ยาเสน่ห์ทำให้ลูกค้ารัก! ลูกค้าหลง! - Amarin Academy

ยาเสน่ห์ทำให้ลูกค้ารัก! ลูกค้าหลง!

ยาเสน่ห์ทำให้ลูกค้ารัก! ลูกค้าหลง!

by อ.ปฤณ

ในปัจจุบันนี้พฤติกรรมของผู้บริโภค Customer Behavior เปลี่ยนแปลงไป สิ่งที่เปลี่ยนตามมาและเป็นสิ่งที่สำคัญมากๆ ในการทำการตลาดที่เจ้าของธุรกิจหรือนักการตลาดส่วนใหญ่ต้องรู้นั่นคือ เส้นทางการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภค (Customer Journey) ที่เปลี่ยนไป โดยเฉพาะในธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม ที่การแข่งขันในตลาดสูงขึ้นมากๆ ยกตัวอย่างเช่น ในการทำร้านอาหารสมัยก่อน เจ้าของร้านอาหารหรือร้านกาแฟส่วนใหญ่ จะโฟกัสที่การเลือกทำเล อยู่ริมถนน คนผ่านไปผ่านมา ขับรถแล้วมองเห็นได้ง่าย ชัดเจน สร้างการรับรู้ Awareness จากป้ายหน้าร้าน และลูกค้าส่วนใหญ่จะจำว่าตรงบริเวณนี้มีร้านอาหารร้านนี้อยู่ พอถึงวันที่เขาเริ่มรู้สึกหิวหรืออยากทานอาหารประเภทนี้ก็จะตั้งใจขับตรงมา ทำให้ร้านอาหารที่อยู่ในซอยลึกๆ หรือเป็นซอยตันไม่มีรถผ่าน ถึงแม้จะจอดรถง่ายหรืออาหารอร่อยแค่ไหนกลับไม่สามารถสู้กับร้านอาหารที่ตั้งอยู่ริมถนนใหญ่ได้

แต่ปัจจุบันทำเลที่ตั้งหรือ Location ยังสำคัญ ในเรื่องความสะดวกสบายของลูกค้าที่สังเกตุง่าย ขับรถมาสะดวก เพราะในยุคนี้ Awareness เราสามารถสร้างบนออนไลน์ ผ่านเครื่องมือต่างๆ เช่น Facebook และ Google ได้ ทำให้ลูกค้ารับรู้ รู้จักและอยากทาน โดยตั้งใจขับรถตรงมาทานอาหารที่ร้าน และเมื่อเขามาทานที่ร้าน อาหารอร่อย บริการดี เขาก็จะประทับใจกลายเป็นลูกค้าประจำ เป็นสาวกที่รักร้านอาหารและไปบอกต่อ รีวิว ชวนเพื่อนๆ เขาให้มาทานร้านนี้เช่นเดียวกัน ดังนั้นในยุคปัจจุบันนี้ Trademark หรือเครื่องหมายการค้านั้นยังสำคัญ แต่ไม่สำคัญเท่า Lovemark หรือการสร้างแบรนด์ สร้างภาพจำ สร้างพื้นที่ภายในจิตใจของกลุ่มลูกค้าเรา

การสร้าง Lovemark ให้ธุรกิจของเรา โดยเฉพาะธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม การตลาดก็ไม่ต่างไปจากการจีบผู้หญิง มีทั้งหมด 4 ขั้นตอนง่ายๆ

  • See you : ขั้นแรก ไม่ว่าร้านอาหารเราจะอร่อยแค่ไหน บริการดีแค่ไหนจะไม่มีประโยชน์เลยถ้าลูกค้าไม่เคยเห็น หรือรู้จักเรา เปรียบเหมือนผู้ชายหล่อๆ คนนึงอยากจีบผู้หญิงให้มารักเรา แต่อยู่บ้านเล่นกล้าม อ่านหนังสือ ใส่สูทผูกเนคไท แต่ผู้หญิงคนนั้นไม่เคยเจอเราเลย คงไม่มีทางจีบติด ในการทำธุรกิจก็เช่นกัน ขั้นแรกเราต้องให้ลูกค้าเจอเราให้ได้ก่อน
  • Remember you : หลังจากลูกค้ารู้จักเราแล้ว เคยเห็นร้านเราแล้วแต่ยังไม่มาทาน ในวันนั้นเขาอาจจะยังไม่หิว หรือยังไม่อยากทานอาหารประเภทนี้ แต่เมื่อเขาเห็นเราบ่อยๆขึ้น เราสามารถสร้างภาพจำ จนเขาจำเราได้ผ่านการสร้าง Branding เมื่อถึงวันนึงที่เขาอยากทานอาหารประเภทนี้ขึ้นมา เขาอาจจะแวะมาชิมอาหารที่ร้านเราก็ได้
  • Understand you : แต่สุดท้ายถึงแม้ลูกค้าจะจำร้านเราได้ แต่เขายังไม่เข้าใจว่าร้านเราขายอะไร หรือสินค้าบริการของเราจะเข้าไปช่วยแก้ปัญหาหรือเติมเต็มความอยากอะไรของเขาได้ เขาจะไม่มีวันมาซื้อ การจีบสาวก็เช่นกัน ตราบใดที่ผู้ชายยังไม่สามารถทำให้ผู้หญิงคนนั้นเข้าใจได้ว่ามาคบกันแล้วเขาจะได้อะไรหรือชีวิตจะดีขึ้นอย่างไร ก็คงยังไม่มีทางที่จะได้ผู้หญิงคนนั้นมาเป็นแฟน กระบวนการสื่อสารให้ลูกค้าเข้าใจนี้คือการสร้าง Content ที่มีประสิทธิภาพ
  • Love you : สุดท้ายของกระบวนการที่สำคัญที่สุด หลังจากที่ลูกค้ามาทานอาหารที่ร้านเราแล้วที่เจ้าของร้านส่วนใหญ่มักจะหลงลืมก็คือ การกระตุ้นยอดซื้อซ้ำ ดูแลเขาให้ดี ให้เขารักเรายิ่งๆขึ้น ให้เขากลายเป็นสาวกบอกต่อแทนเรา นั่นคือการตลาดในยุคนี้การทำ PR ไม่สำคัญเท่าการทำ CRM นั่นเอง เป็นขั้นตอนสุดท้ายที่สำคัญที่สุดในการทำ Lovemark Marketing

สุดท้ายนี้อย่ามัวแต่พัฒนาสูตรอาหารหรือบริการจนลืมทำการตลาด หรือทำการตลาด ประชาสัมพันธ์มากเกินไปจนลืมการดูแลรักษาลูกค้าประจำ เพราะในยุคนี้ลูกค้าใหม่ๆไม่เชื่อในสิ่งที่เจ้าของร้านพูดหรือลงโฆษณา ว่าร้านอาหารตัวเองอร่อยมากแค่ไหน ได้รางวัลอะไรมาบ้าง ไม่สำคัญเลย เพราะลูกค้าส่วนใหญ่เชื่อสิ่งที่ลูกค้าด้วยกันรีวิวและบอกต่อ นี่คือ Content ประเภทหนึ่งที่ชื่อ UGC หรือ User Generate Content นั่นเอง

เรื่องแนะนำ

โปรโมทร้าน

7 เคล็ดลับ ทำอย่างไรให้ลูกค้าเต็มใจ โปรโมทร้าน 

สมัยนี้รีวิวร้านอาหารในโซเชียลมีเดียมีผลต่อการตัดสินใจของลูกค้าอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นรีวิวร้านอาหารในเฟซบุ๊ก หรือรูปร้านสวยๆ ในอินสตาแกรม ก็สามารถทำให้คนที่เห็นสนใจ อยากจะตามไปลองด้วยตัวเอง แม้แต่ความเห็นในเว็บรีวิวร้านอาหารต่างๆ ร้านไหนได้รับการรีวิวดี โอกาสที่ลูกค้าจะเลือกเข้ามาที่ร้านก็จะสูงตามไปด้วย บางร้านอาจจะ โปรโมทร้าน โดยลงทุนจ้าง Influencers แต่อีกตัวเลือกหนึ่งก็คือการรีวิวจากลูกค้าจริงที่มาใช้บริการ ถ้าร้านของเรามีความน่าประทับใจ ลูกค้าก็พร้อมที่จะถ่ายรูปเพื่อแชร์ลงในโซเชียลมีเดียอยู่แล้ว ซึ่งเป็นการบอกต่อโดยที่ร้านไม่ต้องเสียค่าโฆษณาเลย และยังดูมีความน่าเชื่อถือมากกว่าการจ้างคนมารีวิวอีกด้วย  วันนี้เราจึงมีเทคนิคดีๆ ที่คุณสามารถทำให้ร้านได้รับการโปรโมทจากลูกค้าโดยไม่ต้องซื้อโฆษณามาฝากกันนะคะ   7 เคล็ดลับ ทำให้ลูกค้าเต็มใจ โปรโมทร้าน    จัดจานเสิร์ฟให้ปัง ลองเพิ่มจุดเด่นให้แก่ร้านด้วยการตกแต่งจานให้สร้างสรรค์ คิดเมนูฟิวชั่นใหม่ๆ หรือเลือกเสิร์ฟอาหารให้น่าสนใจ เพื่อให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์ที่แตกต่างจากร้านอื่น กระตุ้นให้ลูกค้าเก่ากลับมาใช้บริการ และลูกค้าใหม่อยากมาลองสักครั้งในชีวิต ตัวอย่างเช่น อาหารจานยักษ์ที่เพิ่มปริมาณให้มากขึ้น สร้างความท้าทายแก่ลูกค้าและต้องชวนกันมากินหลายๆคน หรือกะเพราถาด ที่นำข้าวกะเพราแบบเดิมๆ มาเสิร์ฟในถาดก็สร้างความประทับใจแก่ลูกค้าขึ้นมาได้แล้วค่ะ ร้านสวยจนต้องแชร์ เพราะร้านอาหารไม่ใช่แค่ที่ทานข้าว แต่ยังเป็นที่ถ่ายรูปเช็คอินเพื่อโชว์ไลฟ์สไตล์ของตัวเองให้โลกรู้อีกด้วย ร้านที่มีธีมน่าสนใจหรือตกแต่งร้านสวยงาม มักจะมีคนแวะมาถ่ายรูปแชร์ลงในโซเชียลมีเดีย รวมถึงมีลูกค้าใหม่ๆ มาลองใช้บริการมากขึ้นตามไปด้วย แนะนำให้ใส่ใจตั้งแต่ป้ายของร้าน ชื่อร้านควรอ่านได้ง่าย ประตูร้านสวยงามดูแล้วประทับใจอยากแวะเข้ามาในร้าน มีมุมเก๋ๆ ให้ลูกค้าได้ถ่ายรูป ถ้าร้านขนาดเล็กลองใช้สีโทนสว่าง และติดหน้าต่างขนาดใหญ่เพื่อให้ร้านดูกว้างขึ้น และยังทำให้ถ่ายรูปได้แสงธรรมชาติสวยๆ อีกด้วย ลองเลือกปรับตามธีมของร้านและกลุ่มลูกค้าของคุณ เพื่อเพิ่มโอกาสที่ลูกค้าจะมาเช็กอินโปรโมทร้านดูนะคะ […]

4 วิธีเจาะกลุ่มลูกค้าคนจีน

นักท่องเที่ยวจีน ถือเป็นกลุ่มลูกค้าที่น่าจับตาเพราะเป็นตลาดขนาดใหญ่ มีกำลังซื้อสูง ฉะนั้นถ้าผู้ประกอบการจับตลาดนักท่องเที่ยวจีนได้ ก็สามารถสร้างยอดขายไม่ยาก

เริ่มธุรกิจจากก้าวเล็ก ๆ เปิดท้ายขายของหลังรถ ตัวเลือกการขาย ที่ทำให้ใกล้ลูกค้าได้มากขึ้น

เริ่มธุรกิจจากก้าวเล็ก ๆ เปิดท้าย ขายของหลังรถ ตัวเลือกการขาย ที่ทำให้เราใกล้ลูกค้าได้มากขึ้น เคยไหม ? อยากจะเริ่มต้นขายอาหาร แต่ก็อยากเริ่มจากจุดเล็ก ๆ ลงทุนไม่มาก ถ้าคิดว่าขายได้ ก็ค่อยขยับขยายต่อ วันก่อนแอดได้ไปสะดุดตากับโพสต์หนึ่งในกลุ่มขายของแถวบ้าน ที่เจ้าของร้านได้นำรถยนต์ส่วนตัวมาเปิดท้ายขายขนมและผลไม้ ซึ่งเดาว่าเธอน่าจะทำงานประจำ แล้วมาเปิดขายเวลาเลิกงาน เพราะไม่ได้มาทุกวัน ตอนได้เห็นก็เออน่ารักดี เอาของที่มีอยู่มาปรับใช้ และทำให้นึกถึงอีกร้านหนึ่งที่นำรถยนต์ส่วนตัวมาเปิดท้ายขายของเหมือนกัน และช่วงปีก่อนดังมากแต่ร้านนี้ขายส้มตำ มาวันนี้เขาก็ยัง ขายหลังรถ เหมือนเดิมนะ แต่ที่เพิ่มเข้ามาคือมีหน้าร้านในห้างฯ ด้วย ปังไหมล่ะ นี่จึงทำให้เห็นว่าแม้ว่าจะเริ่มจากก้าวเล็ก ๆ ก็ไม่ได้แปลว่าเราจะขยับขยายไม่ได้อีก มาถึงตรงนี้เห็นคนใช้รถมาขายของ แล้วหันมามองดูรถตัวเอง เราก็มีต้นทุนนี่นา งั้นวันนี้เราลองมาดูว่าถ้าเราอยากจะ เปิดท้ายขายของ บ้าง จะต้องคำนึงถึงอะไรบ้าง? การขายท้ายรถเป็นยังไง? การขายท้ายรถที่ว่านี้ เป็นการเอารถมาเปิดท้ายทำเป็นหน้าร้าน โดยนำเอาสินค้าและอุปกรณ์ต่าง ๆ มาจัดวางในบริเวณที่วางสัมภาระหลังรถ และใช้วิธีการไปจอดขายยังสถานที่หนึ่ง ๆ ที่สามารถจอดได้ โดยร้านอาจมีจุดจอดประจำเพื่อให้ลูกค้าจำได้ ว่าร้านจะขายอยู่ตรงนี้ หรืออาจใช้การกำหนดจุดจอดในแต่ละวัน แล้วอาศัยวิธีบอกให้ลูกค้าที่มาซื้อทราบ หรือแจ้งผ่านทางช่องทางต่าง ๆ แทน […]

คู่แข่งร้านอาหาร

Marketing Collaboration สร้างพันธมิตรจาก คู่แข่งร้านอาหาร

“Marketing Collaboration”  สร้างพันธมิตรจาก คู่แข่งร้านอาหาร ในช่วงหลายปีมานี้ ถือเป็นยุคแห่งการ Collaboration หรือการจับมือกันของธุรกิจอาหาร เราจะเห็นหลาย ๆ แบรนด์สร้างสินค้าหรือโปรโมชั่นใหม่ร่วมกัน ทำให้เกิดความแปลกใหม่ในวงการธุรกิจอาหารมากยิ่งขึ้น เป็นการสร้างพันธมิตรจาก คู่แข่งร้านอาหาร ซึ่งการร่วมมือกันระหว่างธุรกิจอาหารนี้ มีประโยชน์มากมาย ดังนี้ สร้างความน่าสนใจและให้ประสบการณ์ใหม่ๆ กับผู้บริโภค ปลุกกระแสทางการตลาดให้เป็นไวรัล และได้รับการพูดถึงในวงกว้าง แลกเปลี่ยนกลุ่มลูกค้าระหว่างแบรนด์ ขยายฐานลูกค้าใหม่ๆ ลดการแข่งขัน และเพิ่มพันธมิตรทางการค้า ทำให้แบรนด์ดูทันสมัย และเข้าถึงกลุ่มลูกค้ารุ่นใหม่มากขึ้น ใช้จุดแข็งของพาร์นเนอร์มาชดเชยจุดอ่อนของแบรนด์ตัวเอง   เหล่านี้ถือเป็นกลยุทธ์ที่กำลังมาแรงทีเดียว กับการสร้างพันธมิตรจาก คู่แข่งร้านอาหาร เราลองมาดูตัวอย่างความร่วมมือในธุรกิจอาหารที่น่าสนใจกัน ว่ามีแบรนด์ไหน จับมือกับแบรนด์ไหนบ้าง   4 Case Study: เปลี่ยนคู่แข่งเป็นคู่ค้าร้านอาหาร Bar B Q Plaza X Pizza Hut ในปีที่ผ่านมา บาร์บีคิวพลาซ่าและพิซซ่าฮัท ได้จัดแคมเปญและออกเมนูฟิวชั่นร่วมกัน โดยทางร้านบาร์บีคิวพลาซ่าจะมีเมนูหมูที่เสิร์ฟแบบใหม่บนถาดพิซซ่า เครื่องเคียงแบบพิซซ่าและน้ำจิ้มใหม่ ส่วนร้านพิซซ่าฮัท ก็มีพิซซ่าหน้าหมูบาร์บิกอนในซอสใหม่ เป็นการรวมจุดเด่นของทั้งสองแบรนด์เข้าด้วยกัน สร้างความตื่นเต้นแก่ลูกค้า และเกิดเป็นกระแสในโซเชียลมีเดียในช่วงนั้นได้  […]

Follow Me

Contact

เว็บไซต์ : amarinacademy.com
บริษัท เอเอ็มอี อิมเมจิเนทีฟ จำกัด
ในเครือ บริษัท อมรินทร์ คอร์เปอเรชั่นส์ จำกัด (มหาชน)
Tel : 02-422-9999 ต่อ 4662 หรือ 4669, 092-254-0742
Email : amarin.academy@gmail.com

ติดต่อแจ้งปัญหาหรือร้องเรียน
02-422-9999 ต่อ 4180
(จันทร์ – ศุกร์ เวลา 09.00 – 18.00 น)
bdcx@amarin.co.th

สนใจลงโฆษณากับเว็บไซต์ Amarin Academy
Tel. 081-664-0666, 091-729-8060
E-mail : sineenart_ya@amarin.co.th

© COPYRIGHT 2025 AME IMAGINATIVE COMPANY LIMITED.