เฟ้นหาผู้ประกอบการรุ่นใหม่ พัฒนาเมืองอัจฉริยะด้วยดิจิทัล ในโครงการ SMART CITY D - BOOST CAMP, (EEC FORUM) - Amarin Academy

เฟ้นหาผู้ประกอบการรุ่นใหม่ พัฒนาเมืองอัจฉริยะด้วยดิจิทัล ในโครงการ SMART CITY D – BOOST CAMP, (EEC FORUM)

โอกาสทองผู้ประกอบการภาคตะวันออกมาถึงแล้ว depa จับมือ สมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย และดูเรียน คอร์ปปอเรชัน จัดโครงการ SMART CITY D – BOOST CAMP, (EEC FORUM)

เฟ้นหาผู้ประกอบการรุ่นใหม่ผุดแนวคิดพัฒนาเมืองอัจฉริยะด้วยดิจิทัล เผยผู้ชนะจะได้นำเสนอธุรกิจในงานดิจิทัลไทยแลนด์บิ๊กแบง 2018

สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล หรือดีป้า (depa) กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ร่วมกับ สมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย และบริษัท ดูเรียน คอร์ปปอเรชัน จำกัด (DURIAN) จัดโครงการ SMART CITY D – BOOST CAMP, (EEC FORUM) เฟ้นหาและบ่มเพาะสร้างผู้ประกอบการรุ่นใหม่ในกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออก ได้แก่ ชลบุรี ระยอง และ ฉะเชิงเทรา ให้มีทักษะและศักยภาพด้านเทคโนโลยี การทำธุรกิจ และความคิดสร้างสรรค์ พร้อมมอบพื้นที่นำเสนอธุรกิจแก่ผู้มีไอเดียยอดเยี่ยม ในงาน Digital Thailand Big Bang 2018 งานด้านสตาร์ทอัพที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย

ดร.พันธ์ศักดิ์ ศิริรัชตพงษ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กล่าวถึงที่มาของการโครงการว่า สืบเนื่องจาก รัฐบาลให้ความสำคัญกับการพัฒนาเมือง เพื่อให้เกิดการกระจายความเจริญอย่างเท่าเทียมกันในทุกภูมิภาคของประเทศไทย ในส่วนของพื้นที่ต้องพัฒนาให้เมืองมีความน่าอยู่  เกิดการบริหารจัดการเมืองอย่างมีประสิทธิภาพ มีการเชื่อมโยงและบูรณาการระบบสาธารณูปโภครวมทั้งโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญ เพื่อให้ประชาชนอยู่ดีมีสุขอย่างยั่งยืน

นอกจากนี้การพัฒนาพื้นที่ระเบียงเขตเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) (จังหวัดชลบุรี ระยอง และฉะเชิงเทรา) เป็นแผนยุทธศาสตร์หลักภายใต้ไทยแลนด์ 4.0 ด้วยการพัฒนาเชิงพื้นที่ที่ต่อยอดความสำเร็จ ซึ่งจะเป็นการยกระดับอุตสาหกรรมของประเทศ เพิ่มความสามารถในการแข่งขัน และทำให้เศรษฐกิจของไทยเติบโตได้ในระยะยาวและยั่งยืน

การพัฒนาเมืองอัจฉริยะ (Smart City)  ในพื้นที่ดังกล่าว ซึ่งเป็นหนึ่งในโครงการสำคัญที่รัฐบาลให้การสนับสนุนผ่านสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล ผ่านกลไกและมาตรการด้านต่าง ๆ ของ depa เพื่อสร้างธุรกิจใหม่ด้านดิจิทัลที่สามารถตอบโจทย์การพัฒนาเมืองอัจฉริยะและเล็งเห็นถึงความสำคัญของประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นในภาพรวมเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตให้กับประชาชน โดยกลไกการทำงานร่วมกันระหว่างภาครัฐและเอกชน ในพื้นที่กลุ่มเป้าหมาย EEC

ดร.ณัฐพล นิมมานพัชรินทร์ ผู้อำนวยการ depa กล่าวว่า depa ได้ร่วมผลักดันโครงการ SMART CITY D – BOOST CAMP, (EEC FORUM) เพื่อให้เกิดแรงบันดาลใจในการพัฒนาแนวคิดธุรกิจดิจิทัลใหม่ๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวมและผลักดันศักยภาพของสตาร์ทอัพไทย ในการริเริ่มสร้างสรรค์นวัตกรรมและบริการด้านดิจิทัล ตลอดจนแผนธุรกิจที่สามารถขับเคลื่อนให้เกิดการพัฒนาเมืองอัจฉริยะได้อย่างเป็นรูปธรรม

โดย depa พร้อมให้การสนับสนุนด้วยมาตรการส่งเสริมและสนับสนุนเพื่อการพัฒนาอุตสาหกรรมและนวัตกรรมดิจิทัล เช่น การเริ่มต้นธุรกิจอุตสาหกรรมดิจิทัล การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อภาคธุรกิจอุตสาหกรรม

การร่วมวิจัย หรือการพัฒนาศักยภาพ กำลังคนและบุคคากรด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัล ตลอดจนการสร้างระบบนิเวศและปัจจัยที่เอื้อต่อการสร้างสรรค์ธุรกิจดิจิทัลให้สามารถมีศักยภาพและพร้อมในการแข่งขันในระดับสากล

อาทิ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัล การประกาศเขตส่งเสริมเมืองอัจฉริยะ และเกณฑ์การพิจารณาปรับปรุงกฎหมาย กฎระเบียบที่เป็นอุปสรรค หรือส่งเสริมการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ รวมถึงการทำ Regulatory Sandbox โดยศูนย์กลางพื้นที่ EEC คือ Digital Park และ IoT Institute ซึ่งจะเป็นแหล่งคิดค้นและทดสอบนวัตกรรมดิจิทัล โดยความร่วมมือจากทั้งภาครัฐและภาคเอกชน ซึ่งเป็นสิ่งที่ต้องศึกษา ทำความเข้าใจ เพื่อปรับตัวรองรับการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา นวัตกรรม เทคโนโลยี

“ความคิดสร้างสรรค์ เปรียบเหมือนอาวุธสำคัญในการสร้างความแตกต่างและโดดเด่นให้ธุรกิจ การทำธุรกิจรูปแบบใหม่จะช่วยขับเคลื่อนการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ ตลอดจนส่งเสริมเศรษฐกิจและคุณภาพชีวิตในทุกด้าน นอกเหนือจากความท้าทายทางการแข่งขันกับคู่แข่งแล้ว สิ่งที่สำคัญที่สุด คือการท้าทายศักยภาพของตนเอง การเรียนรู้และพัฒนาแบบบูรณาการ ทั้งด้านธุรกิจ การตลาด เทคโนโลยี นวัตกรรม ความคิดสร้างสรรค์ที่สอดคล้องกับเทรนด์ปัจจุบันและอนาคตจะทำให้การประกอบธุรกิจเติบโตและเป็นประโยชน์กับสังคมอย่างยั่งยืน” ผู้อำนวยการ depa กล่าว

ด้านนายโอฬาร วีระนนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ร่วมก่อตั้ง บจ. ดูเรียน คอร์ปปอเรชัน กล่าวว่าบริษัทฯ เห็นถึงความสำคัญของการลงทุนธุรกิจสตาร์ทอัพที่จะเข้ามาช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับเศรษฐกิจประเทศไทย เราจึงดำเนินงานเพื่อสนับสนุนกรพัฒนาศักยภาพของสตาร์ทอัพไทยมาโดยตลอด

โดยเชื่อมั่นว่าหากเกิดความร่วมมือกันระหว่างภาครัฐ เอกชน และภาคสังคม จะสามารถพัฒนาผู้ประกอบการสตาร์ทอัพให้แข็งแกร่งได้มากยิ่งขึ้น  SMART CITY D – BOOST CAMP, (EEC FORUM) จึงเกิดขึ้นเพื่อเป็นต้นแบบของประเทศไทย ในการมุ่งสร้างสตาร์ทอัพหรือผู้ประกอบการรุ่นใหม่ด้านเมืองอัจฉริยะ ใน 3 จังหวัดภาคตะวันออก

โดยเปิดโอกาสให้นิสิต นักศึกษา ผู้ประกอบการทั้งเอสเอ็มอีและสตาร์ทอัพ หรือประชาชนทั่วไปที่สนใจด้านเมืองอัจฉริยะ ได้มีโอกาสเข้าร่วมโครงการ รับการอบรม ลงมือปฏิบัติจริง ได้ความรู้ ประสบการณ์จากผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านอย่างใกล้ชิด เป็นเวลาตลอด 6 สัปดาห์ แนวคิดและแผนธุรกิจที่ได้รับการคัดเลือก จะได้นำเสนอความคิดในงาน “Digital Thailand Big Bang 2018” หนึ่งในงานด้านสตาร์ทอัพด้านดิจิทัลที่ใหญ่ที่สุดของประเทศไทย ตลอดจนมีโอกาสในการได้รับการสนับสนุนเพื่อต่อยอดธุรกิจโดย depa

ทั้งนี้ ผู้ได้รับการคัดเลือกเข้าร่วมโครงการ “SMART CITY D – BOOST CAMP, (EEC FORUM)” จะได้รับการอบรมเป็นเวลา 6 สัปดาห์ ภายใต้โครงสร้างการเรียนรู้ 6 โมดูล (Module) ได้แก่ 1. การจัดการเมืองอัจฉริยะ ทั้ง 6 ด้าน คือ Smart Governance, Smart Economy, Smart People, Smart Living, Smart Mobility, Smart Energy and Environment  2. การพิจารณาเกณฑ์ผู้ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจ 3.การพัฒนาโมเดลธุรกิจ 4. การทดสอบการใช้งานผลิตภัณฑ์หรือแนวคิดธุรกิจ 5.การนำเสนอ แลกเปลี่ยนความคิดสร้างสรรค์ร่วมกัน (Hackathon Day) และ 6.การฝึกฝนการนำเสนอแนวคิดและแผนธุรกิจ


โครงการ “SMART CITY D – BOOST CAMP, (EEC FORUM)” เปิดรับสมัครแล้ววันนี้ – 13 กรกฎาคม 2561 สามารถสมัครและดูรายละเอียดได้ที่เว็บไซต์ www.smartcity-dboostcamp.com Facebook: Smart City – D Boost Camp Line@: @dboostcamp โทร. 099-624-2932, 082-669-5000, 061-549-0666  

เรื่องแนะนำ

เปิดเพลงในร้านอาหาร

5 วิธี เปิดเพลงในร้านอาหาร ไม่ให้ละเมิดลิขสิทธิ์

ก่อนหน้านี้เรามักจะได้ยินข่าวอยู่บ่อยๆว่า ร้านอาหาร ร้านกาแฟ ที่เปิดเพลงต่างๆ ภายในร้านของตัวเอง ถูกดำเนินคดีในข้อหาละเมิดลิขสิทธิ์งานเพลง หรือแม้แต่ข่าวตัวศิลปินเอง ที่นำเพลงมาร้องก็ถูกดำเนินคดีเช่นกัน ต้องบอกเลยว่าในยุคปัจจุบันนี้ ปัญหาเรื่องลิขสิทธิ์เพลงเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นอยู่บ่อยครั้ง เพราะเป็นเรื่องที่ค่อนข้างซับซ้อน และมีรายละเอียดมาก ซึ่งเจ้าของร้านบางราย หรือตัวศิลปินที่นำเพลงมาร้องตามร้านนั้น อาจจะยังไม่เข้าใจถึงข้อกฎหมายในเรื่องลิขสิทธิ์เพลงที่ชัดเจนมากพอ วันนี้ Amarin Academy จะมาอธิบายให้ทราบว่า จะมีวิธี เปิดเพลงในร้านอาหาร อย่างไรไม่ให้ผิดกฎหมาย และหากถูกกล่าวหาว่าละเมิดลิขสิทธิ์งานเพลง ต้องทำอย่างไร มาดูกันค่ะ   5 วิธี เปิดเพลงในร้านอาหาร ไม่ให้ละเมิดลิขสิทธิ์ ตรวจสอบรายชื่อเพลงที่จะใช้เปิด ว่ามีบริษัทใดจัดเก็บค่าลิขสิทธิ์บ้าง ตรวจสอบได้ที่เว็บไซต์กรมทรัพย์สินทางปัญญา www.ipthailand.go.th เลือกใช้เพลงที่ศิลปินหรือค่ายเพลง ประกาศอนุญาตให้ใช้ได้โดยไม่เสียค่าลิขสิทธิ์ จำกัดการใช้งานเพลงเพื่อลดต้นทุนค่าลิขสิทธิ์ และลดปัญหาการถูกดำเนินคดี ตรวจสอบความเคลื่อนไหวของรายชื่อเพลงที่แจ้งจัดเก็บค่าลิขสิทธิ์ในเว็บไซต์กรมทรัพย์สินทางปัญญาอย่างต่อเนื่อง หากเกิดการละเมิดลิขสิทธิ์เพลง และต้องการจ่ายค่ายอมความจะต้องกระทำต่อหน้าเจ้าหน้าที่ตำรวจ และระบุรายชื่อเพลง และจำนวนเงินที่ยอมความในบันทึกยอมความไว้เป็นหลักฐานเสมอ   สำหรับทั้ง 5 คำแนะนำข้างต้น เจ้าของร้านที่จะ เปิดเพลงในร้านอาหาร ควรจะต้องรีบตรวจสอบเลยค่ะ ว่างานเพลงที่ใช้เปิดอยู่นั้นมีเจ้าของลิขสิทธิ์หรือไม่ และดำเนินการเจรจาค่าลิขสิทธิ์ให้ถูกต้องตามกฎหมาย ตัวเจ้าร้านเองก็จะได้สบายใจ ไม่ต้องกังวลว่าจะถูกดำเนินคดีค่ะ แต่ถ้าหากพูดถึงอีกหนึ่งกรณี […]

ไวรัสโคโรน่า

ไวรัสโคโรน่า (COVID-19) กระทบหนัก! ร้านอาหารปรับตัวอย่างไรในวิกฤตนี้

จากข่าวการแพร่ระบาดอย่างรวดเร็วของ ไวรัสโคโรน่า หรือ COVID-19 โรคติดต่ออันตรายที่กำลังแพร่ระบาดไปยังหลายประเทศทั่วโลก ซึ่งประเทศไทยก็เป็นหนึ่งในหลายๆประเทศ ที่มีผู้ป่วยติดเชื้อ รวมถึงผู้ที่เข้าเกณฑ์ต้องเฝ้าระวังที่ผ่านมานับพันราย และได้ประกาศให้โรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 หรือ COVID-19 เป็นโรคติดต่ออันตรายแล้ว จากเหตุการณ์นี้แน่นอนว่าย่อมส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการหลายรายในประเทศ รวมถึงผู้ประกอบการร้านอาหารก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน แล้วร้านอาหารต้องปรับตัวอย่างไรกับสถานการณ์นี้    ไวรัสโคโรน่า (COVID-19) กระทบหนัก! ร้านอาหารปรับตัวอย่างไรในวิกฤตนี้ ไวรัสกระทบร้านอาหาร เสียรายได้หลักหมื่นล้านบาท นักท่องเที่ยวที่น้อยลงส่งผลกระทบต่อร้านอาหารตั้งแต่ SME รายย่อยไปจนถึงรายใหญ่ ซึ่งข้อมูลจากศูนย์วิจัยธนาคารออมสินคาดการณ์ว่า หากประเทศไทยควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสได้ภายใน 3 เดือน ธุรกิจร้านอาหารและเครื่องดื่มในประเทศจะสูญเสียรายได้ไปแล้วประมาณ 16,000 ล้านบาท แต่หากสถานการณ์การแพร่ระบาดลากยาวไปจนถึง 6 เดือน อาจจะสูญเสียรายได้มากถึง 34,000 ล้านบาท    พฤติกรรมของลูกค้าที่เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง จำนวนลูกค้าต่างชาติที่ลดลงส่งผลอย่างมากต่อร้านอาหารในจังหวัดที่เป็นแหล่งท่องเที่ยว เช่น กรุงเทพฯ ชลบุรี  รวมถึงร้านอาหารริมทางหรือ Street Food ที่กระจายอยู่ในแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ นอกจากนี้ ลูกค้าคนไทยเองก็มีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเพื่อลดความเสี่ยงในการติดเชื้อ ได้แก่ หลีกเลี่ยงการออกไปในที่สาธารณะ และใช้เวลาที่บ้านมากขึ้น สั่งอาหารเดลิเวอรี่มากขึ้น เลือกทานอาหารในร้านที่คนไม่แออัด ซื้ออาหารสำเร็จรูปกลับไปทานที่บ้านแทน […]

สไปร์ท

สไปร์ท เปลี่ยนขวดสี เป็นขวดใส ผลักดันการรีไซเคิลพลาสติกครั้งสำคัญ

เชื่อว่าเครื่องดื่ม สไปร์ท ขวดสีเขียว เป็นเอกลักษณ์และภาพจำที่คุ้นเคยของคนทั่วโลก แต่ด้วยกระแสการหันมาใส่ใจเรื่องการใช้พลาสติกมากขึ้น หลายองค์กรเริ่มให้ความสำคัญและตื่นตัวกับเรื่องนี้ ล่าสุดบริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง โคคา-โคล่า ได้มีการประกาศเปลี่ยนบรรจุภัณฑ์ใหม่ของ “ สไปรท์ ” โดยเปลี่ยนมาใช้ขวดพลาสติกแบบใส แทนการใช้ขวดสีเขียวแบบเดิม ในภูมิภาคอาเซียน โดยการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญนี้ก็เพื่อให้สอดคล้องกับเทรนด์ของโลก ที่พยายามผลักดันในการตามเก็บและรีไซเคิลขวดพลาสติกพีอีที (Circular Economy)   สไปร์ท เปลี่ยนขวดสี เป็นขวดใส เครื่องดื่มสไปรท์จำหน่ายในตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ด้วยบรรจุภัณฑ์ขวดพลาสติกสีเขียวที่ผู้บริโภครู้จักดีมาตั้งแต่เปิดตัวครั้งแรกในฟิลิปปินส์เมื่อปี พ.ศ. 2511 และเพิ่งมีการปรับเปลี่ยนครั้งใหญ่ เนื่องด้วย The Coca-Cola Company ต้องการเดินหน้าโปรเจ็คตามวิสัยทัศน์ World Without Waste สานต่อความมุ่งมั่นเดินหน้าผลักดันการรีไซเคิลขวดพลาสติกเพื่อให้สามารถนำขวดพลาสติกเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิลได้ง่ายขึ้น และนำกลับมาใช้ใหม่ได้ต่อไป  ซึ่งก่อนหน้านี้กลุ่มธุรกิจโคคา-โคล่าในยุโรป ประสบความสำเร็จในการยกเลิกใช้ขวดพลาสติกสีเขียวสำหรับสไปรท์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ต่อไปก็จะเป็นการเดินหน้าในโซนภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยได้เริ่มเปลี่ยนบรรจุภัณฑ์เป็นขวดพลาสติกใสในประเทศฟิลิปปินส์ ซึ่งเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในเดือนพฤศจิกายนนี้ ส่วนประเทศอื่นๆ จะทยอยเปลี่ยนในปี 2563 สไปร์ท เปลี่ยนสีขวด ช่วยให้เกิดระบบเศรษฐกิจหมุนเวียน การเปลี่ยนมาใช้ขวดพลาสติกพีอีทีแบบใส แทนการใช้ขวดพลาสติกสีแบบเดิม ยังเป็นการช่วยเพิ่มมูลค่าบรรจุภัณฑ์หลังการบริโภคได้เป็นอย่างมาก เพราะสามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้อย่างไม่รู้จบ และเกิดเป็นระบบเศรษฐกิจหมุนเวียน ซึ่งการยกเลิกใช้บรรจุภัณฑ์เครื่องดื่มชนิดพลาสติกพีอีทีแบบสี คือข้อเสนอแนะสำคัญในรายงานการเร่งสร้างแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียนจากบรรจุภัณฑ์ขวดพีอีทีหลังการบริโภคในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ฉบับใหม่ อีกด้วย   […]

Food Trend Connect

สรุปประเด็นความรู้สำคัญ จากงาน Food Trend Connect 2019 โดย Amarin Academy

ผ่านพ้นไปแล้วกับงาน Amarin Academy 3rd Anniversary : Food Trend Connect 2019 งานครบรอบ 3 ปี ของ Amarin Academy คอมมูนิตี้เพื่อผู้ประกอบการร้านอาหาร ซึ่งบรรยากาศภายในงานเต็มไปด้วยความอบอุ่นและเป็นกันเอง ของเหล่าผู้ประกอบการธุรกิจอาหาร ที่มารวมตัวกันในงานนี้นับร้อยท่าน ซึ่งความตั้งใจของการจัดงานนี้เพื่อให้เหล่าผู้ประกอบการได้มารวมตัวกันเพื่อสร้าง connection ใหม่ๆ เพิ่มโอกาสในการต่อยอดธุรกิจ และอีกหนึ่งจุดประสงค์ของงานนี้ ก็เพื่อให้ทุกท่านได้มาอัพเดตข้อมูลความรู้ และเทรนด์ของธุรกิจอาหารในปี 2020 โดยผู้เชี่ยวชาญจากหลากหลายแขนง เจ้าของร้านอาหารชื่อดัง ที่มาแชร์ประสบการณ์ ปัญหาจริงๆ ในการทำร้าน  รวมถึงกลยุทธ์การปั้นคอนเทนท์ให้ปัง จาก Influencer จากเพจที่มียอดผู้ติดตามหลักล้าน เรียกว่าจัดเต็มส่งท้ายปีแบบไม่มีกั๊ก วันนี้เราจะมาสรุปประเด็นความรู้สำคัญ จากงาน Food Trend Connect 2019 โดย Amarin Academy สรุปประเด็นความรู้สำคัญ จากงาน Food Trend Connect 2019   โปรโมทร้านให้โดนใจ สไตล์ […]

Follow Me

Contact

เว็บไซต์ : amarinacademy.com
บริษัท เอเอ็มอี อิมเมจิเนทีฟ จำกัด
ในเครือ บริษัท อมรินทร์ คอร์เปอเรชั่นส์ จำกัด (มหาชน)
Tel : 02-422-9999 ต่อ 4662 หรือ 4669, 092-254-0742
Email : amarin.academy@gmail.com

ติดต่อแจ้งปัญหาหรือร้องเรียน
02-422-9999 ต่อ 4180
(จันทร์ – ศุกร์ เวลา 09.00 – 18.00 น)
bdcx@amarin.co.th

สนใจลงโฆษณากับเว็บไซต์ Amarin Academy
Tel. 081-664-0666, 091-729-8060
E-mail : sineenart_ya@amarin.co.th

© COPYRIGHT 2024 AME IMAGINATIVE COMPANY LIMITED.