เจาะกลุ่มลูกค้า ในร้านอาหาร บริการให้ตรงใจ ❤︎ - Amarin Academy

เจาะกลุ่มลูกค้า ร้านอาหาร บริการให้ตรงใจ ❤︎

ในยุคที่ธุรกิจร้านอาหารมีการแข่งขันสูง ทางร้านย่อมจะต้องหาวิธีดึงดูดและจูงใจลูกค้าให้เข้ามาใช้บริการ แต่ผู้บริโภคแต่ละกลุ่มมีความต้องการที่แตกต่างกันออกไป ดังนั้น การทำความเข้าใจลูกค้าแต่ละกลุ่มจึงเป็นเรื่องสำคัญ ที่จะช่วยให้พนักงานบริการลูกค้าที่ต่างกันอย่างเหมาะสม ทำให้ได้รับประสบการณ์ที่ดีจากร้าน ในบทความนี้เราจึง เจาะกลุ่มลูกค้า แต่ละแบบในร้านอาหาร เพื่อแนะนำแนวทางในการบริการให้เหมาะสม และเพิ่มโอกาสในการขายของร้านอาหารครับ

เจาะกลุ่มลูกค้า ในร้านอาหาร บริการให้ตรงใจ

1. ลูกค้าที่มาเป็นคู่

ลูกค้าที่มากันสองคนหรือเป็นคู่รัก มักจะต้องการใช้เวลาด้วยกันมากกว่าต้องการให้พนักงานบริการเพิ่มเติม ดังนั้น พนักงานควรจะเลือกที่นั่งที่ให้ความรู้สึกค่อนข้างส่วนตัว เช่น โต๊ะที่อยู่ด้านในของร้าน หรือโต๊ะที่ห่างออกไปจากกลุ่มลูกค้าที่มาด้วยกัน เพื่อลดเสียงรบกวน
หลังจากลูกค้าสั่งอาหารแล้วก็คอยสังเกตห่างๆ ว่าลูกค้าต้องการบริการใดเพิ่มเติมแล้วค่อยเข้าไปบริการ โดยเมื่อลูกค้ารับประทานอาหารหลักใกล้เสร็จ อาจจะขออนุญาตเข้าไปเก็บจานที่ไม่ใช้แล้ว พร้อมกับแนะนำเมนูของหวานเพิ่มเติม เพื่อเพิ่มยอดขายให้กับร้านอาหารได้

พนักงานออฟฟิศ

2. กลุ่มคนทำงาน พนักงานออฟฟิศ

สำหรับร้านที่อยู่บริเวณที่ทำงานในเมือง พนักงานออฟฟิศคงเป็นกลุ่มลูกค้าหลักในร้าน  ส่วนใหญ่จะมาในเวลาพักกลางวัน หรือหลังเลิกงานในตอนเย็น จากเวลาพักที่ใกล้เคียงกันของพนักงานออฟฟิศ ทำให้ร้านอาหารต้องบริหารจัดการโต๊ะให้ดีเพื่อเพิ่มจำนวนลูกค้าต่อวันให้มากขึ้น และหาวิธีทำงานที่รวดเร็วขึ้น เช่น อาจจะปรุงวัตถุดิบบางส่วนล่วงหน้าไว้ เพื่อลดระยะเวลาการทำอาหาร หรือมีกระดาษให้เลือกเมนูอยู่ที่โต๊ะเพื่อลดภาระของพนักงาน

ลูกค้ากลุ่มนี้มักจะมาเป็นกลุ่มย่อยๆ ประมาณ 3-4 คน โดยสั่งอาหารจานหลักคนละจาน และอาจจะสั่งเมนูอื่นๆ มาแชร์กัน พนักงานอาจจะแนะนำเมนูทานเล่นอื่นๆ ที่มีขายภายในร้านนอกเหนือจากอาหารจานหลัก เพื่อกระตุ้นให้ลูกค้าอยากสั่ง และเพิ่มยอดขายต่อโต๊ะให้มากขึ้น 

3. กลุ่มนักเรียน/นักศึกษา 

ลูกค้ากลุ่มนี้มักจะมาด้วยกันหลายคน สิ่งที่ลูกค้ากลุ่มนี้ต้องการคือ โต๊ะขนาดใหญ่ที่สามารถนั่งด้วยกันได้ทั้งหมด เพื่อให้พูดคุยกันได้สะดวกระหว่างทานอาหาร ดังนั้น หากร้านอยู่ในละแวกโรงเรียนหรือมหาวิทยาลัย และเน้นลูกค้ากลุ่มนี้เป็นลูกค้าเป้าหมาย ก็ควรจะใช้โต๊ะและที่นั่งที่น้ำหนักเบา สามารถเคลื่อนย้ายสะดวกและปรับเปลี่ยนได้ง่าย เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าในกลุ่มนี้

พนักงานเสิร์ฟสามารถบริการลูกค้ากลุ่มนี้แบบเป็นมิตร เข้าถึงง่าย และสร้างความเป็นกันเองกับลูกค้ากลุ่มนี้ได้ง่ายกว่ากลุ่มอื่นๆ ส่วนมากลูกค้ากลุ่มนี้มักจะสั่งอาหารมาลองทานด้วยกันแล้วค่อยแชร์ค่าอาหาร จึงสั่งอาหารได้หลากหลายเมนู พนักงานจึงสามารถแนะนำเมนูได้เยอะ และอย่าลืมแนะนำของหวานเพิ่มเติมหลังจากมื้อหลัก อย่างพวกบิงซู ฮันนี่โทสต์  ซึ่งที่แบ่งกันทานได้ จะช่วยเพิ่มยอดขายได้มาก

สิ่งสำคัญนอกจากรสชาติอาหารที่ดีแล้ว ยังต้องหมั่นสังเกตความต้องการของลูกค้า และให้บริการอย่างรวดเร็ว เพื่อให้ลูกค้ารู้สึกประทับใจ ซึ่งมีโอกาสสูงที่จะกลับมาเป็นลูกค้าประจำในภายหลัง และแนะนำบอกต่อกับเพื่อนกลุ่มอื่นๆ หรือรีวิวลงในโซเซียลมีเดียอีกด้วย 

กลุ่มครอบครัว

4. กลุ่มครอบครัว

ลูกค้าที่มาเป็นครอบครัวก็มักจะมากันหลายคน และมีกำลังซื้อสูง สิ่งที่พนักงานควรทำคือใส่ใจเกี่ยวกับการบริการ โดยเฉพาะครอบครัวที่มีเด็ก หรือผู้สูงอายุ ที่อาจจะต้องการเก้าอี้เสริม หรือความช่วยเหลือต่างๆ รวมถึงแนะนำเมนูที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ หรือเมนูสำหรับเด็ก ก็จะช่วยให้ตัดสินใจสั่งอาหารได้เร็วขึ้น แน่นอนว่าต้องไม่พลาดการแนะนำเมนูของหวานด้วย

5. ลูกค้าที่มาคนเดียว

สำหรับลูกค้าที่มาคนเดียว พนักงานควรทำให้ลูกค้ารู้สึกผ่อนคลายและไม่ต้องเสนอเมนูมากมาย เพราะสั่งอาหารได้จำกัด แต่หากต้องการอยากเพิ่มยอดขายจากลูกค้าที่มีคนเดียว อาจจะแนะนำเมนูเครื่องดื่มเพิ่มเติม หรือเสนอขายเซตเมนูภายในร้านได้
(อ่านเพิ่มเติม >> วิธีเพิ่มยอดขายจากลูกค้าที่มาคนเดียว)

เจาะกลุ่มลูกค้า

6. กลุ่มลูกค้าที่คุยงานหรือธุรกิจ

สำหรับลูกค้าวัยทำงานบางส่วน อาจจะเลือกเลี้ยงรับรองลูกค้า หรือเจรจาธุรกิจในร้านอาหาร เพื่อให้ความรู้สึกที่ไม่เคร่งเครียด และสร้างความสนิทสนมกันมากขึ้น  ดังนั้น ทางร้านควรจะให้ความเป็นส่วนตัวแก่ลูกค้ากลุ่มนี้ โดยเลือกโต๊ะที่อยู่ในมุมสงบ ไม่มีคนพลุกพล่าน และพนักงานควรให้บริการอย่างสุภาพ ไม่จำเป็นต้องเสนอโปรโมชันอะไรมาก แต่ควรแนะนำเมนูเด็ดของร้านที่ดูดีมีราคา ให้ลูกค้าสั่งครั้งเดียวจบ และพนักงานควรหมั่นสังเกตอยู่ห่างๆ เพื่อให้บริการอย่างเหมาะสม

จะเห็นว่ากลุ่มลูกค้าในร้านอาหารนั้น มีความหลากหลายและความต้องการที่แตกต่างกันไป พนักงานที่เป็นคนมีปฎิสัมพันธ์กับลูกค้าโดยตรง ควรจะมีความเข้าใจในลูกค้า เพื่อจะแนะนำเมนูและให้บริการได้ตรงใจมากที่สุด เจ้าของร้านไม่ควรพลาดจุดนี้และเน้นกับทางทีมงานนะครับ

เรื่องแนะนำ

เทคนิค การบริหารร้าน ให้รุ่ง เจ้าของร้านควรโฟกัสเรื่องอะไรบ้าง

ไม่ว่าจะเปิดร้านอะไร แน่นอนว่า คุณย่อมหวังให้ธุรกิจของคุณไปได้ด้วยดี มีกำไร แต่การที่จะทำให้ร้านขายดี ทำกำไรได้นั้น ก็ต้องมี การบริหารร้าน ที่ดีด้วย ซึ่งเจ้าของร้านควรโฟกัสที่ในเรื่องอะไรบ้าง มาดูกันครับ เทคนิคการบริหารร้านให้รุ่ง เจ้าของร้านควรโฟกัสเรื่องอะไรบ้าง กำหนดทิศทาง ตั้งเป้าหมายให้ดี ธุรกิจร้านอาหารเป็นธุรกิจที่จะต้องมีการวางแผนเพื่อเติบโตในแต่ละปี เจ้าของร้านอาหารควรมีความชัดเจนในการกำหนดเป้าหมายอย่างเป็นรูปธรรม ให้ทิศทางการดำเนินงานที่ชัดเจน และสามารถสื่อสารความตั้งใจนั้นไปสู่ทีมงานร้านอาหารทุกฝ่ายได้  เช่น ตั้งใจให้เป็นร้านไก่ทอดที่ชนะร้านไก่ทอดชื่อดังภายใน 5  ปี โดยการขยายสาขาให้มากที่สุด  หรือเป็นร้านผักออแกนิกส์อันดับ 1 ที่มีกลยุทธ์จับมือกับพันธมิตรผู้ให้บริการฟิตเนส  การโฟกัสกับ  “การสร้างภาพความสำเร็จขึ้นในใจของทีมงาน เพื่อให้เขาเป็นส่วนหนึ่งในการที่จะสร้างความสำเร็จนั้น” เป็นสิ่งสำคัญ ก่อนที่จะกำหนดแผนงานเพื่อให้แต่ละฝ่ายรับผิดชอบตามบทบาทหน้าที่ของตัวเอง และคอยตรวจสอบแผนงานนั้นอยู่เสมอ มองหาโอกาส เพื่อวางแผนการเติบโต             ร้านอาหารไม่ใช่การซื้อมาขายไป แต่การทำธุรกิจร้านอาหารให้อยู่รอด ต้องมองหาช่องทางในการเติบโต ธุรกิจร้านอาหารต้องมีการปรับตัวตลอดเวลา เนื่องจากมีปัจจัยต่างๆที่ส่งผลต่อยอดขาย ไม่ว่าจะเป็นปัจจัยภายนอกจากสภาวะการแข่งขัน หรือปัจจัยภายในที่เกิดจากการดำเนินงานของร้านเอง เจ้าของร้านอาหารที่ดีจึงควรให้ความสำคัญกับการพัฒนาร้านอาหาร ตรวจสอบข้อผิดพลาดเพื่อแก้ไขจุดบกพร่อง ทำการบ้านเรื่องคู่แข่งอยู่ทุกวัน ในขณะเดียวกันก็มองหาโอกาสในการที่จะพัฒนาร้านให้พร้อมต่อการเติบโตในอนาคต วางแผนการเติบโตของพนักงานแต่ละฝ่าย             พนักงานร้านอาหารไม่ใช่ต้นทุน แต่เป็นทรัพยากรที่จำเป็นจะต้องส่งเสริมให้สามารถทำงานได้อย่างเต็มศักยภาพมากที่สุด เพื่อให้พนักงานสามารถไปดูแลลูกค้าให้ดี สมกับที่นำรายได้มาให้เรา เจ้าของร้านอาหารนอกจากจะต้องรับรู้หน้าที่ของพนักงานแต่ละคนแล้ว ยังต้องวางแผนในการส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาและเติบโตในสายงาน […]

ผักคะน้าคละ หรือ ผักคะน้าคัด ? เตรียมวัตถุดิบอย่างไรให้ได้จานเด็ดมัดใจลูกค้า

ผักคะน้าคละ หรือ ผักคะน้าคัด ? เตรียมวัตถุดิบอย่างไรให้ได้จานเด็ดมัดใจลูกค้า  ( SOP การเตรียมวัตถุดิบ + Portion Control = Perfect Dish ) ก่อนจะได้อาหารเลิศรสสักหนึ่งจานต้องผ่านกระบวนการต่างๆ มากมาย เริ่มตั้งแต่การซื้อวัตถุดิบ และหากว่าร้านอาหารของคุณต้องใช้ผักคะน้าจำนวนมาก แล้วคุณกำลังหาซื้ออยู่ที่ตลาดไท คุณจะเลือกผักคะน้าคละ หรือผักคะน้าคัดดีล่ะ ? สมมติว่าราคาผักคะน้าคละ ในตลาดไท ราคากิโลกรัมละ 23 บาท ก่อนจะนำมาปรุงได้ ต้องตัดใบแก่ ใบเหี่ยว ใบเหลืองทิ้ง ไป และตัดส่วนลำต้นที่แข็งออก คุณอาจจะเหลือผักคะน้าที่ใช้จริงแค่เพียง 7 ขีดเท่านั้น เท่ากับว่าต้นทุนจะไม่ใช่ 23 บาทต่อ 1 กิโลกรัมอีกต่อไป แต่จะเป็น 33 บาท ต่อ 1 กิโลกรัม   นอกจากนี้คุณยังต้องเสียเวลาไปกับการคัดแยกเอาผักคะน้าสวยๆ ออกจากกองที่คละกันอยู่อีกต่างหาก ทำให้ต้องเสียคนไปด้วยหนึ่งคนกับกระบวนการนี้ และอย่าลืมว่าวัตถุดิบ คน และเวลา […]

5 ปัญหาร้านอาหาร ยอดฮิต ที่เจ้าของมักเจอ

ปัญหากับร้านอาหารเป็นของคู่กัน ยิ่งช่วงเปิดร้านแรกๆ อาจต้องแก้ปัญหาเป็นรายวัน วันนี้เราจึงขอรวบรวม ปัญหาร้านอาหาร ที่เจ้าของร้านมักเจอมาแชร์ให้ทุกคนทราบกัน

ถอดบทเรียน ครัวกลางใหม่ Bear House ทำไมสร้างห้องบัญชีและ HR ใหญ่ที่สุด

ถอดบทเรียน ครัวกลาง ใหม่ Bear House ทำไมสร้างห้องบัญชีและ HR ใหญ่ที่สุด จากบทเรียนขาดทุน 17 ล้านบาท สู่การให้ความสำคัญด้านบัญชีอย่างจริงจัง ธุรกิจคุณให้ความสำคัญกับ ฝ่ายบัญชีและ HR มากแค่ไหน? เชื่อว่าหลาย ๆ คนคงจะได้ดูคลิปพาทัวร์การก่อสร้างครัวกลางใหม่ ของสอง youtuber ชื่อดัง คุณกานต์ อรรถกร และคุณซารต์ ปัทมพร ยูทูปเบอร์ที่ได้ผันตัวมาทำธุรกิจอาหารแบรนด์ Bear House ควบคู่ไปด้วยแล้ว ที่มาของครัวกลางใหม่ ซึ่งคนที่ติดตามก็คงพอทราบเหตุผลของการสร้างครัวกลางใหม่ในครั้งนี้แล้วว่า เพราะ Bear House ต้องการครัวกลางที่อยู่ใกล้เมืองมากขึ้น และเพื่อลด Sizing ของครัวกลางให้เหมาะกับธุรกิจที่ทำ โดยระหว่างที่คุณกานต์และคุณซารต์กำลังพาทัวร์ครัวกลางใหม่ ก็ได้มีการบรรยายแผนผังของครัวกลางไปพร้อม ๆ กัน  ทำไมต้องสร้างห้องบัญชีและ HR ใหญ่ที่สุด ซึ่งตอนหนึ่งของคลิปคุณกานต์และคุณซารต์ได้บอกว่า ตามผังของการก่อสร้างครัวกลางใหม่ในครั้งนี้ เขาได้วางให้ห้องบัญชีเป็นห้องที่ใหญ่ที่สุด รองลงมาเป็นห้อง HR ที่อยู่ติดกัน โดยทั้งสองได้ให้เหตุผลว่าทีมบัญชีและ HR เป็นฝ่ายด่านหลัง […]

Follow Me

Contact

เว็บไซต์ : amarinacademy.com
บริษัท เอเอ็มอี อิมเมจิเนทีฟ จำกัด
ในเครือ บริษัท อมรินทร์ คอร์เปอเรชั่นส์ จำกัด (มหาชน)
Tel : 02-422-9999 ต่อ 4662 หรือ 4669, 092-254-0742
Email : amarin.academy@gmail.com

ติดต่อแจ้งปัญหาหรือร้องเรียน
02-422-9999 ต่อ 4180
(จันทร์ – ศุกร์ เวลา 09.00 – 18.00 น)
bdcx@amarin.co.th

สนใจลงโฆษณากับเว็บไซต์ Amarin Academy
Tel. 081-664-0666, 091-729-8060
E-mail : sineenart_ya@amarin.co.th

© COPYRIGHT 2024 AME IMAGINATIVE COMPANY LIMITED.