กำหนดสัดส่วนวัตถุดิบ ปัจจัยความสำเร็จที่ไม่ควรมองข้าม! - Amarin Academy

กำหนดสัดส่วนวัตถุดิบ ปัจจัยความสำเร็จที่ไม่ควรมองข้าม!

กำหนดสัดส่วนวัตถุดิบ ปัจจัยความสำเร็จที่ไม่ควรมองข้าม!

เคยสังเกตไหมว่า เพราะอะไร ร้านอาหารหลายๆ ร้านจึงประสบความสำเร็จ สามารถขยายสาขาได้มากมายนับร้อย นับพันสาขา ขณะที่ร้านอาหารบางร้าน เปิดแค่สาขาเดียว กลับเสมอตัวหรือขาดทุนแทบทุกเดือน ทั้งนี้หนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ทำให้ร้านอาหารบางร้านประสบความสำเร็จ คือการ กำหนดสัดส่วนวัตถุดิบ ในแต่ละเมนูให้ชัดเจน

การกำหนดสัดส่วนวัตถุดิบคืออะไร?

หากคุณเป็นลูกค้า เมื่อเข้าไปรับประทานอาหารในร้าน ย่อมสังเกตว่าร้านอาหารเสิร์ฟอาหาร ปริมาณมากน้อยแค่ไหน เพื่อประเมินว่า คุ้มค่ากับเงินที่จ่ายหรือไม่ กลับกัน หากคุณเป็นเจ้าของกิจการ ก็ต้องสังเกตว่าอาหารแต่ละจานที่ส่งออกมาจากห้องครัว มีปริมาณเท่ากันหรือไม่ เพื่อคงมาตรฐานให้ร้านอาหาร และควบคุมค่าวัตถุดิบให้คงที่

การกำหนดสัดส่วนวัตถุดิบคือ การกำหนดปริมาณวัตถุดิบทุกชนิด ที่ใช้ปรุงอาหาร 1 จาน ให้ทุกจาน มีปริมาณเท่ากัน เช่น ข้าวเหนียวเมนูหมูทอด เจ้าของร้านต้องกำหนดว่าต้อง ใช้เนื้อหมู ข้าวเหนียว กระเทียม ซีอิ๊ว ซอสปรุงรส พริกไทย น้ำมัน ปริมาณเท่าไร เพื่อจะได้ทราบต้นทุนวัตถุดิบที่แท้จริง เพื่อให้ตั้งราคาได้อย่างเหมาะสม และให้ทุกๆ จานควรจะเสิร์ฟในปริมาณเท่ากัน เพื่อสร้างมาตรฐานให้ร้าน

การกำหนดสัดส่วนวัตถุดิบสำคัญจริงหรือ?

ร้านอาหารจำนวนมาก มักใช้วิธีประมาณวัตถุดิบด้วยสายตา หรืออาศัยประสบการณ์ แม้วิธีนี้จะเป็นที่นิยม และสะดวกในการปรุง แต่ไม่ใช่วิธีที่แนะนำ เพราะจะทำให้คุณจะไม่สามารถคาดการณ์ต้นทุนวัตถุดิบได้ บางคนอาจคิดว่าเป็นเรื่องเล็กน้อย ใส่เกินไปหน่อย ให้น้อยไปนิด คงไม่ทำให้ขาดทุน แต่จริงๆ แล้ว หากลองคำนวณดู จะเห็นว่าเป็นเงินจำนวนมากเลยทีเดียว แล้วคุณจะยอมให้เงินที่หามาอย่างยากลำบาก รั่วไหลไปกับขั้นตอนที่เราสามารถควบคุมได้อย่างนั้นหรือ  หนำซ้ำยังทำให้ลูกค้ารู้สึกไม่ดีอีกด้วย สมมติว่าคุณไปรับประทานอาหารกับเพื่อน สั่งเมนูเดียวกัน แต่ได้รับอาหารในปริมาณไม่เท่ากัน ใครๆ ก็รู้สึกว่าไม่ยุติธรรมจริงไหม

แล้วจะทำอย่างไรดีล่ะ?

เริ่มแรกคุณอาจจะต้องทำการบ้านหนักหน่อย โดยการกำหนดสัดส่วนวัตถุดิบของทุกเมนู ย้ำว่าควรจะทำทุกเมนู จากนั้นจึงทำความเข้าใจกับพนักงานในครัวทุกคน ให้เห็นถึงความสำคัญของการทำสิ่งนี้ และเทรนด์ให้พนักงานทุกคนเสิร์ฟอาหารตามปริมาณที่กำหนด อาจจะใช้การกำหนดเป็นตัวเลข ควบคู่กับภาพถ่ายจานต้นแบบ (ใช้ในการจัดตกแต่งจานให้คล้ายคลึงกันมากที่สุด) และระหว่างการทำงานคุณควรหมั่นตรวจสอบคุณภาพ โดยการสุ่มหยิบอาหารมา 1 จาน ที่เชฟทำมาเสิร์ฟจริงๆ แล้วนำมาชั่ง ตวงวัด ดูสิว่า เป็นไปตามมาตรฐานหรือไม่

การกำหนดสัดส่วนวัตถุดิบ เป็นงานที่ค่อนข้างหนัก ต้องใช้อาศัยเวลา และความละเอียดรอบคอบ หลายคนจึงถอดใจไปเสียก่อน แต่เชื่อเถอะว่า มันมีประโยชน์ต่อร้านอาหารของคุณจริงๆ คุ้มค่าเหนื่อยแน่นอน

ขอบคุณข้อมูล www.thebalance.com

เรื่องแนะนำ

เจาะกลุ่มลูกค้า

เจาะกลุ่มลูกค้า ร้านอาหาร บริการให้ตรงใจ ❤︎

ในยุคที่ธุรกิจร้านอาหารมีการแข่งขันสูง ทางร้านย่อมจะต้องหาวิธีดึงดูดและจูงใจลูกค้าให้เข้ามาใช้บริการ แต่ผู้บริโภคแต่ละกลุ่มมีความต้องการที่แตกต่างกันออกไป ดังนั้น การทำความเข้าใจลูกค้าแต่ละกลุ่มจึงเป็นเรื่องสำคัญ ที่จะช่วยให้พนักงานบริการลูกค้าที่ต่างกันอย่างเหมาะสม ทำให้ได้รับประสบการณ์ที่ดีจากร้าน ในบทความนี้เราจึง เจาะกลุ่มลูกค้า แต่ละแบบในร้านอาหาร เพื่อแนะนำแนวทางในการบริการให้เหมาะสม และเพิ่มโอกาสในการขายของร้านอาหารครับ เจาะกลุ่มลูกค้า ในร้านอาหาร บริการให้ตรงใจ 1. ลูกค้าที่มาเป็นคู่ ลูกค้าที่มากันสองคนหรือเป็นคู่รัก มักจะต้องการใช้เวลาด้วยกันมากกว่าต้องการให้พนักงานบริการเพิ่มเติม ดังนั้น พนักงานควรจะเลือกที่นั่งที่ให้ความรู้สึกค่อนข้างส่วนตัว เช่น โต๊ะที่อยู่ด้านในของร้าน หรือโต๊ะที่ห่างออกไปจากกลุ่มลูกค้าที่มาด้วยกัน เพื่อลดเสียงรบกวน หลังจากลูกค้าสั่งอาหารแล้วก็คอยสังเกตห่างๆ ว่าลูกค้าต้องการบริการใดเพิ่มเติมแล้วค่อยเข้าไปบริการ โดยเมื่อลูกค้ารับประทานอาหารหลักใกล้เสร็จ อาจจะขออนุญาตเข้าไปเก็บจานที่ไม่ใช้แล้ว พร้อมกับแนะนำเมนูของหวานเพิ่มเติม เพื่อเพิ่มยอดขายให้กับร้านอาหารได้ 2. กลุ่มคนทำงาน พนักงานออฟฟิศ สำหรับร้านที่อยู่บริเวณที่ทำงานในเมือง พนักงานออฟฟิศคงเป็นกลุ่มลูกค้าหลักในร้าน  ส่วนใหญ่จะมาในเวลาพักกลางวัน หรือหลังเลิกงานในตอนเย็น จากเวลาพักที่ใกล้เคียงกันของพนักงานออฟฟิศ ทำให้ร้านอาหารต้องบริหารจัดการโต๊ะให้ดีเพื่อเพิ่มจำนวนลูกค้าต่อวันให้มากขึ้น และหาวิธีทำงานที่รวดเร็วขึ้น เช่น อาจจะปรุงวัตถุดิบบางส่วนล่วงหน้าไว้ เพื่อลดระยะเวลาการทำอาหาร หรือมีกระดาษให้เลือกเมนูอยู่ที่โต๊ะเพื่อลดภาระของพนักงาน ลูกค้ากลุ่มนี้มักจะมาเป็นกลุ่มย่อยๆ ประมาณ 3-4 คน โดยสั่งอาหารจานหลักคนละจาน และอาจจะสั่งเมนูอื่นๆ มาแชร์กัน พนักงานอาจจะแนะนำเมนูทานเล่นอื่นๆ ที่มีขายภายในร้านนอกเหนือจากอาหารจานหลัก เพื่อกระตุ้นให้ลูกค้าอยากสั่ง […]

ต่อเติมพื้นที่อาศัยเป็นคาเฟ่ ต้องรู้เรื่องกฎหมายอะไรบ้าง ?

ต่อเติมพื้นที่อาศัยเป็นคาเฟ่ ต้องรู้เรื่องกฎหมายอะไรบ้าง ? ปรับปรุงอาคาร ที่จอดรถ เพื่อพาณิชย์ กฎหมายเบื้องต้นสำหรับคนทำคาเฟ่ ธุรกิจคาเฟ่ยังคงเป็นรูปแบบธุรกิจที่ผู้ประกอบการหลายต่อหลายคนให้ความสนใจที่จะก้าวเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของตลาด ด้วยความนิยมนี้จึงทำให้เราสามารถพบเห็นการเปิดร้านคาเฟ่ใหม่ได้เรื่อย ๆ ซึ่งก็มีทั้งร้านขนาดใหญ่ กลาง เล็กคละกันไป แม้ว่าธุรกิจรูปแบบนี้จะเปิดได้ไม่ยาก แต่ก็ต้องอย่าลืมว่าในการทำธุรกิจก็ยังต้องให้การคำนึงถึงข้อกฎหมายต่าง ๆ โดยเฉพาะในการเริ่มต้นเปิดร้าน ที่จะมีกฎหมายเกี่ยวกับการดัดแปลง ออกแบบอาคารเข้ามาเกี่ยวข้อง ทั้งนี้ก็เพื่อให้พื้นที่นั้น ๆ มีความเหมาะสมต่อการใช้งาน มีความปลอดภัย รวมถึงมีเสถียรภาพในเชิงภาษีและการทำบัญชีในอนาคต แม้ว่าร้านกาแฟขนาดเล็กอาจไม่ถูกบังคับใช้กฎหมายบางข้อ แต่การรู้กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจที่ทำ ก็จะช่วยเปิดมุมมอง หรือทำให้เราสามารถนำไปปรับใช้กับธุรกิจได้ในอนาคต เมื่อถึงคราวที่ต้องการขยับขยาย ว่าแต่เราควรรู้กฎหมายอะไรบ้าง ? มาดูกัน   กฎหมายควบคุมอาคารเบื้องต้น ก่อนอื่นเราต้องเข้าใจนิยามทางกฎหมายอาคารของ “ร้านกาแฟหรือคาเฟ่” ว่าร้านรูปแบบนี้เข้าข่ายทั้งการเป็น “อาคารพาณิชย์” และ “ภัตตาคาร” จึงต้องทำการพิจารณากฎหมายของทั้งสองส่วนไปพร้อม ๆ กัน โดย ทางกฎหมายได้มีการนิยามว่า – อาคารพาณิชย์ คือ อาคารใด ๆ ที่ใช้เพื่อประโยชน์ในการพาณิชยกรรมได้ และเป็นอาคารที่ก่อสร้างห่างจากถนนไม่เกิน 20 เมตร – […]

ทำอาหารไม่เป็น

ทำอาหารไม่เป็น เปิดร้านอาหารได้ไหม ?

จากการที่เราสังเกตและวิเคราะห์พบว่า ผู้ประกอบการเหล่านี้มีคุณสมบัติเหมือนกันบางอย่าง ที่ทำให้เขาเปิดร้านอาหารได้ ทั้งๆ ที่ ทำอาหารไม่เป็น เราจะมาสรุปให้ฟัง

เจ๊จง หมูทอด

ถอดบทเรียน เจ๊จง หมูทอด ร้อยล้าน !

เจ๊จง หมูทอด เป็นร้านอาหารไม่กี่แห่งที่ขายดีมากอย่างสม่ำเสมอ เมื่อมีโอกาสคุยกับเจ๊จง เลยอดไม่ได้ที่จะชวนคุยถึงข้อคิดที่ทำให้ประสบความสำเร็จอย่างทุกวันนี้

Follow Me

Contact

เว็บไซต์ : amarinacademy.com
บริษัท เอเอ็มอี อิมเมจิเนทีฟ จำกัด
ในเครือ บริษัท อมรินทร์ คอร์เปอเรชั่นส์ จำกัด (มหาชน)
Tel : 02-422-9999 ต่อ 4662 หรือ 4669, 092-254-0742
Email : amarin.academy@gmail.com

ติดต่อแจ้งปัญหาหรือร้องเรียน
02-422-9999 ต่อ 4180
(จันทร์ – ศุกร์ เวลา 09.00 – 18.00 น)
bdcx@amarin.co.th

สนใจลงโฆษณากับเว็บไซต์ Amarin Academy
Tel. 081-664-0666, 091-729-8060
E-mail : sineenart_ya@amarin.co.th

© COPYRIGHT 2025 AME IMAGINATIVE COMPANY LIMITED.