ลูกค้าหายไปไหนกัน ? เจ้าของร้านตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับพฤติกรรมลูกที่เปลี่ยนไป

ลูกค้าหายไปไหนกัน ? เจ้าของร้านตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับพฤติกรรมลูกที่เปลี่ยนไป

ลูกค้าหายไปไหนกัน ?
รวมความคิดเห็นจากคนทำร้านกาแฟ
เจ้าของร้านตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับพฤติกรรมลูกที่เปลี่ยนไป

ร้านคุณกำลังเผชิญกับภาวะยอดขายตก ลูกค้าหายอยู่หรือเปล่า ? เจ้าของร้านกาแฟรายหนึ่งได้มาโพสต์ตั้งคำถามในกลุ่ม “คนบ้ากาแฟ” เกี่ยวกับการทำธุรกิจของตนเองในขณะนี้ได้อย่างน่าสนใจว่า เดี๋ยวนี้ลูกค้าหายไปไหนหมด โดยโพสต์ดังกล่าวได้ระบุข้อความว่า

#ลูกค้าหายไปไหน
มาชวนเพื่อนๆ ช่วยกันคิดหน่อย คิดว่าตอนนี้หลายร้านคงเจอกับภาวะ “นั่งตบยุง” “นั่งไถมือถือ” “นั่งดู Netflix”
เราเป็นคนนึงที่เคยไม่กินกาแฟ แต่พอเปิดร้านกาแฟกลายมาเป็นคอกาแฟ ขาดกาแฟไม่ได้สักวัน
เปิดร้านกาแฟมาเข้าปีที่ 7 เราเริ่มสงสัยว่า “ลูกค้าหายไปไหน” ทั้ง ๆ ที่ในซอยที่ร้านเราอยู่ ไม่มีร้านกาแฟจริงจังที่เป็นคู่แข่ง อาจจะมีร้านชากาแฟที่เป็นคีออสบ้าง แต่ถ้าร้านกาแฟจริงจังมีเราร้านเดียว

พอลูกค้าหายไป เราเลยเริ่มสงสัยว่าลูกค้าหายไปไหน
หรือเกิดจากกระแส

1. กาแฟดริป/Moka pot ทานเองที่บ้าน
2. เครื่องทำกาแฟแคปซูล
3. กาแฟในร้านสะดวกซื้อ
4. ลูกค้าเลิกกินกาแฟ
5. ลูกค้าไปทานร้านอื่น

เพื่อนๆ ช่วยเราคิดหน่อยว่าลูกค้าหายไปไหน?”
.
หลังจากที่โพสต์นี้ออกไปก็ได้มีทั้งเจ้าของร้านกาแฟ และผู้บริโภคต่างเข้ามาแสดงความคิดเห็นกัน โดยสรุปเป็นหลายปัจจัยดังนี้


🔸ชงกินเองที่บ้าน☕️
.
ผู้บริโภคส่วนใหญ่ได้บอกว่า เดี๋ยวนี้ได้มีการปรับเปลี่ยนไลฟ์สไตล์ เนื่องจากการใช้ชีวิตเปลี่ยนไป ทำงานอยู่บ้านมากขึ้น จึงเลือกที่จะซื้ออุปกรณ์ชงกาแฟ ทั้งกาแฟดริป/Moka pot หรือ เครื่องทำกาแฟแคปซูล มาชงกินเองที่บ้าน ตัวอย่างความคิดเห็น เช่น

👤💬”ส่วนตัวตอนนี้ซื้อแบบ capsules มาทำกินเองที่บ้านค่ะ คำนวนราคาต่อแก้วถูกกว่า ไม่เสี่ยงออกบ้านไปรับโควิดด้วย ตั้งแต่โควิดมาบอกเลยว่าสไตล์การใช้ชีวิตเปลี่ยนไปมาก”

👤💬“อุปกรณ์ทำกาแฟเข้าถึงได้มากขึ้น ผมมองว่าเครื่องทำกาแฟถูกมาก อุปกรณ์หลักพัน ก็ได้กาแฟรสชาติดีมากินแล้ว เช่น stareso 1,750 เครื่องบด 1,500 กาน้ำร้อน 500 ก็เข้าถึงกาแฟได้แล้ว”

👤💬“ส่วนตัวเพราะเครื่องทำกาแฟแคปซูลค่ะ มันง่ายและประหยัดด้วย เว้นแต่อยากกินเมนูพิเศษ ๆ แบบ Yuzu งี้ ค่อยพุ่งตัวไปร้านกาแฟ”


🔸ลดการใช้จ่าย💸
.
ต่อมาเป็นเพราะปัจจัยด้านเศรษฐกิจ ด้วยผู้บริโภคมีต้นทุนในการใช้ชีวิตที่สูงขึ้น ทั้งค่าอุปโภค บริโภคที่ปรับขึ้น ในขณะที่ค่าแรงยังเท่าเดิม ทำให้หลายคนเลือกที่จะลดค่าใช้จ่ายและประหยัดมากขึ้น ตัวอย่างความคิดเห็น เช่น

👤💬“ค่าแรง 300 กินข้าวสามมื้อก็เกือบหมดแล้ว กินกาแฟสดทุกวันไม่ไหว”

👤💬“เพราะเงินค่ะ เมื่อก่อนตัวเราก็สั่งกินซื้อกินวันเป็นพัน ทุกวันนี้เศรษฐกิจแบบนี้ตั้งงบในการใช้เงินพิถีพิถัน”

👤💬“สถานการ์ณแบบนี้กำลังซื้อน้อยลง อาหารปัจจัยหลักยังราคาแพงขึ้นเลย สมมติมีตังซื้อข้าวอยู่ 200 3 มื้อเคย 150 แต่ทุกวันนี้+ไปเยอะก็แทบไม่เหลือกินกาแฟก็มี อาจจะไปกินร้านพวกกาแฟโบราณแทน”

👤💬“ส่วนตัวคิดว่าบางคนเขาประหยัด กาแฟซองเดียวใส่น้ำร้อนก็กินได้ในยุคนี้ บวกกับร้านน้ำโคตรเยอะไปตรงไหนก็เจอ อีกร้านขาย 20 อีกร้านขาย 25 ถ้า 20 บาท รสชาติพอกินได้เขาก็คงเลือกที่ถูกกว่า ความคิดเรานะ แต่เราขายเย็น 25 ปั่น 30 ลดกว่านี้ไม่ได้แล้วจริงๆ”
.
🔸ร้านกาแฟเยอะ😱
.
อีกปัจจัยหนึ่งก็คือผู้บริโภคมีทางเลือกในการซื้อกาแฟเยอะ เพราะเดี๋ยวนี้ ๆ ใคร ๆ ก็หันมาทำร้านกาแฟกัน ไปไหนก็เจอแต่ร้านกาแฟ ตรงนี้จึงทำให้เกิดส่วนแบ่งทางการตลาดที่มากขึ้น โดยผู้บริโภคได้แสดงความคิดเห็นถึงเรื่องนี้ว่า

👤💬“คนเปิดร้านกาแฟใหม่ เกิดขึ้นทุกวันครับ คนทำกาแฟทานเองก็เพิ่มขึ้น เห็นทุกวัน หลายคนบ่นทำไมเงียบจัง ร้านเยอะมาก ถึงมากที่สุดตอนนี้”

👤💬“ร้านกาแฟเปิดเยอะขึ้น ทางเลือกในการลองไปชิม หรือเลือกมาชงเองมีเยอะขึ้นด้วย ลูกค้าสนุกกับการค้นหากาแฟใหม่ แหล่งปลูกใหม่ ๆ process ใหม่ ๆ ทำให้หายหน้าไปจากร้านประจำ”
.
ในขณะที่บางคนก็ได้แสดงความคิดเห็นถึงปัจจัยอื่น ๆ เช่น เพราะกลัวโรค เลยไม่ได้ออกไปซื้อ แต่จะใช้การซื้อผ่านแอปเดลิเวอรีแทน รวมถึงปัจจัยเรื่องรสชาติ เพราะทุกวันนี้หลายคนทำกาแฟกินเองที่บ้าน ดังนั้นหากจะไปใช้บริการร้านไหนแปลว่าร้านนั้นรสชาติต้องดี และจะยิ่งได้เปรียบหากบรรยากาศดีด้วย เพราะหากรสชาติไม่ประทับใจ โอกาสซื้อซ้ำจะยาก ทุกวันนี้เรามีทางเลือกมาก สั่งออนไลน์ก็ได้ ทำเองก็ได้ ดริปทานเองก็อร่อยและประหยัด ถ้าจะไปตามร้านก็ต้องมีอะไรดี
.
นอกจากนี้ก็ได้มีผู้ประกอบการเข้ามาแสดงความคิดเห็นและตั้งคำถามอย่างน่าสนใจว่าที่ลูกค้าหายไป เป็นไปได้หลายปัจจัย เช่น
👤💬
“1.ลูกค้าขาดแรงจูงใจ
คุณบอกว่าคุณคือร้านกาแฟจริงจัง อะไรคือจริงจัง แล้วจริงจังมันดีกว่าไม่จริงจังตรงไหน ถ้าอยากได้ลูกค้าแถวบ้านหน้าใหม่ต้อง advertise ตรงนี้ให้ได้
2.ขาดการตลาด ?
เห็นบอกว่า นั่งตบยุง ดูหนัง ไถมือถือ แล้วในนี้มีการกระตุ้นการรับรู้มากเพียงใด
3.กาแฟคุณตอบโจทย์อะไรลูกค้าได้
ซื้อง่าย สั่งง่ายได้เร็ว ใกล้บ้าน ใกล้ที่ทำงาน ส่งถึงที่ ต้องเอาข้อดี ขยี้เน้นๆ
4.คู่แข่งคือกาแฟร้านสะดวกซื้อ ?
ต้องหาให้ได้ ว่าคุณมีอะไรที่ร้านสะดวกซื้อไม่มี (ที่ไม่ใช่คำว่ากาแฟจริงจังนะครับ เพราะผมพูดไปแล้วในข้อ1) ประมาณนี้ครับ สู้ๆ ครับช่วงนี้การแข่งขันมันเดือด” เป็นต้น
.
หรือถ้าใครมีมุมมองนอกเหนือจากนี้กับประเด็น “ลูกค้าหายไปไหน” ก็มาแชร์ความคิดเห็นกันได้เลย!😊
.
Reference: https://www.facebook.com/groups/259809032544230/permalink/464532892071842/
#AmarinAcademy #ร้านอาหาร

เรื่องแนะนำ

เบื้องหลัง การทำร้านกาแฟ กับดักที่คุณอาจจะไม่เคยรู้

ปัจจุบันร้านกาแฟกลายเป็นสินค้าที่ขายไลฟ์สไตล์มากกว่าแค่เครื่องดื่ม ลูกค้าจึงต้องการมากกว่ารสชาติ แต่ต้องการประสบการณ์การดื่มที่ดีด้วย ไม่ว่าคุณจะ ทำร้านกาแฟ ร้านเล็กๆ หรือร้านกาแฟที่ติดตลาดมีลูกค้าขาประจำ ก็อาจพลาดท่าเสียทีกับดักเหล่านี้ได้เหมือนกัน มาดูกันว่า อะไรบ้างที่ทำให้ร้านกาแฟไม่โตได้อย่างที่หวัง เบื้องหลังการ ทำร้านกาแฟ กับดักคุณที่อาจจะไม่เคยรู้ กับดัก…ลูกค้า เมื่อเร็ว ๆ นี้ เกิดกรณีเจ้าของร้านกาแฟไล่ลูกค้า เนื่องจากลูกค้านั่งนาน ทำให้เกิดความเห็นแตกต่างกันจากหลายฝ่าย ทั้งฝ่ายที่โทษลูกค้าว่าเอาเปรียบร้าน และอีกฝ่ายที่โทษร้านว่าใจแคบและโต้ตอบกับลูกค้าเกินกว่าเหตุ คำถามคือ คุณจะทำอย่างไรหากสถานการณ์นี้เกิดขึ้นกับร้านของคุณ คำตอบก็คือ การบริหารจัดการลูกค้า ที่ทำให้หลายร้านติดกับดัก.. ในความเป็นจริงเราไม่สามารถกำหนดว่า ลูกค้าต้องซื้อเครื่องดื่มขั้นต่ำเท่าไหร่ นั่งได้ครั้งละกี่ชั่วโมงเสมอไป โดยเฉพาะร้านกาแฟดี ๆ ย่อมหลีกเลี่ยงกรณีแบบนี้ได้ยาก แต่คุณสามารถทำได้ 3 อย่าง คือ       1. การเรียนรู้พฤติกรรมกลุ่มเป้าหมายที่แท้จริงว่าเป็นอย่างไร       2. การออกแบบการบริการที่สอดคล้องกับกลุ่มเป้าหมายและทำให้ขายสินค้าได้มากขึ้น       3 .การจัดการเมื่อเกิดปัญหาด้านบริการ  เพราะฉะนั้นในกรณีที่ลูกค้ากลุ่มหลัก เป็นกลุ่มที่มาใช้ร้านกาแฟเพื่อนั่งทำงานระยะเวลา 2-3 […]

ขายอาหารในศูนย์การค้า

10 ขั้นตอน ขายอาหารในศูนย์การค้า ต้องเริ่มอย่างไร?

เชื่อว่ามีร้านอาหารมากมาย ที่เคยคิดอยากจะเปิดร้านอาหารภายในศูนย์การค้า รวมถึงร้านที่ไม่ใช่แบรนด์ดัง ก็อยากจะพาร้านตัวเองเข้าสู่ศูนย์การค้า เพื่อให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น แต่ก็มีหลายคำถามมากๆว่า ขายอาหารในศูนย์การค้า ต้องเริ่มอย่างไร มีขั้นตอนอย่างไรบ้าง ยุ่งยากหรือไม่ คุณประภา จิตวิวัฒน์พร Leasing Manager Business Development Group ศูนย์การค้า Seacon Square มาให้คำตอบแบบ Step by Step ให้เจ้าของร้านให้ทราบกันเลย   10 ขั้นตอน ขายอาหารในศูนย์การค้า Step by Step ขั้นตอนแรก เจ้าของร้านต้องโทรเข้ามาที่ศูนย์การค้าเพื่อ ติดต่อฝ่ายขาย ว่ามีความประสงค์ต้องการจะเปิดร้านอาหาร ทีมฝ่ายขายจะมีการสอบถามเบื้องต้นว่า ต้องการเปิดร้านอะไร พื้นที่เท่าไหร่ จากนั้นก็จะให้ทางร้านส่ง Brand Profile มาให้พิจารณาเป็นลำดับถัดไป เจ้าของร้านส่ง Brand Profile ให้ศูนย์การค้าพิจารณา จุดนี้สำคัญมาก เจ้าของร้านต้องทำโปรไฟล์ร้านของตัวเองก่อน เพื่อให้รู้ว่าร้านของคุณเป็นอย่างไร ขายอาหาร หรือเครื่องดื่มประเภทใด หรือแม้กระทั่งมีจุดเด่นอะไรที่น่าสนใจ ยิ่งหากไม่ใช่ร้านดัง Brand […]

ธุรกิจร้านอาหารขนาดเล็ก

แนวคิดสำคัญช่วยให้ ธุรกิจร้านอาหารขนาดเล็ก เติบโต

บางคนใฝ่ฝันอยากมีร้านอาหารเป็นของตัวเอง มองเห็นภาพหน้าร้านสวยๆ ที่มีลูกค้านั่งอยู่เนืองแน่น แต่ความเป็นจริงแล้วภาพความสำเร็จที่เห็นอาจต้องแลกมากับชั่วโมงการทำงานอย่างหนัก ความมีระเบียบวินัย การให้ความใส่ใจอย่างเต็มที่

Food Rotation Labels สติ๊กเกอร์บอกรายละเอียดวัตถุดิบ มาตรฐานครัวสำคัญที่ร้านอาหารควรมี

Food Rotation Labels สติ๊กเกอร์บอกรายละเอียดวัตถุดิบ มาตรฐานครัวสำคัญที่ร้านอาหารควรมี ทุกวันนี้ผู้คนหันมาให้ความสำคัญกับอาหารการกินในทุก ๆ ทาง นี่จึงเป็นเหตุผลชวนให้ผู้ประกอบการหันมาใส่ใจสุขลักษณะในการประกอบอาหาร เพื่อสร้างความมั่นใจทั้งต่อคนเสิร์ฟและคนรับประทาน ลองเปลี่ยนมาใช้ สติ๊กเกอร์บอกรายละเอียดวัตถุดิบ กัน! . สติ๊กเกอร์บอกรายละเอียดวัตถุดิบ (Food Rotation Labels หรือบางคนอาจจะเรียกว่า Daydot) คือ เป็นเครื่องมือที่ใช้ในการจัดระบบวัตถุดิบที่จะนำมาใช้ประกอบอาหาร โดยในสติกเกอร์จะมีหัวข้อให้ผู้ใช้ระบุข้อมูลเกี่ยวกับวัตถุดิบนั้น ๆ เช่น วัตถุดิบคืออะไร ผลิตวันไหน หมดอายุเมื่อไหร่ และใครเป็นคนเปิดใช้ เพื่อป้องกันการนำวัตถุดิบที่ไม่ปลอดภัยมาใช้ในการบริโภค ตัวอย่างข้อมูลที่ควรมีบนสติกเกอร์ติดอาหาร: 1.ชื่อผลิตภัณฑ์ (Product) เพื่อบ่งบอกว่าผลิตภัณฑ์นั้น คืออะไร 2.การจัดเก็บ (Type) : มีการจัดเก็บแบบไหน เช่น แช่แข็ง (Frozen) แช่เย็น (Chiller) หรือเก็บในอุณหภูมิห้อง (Ambient) 3.วันที่ผลิต (Product Date) 4.เวลาผลิต (Production Time) 5.วันที่หมดอายุ (Expiry Date) […]

Follow Me

Contact

เว็บไซต์ : amarinacademy.com
บริษัท เอเอ็มอี อิมเมจิเนทีฟ จำกัด
ในเครือ บริษัท อมรินทร์ คอร์เปอเรชั่นส์ จำกัด (มหาชน)
Tel : 02-422-9999 ต่อ 4662 หรือ 4669, 092-254-0742
Email : amarin.academy@gmail.com

ติดต่อแจ้งปัญหาหรือร้องเรียน
02-422-9999 ต่อ 4180
(จันทร์ – ศุกร์ เวลา 09.00 – 18.00 น)
bdcx@amarin.co.th

สนใจลงโฆษณากับเว็บไซต์ Amarin Academy
Tel. 081-664-0666, 091-729-8060
E-mail : sineenart_ya@amarin.co.th

© COPYRIGHT 2025 AME IMAGINATIVE COMPANY LIMITED.