหม่ๆให้กับลูกค้า แต่ระบบนี้ก็ไม่ได้มีแต่ข้อดีเสมอไป ลองมาดูปัญหาที่ผู้ประกอบการควรระวังเพื่อไม่ให้ร้านขาดทุน!! หากต้องนำร้านอาหารเข้าร่วมให้บริการเดลิเวอรี 6 ปัญหาที่ต้องระวัง  เมื่อนำ ร้านอาหารเข้าระบบเดลิเวอรี 1. ไม่สามารถรักษาคุณภาพและรสชาติของอาหารได้         การส่งอาหารผ่านระบบเดลิเวอรี จะต้องมีการควบคุมมาตรฐานของอาหาร โดยกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ระบุว่าอาหารจะต้องปรุงสุกใหม่ เนื้อสัตว์ควรผ่านกระบวนการทำอาหารที่อุณหภูมิมากกว่า 70 องศาเซลเซียส และหลีกเลี่ยงการจำหน่ายอาหารประเภทเนื้อสัตว์ที่ปรุงไม่สุกเพื่อป้องกันการปนเปื้อนในอาหาร         นอกจากนี้ ผู้ประกอบการอาจจะต้องเจอกับปัญหารสชาติและคุณภาพของอาหารที่ด้อยลง ซึ่งมีสาเหตุได้จากหลายปัจจัย เช่น เกิดจากระยะเวลาในการจัดส่งที่ล่าช้า หรือการเลือกใช้บรรจุภัณฑ์ที่ไม่เหมาะสมกับชนิดของอาหาร เช่น อาหารทอด เมื่อนำบรรจุลงกล่องที่ปิดมิดชิด จะทำให้เกิดไอน้ำควบแน่นอยู่ที่ฝากล่อง และเกิดความชื้นทำให้อาหารนั้นไม่กรอบ รสชาติและสัมผัสของอาหารจึงไม่เหมือนเดิม ทางร้านควรมีแนวทางการแก้ไข โดยอาจจะเลือกใช้กล่องที่มีรูระบายความร้อน […]

Follow Me

Contact

เว็บไซต์ : amarinacademy.com
บริษัท เอเอ็มอี อิมเมจิเนทีฟ จำกัด
ในเครือ บริษัท อมรินทร์ คอร์เปอเรชั่นส์ จำกัด (มหาชน)
Tel : 02-422-9999 ต่อ 4662 หรือ 4669, 092-254-0742
Email : amarin.academy@gmail.com

ติดต่อแจ้งปัญหาหรือร้องเรียน
02-422-9999 ต่อ 4180
(จันทร์ – ศุกร์ เวลา 09.00 – 18.00 น)
bdcx@amarin.co.th

สนใจลงโฆษณากับเว็บไซต์ Amarin Academy
Tel. 081-664-0666, 091-729-8060
E-mail : sineenart_ya@amarin.co.th

© COPYRIGHT 2025 AME IMAGINATIVE COMPANY LIMITED.