Thank God It’s Organic ธุรกิจเดลิเวอรี่ เพื่อสุขภาพ - Amarin Academy

Thank God It’s Organic ธุรกิจเดลิเวอรี่ เพื่อสุขภาพ

Thank God It’s Organic ธุรกิจเดลิเวอรี่ เพื่อสุขภาพ

จากพฤติกรรมผู้บริโภคในปัจจุบัน ที่หันมาใส่ใจสุขภาพมากยิ่งขึ้น รวมทั้งใส่ใจสิ่งแวดล้อมมากขึ้นด้วย ธุรกิจอาหารเพื่อสุขภาพจึงเกิดขึ้นมากมาย หนึ่งในนั้นคือ Thank God It’s Organic ธุรกิจเดลิเวอรี่ เพื่อสุขภาพ ที่เกิดขึ้นจากการรวมตัวของกลุ่มเพื่อน ซึ่งมีจุดเริ่มต้นมาจากปัญหาสุขภาพ นำไปสู่ธุรกิจที่ตอบโจทย์คนเมือง โดดเด่นในเรื่องอาหารออร์แกนิกและน้ำผักผลไม้ปั่น ที่ให้ความสำคัญไม่เฉพาะตัววัตถุดิบเท่านั้น แต่ยังมองไปถึงแหล่งที่มา การสนับสนุนคนท้องถิ่น ไปจนถึงเรื่องของภาชนะและการจัดส่ง ที่ล้วนแล้วแต่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และสร้างความยั่งยืนทางสังคมไปพร้อม ๆ กัน

Thank God It’s Organic ธุรกิจที่เริ่มต้นจากเรื่องของสุขภาพ

“Thank God It’s Organic เกิดจากการรวมตัวของกลุ่มเพื่อน 6 - 7 คนที่อยู่ในแวดวงสื่อสารมวลชน เช่น เอเจนซี่ กราฟิกเฮ้าส์ กำกับหนังโฆษณา ซึ่งรับหน้าที่ตามความถนัดของแต่ละคนคุณต้อยและคุณต้นดูเรื่องดีไซน์ทั้งหมด ตั้งแต่ออกแบบโลโก้ ผลิตภัณฑ์ คุณต่ายดูส่วนของวิดีโอ อีกสองท่านเป็นเชฟและทำคอนเทนต์ โดยเราเริ่มสนใจเรื่องออร์แกนิกเนื่องจากความเจ็บป่วยต่าง ๆ อย่างออฟฟิศซินโดรม ไมเกรน ภูมิแพ้ เลยเริ่มศึกษาว่าถ้าเราไม่กินยา จะมีวิธีไหนบ้างที่ดูแลตัวเองให้ดีขึ้น

ช่วงนั้นมีคนแนะนำหนังสือของดร.อู๋ ซึ่งเป็นนักโภชนาการของจีนที่ป่วยเป็นมะเร็ง แล้วค้นพบว่าการกินผักผลไม้ที่ปั่นด้วยความเร็วสูง ใช้เวลาปั่นไม่นานทำให้ความร้อนสัมผัสกับผักผลไม้น้อย ได้น้ำผักผลไม้ 5 สีที่มีกากใยและเอนไซม์ต่างๆ ครบถ้วน ลองกินแล้วพบว่าอาการต่าง ๆ ดีขึ้น เมื่อรวมกับออกกำลังกายก็บาลานซ์ชีวิตเราได้ส่วนหนึ่ง

จากนั้นจึงเริ่มชักชวนเพื่อน ๆ มากินด้วยกันเพราะคิดว่าอาหารมีผลกับสุขภาพจริง ๆ แต่พอศึกษาลึกลงไปก็พบว่า การกินผักผลไม้บ่อย ๆ แทนที่สุขภาพจะดี กลับทำให้หลายคนเป็นมะเร็ง นั่นเป็นเพราะในบ้านเรามีการใช้สารเคมี ยาฆ่าแมลง หรือปุ๋ยเยอะมาก ดังนั้นถ้าเลือกได้แบบที่ปลอดภัยน่าจะดีกว่า จึงนำไปสู่การลงพื้นที่ค้นหาแหล่งวัตถุดิบออร์แกนิก”

ตามหาแหล่งวัตถุดิบอินทรีย์ 

“เราเริ่มจากการลงพื้นที่ก่อนทำโปรเจ็คท์นี้ เพื่อหาแหล่งวัตถุดิบที่จะมาใช้ พร้อมกับทำสื่อโฆษณาให้กับร้าน มีโอกาสได้คุยกับเกษตรกร ที่เป็นปราชญ์ชาวบ้านอย่าง พ่อถาและคุณตุ๊หล่าง ที่จังหวัดยโสธร พบว่าการเป็นเกษตรกรอินทรีย์ไม่ใช่เรื่องง่ายเพราะ 50 ปีที่ผ่านมาเราถูกทำให้เชื่อไปแล้วว่าต้องใส่ปุ๋ย ใส่ยาเพื่อให้ได้ผลผลิต ขณะที่วิถีในอดีตชาวบ้านไม่จำเป็นต้องใช้สารเคมีเหล่านี้ เพราะเขามีวิธีการอื่นในการไล่แมลง สิ่งที่ตุ๊หล่างกับพ่อถาทำคือชักชวนชาวบ้านรอบ ๆ ให้ทำเกษตรอินทรีย์ด้วยกัน เมื่อได้ไปเห็นวิธีการต่าง ๆ ที่ตุ๊หล่างทำ เราถึงเข้าใจว่าข้าวพื้นที่ไหนก็เหมาะกับพื้นที่นั้น เพราะภูมิประเทศและภูมิอากาศไม่เหมือนกัน จากการลงพื้นที่นี่เอง เราจึงได้ข้าวที่เพาะปลูกแบบอินทรีย์จาก ศูนย์วิจัยพันธุ์พืชไทบ้าน ที่จังหวัดยโสธร ซึ่งทุกขั้นตอนปลอดสารเคมี นอกจากนี้ยังเลือกที่จะปลูกพันธุ์ข้าวพื้นเมืองที่เหมาะกับท้องถิ่น ข้าวที่ลูกค้าจะได้กิน จึงเป็นพันธุ์ข้าวผสมรวมกันมากถึง 108 - 120 สายพันธุ์ ซึ่งอุดมไปด้วยคุณประโยชน์

ถัดมาคือเรื่องของอาหารทะเล จากการลงพื้นที่จึงได้รู้ว่าอาหารทะเลกับฟอร์มาลีน เป็นของคู่กัน ที่เราเห็นทุกวันคือผ่านมาทั้งคลอรีน สารฟอกขาว เลยเสนอตัวเป็นทางเลือกหนึ่งให้กับผู้บริโภค โดยเรารับวัตถุดิบจากกลุ่มประมงพื้นบ้าน เช่น ‘คนจับปลา’ ซึ่งเป็นการรวมตัวของชาวประมงพื้นบ้าน ที่จังหวัดประจวบฯ ยังมีเครือข่ายประมงพื้นบ้านอื่น ๆ ทั้งฝั่งอ่าวไทยฝั่งอันดามัน ส่วนผักและผลไม้เรารับจากกลุ่มเกษตรกรทั่วประเทศ เช่น Harmony Life ที่ปากช่อง สหกรณ์บริการสินค้าเกษตรอินทรีย์เพชรบุรีจำกัด รวมถึง Organic & Co องค์กรผู้สนับสนุนเกษตรอินทรีย์”

หลากเมนูออร์แกนิกเพื่อสุขภาพและความอร่อย

“โปรดักต์ของเราจะมีน้ำผัก ผลไม้ปั่นและปิ่นโต โดยเป็นปิ่นโตที่เสิร์ฟเฉพาะมื้อกลางวันราคา 200 บาท มีวันละ 1 เมนู มาพร้อมข้าวและผลไม้ โดยมีเมนูไม่หลากหลายมากนัก เนื่องจากวัตถุดิบออร์แกนิกหายาก เราเลือกใช้ผักผลไม้ที่มีตามฤดูกาล ซึ่งการเพาะปลูกมีความไม่แน่นอน บางครั้งฝนตกน้ำท่วม แมลงลง ดังนั้นเชฟที่ปรุงอาหารต้องเป็นคนที่ครีเอตมาก ๆ หากวัตถุดิบชนิดนี้ไม่มีจะใช้อะไรแทนได้บ้าง หรืออย่างกุ้ง นอกจากกุ้งทะเลแล้วเรายังมีกุ้งนา ซึ่งเจ้าของบ่อทำนาข้าวอินทรีย์อยู่แล้ว เขาจะไม่ใช้สารเคมีใด ๆ กุ้งที่ได้จึงมีไซส์ใหญ่ เล็ก ปะปนกันตามธรรมชาติ เชฟจะนำกุ้งตัวเล็กมาทำขนมจีบลูกชิ้นกุ้ง เป็นต้น

นอกจากนี้ยังเริ่มแตกไลน์ แปรรูปผลไม้ เป็นขนมที่ดีต่อสุขภาพ รวมถึงซอส น้ำจิ้ม และน้ำสลัดต่าง ๆ ซึ่งมีติดบ้านไว้ก็สะดวก เช่น น้ำจิ้มสุกี้ที่ใช้มะเขือเทศแทนเต้าหู้ยี้ ซอสบาร์บีคิว น้ำสลัดจากผลไม้ตามฤดูกาล ทั้งหมดปลอดสารกันบูด และไม่ใส่ผงชูรส เราทำแบบบรรจุขวดขาย เป็นตัวเลือกให้กับลูกค้า

ขณะเดียวกันก็แตกไลน์โปรดักต์ใหม่ ๆ ที่รองรับความต้องการของลูกค้า เช่น อาหารปิ่นโตสำหรับไปทำบุญที่วัด กระเช้าผักผลไม้ สแน็คบ็อกซ์ ฯลฯ ยิ่งไปกว่านั้น เรายังให้ความสำคัญไปถึง เรื่องของกระบวนการจัดส่ง โดยเราใช้ปิ่นโตและแก้วน้ำ ซึ่งลูกค้าต้องล้างแล้วส่งกลับมา เพื่อรณรงค์ให้ทิ้งขยะให้น้อยที่สุด ทั้งยังจัดส่งด้วยจักรยาน (เขตกรุงเทพฯ)เพื่อให้คลีนตั้งแต่ต้นทางไปถึงปลายทาง”

สื่อสารชัดเจน เข้าถึงง่าย ดีไซน์เก๋

“จุดเด่นของเราคือ การที่ทำให้ออร์แกนิกเป็นเรื่องที่เข้าถึงง่าย รู้สึกว่าการกินอาหารแบบนี้ไม่ใช่เรื่องแปลก อย่างภาพที่นำเสนอผ่านทางเว็บไซต์ และแฟนเพจจะเห็นว่าสวยงามน่ากิน เพราะเป็นธรรมชาติของมนุษย์ที่มักมองจากสิ่งที่สวยงามก่อนเรื่องของคุณภาพ อย่างที่ใส่ปิ่นโต เราก็ตั้งโจทย์กันว่าดีไซน์ยังไงให้คนอยากถือ ฟังก์ชันยังต้องตอบโจทย์ เช่น เก็บความร้อนได้ รวมถึงหน้าตาของกราฟิกทั้งหมดที่มีความดูดี ทันสมัย

นอกจากนี้ ถ้าสมัครเป็นลูกค้าของเรา ปิ่นโตที่ได้รับทุกวัน จะมาพร้อมข้อความที่บอกว่า วัตถุดิบที่นำมาปรุงในวันนี้ แต่ละอย่างมาจากที่ไหน เช่น เค้กกล้วย ใช้กล้วยจากไร่ทานตะวัน จังหวัดราชบุรี มัลเบอร์รี่มาจากปากช่อง ฯลฯ ซึ่งเป็นสิ่งที่เราสื่อสารมาตลอดเพื่อให้ลูกค้ากินด้วยความอร่อยและสบายใจ จึงคิดว่าการสื่อสารที่เราทำนี้น่าจะเป็นสิ่งที่ทำให้เราเป็นที่รู้จักในวงกว้างแม้จะเริ่มทำแบรนด์มาเพียงปีกว่า ๆ”

 

ข้อมูลเพิ่มเติม 06-2654-2919 thankgoditsorganic@gmail หรือ www.thankgoditsorganic.com
ขอบคุณข้อมูลจาก นิตยสาร Health&Cuisine
คอลัมน์ food biz & idea online eatery
เรื่อง : ปิยมาศ ภาพ : อัศวิน นรินท์ชัยรังษี และ FB: Thank God It’s Organic สไตล์ : Mangdoo


บทความที่น่าสนใจ

ปลูกปั่น น้ำผักผลไม้ปั่น ไม่มีหน้าร้าน แต่ขายได้ 400 ขวดต่อวัน!

เรื่องแนะนำ

ปรับตัววิกฤติโควิด-19 สู่การช้อปสินค้าเกษตรอินทรีย์ ผ่านแอปพลิเคชั่น Thai Organic Platform

“เราอยู่ในสังคมเดียวกัน เราก็ต้องช่วยเหลือกันเท่าที่เราทำได้” ไม่มีใครไม่ได้รับผลกระทบในช่วงนี้ เพราะวิกฤติการแพร่ระบาดโรคไวรัสโควิด-19 ทำให้ใครหลายคนต้องอยู่บ้าน พฤติกรรมการบริโภคจึงเปลี่ยนไป ความต้องการซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์กลายมาเป็นช่องทางหลัก หลายๆ คนต่างต้องปรับตัวรับมือกับสถานการณ์แบบนี้ให้ได้ เช่นเดียวกับเกษตรกรอินทรีย์ในเครือข่ายสามพรานโมเดลที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตินี้เช่นกัน จากการที่ลูกค้าประจำที่มีทั้งโรงแรม ร้านอาหาร จำเป็นต้องยกเลิกออเดอร์ ทางสามพรานโมเดลจึงได้ริเริ่มนำเครื่องมือ Thai Organic Platform ที่ได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ  (สนช.) และ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) มาใช้เพื่อให้ผู้บริโภคสามารถเชื่อมโยงและซื้อขายสินค้าอินทรีย์ตรงจากกลุ่มเกษตรกรได้ผ่านช่องทางออนไลน์ และยังสามารถเข้าถึงข้อมูลแหล่งที่มาของสินค้าได้อย่างเปิดเผย โปร่งใส โดยเริ่มเปิดรับพรีออเดอร์ครั้งแรกไปเมื่อวันที่ 30 มีนาคม ที่ผ่านมา ตัวอย่างหน้าตาแอปพลิเคชั่น   ทางเราไม่รอช้า เมื่อสบโอกาสได้สัมภาษณ์ คุณอรุษ นวราช ผู้บริหารสวนสามพราน และผู้ริเริ่มสามพรานโมเดล จึงอยากจะมาเล่าถึงการปรับตัววิกฤติโควิด-19  และความคืบหน้าการเปิดใช้แอปพลิเคชัน Thai Organic Platform ให้เพื่อนๆ อ่านกันครับ แพลตฟอร์มขับเคลื่อนสังคมอินทรีย์ ร่วมกันฝ่าวิกฤติโควิด-19 “สังคมอินทรีย์เราเน้นเรื่องการเชื่อมโยงห่วงโซ่ ตั้งแต่ผู้ผลิตคือเกษตรกรอินทรีย์ ผู้ประกอบการอย่างโรงแรม ร้านอาหาร และผู้บริโภคคือลูกค้า เหมือนเราเป็นตัวกลางเชื่อมให้ห่วงโซ่ทั้งหมดมาเจอกัน พอมีวิกฤติอย่างนี้เกิดขึ้น เราเป็นสังคมเดียวกัน […]

ไม่ลาออกจากงาน เปิดร้านอาหาร

กุ้งยกถัง ไม่ลาออกจากงาน เปิดร้านอาหาร ได้!

หลายคนลาออกจากงานเพื่อเปิดร้านอาหาร เพราะกลัวว่าจะแบ่งเวลาไม่ได้ แต่กุ้งยกถังพิสูจน์แล้วว่า ไม่ลาออกจากงาน เปิดร้านอาหาร ได้ แถมเปิดมานานกว่า 1 ปีแล้วด้วย

เฮียนพหมูปิ้ง

เฮียนพหมูปิ้ง จากกรรมกรสู่ ธุรกิจหมูปิ้งร้อยล้าน

เฮียนพหมูปิ้ง ชายที่ผ่านมาแทบทุกอาชีพไม่ว่าจะเป็น กรรมกร รปภ.คนขับแท็กซี่ แต่เพราะไม่ยอมแพ้กับชีวิตทำให้วันนี้เขามีรายได้มากกว่า 200 ร้อยล้านบาทต่อปี!

House of Crepe

House of Crepe ผู้นำ Street food สู่ห้างระดับไฮเอนด์

ใครจะคิดว่าเครปที่เราเคยซื้อชิ้นละ 20-30 บาท จะนำมาขึ้นห้างสุดหรูได้ แถมมีคนต่อแถวรอซื้อตั้งแต่ห้างเปิดยันห้างปิด และนี่คือความสำเร็จของ House of Crepe

Follow Me

Contact

เว็บไซต์ : amarinacademy.com
บริษัท อมรินทร์ คอร์เปอเรชั่นส์ จำกัด (มหาชน)
Tel : 02-422-9999 ต่อ 4662 หรือ 4669, 092-254-0742
Email : amarin.academy@gmail.com

ติดต่อแจ้งปัญหาหรือร้องเรียน
02-422-9999 ต่อ 4180
(จันทร์ – ศุกร์ เวลา 09.00 – 18.00 น)
bdcx@amarin.co.th

สนใจลงโฆษณากับเว็บไซต์ Amarin Academy
Tel. 081-664-0666, 091-729-8060
E-mail : sineenart_ya@amarin.co.th

© COPYRIGHT 2024 Amarin Corporations Public Company Limited.