เทคนิคตกแต่งจาน ช่วยประหยัดวัตถุดิบ - Amarin Academy

เทคนิคตกแต่งจาน ช่วยประหยัดวัตถุดิบ

เทคนิคตกแต่งจาน ช่วยประหยุดวัตถุดิบ

ผักชี แตงกวา มะเขือเทศ ผักกาดหอม ฯลฯ และอีกสารพัดเครื่องตกแต่งจานที่ทำให้อาหารของคุณดูน่ากินขึ้น (?) กลายเป็นธรรมเนียมปฏิบัติ (ซึ่งไม่รู้ใครเป็นคนริเริ่ม) ที่ร้านอาหารแทบทุกร้านจะต้องใส่มาในจาน แต่เมื่อลูกค้ากินอาหารเสร็จ กว่า 80% กลับไม่มีใครแตะต้องของตกแต่งพวกนั้นเลย อย่างนั้นเราจะ แต่งจาน ด้วยของเหล่านี้ไปทำไม ในเมื่อไม่มีใครสนใจแม้แต่น้อย และนอกจากลูกค้าไม่กินแล้ว ยังถือเป็นค่าใช้จ่ายที่คุณต้องแบกรับอีกด้วย วันนี้เราจึงมี เทคนิคตกแต่งจาน มาแนะนำ นอกจากสวยกว่าเดิมแล้ว ยังประหยัดวัตถุดิบอีกด้วย

ก่อนจะไปดูไอเดียในการตกแต่งจาน มีดูเหตุผลกันก่อนว่า เพราะอะไรเราจึงควรเลิกตกแต่งจาน (แบบเดิมๆ)

ข้อแรก ที่สำคัญที่สุดคือ คุณกำลังเสียเงินไปกับค่าวัตถุดิบโดยเปล่าประโยชน์ เพราะสุดท้ายผักเหล่านั้นก็ต้องวิ่งตรงสู่ถังขยะ โดยที่ลูกค้าไม่ได้แตะเลย ไม่ต่างอะไรกับการที่คุณกำลังโปรยเงินลงถังขยะไปฟรีๆ แม้คุณคิดว่าเป็นเงินไม่กี่บาท แต่ลองบวกลบคูณหารดูดีๆ ปีหนึ่งๆ บางร้านอาจต้องจ่ายค่าผักแต่งจานหลักหมื่นเลยก็ได้

ข้อสอง นอกจากเสียเงินแล้ว คุณยังเสียเวลาอีกด้วย เพราะของแต่งจาน แม้จะเป็นแค่แตงกวาฝาบางๆ แต่ก็ต้องใช้กำลังคน และอาศัยเวลาในการจัดการให้สวยงามน่ากิน (ทั้งๆ ที่ไม่มีใครกิน) บางร้านที่พิถีพิถันมากก็อาจจะถึงขั้นแกะสลัก ก็ยิ่งเสียเวลาเข้าไปใหญ่

เมื่อทราบเหตุผลกันแล้ว เรามาดูไอเดียในการตกแต่งจานกันดีกว่า เผื่อเจ้าของร้านอาหารคนไหนจะนำไปปรับใช้ได้ครับ

1.จัดจานให้สวยงาม

ถ้าจัดอาหารภายในจานให้สวยงาม น่ารับประทาน ก็ไม่จำเป็นต้องมีเครื่องตกแต่งจาน ให้ค่าใช้จ่ายด้านวัตถุดิบสูงขึ้นอีกต่อไปแล้ว โดยอาจจะวางรูปแบบอาหารในจาน ให้โดดเด่นมากขึ้น และน่าสนใจมากขึ้น เช่น แทนที่จะวางอาหารใส่จานธรรมดา อาจจะจัดวางให้มีรูปทรงที่แปลกตาน่าสนใจขึ้น ดังตัวอย่างต่อไปนี้

2.เลือกภาชนะให้โดดเด่น

บางครั้งภาชนะที่ใส่อาหาร ก็ช่วยทำให้เมนูนั้นๆ โดดเด่นขึ้นมาได้อย่างไม่น่าเชื่อ แถมยังเป็นการลงทุนครั้งเดียวแต่ได้ผลในระยะยาว ไม่ต้องเปลืองค่าวัตถุดิบ แถมไม่ต้องมาเสียเวลาตกแต่งจานอีกด้วย โดยภาชนะที่มีลวดลายสวยๆ ก็มีมากมาย และราคาก็ไม่สูงนัก ถือเป็นวิธีตกแต่งจานให้น่าสนใจที่ดีทีเดียว

 

3.ใช้ซอสตกแต่งแทน

แทนที่จะตกแต่งจานด้วยผักชนิดต่างๆ ก็เปลี่ยนมาเป็นการใช้ซอสตกแต่งแทน โดยการใช้ซอสนี้เหมาะกับอาหารแนวตะวันตก ที่มีซอสเป็นเครื่องเคียง โดยอาจจะบีบเป็นลวดลายต่างๆ ในจาน หรือ ตกแต่งด้านข้างก็สวยไปอีกแบบ นอกจากจะไม่ต้องเสียค่าวัตถุดิบเพิ่มแล้ว (เพราะอย่างไรเราก็ต้องเสิร์ฟคู่กัน) ยังรับประกันได้ว่า ลูกค้าต้องกินแน่นอน

4.ใช้วัตถุดิบที่มีในเมนู

หากตกแต่งจานด้วยวิธีนี้ รับรองว่าวัตถุดิบไม่เหลือทิ้งแน่นอน เพราะเป็นสิ่งที่ลูกค้าตั้งใจจะสั่ง โดยการตกแต่งวิธีนี้ถือว่าเป็นที่นิยมมาก เนื่องจากเราก็ไม่ต้องสั่งวัตถุดิบเพิ่ม แถมยังไม่ต้องเสียเวลา ในการจัดการวัตถุดิบใหม่อีกด้วย

ลองนำไอเดียเหล่านี้ไปใช้ดูนะครับ เชื่อว่าน่าจะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายและเวลาไปได้มากทีเดียว ส่วนเพื่อนๆ เจ้าของร้านอาหารท่านไหนมีไอเดียที่ดีกว่า ลองแชร์กันมาได้เลยนะครับ

ขอบคุณภาพจาก pinterest

เรื่องแนะนำ

พนักงานดีๆ ลาออก

4 เหตุผลสำคัญที่ทำให้ “ พนักงานดีๆ ลาออก ”

ปัญหาที่ทำให้เจ้าของร้านปวดหัวคือ พนักงานดีๆ ลาออก ถ้าไม่อยากให้เกิดปัญหานี้ มาลองดู 4 เหตุผล ที่ทำให้ พนักงานดีๆ ลาออก เผื่อจะช่วยป้องกันปัญหานี้ได้บ้าง

พร้อมเปิดร้านอาหาร

แบบทดสอบคุณ พร้อมเปิดร้านอาหาร หรือยัง ?

บางคนอาจยังไม่รู้ว่าตัวเองพร้อมสำหรับการเปิดร้านมากน้อยแค่ไหน วันนี้เราจึงมีแบบทดสอบง่ายๆ ให้คุณลองประเมินตัวเองดูว่าคุณ พร้อมเปิดร้านอาหาร หรือยัง

เผยสูตรคำนวณ ต้นทุนร้านอาหาร คุมค่าใช้จ่ายให้เป๊ะก่อนเปิดร้าน

เพราะการทำร้านอาหารจะกำไรหรือขาดทุน ขึ้นอยู่กับว่าเจ้าของร้านอาหารควบคุม ต้นทุนร้านอาหาร ได้ดีขนาดไหน การกำหนดโครงสร้างต้นทุนร้านอาหาร จะช่วยทำให้ตั้งราคาขาย และกำหนดยอดขายในแต่ละวันได้อย่างเหมาะสม  ที่สำคัญยังช่วยให้ป้องกันปัญหาต้นทุนพุ่งจนกระทบยอดรายได้  เพราะสามารถควบคุมค่าใช้จ่ายได้อย่างเหมาะสม   โครงสร้าง ต้นทุนร้านอาหาร ที่สำคัญมีอะไรบ้าง คำนวณอย่างไรไม่ขาดทุน   1.ต้นทุนอาหาร (วัตถุดิบ) ต้นทุนวัตถุดิบอาหาร หมายรวมถึงวัตถุดิบที่ใช้ปรุง การตกแต่งจาน รวมถึงบรรจุภัณฑ์ต่างๆ โดยทั่วไปแล้ว ต้นทุนวัตถุดิบที่เหมาะสมอยู่ระหว่าง 25-30 เปอร์เซ็นต์ นอกจากร้านอาหารประเภทบุฟเฟต์ จะมีต้นทุนวัตถุดิบอยู่ประมาณ 35 เปอร์เซ็นต์ การทราบต้นทุนอาหาร ช่วยให้กำหนดราคาขายต่อเมนูได้อย่างแม่นยำ สูตรการคิดคำนวณต้นทุนอาหาร ต้องคำนวณจาก Yield หรือวัตถุดิบที่ใช้ได้จริง เป็นหลัก เพราะฉะนั้นร้านอาหารจะต้องหา Yield ของวัตถุดิบทุกชนิด โดยขั้นตอนก็คือ การชั่งน้ำหนักวัตถุดิบ และทำการเตรียมวัตถุดิบพร้อมสำหรับการปรุง เช่น เนื้อปลา เมื่อหั่นให้ได้ขนาดชิ้นตามสูตร SOP ที่กำหนดแล้ว ให้นำเนื้อปลาหลังตัดแต่ง และเนื้อปลาส่วนที่ตัดทิ้ง มาชั่งน้ำหนักเปรียบเทียบเพื่อคำนวณ   ค่าเปอร์เซ็นต์ Yield =  ปริมาณหลังตัดแต่ง […]

Follow Me

Contact

เว็บไซต์ : amarinacademy.com
บริษัท เอเอ็มอี อิมเมจิเนทีฟ จำกัด
ในเครือ บริษัท อมรินทร์ คอร์เปอเรชั่นส์ จำกัด (มหาชน)
Tel : 02-422-9999 ต่อ 4662 หรือ 4669, 092-254-0742
Email : amarin.academy@gmail.com

ติดต่อแจ้งปัญหาหรือร้องเรียน
02-422-9999 ต่อ 4180
(จันทร์ – ศุกร์ เวลา 09.00 – 18.00 น)
bdcx@amarin.co.th

สนใจลงโฆษณากับเว็บไซต์ Amarin Academy
Tel. 081-664-0666, 091-729-8060
E-mail : sineenart_ya@amarin.co.th

© COPYRIGHT 2025 AME IMAGINATIVE COMPANY LIMITED.