วิธีเก็บผัก เก็บอย่างไรให้ถูกต้อง และเก็บได้นาน - Amarin Academy

วิธีเก็บผัก เก็บอย่างไรให้ถูกต้อง และเก็บได้นาน

งานครัวในร้านอาหาร ไม่ใช่แค่เรื่องระบบการจัดการในครัวเท่านั้นที่ทุกคนให้ความสำคัญ แต่เรื่องรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ อย่างวัตถุดิบต่างๆในครัว ก็ไม่ควรละเลยนะคะ ซึ่งแน่นอนว่าครัวในร้านอาหารจะต้องมีปริมาณการสั่งซื้อผักต่างๆ จำนวนมาก ซึ่งถ้าหากจัดเก็บไม่ถูกวิธี อาจจะทำให้สูญเสียวัตถุดิบไปอย่างน่าเสียดาย โดยเฉพาะผักบางชนิด  Amarin Academy มี วิธีเก็บผัก มาฝากกันค่ะ เก็บอย่างไรให้ถูกต้อง และใช้ประโยชน์ได้มากที่สุด ซึ่งวิธีนี้จะนำไปใช้ที่บ้านก็ได้เช่นกันค่ะ

 

วิธีเก็บผัก ให้ถูกต้องเก็บได้นาน ทำอย่างไร?

เบื้องต้นสิ่งที่ควรต้องรู้ก่อนเลยก็คือ

1.ไม่ควรเก็บผักทุกชนิดไว้รวมกัน จะทำให้เกิดการเน่าเสีย หรือผักเสื่อมสภาพเร็วขึ้น

2.ควรล้างผักให้สะอาดก่อนที่จะนำมาปรุงอาหาร เพราะผักที่ซื้อมาจากตลาดมักไม่สะอาดเพียงพอ หากยังไม่ได้ใช้ทันทีให้ล้างทั้งต้นด้วยน้ำสะอาด แล้วผึ่งให้สะเด็ดน้ำก่อน จึงเอาเข้าเก็บ

3.การเก็บผักด้วยวิธีแช่น้ำ ไม่ควรแช่ผักลงในน้ำทั้งต้น เพราะจะทำให้วิตามินถูกละลายไปกับน้ำ

 

สำหรับ วิธีเก็บผัก ให้ยังคงสด ใหม่ อยู่ได้นานและอยู่ในสภาพที่ดีพร้อมเสิร์ฟนั้น ต้องเก็บให้เหมาะสมกับชนิดของผักนั้นๆ ด้วย สามารถแบ่งได้ตามนี้ค่ะ

1. ผักหัว ประเภทแครอท หัวบีท หัวผักกาด เผือก ให้ตัดใบออกให้หมดก่อนเก็บ หากไม่ตัดออกความหวานในหัวจะลดลง ส่วนผักที่มีเปลือกหนา เช่น ฟักทอง ฟัก แฟง มันฝรั่ง เผือก เก็บได้เลยโดยไม่ต้องล้าง สามารถวางไว้ในที่เย็น อากาศถ่ายเท และอยู่ที่อุณหภูมิประมาณ 55-65 องศาฟาเรนไฮต์ จะช่วยให้เก็บไว้ได้นานขึ้น

2. กลุ่มผักที่เน่าเสียง่าย เช่น เห็ด ผักชี ผักกาดหอม ถั่วงอก ถั่งฝักยาว ผักบุ้ง หรือกลุ่มผักที่เก็บได้ในระยะเวลาที่ค่อนข้างจำกัด เช่น ผักกาด ผักคะน้า มะเขือเทศ ผักเหล่านี้แม้จะเก็บในตู้เย็นก็ยืดเวลาได้ไม่นานนัก แต่การเก็บที่ดีที่สุดคือ ใส่ถุงพลาสติกที่สะอาดและแห้ง จะช่วยเก็บไว้ได้นานขึ้น 5-7 วัน

3. วิธีเก็บผัก ควรแยกเก็บตามชนิดของผัก เพราะทำให้เกิดการเน่าหรือเสื่อมสภาพเร็วขึ้น ดังนั้นจึงควรเก็บผักแต่ละชนิดโดยแยกกันเป็นสัดส่วน การเก็บผักนั้นไม่ควรล้างก่อนเก็บ ควรจะล้างเมื่อจะนำมาประกอบอาหารเท่านั้น ประเภทผักใบ ถั่วลันเตา ถั่วแขก เหล่านี้ควรแยกใส่ถุงพลาสติกแล้วเก็บไว้ที่อุณหภูมิ 45 องศาฟาเรนไฮต์ จะช่วยให้คงความสดอยู่ได้นานขึ้น

4. ไม่ควรแช่ผักกับผลไม้ไว้รวมกัน เพราะผลไม้สุกจะปล่อยก๊าซเอทิลีนออกมา ทำให้ผักที่วางอยู่ใกล้ๆ อาจเสียเร็วขึ้น เพราะฉะนั้นควรเก็บผักและผลไม้แยกถุงกัน หรือแยกชั้นกันก็ได้ค่ะ ก็จะสามารถช่วยยืดอายุผักได้นานยิ่งขึ้น

 

เมื่อรู้วิธีเก็บผักแล้ว จะไม่รู้วิธีทำความสะอาดผักเพื่อลดสารเคมีได้อย่างไร มาดูกันค่ะว่ามีวิธีไหนบ้าง

  1. ใช้โซเดียมไบคาร์บอเนต 1 ช้อนโต๊ะ ผสมน้ำอุ่นประมาณ 20 ลิตร จากนั้นแช่ผักนาน 15 นาที แล้วนำไปล้างน้ำสะอาดหลายๆ ครั้ง จะสามารถลดสารตกค้างได้ประมาณ 90-95 %
  2. ใช้น้ำส้มสายชูที่มีกรดความเข้มข้น 5 % ผสมในอัตราส่วน 1:10 เช่น น้ำส้มสายชู 1 ถ้วยตวง ต้องใช้น้ำ 10 ถ้วยตวง จากนั้นนำไปแช่ผัก 10-15 นาที แล้วนำมาล้างด้วยน้ำสะอาด วิธีนี้สามารถช่วยลดสารเคมีได้ประมาณ 60-84 %
  3. วิธีง่ายๆด้วยการปล่อยน้ำไหลผ่านผัก โดยเด็ดผักเป็นใบๆ ใส่ตระแกรงโปร่งไว้ แล้วใช้มือช่วยคลี่ใบผักล้างไปด้วย ใช้เวลาทำประมาณ 2 นาที จะสามารถช่วยลดสารเคมีในผักได้ประมาณ 25-63 %
  4. การแช่น้ำ เริ่มด้วยการล้างผักรอบแรกให้สะอาดเสียก่อน หลังจากนั้นเด็กผักออกเป็นใบ ๆ แล้วนำมาแช่ในอ่างน้ำที่เตรียมไว้ประมาณ 15 นาที วิธีนี้จะช่วยลดสารพิษจากฆ่ายาแมลงได้ประมาณ 7-33%
  5. ด่างทับทิม ให้ใช้ด่างทับทิมประมาณ 20-30 เกล็ด ผสมกับน้ำ 4 ลิตร แล้วจึงนำผักมาแช่ไว้ในน้ำด่างทับทิมประมาณ 10 นาที หลังจากนั้นให้ล้างออกด้วยน้ำสะอาดอีกครั้ง วิธีนี้จะช่วยลดประมาณของสารพิษตกค้างได้ประมาณ 35-43 %

 

วิธีล้างผักที่กล่าวมา ร้านอาหารสามารถพิจารณาเลือกใช้ได้ตามความเหมาะสมของแต่ละร้านค่ะ ซึ่งเปอร์เซ็นต์การลดปริมาณสารพิษในแต่ละวิธีนั้น ก็ขึ้นอยู่กับชนิดของผักด้วยค่ะ 

 

ขอบคุณข้อมูล  thaihealth

เรื่องแนะนำ

เปลี่ยนเรื่องยากของธุรกิจร้านอาหารให้เป็นเรื่องง่ายที่ OfficeMate

การทำธุรกิจร้านอาหารมักมีโจทย์มาให้แก้ทุกวัน หนึ่งในโจทย์ที่เจ้าของธุรกิจร้านอาหารต้องเจอก็คือเรื่องของ “เวลา” เพราะธุรกิจร้านอาหารประกอบด้วยฟังก์ชั่นงานต่างๆมากมาย เริ่มตั้งแต่ งานตกแต่งร้าน งานครัว งานทำความสะอาด งานบัญชี งานไอที รวมไปถึงงานบริหาร ยิ่งมีงานเหล่านี้มากขึ้น คำถามคือ จะจัดการงานทั้งหมดอย่างไรในเวลาที่มีอยู่เท่าเดิม? แถมยังต้องมาเสียเวลาไปกับการเดินทางไปที่ต่างๆ เพื่อเลือกซื้ออุปกรณ์และของใช้เข้าร้านอีก จะดีกว่าไหมหากเราสามารถลดต้นทุนแฝงส่วนนี้ลงได้? และมีเวลาเหลือไปทำงานอย่างอื่นให้มีประสิทธิภาพเพิ่มมากยิ่งขึ้น ใช้เวลาอย่างคุ้มค่า เลือกซื้อสินค้าสำหรับร้านอาหารที่ OfficeMate OfficeMate เป็นผู้ช่วยชั้นเยี่ยมสำหรับเจ้าของธุรกิจร้านอาหารที่มีสินค้าที่ตอบโจทย์ธุรกิจอย่างครบครัน เรียกได้ว่าครอบคลุมแทบทุกส่วนงาน ตั้งแต่อุปกรณ์สำหรับขั้นตอนการตกแต่งร้าน และอุปกรณ์ที่ใช้ระหว่างดำเนินกิจการ รวมถึงของใช้เบ็ดเตล็ดอื่นๆ ทำให้การเลือกซื้อสินค้าที่ออฟฟิศเมท ช่วยประหยัดเวลาของเหล่าผู้ประกอบการร้านอาหาร และเพิ่มโอกาสประสบความสำเร็จในธุรกิจในเวลาเดียวกัน ลดต้นทุนเวลา มาที่เดียวจบ เพราะทุกสิ่งมีครบที่ OfficeMate             อย่างที่บอกไปว่าการเลือกซื้ออุปกรณ์และของใช้สำหรับธุรกิจร้านอาหารที่ OfficeMate ครอบคลุมงานแทบทุกส่วน มาดูกลุ่มสินค้าหลักๆ ที่สามารถเลือกซื้อได้ที่ OfficeMate กันค่ะ   สร้างมุมสวยด้วยเฟอร์นิเจอร์หลากหลายสไตล์ มุมสวยๆ เฟอร์นิเจอร์เก๋ๆ คือ องค์ประกอบที่ขาดไม่ได้ของร้านอาหารยุค 4.0 เพราะลูกค้านิยมถ่ายรูปลง Social Media ดังนั้นร้านอาหารที่เลือกเฟอร์นิเจอร์ในการตกแต่งร้านได้สวยและมีเอกลักษณ์ ย่อมสามารถเข้าไปอยู่ในใจลูกค้าทั้งขาประจำและขาจรได้ง่ายขึ้น แถมเป็นการโฆษณาร้านอาหารของเราทางอ้อมอีกด้วย แต่การเดินหาเฟอร์นิเจอร์มาตกแต่งร้านก็ใช้เวลาไม่ใช่น้อยเลย […]

4 ข้อเตรียมเปิดร้านที่บ้าน ร้านเล็กๆ  ลงทุนน้อย เตรียมตัวไม่มาก แค่ลงมือทำ!

#เทรนด์ใหม่ธุรกิจ ทำหน้าบ้านให้เป็นร้านเล็กๆ  ลงทุนน้อย เตรียมตัวไม่มาก แค่ลงมือทำ! 4 ข้อพื้นฐานเตรียมตัว เปิดร้านที่บ้าน หลัง ๆ มานี้เราสามารถพบเห็นการปรับเปลี่ยนพื้นที่บ้านมาเป็นพื้นที่ในการทำธุรกิจ/หารายได้กันมากขึ้น เนื่องด้วยปัจจัยต่าง ๆ โดยเฉพาะเทคโนโลยีที่พัฒนาและเอื้ออำนวยให้การ เปิดร้านที่บ้าน สามารถทำได้ง่ายขึ้น อย่างการมีแพลตฟอร์มเดลิเวอรี่ หรือพื้นที่โซเชี่ยลมีเดียในการประชาสัมพันธ์ให้คนรู้จัก ทำให้พื้นที่ตั้งของร้านไม่ได้เป็นตัวกำหนดว่าเราจะขายได้หรือไม่ได้อีกต่อไป โดยทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับว่า บ้าน ใครมีปัจจัยที่เอื้อต่อการทำร้านมากขนาดไหนด้วย การขายที่บ้านจึงเป็นทางเลือกหนึ่งสำหรับคนที่อยากหารายได้ แต่ยังไม่กล้าลงทุนมาก ไม่อยากไปเสียค่าเช่า ไปจนถึงไม่อยากต้องไปขายในที่ไกล ๆ ฯลฯ แต่ทว่าการจะขายที่บ้านนั้น ไม่ใช่ว่าอยากจะเปิดก็เปิดได้เลย แต่ยังต้องมีการเตรียมพร้อมในเรื่องต่าง ๆ เพื่อให้ธุรกิจของคุณดำเนินไปได้ และไม่เกิดปัญหากวนใจภายหลัง ลองมาดูการเตรียมตัวขั้นพื้นฐาน เพื่อ เปิดร้านที่บ้าน กัน! 🔸ขายได้ไหม🤔 ถ้าบ้านใครไม่ได้อยู่ในบ้านจัดสรร ก็ข้ามข้อนี้ไปได้เลย แต่ถ้าบ้านเราอยู่ในหมู่บ้าน โครงการบ้านจัดสรร การขออนุญาต สอบถามทางผู้ดูแลโครงการ หรือผู้มีหน้าที่ดูแลความเรียบร้อยของหมู่บ้าน เพื่อยืนยันให้แน่ใจว่ากฎของที่พักอาศัยนั้น ๆ กำหนดไว้ ให้เราสามารถทำบ้านเป็นร้านได้หรือไม่ เนื่องจากเคยมีกรณีที่ลูกบ้านท่านหนึ่งต้องการจะเปิดร้านที่บ้าน แต่ไม่สามาถทำได้ เพราะโครงการไม่อนุญาต ทั้งนี้จึงขึ้นอยู่กับกฎ/ข้อตกลง มติของแต่ละหมู่บ้านว่ากำหนดไว้อย่างไร […]

Emotional Value

มากกว่าแค่ธุรกิจร้านอาหาร ต้องพิชิตใจลูกค้าด้วย Emotional Value

ที่ร้านขายอะไรกันเหรอ? …..… ร้านฉันขายอาหารตามสั่งทั่วไป ร้านฉันขายกาแฟ บางคนตอบได้ดีกว่านั้น ก็คือ ร้านฉันขายประสบการณ์การทานอาหารให้กับลูกค้า ลูกค้าจะได้รับการต้อนรับที่อบอุ่นเมื่อมาทานที่ร้านของเรา แล้วเคยคิดกันไหมคะ ว่าสิ่งที่อยู่เบื้องหลังประสบการณ์ที่ลูกค้าได้รับนั้นมาจากอะไร คำตอบคือ “อารมณ์ (Emotional)” ธุรกิจร้านอาหารทุกวันนี้ ใช้กลยุทธ์พิชิตใจลูกค้า โดยให้ความสำคัญสิ่งที่เรียกว่า Emotional Value (คุณค่าทางอารมณ์) เพิ่มมากขึ้น แล้ว Emotional Value แบบไหน ที่ทำให้ลูกค้าเลือกมาร้านของเรา แทนที่จะไปร้านอื่นๆ   “ลองปรับเปลี่ยนมุมมองการตลาด และเปิดประสบการณ์ให้กับลูกค้าของคุณ เพื่อพิชิตใจลูกค้าด้วย Emotional Value”   Emotion : Caring การดูแล ห่วงใย เอาใจใส่       มนุษย์เราอยู่รวมตัวกันเป็นกลุ่มและชุมชนเพื่อสร้างความผูกพัน การบริการลูกค้าโดยใช้กลยุทธ์ที่เรียกว่า CARE หรือการดูแล การเอาใจใส่ เพื่อดึงให้ลูกค้าเข้ามามีส่วนร่วมและผูกพันกับร้านของคุณ ถือเป็นกุญแจสำคัญด่านแรก บางครั้งการบริการไม่ได้เริ่มต้นจากสิ่งที่เราอยากจะทำ หรืออยากจะขายในร้านอาหารของเราเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่อาจเริ่มจากสิ่งที่ลูกค้าต้องการจากเรา       เจ้าของร้านอาหารไม่ควรมองข้ามฐานลูกค้าของตนเอง รวมไปถึงกลุ่มทางสังคมกลุ่มอื่นๆ บางร้านอาจเลือกทำบุญเลี้ยงอาหารเด็กกับองค์กรเด็ก และเชิญลูกค้าของทางร้านให้เข้ามามีส่วนร่วม หรือ […]

Follow Me

Contact

เว็บไซต์ : amarinacademy.com
บริษัท เอเอ็มอี อิมเมจิเนทีฟ จำกัด
ในเครือ บริษัท อมรินทร์ คอร์เปอเรชั่นส์ จำกัด (มหาชน)
Tel : 02-422-9999 ต่อ 4662 หรือ 4669, 092-254-0742
Email : amarin.academy@gmail.com

ติดต่อแจ้งปัญหาหรือร้องเรียน
02-422-9999 ต่อ 4180
(จันทร์ – ศุกร์ เวลา 09.00 – 18.00 น)
bdcx@amarin.co.th

สนใจลงโฆษณากับเว็บไซต์ Amarin Academy
Tel. 081-664-0666, 091-729-8060
E-mail : sineenart_ya@amarin.co.th

© COPYRIGHT 2025 AME IMAGINATIVE COMPANY LIMITED.