วิธี เพิ่มยอดขายร้านอาหาร จากลูกค้าที่มาคนเดียว - Amarin Academy

วิธี เพิ่มยอดขายร้านอาหาร จากลูกค้าที่มาคนเดียว

วิธี เพิ่มยอดขายร้านอาหาร จากลูกค้าที่มาคนเดียว

“ร้านอาหารของผม ส่วนใหญ่ลูกค้ามักมาคนเดียว สั่งอาหารอย่างเดียว มีวิธีเพิ่มยอดขายยังไงบ้าง ?” ไม่กี่วันมานี้มีลูกเพจทักเข้ามาใน Inbox เฟซบุ๊กเพื่อขอคำปรึกษาในเรื่องนี้ ซึ่งเราเชื่อว่าร้านอาหารหลายๆ ร้านต้องประสบปัญหานี้เช่นกัน เพราะการที่ลูกค้ามาคนเดียว สั่งอาหารแค่จานเดียว หมายถึงยอดขายของคุณย่อมน้อยลง (แทนที่โต๊ะหนึ่งนั่งได้ 2 – 4 คน กลับขายอาหารได้แค่จานเดียว) เราจึงขอแชร์ วิธีเพิ่มยอดขายร้านอาหาร จากลูกค้าที่มาคนเดียว ให้รู้กัน เผื่อนำไปปรับใช้เพื่ออัพยอดขายได้

1.จัดเซ็ตเมนูสุดคุ้ม

การจัดเซ็ตเมนูถือเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ เพราะทำให้ลูกค้ารู้สึกคุ้มค่า และยินดีจ่ายในราคาที่สูงขึ้นโดยไม่รู้สึกอึดอัดใจ เช่น แทนที่คุณจะนำเสนอเมนูเดี่ยวๆ เช่น สปาเก็ตตี้ขี้เมา จานละ 79 บาท ก็เพิ่มการจัดเซ็ตสุดคุ้ม อาหารจานหลักบวกของว่าง หรืออาหารจานหลักบวกเครื่องดื่ม เช่น สปาเก็ตตี้ขี้เมาคู่กับของชีสบอล ราคา 109 บาท ลูกค้าก็จะรู้สึกว่าคุ้มค่ามากขึ้น เพิ่มแค่ 30 บาท ก็ได้ของว่างเพิ่ม

แต่ชีสบอลที่คุณจับคู่เซ็ตเมนู ไม่จำเป็นต้องเป็นไซส์ปกติ แต่ปรับไซส์ให้เล็กลง เพื่อให้ลูกค้าไม่อิ่มจนเกินไป รวมทั้งไม่ทำให้ต้นทุนของคุณพุ่งสูง แต่คุณต้องแจ้งลูกค้าให้ชัดเจนเรื่องของขนาดด้วย เช่น อาจถ่ายภาพให้เห็นว่าจำนวนของชีสบอลมีจำนวนน้อยกว่า หรือวงเล็บไว้ว่าไซส์ S เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาในภายหลัง

2.เสนอขายเครื่องดื่ม

เครื่องดื่มถือเป็นเมนูทำกำไรสำหรับร้านอาหาร ฉะนั้นเวลารับออร์เดอร์เครื่องดื่ม ไม่ควรถามว่า “รับน้ำอะไรดีคะ” เพราะส่วนใหญ่คำตอบที่ได้รับคือ “น้ำเปล่า” ซึ่งกำไรน้อยมาก เมื่อเทียบกับเครื่องดื่มที่คุณทำเอง ดังนั้นลองเทรนด์พนักงานใหม่ โดยใช้คำพูดที่ดึงดูดใจมากขึ้น เช่น “เครื่องดื่มวันนี้ เรามีน้ำใบเตยนะคะ เพิ่งต้มเสร็จเมื่อกี้เลย หอมมาก หวานกำลังดีเลย รับสักแก้วนะคะ” เพียงเท่านี้จากเดิมที่อาจจะขายน้ำเปล่าได้ขวดละ 10 บาท คุณก็จะขายน้ำใบเตยได้ในราคาแก้วละ 29 บาทแล้ว

3.ปรับปริมาณให้น้อยลง เพื่อให้สั่งได้หลากหลาย

หนึ่งในปัญหาสำคัญที่ลูกค้ามักสั่งอาหารจานเดียวเพราะกลัวสั่งมาแล้วกินไม่หมด ฉะนั้นไม่ว่าคุณจะพยายามเสนอขาย หรือทำเมนูอร่อยเด็ดขนาดไหน เขาก็สั่งแค่จานเดียว

ทางแก้ง่ายๆ คือ ปรับไซส์ของเมนูให้น้อยลง โดยอาจระบุว่าเป็นไซส์สำหรับคนช่างเลือก ปรับปริมาณน้อย จะได้รับประทานอาหารที่หลากหลาย เช่น เดิมร้านคุณอาจจะตั้งราคาสเต๊กเนื้อในราคา 109 บาท แต่สำหรับลูกค้าที่มาคนเดียว อาจทำเมนูใหม่ปรับไซส์เล็กลง โดยจับคู่สเต๊กเนื้อ x สเต๊กปลา และจ่ายในราคา 149 บาท เป็นต้น

แต่ข้อควรระวังคือ ไม่ควรปรับปริมาณให้น้อยลง แล้วแยกขายเป็นเมนูเดี่ยวๆ พร้อมลดราคา เพราะลูกค้าบางคนอาจสั่งแค่จานเดียว ซึ่งทำให้เขาไม่อิ่ม ไม่คุ้มค่า (รู้สึกว่าได้น้อยเกินไป) และร้านเราก็ได้ยอดขายน้อยลงตามไปด้วย

4.แนะนำเมนูของว่างและของหวาน

เมนูของว่างและของหวานเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยในการเพิ่มยอดขายได้เช่นกัน โดยช่วงที่รับออร์เดอร์ อาจเทรนด์ให้พนักงานเสนอเมนูของว่างให้ลูกค้ารับประทานเล่นระหว่างรออาหารจานหลัก เช่น “เมนูของว่างของเราวันนี้คือเปาะเปี๊ยะชาววัง ลูกค้ามาท่านเดียว ถ้ากลัวทานไม่หมดสามารถสั่งไซส์เล็กได้นะคะ รับสักจานระหว่างรออาหารจานหลักไหมคะ”

หรือลองสังเกตตอนที่ลูกค้าใกล้รับประทานอาหารเสร็จ พนักงานควรเดินเข้าไปสอบถามความพึงพอใจ พร้อมเสนอเมนูของหวานตบท้าย เช่น “ขออนุญาตเสนอเมนูของหวานประจำวันนี้ค่ะ เรามีกล้วยบวชชีกะทิคั้นสด กล้วยเราปลูกจากหลังร้านนี้เอง ลองทานดูไหมคะ รับรองว่าอร่อยแน่นอน”

4 เทคนิคนี้เป็นวิธีง่ายๆ ที่จะช่วยเพิ่มยอดขายโดยที่ลูกค้าไม่รู้สึกอึดอัดใจ ลองนำไปปรับใช้กันดูนะ หรือถ้าใครมีไอเดียที่ดีกว่านี้ ก็แชร์มาใน Inbox ของเราได้เลย!

 

บทความที่น่าสนใจ

เพราะกล้าที่จะเปลี่ยน สูตรความสำเร็จของเชฟกิ๊ก ทายาทรุ่นที่ 3 ร้าน เลิศทิพย์

ถอดบทเรียน “ หม้อเบ้อเร่อ “ พลิกวิกฤติร้านเกือบเจ๊ง ให้กลับมาอยู่รอดอีกครั้ง

กรณีศึกษา Copper Buffet รับมือกับปัญหาที่ไม่คาดคิดอย่างไร ให้ชนะใจลูกค้า

5 วิธี เปิดเพลงในร้านอาหาร ไม่ให้ละเมิดลิขสิทธิ์

วิธี คำนวณต้นทุนร้านอาหาร ที่เจ้าของร้านต้องรู้! by คุณ ธามม์ ประวัติตรี

ร้านอาหาร กับ บริการเดลิเวอรี่ วางสมดุลไม่ดี ร้านขาดทุนได้

เทคนิคลับ พูดอย่างไรให้ ลูกค้าสั่งอาหารเพิ่ม

เรื่องแนะนำ

ธุรกิจอาหารเพื่อสุขภาพ

4 ความลับ ที่เจ้าของ ธุรกิจอาหารเพื่อสุขภาพ ต้องรู้

ใครคิดจะทำ ธุรกิจอาหารเพื่อสุขภาพ ต้องคิดให้ลึกมากกว่าเดิม เพราะตอนนี้ผู้บริโภคที่เป็นกลุ่มคนรักสุขภาพอาจไม่ได้ต้องการเพียงแค่อาหารคลีนๆ เหมือนเดิมแล้ว

เริ่มธุรกิจจากก้าวเล็ก ๆ เปิดท้ายขายของหลังรถ ตัวเลือกการขาย ที่ทำให้ใกล้ลูกค้าได้มากขึ้น

เริ่มธุรกิจจากก้าวเล็ก ๆ เปิดท้าย ขายของหลังรถ ตัวเลือกการขาย ที่ทำให้เราใกล้ลูกค้าได้มากขึ้น เคยไหม ? อยากจะเริ่มต้นขายอาหาร แต่ก็อยากเริ่มจากจุดเล็ก ๆ ลงทุนไม่มาก ถ้าคิดว่าขายได้ ก็ค่อยขยับขยายต่อ วันก่อนแอดได้ไปสะดุดตากับโพสต์หนึ่งในกลุ่มขายของแถวบ้าน ที่เจ้าของร้านได้นำรถยนต์ส่วนตัวมาเปิดท้ายขายขนมและผลไม้ ซึ่งเดาว่าเธอน่าจะทำงานประจำ แล้วมาเปิดขายเวลาเลิกงาน เพราะไม่ได้มาทุกวัน ตอนได้เห็นก็เออน่ารักดี เอาของที่มีอยู่มาปรับใช้ และทำให้นึกถึงอีกร้านหนึ่งที่นำรถยนต์ส่วนตัวมาเปิดท้ายขายของเหมือนกัน และช่วงปีก่อนดังมากแต่ร้านนี้ขายส้มตำ มาวันนี้เขาก็ยัง ขายหลังรถ เหมือนเดิมนะ แต่ที่เพิ่มเข้ามาคือมีหน้าร้านในห้างฯ ด้วย ปังไหมล่ะ นี่จึงทำให้เห็นว่าแม้ว่าจะเริ่มจากก้าวเล็ก ๆ ก็ไม่ได้แปลว่าเราจะขยับขยายไม่ได้อีก มาถึงตรงนี้เห็นคนใช้รถมาขายของ แล้วหันมามองดูรถตัวเอง เราก็มีต้นทุนนี่นา งั้นวันนี้เราลองมาดูว่าถ้าเราอยากจะ เปิดท้ายขายของ บ้าง จะต้องคำนึงถึงอะไรบ้าง? การขายท้ายรถเป็นยังไง? การขายท้ายรถที่ว่านี้ เป็นการเอารถมาเปิดท้ายทำเป็นหน้าร้าน โดยนำเอาสินค้าและอุปกรณ์ต่าง ๆ มาจัดวางในบริเวณที่วางสัมภาระหลังรถ และใช้วิธีการไปจอดขายยังสถานที่หนึ่ง ๆ ที่สามารถจอดได้ โดยร้านอาจมีจุดจอดประจำเพื่อให้ลูกค้าจำได้ ว่าร้านจะขายอยู่ตรงนี้ หรืออาจใช้การกำหนดจุดจอดในแต่ละวัน แล้วอาศัยวิธีบอกให้ลูกค้าที่มาซื้อทราบ หรือแจ้งผ่านทางช่องทางต่าง ๆ แทน […]

#ถอดบทเรียน BEARHOUSE ลงทุนเป็นแสน ทำเพลงให้ร้านชานม “Music Marketing” กลยุทธ์ที่ให้มากกว่าความเพลิดเพลิน

#ถอดบทเรียน BEARHOUSE ลงทุนเป็นแสน ทำเพลงให้ร้านชานม การสร้าง Brand Loyalty และอยากเป็น “เพื่อน” “Music Marketing” กลยุทธ์ที่ให้มากกว่าความเพลิดเพลิน เพราะเพลงมีอิทธิพลต่ออารมณ์และความรู้สึกของมนุษย์… สอง youtuber ดัง คุณกานต์ และคุณซารต์ เจ้าของแบรนด์ Bear House ได้ออกมาเล่าถึงแรงบันดาลใจในการทำเพลงหรือ BEARHOUSE Playlist เพื่อนำมาเปิดในร้าน โดยทั้งคู่ได้มาแชร์เรื่องราวของการทำเพลงนี้ ดังนี้ 🔸แรงบันดาลใจ💖 โดยคุณกานต์ และคุณซารต์ได้เล่าว่า จุดเริ่มต้นของการทำเพลงนี้ มาจากช่วงที่พวกเขาต้องทำงานอยู่บ้านหรือ Work frome Home นั้น ได้มีการเปิดเพลย์ลิสต์เพลงของแบรนด์สินค้าสุดมินิมอลอย่าง Muji ฟังอยู่ตลอด ซึ่งการฟังเพลงนี้ได้ทำให้เขารู้สึกราวกับว่าเขากำลังเลือกซื้อของอยู่ในร้าน Muji อะไรอย่างนั้นเลย อีกทั้งยังทำให้เขาเกิดความรู้สึกจงรักภักดีต่อแบรนด์ จนรู้สึกว่าถ้าไปห้างจะต้องแวะไปซื้อของที่ Muji ด้วย ทั้งนี้จึงทำให้พวกเขาเกิดแรงบันดาลใจว่าเมื่อเพลงของ Muji ทำให้เกิดความรู้สึกแบบนี้ได้ ก็อยากให้ Bear House มีเพลงที่ฟังแล้วสามารถคิดถึง Bear House […]

โกยเงินรับปีใหม่ สิ่งที่ร้านค้าควรปรับรับนักท่องเที่ยว

ผู้ประกอบการหลายคนถือเป็นหัวใจสำคัญของการทำธุรกิจก็คือ ทำอย่างไร?ให้ได้ “ยอดขาย” ตามที่ตั้งเอาไว้ ดังนั้นเรามี 4 เทคนิคง่ายๆ มาฝากกัน!!

Follow Me

Contact

เว็บไซต์ : amarinacademy.com
บริษัท เอเอ็มอี อิมเมจิเนทีฟ จำกัด
ในเครือ บริษัท อมรินทร์ คอร์เปอเรชั่นส์ จำกัด (มหาชน)
Tel : 02-422-9999 ต่อ 4662 หรือ 4669, 092-254-0742
Email : amarin.academy@gmail.com

ติดต่อแจ้งปัญหาหรือร้องเรียน
02-422-9999 ต่อ 4180
(จันทร์ – ศุกร์ เวลา 09.00 – 18.00 น)
bdcx@amarin.co.th

สนใจลงโฆษณากับเว็บไซต์ Amarin Academy
Tel. 081-664-0666, 091-729-8060
E-mail : sineenart_ya@amarin.co.th

© COPYRIGHT 2025 AME IMAGINATIVE COMPANY LIMITED.