Go Mass หรือ Go Niche โตแบบไหนเหมาะกับร้านของคุณ - Amarin Academy

Go Mass หรือ Go Niche โตแบบไหนเหมาะกับร้านของคุณ

 

              “เมื่อสินค้าไม่ได้แตกต่าง ลูกค้าจะเปรียบเทียบที่ราคาเสมอ” นั่นเป็นเหตุผลว่าคุณจะต้องทำร้านอาหารให้แตกต่างจากคู่แข่ง สิ่งสำคัญที่จะทำให้เกิดความแตกต่าง นอกจากการออกแบบสินค้าและบริการ ก็คือ การทำการตลาดและการสร้างแบรนด์ แล้วจะสร้างแบบไหน Go Mass หรือ Go Niche ที่เหมาะสมกับร้านของคุณ บทความนี้มีคำตอบ

 

>>MASS คืออะไร Niche เป็นแบบไหน ?

            การมุ่งตลาด Mass คือ การทำร้านอาหารเพื่อตอบโจทย์คนหลายกลุ่ม มีความต้องการชัดเจน มีขนาดตลาดที่ใหญ่ ในขณะที่ Niche คือ การเจาะกลุ่มตลาดเฉพาะ มีขนาดตลาดที่แคบลงมา มีผู้เล่นน้อยราย มุ่งการสร้างมูลค่าให้กับสินค้า และสามารถขายสินค้าในระดับราคาที่สูงมากกว่า Mass

ยกตัวอย่าง สมัยก่อนร้านอาหารญี่ปุ่นมีความนิยมที่จำกัด เนื่องจากมีราคาสูง นิยมแค่คนไทยที่เคยไปท่องเที่ยวที่ญี่ปุ่น ร้านอาหารญี่ปุ่นจึงไปแฝงตัวตามย่านธุรกิจที่มีคนญี่ปุ่นทำงานและใช้ชีวิตอยู่ เช่น สุขุมวิท สีลม จึงเป็นตลาดที่ค่อนข้าง Niche เจาะลูกค้ามีกำลังซื้อสูง เมื่อเทรนด์ร้านอาหารญี่ปุ่นได้รับความนิยมมากขึ้น การเข้าถึงมีมากขึ้น วัตถุดิบหาได้ถูกลง จึงเกิดร้านอาหารญี่ปุ่นที่มีหลายตัวเลือก ราคาเพื่อเจาะกลุ่มเป้าหมายหลายกลุ่ม  อาหารญี่ปุ่นจึงกลายเป็นตลาด Mass ที่มีการแข่งขันมากที่สุดในปัจจุบัน

 

>>เหตุผลที่ควรทำร้านให้เจาะลูกค้าแบบ Niche Market  

เราอยู่ในยุคที่ผู้บริโภคในปัจจุบันมีความเฉพาะตัวมากขึ้น มีความต้องการแบบ Individual ตลาด Niche จึงมีความสำคัญกับการทำธุรกิจเพิ่มขึ้นมาก  และด้วยปัจจัยด้านขีดความสามารถในการแข่งขัน งบประมาณการตลาด  Niche จึงเป็นคำตอบของผู้ประกอบการใหม่  หรือผู้ประกอบการ SME ได้มากกว่า  เพราะแม้ว่าตลาด Mass จะมีกลุ่มเป้าหมายจำนวนมากก็จริง แต่ก็มีผู้เล่นมากขึ้นทุกวัน การต่อสู้ด้วยสงครามราคาเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งเป็นไปได้ยากที่ผู้ประกอบการเจ้าเล็ก ๆ จะมีพลังในการสร้างแบรนด์ให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าจำนวนมาก เพื่อแข่งขันกับเจ้าใหญ่ ๆ ได้

 

>>Niche โอกาสที่รอการเติบโต

เมื่อเทรนด์เกิดขึ้น ภาพรวมของธุรกิจเติบโตไปในทิศทางที่มุ่งตลาดเฉพาะมากขึ้น  ดังจะเห็นได้จาก ห้างร้าน หรือธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เจ้าใหญ่ ๆ ซึ่งเป็นเจ้าของพื้นที่ เริ่มให้ความสำคัญกับตลาดที่ Niche  ที่มากขึ้น มีการเจาะความต้องการกลุ่มลูกค้าตาม Lifestyle เฉพาะ เช่น ห้างที่เจาะกลุ่มคนเลี้ยงสัตว์ กลุ่มครอบครัวซึ่งเน้นกิจกรรมสำหรับเด็ก การเกิดขึ้นของอาคารแบบ Mix Use  ที่เน้นทำพื้นที่ตอบโจทย์สำหรับคนทำงานของกลุ่ม Start up เท่านั้น จึงเกิดทำเลที่เลือกกลุ่มลูกค้าเฉพาะเข้ามามากขึ้น ร้านอาหารเล็ก ๆ เจาะกลุ่มเป้าหมายเฉพาะ ที่สอดคล้องกับคอนเซ็ปต์แบบนี้ก็มีโอกาสที่จะเข้าสู่ตลาดได้ง่ายขึ้น

 

>>เจาะกลุ่มเป้าหมายให้ชัด

            โดยทั่วไป การเจาะกลุ่มเป้าหมายร้านอาหาร มีปัจจัยสำคัญๆ อยู่  3 อย่างก็คือ ทำเล ราคาขาย คอนเซ็ปต์ของร้าน ซึ่งจะเป็นตัวบอกว่าคุณกำลังทำร้านอาหารเพื่อขายใคร ทั้งในแง่กลุ่มอายุ พฤติกรรมการใช้ชีวิต ความสามารถในการจ่าย การสร้างแบรนด์ที่ดี จะต้องกำหนดกลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจน หรือการทำ Segmentation Target Positioning เพื่อช่วยให้คุณกำหนดกลยุทธ์ว่าจะเข้าถึงกลุ่มลูกค้าของคุณได้ในรูปแบบไหน สามารถตอบได้ว่า จะนำเสนอจุดแข็งของร้านได้อย่างไร ขายเมนูอะไร หรือมีบริการอะไรที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้ากลุ่มเป้าหมายได้

โดยปัจจุบัน ลูกค้าส่วนใหญ่มุ่งที่จะจ่ายให้กับสินค้าที่สามารถสนองตอบด้านอารมณ์ หรือสามารถแก้ปัญหาบางอย่างให้แก่เขาได้ การจับปัญหา และความต้องการลึก ๆ ของลูกค้าให้เจอ ก็สามารถที่จะเข้าไปสร้างความต้องการให้เกิดขึ้นกับลูกค้าได้

 

>>คอนเซ็ปต์ร้านช่วยดึงดูด

คอนเซ็ปต์ของร้านจะเป็นตัวดึงดูดกลุ่มเป้าหมาย และทำให้ร้านของคุณแตกต่างจากร้านอื่นทั่วไป การทำคอนเซ็ปต์ร้านที่สามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่แคบลง จะทำให้คุณทำการตลาดได้ง่ายกว่าในระยะเริ่มต้น หากสื่อสารแบรนด์ออกไปให้น่าสนใจพอ และเมื่อจุดแข็งของ Niche ก็คือ ความแตกต่างซึ่ง มีข้อดีคือเรื่องของแบรนด์ถูกเล่าโดยลูกค้าถึงลูกค้าที่เป็นกลุ่มที่มีความต้องการจริง ๆ การตลาดแบบปากต่อปากเกิดขึ้นโดยไม่ต้องพึ่งงบประมาณทางการตลาดที่สูงในยุคปัจจุบัน

ในปัจจุบัน จะเห็นว่า มีร้านอาหารที่มีคอนเซ็ปต์น่าสนใจมากมาย ที่สามารถเข้าถึงลูกค้ากลุ่มเฉพาะที่ยอมจ่ายในราคาที่สูงเพื่อแลกกับประสบการณ์ใหม่ เช่น ร้านเบอร์เกอร์แบบโอมากาเสะแห่งหนึ่ง ที่ไม่ได้กำหนดราคาขาย แต่เสนอราคาให้อยู่ที่ความพอใจที่จะจ่ายของลูกค้า เป็นต้น ทำให้ร้านเล็กที่ไม่ได้มีชื่อเสียงมาก่อนเป็นร้านที่สามารถติดอันดับการจองคิวที่ยากที่สุดในประเทศไทยได้ในระยะเวลาหลังจากเปิดไม่ถึงเดือน

ในขณะที่การตลาดแบบ Mass  ก็ไม่หมดโอกาสสำหรับผู้เล่นใหม่ ๆ ไปเสียหมด ถ้าเข้าใจความต้องการของกลุ่มเป้าหมายที่แท้จริง  ว่าปัจจัยในการเลือกร้านของลูกค้าคืออะไร เช่น ความรวดเร็ว ปริมาณ ราคา อาจจะต้องพัฒนาตรงนี้ให้เป็นจุดแข็ง

 

อย่างไรก็ตามถึงคุณจะเริ่มต้นด้วย  Niche ก็สามารถเติบโตขึ้นไปเป็น Mass ได้ เมื่อแบรนด์มีความแข็งแกร่งพอ มีฐานแฟน รวมถึงกลุ่มผู้บริโภคขยายตัวมากขึ้น แต่สุดท้ายแล้ว ไม่ว่าร้านของคุณจะมุ่งตลาดแบบไหน คุณภาพ รสชาติ และการบริการ ยังเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในการทำธุรกิจร้านอาหาร และเป็นเครื่องมือในการสร้างแบรนด์ให้เข้าไปอยู่ในใจผู้บริโภคที่ดีที่สุด

เรื่องแนะนำ

เรียนรู้นิสัยของทำเล ก่อนตัดสินใจเช่าพื้นที่

ย่านออฟฟิศ สำนักงาน (Office area) ทำเลย่านออฟฟิศ สำนักงานเป็นทำเลที่มีกลุ่มลูกค้าชัดเจนคือ พนักงานออฟฟิศ แต่อาจมีกำลังซื้อแตกต่างกันในแต่ละทำเล ยิ่งเป็นทำเลที่อยู่ใจกลางเมืองอย่าง สาทร สีลม อโศก ฐานรายได้เฉลี่ยของกลุ่มลูกค้าก็อาจจะมากขึ้น ค่าเช่าก็อาจจะสูงขึ้นตามไปด้วย ทำให้ราคาขายของร้านอาหารจะสูงกว่าย่านออฟฟิศสำนักงานที่อยู่ถัดออกมา เช่น ย่านพหลโยธิน ทาว์อินทาวน์ หรือแจ้งวัฒนะ ทำให้ร้านอาหารที่อยู่ในทำเลออฟฟิศ สำนักงานในเมืองส่วนใหญ่ จึงเป็นร้านที่มีขนาดไม่ใหญ่มาก แต่มีค่าใช้จ่ายเฉลี่ยต่อคน (Check Average) ที่สูงกว่าย่านออฟฟิศสำนักงานนอกเมือง วันธรรมดา ช่วงเช้า – อาจจะขายแบบ Grab and go ได้ ถ้าทำเลตรงนั้นเป็นทำเลที่อยู่ในหรือใกล้อาคารสำนักงาน  หรืออาจจะอยู่ระหว่างสถานีรถไฟฟ้ากับอาคารสำนักงาน เพราะพนักงานออฟฟิศโดยมากมักจะซื้อก่อนขึ้นไปทำงานตอนเช้า ช่วงกลางวัน – จะขายดีช่วง 11.30 – 13.30 น. โดยอาหารอาจจะต้องเป็นประเภทที่ใช้เวลาปรุงไม่นาน เพื่อที่ทางลูกค้าจะได้รีบทานและรีบกลับไปทำงาน ในอีกมุมหนึ่งก็จะทำให้ร้านอาหารสามารถทำรอบ ได้มากขึ้นด้วย ช่วงเย็น – ช่วงเวลาหลังเลิกงานคือ 17.30 – 20.00 น. […]

Food Rotation Labels สติ๊กเกอร์บอกรายละเอียดวัตถุดิบ มาตรฐานครัวสำคัญที่ร้านอาหารควรมี

Food Rotation Labels สติ๊กเกอร์บอกรายละเอียดวัตถุดิบ มาตรฐานครัวสำคัญที่ร้านอาหารควรมี ทุกวันนี้ผู้คนหันมาให้ความสำคัญกับอาหารการกินในทุก ๆ ทาง นี่จึงเป็นเหตุผลชวนให้ผู้ประกอบการหันมาใส่ใจสุขลักษณะในการประกอบอาหาร เพื่อสร้างความมั่นใจทั้งต่อคนเสิร์ฟและคนรับประทาน ลองเปลี่ยนมาใช้ สติ๊กเกอร์บอกรายละเอียดวัตถุดิบ กัน! . สติ๊กเกอร์บอกรายละเอียดวัตถุดิบ (Food Rotation Labels หรือบางคนอาจจะเรียกว่า Daydot) คือ เป็นเครื่องมือที่ใช้ในการจัดระบบวัตถุดิบที่จะนำมาใช้ประกอบอาหาร โดยในสติกเกอร์จะมีหัวข้อให้ผู้ใช้ระบุข้อมูลเกี่ยวกับวัตถุดิบนั้น ๆ เช่น วัตถุดิบคืออะไร ผลิตวันไหน หมดอายุเมื่อไหร่ และใครเป็นคนเปิดใช้ เพื่อป้องกันการนำวัตถุดิบที่ไม่ปลอดภัยมาใช้ในการบริโภค ตัวอย่างข้อมูลที่ควรมีบนสติกเกอร์ติดอาหาร: 1.ชื่อผลิตภัณฑ์ (Product) เพื่อบ่งบอกว่าผลิตภัณฑ์นั้น คืออะไร 2.การจัดเก็บ (Type) : มีการจัดเก็บแบบไหน เช่น แช่แข็ง (Frozen) แช่เย็น (Chiller) หรือเก็บในอุณหภูมิห้อง (Ambient) 3.วันที่ผลิต (Product Date) 4.เวลาผลิต (Production Time) 5.วันที่หมดอายุ (Expiry Date) […]

ข้อดีของการเปิดร้านอาหารในศูนย์การค้า

รวม ข้อดีของการเปิดร้านอาหารในศูนย์การค้า ที่คุณคาดไม่ถึง!

ปัจจุบันมีผู้ประกอบการที่เริ่มหันมาเปิดธุรกิจอาหารมากมาย ซึ่งภาพรวมตลาดอาหารในประเทศไทยยังคงเป็นธุรกิจที่น่าสนใจและมีแนวโน้มที่ยังไปต่อได้ในอนาคต และการเปิดร้านในศูนย์การค้า ก็เป็นอีกหนึ่งช่องทาง ที่ผู้ประกอบการหน้าใหม่เริ่มให้ความสนใจกันมาก เพราะเป็นสถานที่ ที่มีผู้มาใช้บริการอย่างต่อเนื่อง เพื่อพบปะ สังสรรค์ ผักผ่อน และรับประทานอาหาร ศูนย์การค้าจึงเป็นอีกหนึ่งแหล่งรวมร้านอร่อย ร้านดังไว้มากมาย ข้อดีของการเปิดร้านอาหารในศูนย์การค้า มีอะไรบ้าง? ทำไมถึงดึงดูดเจ้าของร้านอาหารได้ มาดูกัน   ข้อดีของการเปิดร้านอาหารในศูนย์การค้า Branding แน่นอนว่า เมื่อร้านของคุณได้เข้ามาเปิดขายภายในศูนย์การค้า ก็เหมือนเป็นการสร้าง Branding ให้กับร้าน เกิดภาพลักษณ์ที่ดีให้กับแบรนด์ของคุณ และสร้างความน่าเชื่อถือให้กับผู้บริโภคได้ด้วย รวมถึง ผู้ใช้บริการมีโอกาสเห็นร้านของคุณได้มากกว่า ด้วยปริมาณผู้มาใช้บริการในศูนย์การค้าที่มีจำนวนมาก และมีมาใช้บริการในทุกๆวัน จึงอาจจะทำให้มีโอกาสที่ลูกค้าจะได้รู้จักร้านของคุณมากขึ้น   Traffic ศูนย์การค้าจะมีการเก็บข้อมูลในแง่ของ Traffic ในทุกๆโซน ดังนั้น ร้านค้าที่จะมาเปิดร้านก็จะสามารถวิเคราะห์ได้ว่าจะจับกลุ่มลูกค้าในโซนนี้ได้อย่างไร จำนวนลูกค้ากี่เปอร์เซ็นต์ที่มีโอกาสจะเข้ามาในร้านได้ เช่น เปิดร้านอาหาร ศูนย์การค้าก็จะมีข้อมูลซัพพอร์ท กับทางร้านว่า บริเวณโซนหน้าโรงภาพยนตร์มี Traffic ประมาณเท่าไหร่ ร้านก็จะสามารถนำไปวิเคราะห์ต่อว่า จะจับกลุ่มลูกค้าให้ได้กี่เปอร์เซ็นต์ของลูกค้าทั้งหมด ก็จะสามารถนำไปต่อยอดการประเมินยอดขายที่ควรได้ต่อวันอีกด้วย   Facility สิ่งอำนวยความสะดวกที่ว่านี้ ก็คือในแง่ของลูกค้าที่จะมาใช้บริการร้านของคุณ ซึ่งการที่ร้านอาหารของคูณอยู่ภายในศูนย์การค้านั้น ลูกค้าก็จะได้รับความสะดวกสบายไปด้วย เช่น […]

เทคโนโลยีดิจิตอล ตัวช่วยร้านอาหารยุคใหม่

  ระบบจัดการร้าน POS ระบบบริหารจัดการร้าน  POS ที่เจ้าของร้านอาหารหลายร้านนำมาใช้เพื่อบันทึกยอดขายหน้าร้าน   ซึ่งในปัจจุบันได้พัฒนาให้รองรับการบริหารจัดการร้าน และสนับสนุนในด้านการตลาดด้วยฟังค์ชั่นที่ทำได้มากกว่าการแค่บันทึกยอดขาย หรือการจัดการที่นั่ง นั่นก็คือ การมีระบบหลังบ้านที่ช่วยบันทึกและประมวลผล ซึ่งสามารถดูได้แบบเรียลไทม์ ยกตัวอย่าง เช่น เมนูขายดี ช่วงเวลาขายดี จำนวนการซื้อต่อหัว จำนวนบิล การจัดการโปรโมชั่น และการเชื่อมต่อเพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าที่มากขึ้นได้ เช่น เดลิเวอร์รี่ การสั่งเมนูล่วงหน้า ที่เป็นประโยชน์ต่อร้านในการบริหารจัดการเมนู และการตลาด แต่ทราบไหมว่าการใช้ POS ปัจจุบันร้านอาหารหลายร้านยังใช้คุณสมบัติพิเศษของ POS ได้ไม่เต็มที่ เช่น  ความสามารถในด้านการประมวล ข้อมูลด้านต้นทุนต่อเมนู  ที่ POS สามารถบันทึก คำนวณผลกำไร การสูญเสีย รวมถึงสามารถใช้การบริหารวัตถุดิบ เพื่อจัดการสั่งซื้อได้โดยอัตโนมัติ ซึ่งจะช่วยแก้ปัญหาวัตถุดิบขาด ต้องเสียต้นทุนแฝงในการไปซื้อในกรณีเร่งด่วนได้ ซึ่งหากร้านของคุณมีการจัดทำข้อมูลด้านต้นทุน หรือการทำ Recipe ที่ดีอยู่แล้ว ก็ไม่ควรพลาดโอกาสที่จะใช้คุณสมบัติสำคัญนี้ด้วย ระบบ  POS นับว่าเป็นระบบที่สามารถรวบรวมข้อมูลที่จำเป็นพื้นฐานต่อการบริหารให้ได้กำไรสูงสุดต่อร้านอาหารในปัจจุบัน เพราะฉะนั้นถ้าคุณเป็นร้านที่ใช้ระบบ POS อยู่แล้วควรให้ความสำคัญกับการใช้ฟีเจอร์ต่าง ๆ ให้เป็นประโยชน์สูงสุด […]

Follow Me

Contact

เว็บไซต์ : amarinacademy.com
บริษัท เอเอ็มอี อิมเมจิเนทีฟ จำกัด
ในเครือ บริษัท อมรินทร์ คอร์เปอเรชั่นส์ จำกัด (มหาชน)
Tel : 02-422-9999 ต่อ 4662 หรือ 4669, 092-254-0742
Email : amarin.academy@gmail.com

ติดต่อแจ้งปัญหาหรือร้องเรียน
02-422-9999 ต่อ 4180
(จันทร์ – ศุกร์ เวลา 09.00 – 18.00 น)
bdcx@amarin.co.th

สนใจลงโฆษณากับเว็บไซต์ Amarin Academy
Tel. 081-664-0666, 091-729-8060
E-mail : sineenart_ya@amarin.co.th

© COPYRIGHT 2024 AME IMAGINATIVE COMPANY LIMITED.