เฟ้นหาผู้ประกอบการรุ่นใหม่ พัฒนาเมืองอัจฉริยะด้วยดิจิทัล ในโครงการ SMART CITY D - BOOST CAMP, (EEC FORUM) - Amarin Academy

เฟ้นหาผู้ประกอบการรุ่นใหม่ พัฒนาเมืองอัจฉริยะด้วยดิจิทัล ในโครงการ SMART CITY D – BOOST CAMP, (EEC FORUM)

โอกาสทองผู้ประกอบการภาคตะวันออกมาถึงแล้ว depa จับมือ สมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย และดูเรียน คอร์ปปอเรชัน จัดโครงการ SMART CITY D – BOOST CAMP, (EEC FORUM)

เฟ้นหาผู้ประกอบการรุ่นใหม่ผุดแนวคิดพัฒนาเมืองอัจฉริยะด้วยดิจิทัล เผยผู้ชนะจะได้นำเสนอธุรกิจในงานดิจิทัลไทยแลนด์บิ๊กแบง 2018

สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล หรือดีป้า (depa) กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ร่วมกับ สมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย และบริษัท ดูเรียน คอร์ปปอเรชัน จำกัด (DURIAN) จัดโครงการ SMART CITY D – BOOST CAMP, (EEC FORUM) เฟ้นหาและบ่มเพาะสร้างผู้ประกอบการรุ่นใหม่ในกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออก ได้แก่ ชลบุรี ระยอง และ ฉะเชิงเทรา ให้มีทักษะและศักยภาพด้านเทคโนโลยี การทำธุรกิจ และความคิดสร้างสรรค์ พร้อมมอบพื้นที่นำเสนอธุรกิจแก่ผู้มีไอเดียยอดเยี่ยม ในงาน Digital Thailand Big Bang 2018 งานด้านสตาร์ทอัพที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย

ดร.พันธ์ศักดิ์ ศิริรัชตพงษ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กล่าวถึงที่มาของการโครงการว่า สืบเนื่องจาก รัฐบาลให้ความสำคัญกับการพัฒนาเมือง เพื่อให้เกิดการกระจายความเจริญอย่างเท่าเทียมกันในทุกภูมิภาคของประเทศไทย ในส่วนของพื้นที่ต้องพัฒนาให้เมืองมีความน่าอยู่  เกิดการบริหารจัดการเมืองอย่างมีประสิทธิภาพ มีการเชื่อมโยงและบูรณาการระบบสาธารณูปโภครวมทั้งโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญ เพื่อให้ประชาชนอยู่ดีมีสุขอย่างยั่งยืน

นอกจากนี้การพัฒนาพื้นที่ระเบียงเขตเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) (จังหวัดชลบุรี ระยอง และฉะเชิงเทรา) เป็นแผนยุทธศาสตร์หลักภายใต้ไทยแลนด์ 4.0 ด้วยการพัฒนาเชิงพื้นที่ที่ต่อยอดความสำเร็จ ซึ่งจะเป็นการยกระดับอุตสาหกรรมของประเทศ เพิ่มความสามารถในการแข่งขัน และทำให้เศรษฐกิจของไทยเติบโตได้ในระยะยาวและยั่งยืน

การพัฒนาเมืองอัจฉริยะ (Smart City)  ในพื้นที่ดังกล่าว ซึ่งเป็นหนึ่งในโครงการสำคัญที่รัฐบาลให้การสนับสนุนผ่านสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล ผ่านกลไกและมาตรการด้านต่าง ๆ ของ depa เพื่อสร้างธุรกิจใหม่ด้านดิจิทัลที่สามารถตอบโจทย์การพัฒนาเมืองอัจฉริยะและเล็งเห็นถึงความสำคัญของประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นในภาพรวมเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตให้กับประชาชน โดยกลไกการทำงานร่วมกันระหว่างภาครัฐและเอกชน ในพื้นที่กลุ่มเป้าหมาย EEC

ดร.ณัฐพล นิมมานพัชรินทร์ ผู้อำนวยการ depa กล่าวว่า depa ได้ร่วมผลักดันโครงการ SMART CITY D – BOOST CAMP, (EEC FORUM) เพื่อให้เกิดแรงบันดาลใจในการพัฒนาแนวคิดธุรกิจดิจิทัลใหม่ๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวมและผลักดันศักยภาพของสตาร์ทอัพไทย ในการริเริ่มสร้างสรรค์นวัตกรรมและบริการด้านดิจิทัล ตลอดจนแผนธุรกิจที่สามารถขับเคลื่อนให้เกิดการพัฒนาเมืองอัจฉริยะได้อย่างเป็นรูปธรรม

โดย depa พร้อมให้การสนับสนุนด้วยมาตรการส่งเสริมและสนับสนุนเพื่อการพัฒนาอุตสาหกรรมและนวัตกรรมดิจิทัล เช่น การเริ่มต้นธุรกิจอุตสาหกรรมดิจิทัล การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อภาคธุรกิจอุตสาหกรรม

การร่วมวิจัย หรือการพัฒนาศักยภาพ กำลังคนและบุคคากรด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัล ตลอดจนการสร้างระบบนิเวศและปัจจัยที่เอื้อต่อการสร้างสรรค์ธุรกิจดิจิทัลให้สามารถมีศักยภาพและพร้อมในการแข่งขันในระดับสากล

อาทิ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัล การประกาศเขตส่งเสริมเมืองอัจฉริยะ และเกณฑ์การพิจารณาปรับปรุงกฎหมาย กฎระเบียบที่เป็นอุปสรรค หรือส่งเสริมการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ รวมถึงการทำ Regulatory Sandbox โดยศูนย์กลางพื้นที่ EEC คือ Digital Park และ IoT Institute ซึ่งจะเป็นแหล่งคิดค้นและทดสอบนวัตกรรมดิจิทัล โดยความร่วมมือจากทั้งภาครัฐและภาคเอกชน ซึ่งเป็นสิ่งที่ต้องศึกษา ทำความเข้าใจ เพื่อปรับตัวรองรับการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา นวัตกรรม เทคโนโลยี

“ความคิดสร้างสรรค์ เปรียบเหมือนอาวุธสำคัญในการสร้างความแตกต่างและโดดเด่นให้ธุรกิจ การทำธุรกิจรูปแบบใหม่จะช่วยขับเคลื่อนการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ ตลอดจนส่งเสริมเศรษฐกิจและคุณภาพชีวิตในทุกด้าน นอกเหนือจากความท้าทายทางการแข่งขันกับคู่แข่งแล้ว สิ่งที่สำคัญที่สุด คือการท้าทายศักยภาพของตนเอง การเรียนรู้และพัฒนาแบบบูรณาการ ทั้งด้านธุรกิจ การตลาด เทคโนโลยี นวัตกรรม ความคิดสร้างสรรค์ที่สอดคล้องกับเทรนด์ปัจจุบันและอนาคตจะทำให้การประกอบธุรกิจเติบโตและเป็นประโยชน์กับสังคมอย่างยั่งยืน” ผู้อำนวยการ depa กล่าว

ด้านนายโอฬาร วีระนนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ร่วมก่อตั้ง บจ. ดูเรียน คอร์ปปอเรชัน กล่าวว่าบริษัทฯ เห็นถึงความสำคัญของการลงทุนธุรกิจสตาร์ทอัพที่จะเข้ามาช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับเศรษฐกิจประเทศไทย เราจึงดำเนินงานเพื่อสนับสนุนกรพัฒนาศักยภาพของสตาร์ทอัพไทยมาโดยตลอด

โดยเชื่อมั่นว่าหากเกิดความร่วมมือกันระหว่างภาครัฐ เอกชน และภาคสังคม จะสามารถพัฒนาผู้ประกอบการสตาร์ทอัพให้แข็งแกร่งได้มากยิ่งขึ้น  SMART CITY D – BOOST CAMP, (EEC FORUM) จึงเกิดขึ้นเพื่อเป็นต้นแบบของประเทศไทย ในการมุ่งสร้างสตาร์ทอัพหรือผู้ประกอบการรุ่นใหม่ด้านเมืองอัจฉริยะ ใน 3 จังหวัดภาคตะวันออก

โดยเปิดโอกาสให้นิสิต นักศึกษา ผู้ประกอบการทั้งเอสเอ็มอีและสตาร์ทอัพ หรือประชาชนทั่วไปที่สนใจด้านเมืองอัจฉริยะ ได้มีโอกาสเข้าร่วมโครงการ รับการอบรม ลงมือปฏิบัติจริง ได้ความรู้ ประสบการณ์จากผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านอย่างใกล้ชิด เป็นเวลาตลอด 6 สัปดาห์ แนวคิดและแผนธุรกิจที่ได้รับการคัดเลือก จะได้นำเสนอความคิดในงาน “Digital Thailand Big Bang 2018” หนึ่งในงานด้านสตาร์ทอัพด้านดิจิทัลที่ใหญ่ที่สุดของประเทศไทย ตลอดจนมีโอกาสในการได้รับการสนับสนุนเพื่อต่อยอดธุรกิจโดย depa

ทั้งนี้ ผู้ได้รับการคัดเลือกเข้าร่วมโครงการ “SMART CITY D – BOOST CAMP, (EEC FORUM)” จะได้รับการอบรมเป็นเวลา 6 สัปดาห์ ภายใต้โครงสร้างการเรียนรู้ 6 โมดูล (Module) ได้แก่ 1. การจัดการเมืองอัจฉริยะ ทั้ง 6 ด้าน คือ Smart Governance, Smart Economy, Smart People, Smart Living, Smart Mobility, Smart Energy and Environment  2. การพิจารณาเกณฑ์ผู้ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจ 3.การพัฒนาโมเดลธุรกิจ 4. การทดสอบการใช้งานผลิตภัณฑ์หรือแนวคิดธุรกิจ 5.การนำเสนอ แลกเปลี่ยนความคิดสร้างสรรค์ร่วมกัน (Hackathon Day) และ 6.การฝึกฝนการนำเสนอแนวคิดและแผนธุรกิจ


โครงการ “SMART CITY D – BOOST CAMP, (EEC FORUM)” เปิดรับสมัครแล้ววันนี้ – 13 กรกฎาคม 2561 สามารถสมัครและดูรายละเอียดได้ที่เว็บไซต์ www.smartcity-dboostcamp.com Facebook: Smart City – D Boost Camp Line@: @dboostcamp โทร. 099-624-2932, 082-669-5000, 061-549-0666  

เรื่องแนะนำ

แอปพลิเคชัน Food Delivery

รวม แอปพลิเคชัน Food Delivery ช่องทางช่วยร้านส่งอาหารช่วงวิกฤต COVID-19

ณ ตอนนี้ ที่หลายคนกำลังอยู่ในช่วง Work From Home และมีการออกจากบ้านกันน้อยลง ทำให้บริการ Food Delivery เป็นที่ต้องการและได้รับความนิยมอย่างมากในช่วงนี้ จนเรียกได้ว่า แอปพลิเคชัน Food Delivery เป็นเหมือนพนักงานร้านอาหารประจำตัวของผู้บริโภคหลายๆ คนไปแล้ว ด้วยการอำนวยความสะดวก การนำเสนอเมนูอาหารจากร้านที่หลากหลาย โปรโมชั่นต่างๆ เหล่านี้ทำให้เป็นตัวช่วยที่ดี ที่ช่วยให้ผู้บริโภคหลีกเลี่ยงการออกจากบ้านได้  ในปัจจุบันมีแอปพลิเคชัน Food Delivery มากมายเป็นตัวเลือกให้กับผู้บริโภค โดยแต่ละแอปพลิเคชัน จะมีการใช้งานที่คล้ายกัน แต่ความแตกต่างจะอยู่ที่ค่าบริการ ร้านอาหารที่เข้าร่วม และพื้นที่ให้บริการ วันนี้เราจึงนำเสนอแอปพลิเคชันFood Delivery ยอดนิยม ที่ผู้ประกอบการควรรู้จัก และนำมาปรับใช้กับธุรกิจของคุณในช่วงวิกฤตแบบนี้มาให้ดูกันค่ะ   รวม แอปพลิเคชัน Food Delivery ช่วยร้านส่งอาหารช่วงวิกฤต COVID-19 Line Man Line Man เป็นแอปพลิเคชันที่ให้บริการหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นการสั่งอาหาร เรียกแท็กซี่ ส่งพัสดุ เมสเซนเจอร์ และซื้อสินค้า ในส่วนของบริการส่งอาหารนั้น LINE […]

ปรับตัววิกฤติโควิด-19 สู่การช้อปสินค้าเกษตรอินทรีย์ ผ่านแอปพลิเคชั่น Thai Organic Platform

“เราอยู่ในสังคมเดียวกัน เราก็ต้องช่วยเหลือกันเท่าที่เราทำได้” ไม่มีใครไม่ได้รับผลกระทบในช่วงนี้ เพราะวิกฤติการแพร่ระบาดโรคไวรัสโควิด-19 ทำให้ใครหลายคนต้องอยู่บ้าน พฤติกรรมการบริโภคจึงเปลี่ยนไป ความต้องการซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์กลายมาเป็นช่องทางหลัก หลายๆ คนต่างต้องปรับตัวรับมือกับสถานการณ์แบบนี้ให้ได้ เช่นเดียวกับเกษตรกรอินทรีย์ในเครือข่ายสามพรานโมเดลที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตินี้เช่นกัน จากการที่ลูกค้าประจำที่มีทั้งโรงแรม ร้านอาหาร จำเป็นต้องยกเลิกออเดอร์ ทางสามพรานโมเดลจึงได้ริเริ่มนำเครื่องมือ Thai Organic Platform ที่ได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ  (สนช.) และ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) มาใช้เพื่อให้ผู้บริโภคสามารถเชื่อมโยงและซื้อขายสินค้าอินทรีย์ตรงจากกลุ่มเกษตรกรได้ผ่านช่องทางออนไลน์ และยังสามารถเข้าถึงข้อมูลแหล่งที่มาของสินค้าได้อย่างเปิดเผย โปร่งใส โดยเริ่มเปิดรับพรีออเดอร์ครั้งแรกไปเมื่อวันที่ 30 มีนาคม ที่ผ่านมา ตัวอย่างหน้าตาแอปพลิเคชั่น   ทางเราไม่รอช้า เมื่อสบโอกาสได้สัมภาษณ์ คุณอรุษ นวราช ผู้บริหารสวนสามพราน และผู้ริเริ่มสามพรานโมเดล จึงอยากจะมาเล่าถึงการปรับตัววิกฤติโควิด-19  และความคืบหน้าการเปิดใช้แอปพลิเคชัน Thai Organic Platform ให้เพื่อนๆ อ่านกันครับ แพลตฟอร์มขับเคลื่อนสังคมอินทรีย์ ร่วมกันฝ่าวิกฤติโควิด-19 “สังคมอินทรีย์เราเน้นเรื่องการเชื่อมโยงห่วงโซ่ ตั้งแต่ผู้ผลิตคือเกษตรกรอินทรีย์ ผู้ประกอบการอย่างโรงแรม ร้านอาหาร และผู้บริโภคคือลูกค้า เหมือนเราเป็นตัวกลางเชื่อมให้ห่วงโซ่ทั้งหมดมาเจอกัน พอมีวิกฤติอย่างนี้เกิดขึ้น เราเป็นสังคมเดียวกัน […]

ชานมไข่มุก

ชานมไข่มุก มาแรง! ลิปตัน ประเทศญี่ปุ่น เปิดตัวไอศกรีมรสใหม่ “ชานมลิปตันไข่มุก”

กระแส ชานมไข่มุก ยังมาแรงดีไม่มีตก ล่าสุด ลิปตัน บริษัทเครื่องดื่มชาชื่อดัง เปิดตัว “ชานมลิปตันไข่มุก” (Lipton Ice Tea Tapioka Milk Tea) ที่ประเทศญี่ปุ่น ชานมไข่มุก มาแรง! ลิปตัน ประเทศญี่ปุ่น เปิดตัวไอศกรีมรสใหม่ “ชานมลิปตันไข่มุก” เรียกว่าตลาด ชานมไข่มุก ในปัจจุบัน ยังคงเป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่น่าจับตามอง เพราะยังคงมีกระแสความนิยมอย่างต่อเนื่อง ผู้ประกอบการชานมไข่มุกรายเดิมก็ไม่หยุดที่สร้างสรรค์เมนู หาความแปลกใหม่ให้กับแบรนด์ของตัวเอง ในขณะเดียวกันก็ทำให้มีผู้เล่นรายใหม่เกิดขึ้นเรื่อยๆ และมากันในหลากหลายรูปแบบ ล่าสุดแบรนด์เครื่องดื่มชาชื่อดังอย่าง Lipton ที่ประเทศญี่ปุ่น ก็เข้ามาเป็นผู้เล่นรายใหม่ที่ตามเทรนด์กระแสชานมไข่มุก ด้วยการเปิดตัวสินค้าใหม่ “ชานมลิปตันไข่มุก” (Lipton Ice Tea Tapioka Milk Tea) ซึ่งเป็นการร่วมมือกันระหว่าง Lipton และ บริษัทผู้ผลิตไอศกรีมชื่อดังอย่างการิการิคุง (gari gari kun) เพื่อให้ได้ไอศกรีมชานมไข่มุกที่มีคุณสมบัติพิเศษ คือ ไข่มุกยังมีความนุ่มหนึบ แม้จะถูกแช่แข็งขนาดไหนก็ตาม ปัจจุบันเริ่มวางขายในประเทศญี่ปุ่นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ส่วนราคาอยู่ที่แท่งละ […]

Follow Me

Contact

เว็บไซต์ : amarinacademy.com
บริษัท อมรินทร์ คอร์เปอเรชั่นส์ จำกัด (มหาชน)
Tel : 02-422-9999 ต่อ 4662 หรือ 4669, 092-254-0742
Email : amarin.academy@gmail.com

ติดต่อแจ้งปัญหาหรือร้องเรียน
02-422-9999 ต่อ 4180
(จันทร์ – ศุกร์ เวลา 09.00 – 18.00 น)
bdcx@amarin.co.th

สนใจลงโฆษณากับเว็บไซต์ Amarin Academy
Tel. 081-664-0666, 091-729-8060
E-mail : sineenart_ya@amarin.co.th

© COPYRIGHT 2024 Amarin Corporations Public Company Limited.