5 สิ่งที่ควรรู้ก่อน ตั้งราคาอาหาร - Amarin Academy

5 สิ่งที่ควรรู้ก่อน ตั้งราคาอาหาร

5 สิ่งที่ควรรู้ก่อน ตั้งราคาอาหาร

หลายคนที่เปิดร้านอาหาร ทำอาหารอร่อย ตกแต่งร้านเสียดิบดี แต่มาตกม้าตายตรงที่ไม่รู้จะตั้งราคาอาหารของตัวเองเท่าไหร่ ตั้งสูงไปก็กลัวขายไม่ได้ ตั้งต่ำไปก็กลัวจะขาดทุน วันนี้จึงขอนำข้อมูลเกี่ยวกับการตั้งราคาอาหารมาฝาก เพื่อใช้เป็นปัจจัยในการ ตั้งราคาอาหาร ให้เหมาะสม

1.ต้นทุนวัตถุดิบ (Food costs)

สิ่งแรกที่คุณควรรู้ก่อนตั้งราคาอาหารคือ ต้นทุนวัตถุดิบ (food costs) คุณจะ ตั้งราคาอาหาร ไม่ได้เลย ถ้ายังไม่รู้ต้นทุนอาหารในแต่ละจาน โดยสิ่งที่จำเป็นต้องรู้คือ สัดส่วนและราคาของวัตถุดิบทุกตัว ที่ประกอบอยู่ในแต่ละเมนู เพื่อเป็นฐานข้อมูลสำหรับการตั้งราคา

สาเหตุที่สเต็กเนื้อแพงกว่าสลัด ส่วนหนึ่งก็เพราะต้นทุนวัตถุดิบที่สูงกว่า นอกจากนี้วัตถุดิบที่คุณภาพดีกว่าหรือออร์แกนิค ย่อมมีโอกาสตั้งราคาได้สูงกว่าวัตถุดิบทั่วไปเช่นกัน

2.ต้นทุนอื่นๆ (Other costs)

นอกจากต้นทุนอาหารที่เราต้องทราบแล้ว ต้นทุน ด้านอื่นๆ ก็จำเป็นสำหรับการตั้งราคาเช่นกัน เพราะรายได้จากการขายในแต่ละเมนู นอกจากจะนำไปจ่ายค่าวัตถุดิบแล้ว คุณยังต้องจ่าย ค่าเช่า ค่าแรงงาน รวมถึงค่าการตลาดด้วย การที่ร้านคุณตั้งอยู่ในเมืองหรือในห้าง รวมไปถึงการที่อาหารของคุณจำเป็นต้องใช้เชฟที่มีฝีมือ มีประสบการณ์ ย่อมทำให้ราคาอาหารของคุณสูงขึ้นด้วยเช่นกัน การมองค่าใช้จ่ายในภาพรวมก่อนตั้งราคา จะทำให้รายได้จากการขายครอบคลุมค่าใช้จ่ายเหล่านี้ และทำให้เหลือกำไรอย่างที่คุณตั้งใจไว้

3.การเปลี่ยนแปลงของตลาด (Market changes)

ราคาวัตถุดิบเป็นสิ่งที่ควบคุมยากมาก ราคาวัตถุดิบที่คุณซื้อในวันนี้ ย่อมไม่เท่ากับราคาในอีก 1 ปีข้างหน้า ตรงกันข้ามกับราคาอาหาร ที่กว่าจะปรับราคาขึ้นได้ที เจ้าของร้านแทบจะหืดขึ้นคอ เพราะเมื่อไหร่ที่คุณตัดสินใจขึ้นราคา นั่นหมายถึงโอกาสที่ลูกค้าของคุณจะเปลี่ยนใจไปร้านคู่แข่งด้วยเช่นกัน

ฉะนั้นก่อนจะตั้งราคาอาหาร คุณควรคำนึงถึงปัจจัยข้อนี้ให้มาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งวัตถุดิบชนิดที่แปรผันตามสภาพภูมิอากาศและการแข่งขัน ยกตัวอย่างเช่น อาหารทะเลที่อาจขาดตลาดและราคาถีบตัวสูงขึ้นในช่วงที่เกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติ รวมไปถึงความต้องการที่เพิ่มสูงขึ้น ส่งผลโดยตรงต่อกำไรของเมนูนั้นๆ

ดังนั้นหากวัตถุดิบมีราคาผันผวนตลอดเวลา ก็ควรจะตั้งราคาเผื่อไว้ให้สูงหน่อย เพราะหากคุณเผื่อราคาไว้น้อยจนเกินไป บางเดือนที่ราคาวัตถุดิบสูงขึ้น คุณอาจจะยิ่งขายยิ่งขาดทุนก็ได้ ขณะเดียวกันหากคุณตั้งราคาในเกณฑ์ที่สูง ถ้าช่วงไหนวัตถุดิบปรับตัวลดลง ก็อาจจะทำโปรโมชั่นกับเมนูนั้นๆ เพื่อกระตุ้นยอดขายภายในร้านได้

4.ฐานลูกค้า (Customers)

การรู้จักลูกค้าเป็นเรื่องจำเป็นมาก เช่น ถ้าร้านของคุณเป็นร้าน fast food กลุ่มลูกค้าของคุณอาจเป็นวัยรุ่น ที่มีกำลังซื้อไม่มากนัก ราคาอาหารของคุณก็ต้องอยู่ในระดับกลางๆ เพื่อให้กลุ่มลูกค้าเข้าถึงได้ง่าย  แต่หากร้านของคุณเป็นภัตตาคาร ซึ่งกลุ่มลูกค้าเป็นคนมีอายุ มีกำลังซื้อมากกว่า คุณก็สามารถตั้งราคาสูงได้

แต่ไม่ว่าร้านอาหารคุณจะจับลูกค้ากลุ่มไหนก็ตาม ลูกค้าย่อมอยากได้รับความคุ้มค่าในทุกๆ บาทที่เขาจ่ายไป ฉะนั้นอย่าลืมคำนึงถึงกลุ่มลูกค้าก่อนที่จะตั้งราคาอาหาร

5.การแข่งขัน (Competitors)

ปฏิเสธไม่ได้ว่าร้านอาหารย่อมมีคู่แข่งมากมาย ซึ่งมีทั้งคู่แข่งที่อยู่ในทำเลเดียวกัน และคู่แข่งที่เป็นร้านอาหารประเภทเดียวกัน เช่น ร้านสเต็กที่มีหลายๆ เจ้า ร้านชาบูนี่มีเป็นร้อยๆ ร้าน เป็นต้น โดยเราสามารถใช้กลยุทธ์การตั้งราคาได้หลายวิธี เช่น Offer better price คือสู้ด้วยราคาที่ถูกกว่า แต่คุณภาพใกล้เคียงกัน หากเลือกวิธีนี้ ต้องไม่ลืมว่าคุณก็จะได้สัดส่วนกำไรน้อยลง หรืออีกวิธีหนึ่งที่น่าสนใจไม่แพ้กันคือ ใช้วัตถุดิบที่ดีกว่า คุณก็สามารถตั้งราคาได้สูงกว่าคู่แข่ง หรือการเสนอบริการที่ดีกว่า มีของสมมนาคุณ มีบัตรของขวัญ หรือการทำบัตรสมาชิก เหล่านี้ก็เป็นสิ่งที่คุณใช้ดึงดูดลูกค้าได้ ซึ่งดีกว่ากว่าลดราคาอาหาร

ราคาอาหาร เป็นหนึ่งในปัจจัยที่ทำให้ลูกค้าตัดสินใจก้าวเข้าร้านอาหารของคุณ และเป็นรายได้หลักที่ทำให้ร้านอาหารอยู่รอด ฉะนั้นก่อนตั้งราคาอาหาร ควรวิเคราะห์ข้อมูลต่างๆ ให้ละเอียด รอบคอบ เพื่อจะได้ไม่เจ็บตัวใจภายหลัง

เรื่องแนะนำ

เจาะกลุ่มลูกค้า

เจาะกลุ่มลูกค้า ร้านอาหาร บริการให้ตรงใจ ❤︎

ในยุคที่ธุรกิจร้านอาหารมีการแข่งขันสูง ทางร้านย่อมจะต้องหาวิธีดึงดูดและจูงใจลูกค้าให้เข้ามาใช้บริการ แต่ผู้บริโภคแต่ละกลุ่มมีความต้องการที่แตกต่างกันออกไป ดังนั้น การทำความเข้าใจลูกค้าแต่ละกลุ่มจึงเป็นเรื่องสำคัญ ที่จะช่วยให้พนักงานบริการลูกค้าที่ต่างกันอย่างเหมาะสม ทำให้ได้รับประสบการณ์ที่ดีจากร้าน ในบทความนี้เราจึง เจาะกลุ่มลูกค้า แต่ละแบบในร้านอาหาร เพื่อแนะนำแนวทางในการบริการให้เหมาะสม และเพิ่มโอกาสในการขายของร้านอาหารครับ เจาะกลุ่มลูกค้า ในร้านอาหาร บริการให้ตรงใจ 1. ลูกค้าที่มาเป็นคู่ ลูกค้าที่มากันสองคนหรือเป็นคู่รัก มักจะต้องการใช้เวลาด้วยกันมากกว่าต้องการให้พนักงานบริการเพิ่มเติม ดังนั้น พนักงานควรจะเลือกที่นั่งที่ให้ความรู้สึกค่อนข้างส่วนตัว เช่น โต๊ะที่อยู่ด้านในของร้าน หรือโต๊ะที่ห่างออกไปจากกลุ่มลูกค้าที่มาด้วยกัน เพื่อลดเสียงรบกวน หลังจากลูกค้าสั่งอาหารแล้วก็คอยสังเกตห่างๆ ว่าลูกค้าต้องการบริการใดเพิ่มเติมแล้วค่อยเข้าไปบริการ โดยเมื่อลูกค้ารับประทานอาหารหลักใกล้เสร็จ อาจจะขออนุญาตเข้าไปเก็บจานที่ไม่ใช้แล้ว พร้อมกับแนะนำเมนูของหวานเพิ่มเติม เพื่อเพิ่มยอดขายให้กับร้านอาหารได้ 2. กลุ่มคนทำงาน พนักงานออฟฟิศ สำหรับร้านที่อยู่บริเวณที่ทำงานในเมือง พนักงานออฟฟิศคงเป็นกลุ่มลูกค้าหลักในร้าน  ส่วนใหญ่จะมาในเวลาพักกลางวัน หรือหลังเลิกงานในตอนเย็น จากเวลาพักที่ใกล้เคียงกันของพนักงานออฟฟิศ ทำให้ร้านอาหารต้องบริหารจัดการโต๊ะให้ดีเพื่อเพิ่มจำนวนลูกค้าต่อวันให้มากขึ้น และหาวิธีทำงานที่รวดเร็วขึ้น เช่น อาจจะปรุงวัตถุดิบบางส่วนล่วงหน้าไว้ เพื่อลดระยะเวลาการทำอาหาร หรือมีกระดาษให้เลือกเมนูอยู่ที่โต๊ะเพื่อลดภาระของพนักงาน ลูกค้ากลุ่มนี้มักจะมาเป็นกลุ่มย่อยๆ ประมาณ 3-4 คน โดยสั่งอาหารจานหลักคนละจาน และอาจจะสั่งเมนูอื่นๆ มาแชร์กัน พนักงานอาจจะแนะนำเมนูทานเล่นอื่นๆ ที่มีขายภายในร้านนอกเหนือจากอาหารจานหลัก เพื่อกระตุ้นให้ลูกค้าอยากสั่ง […]

รู้เทคนิค คิดราคาขาย …ร้านไม่เสี่ยงขาดทุน

สำหรับเจ้าของร้านมือใหม่ มีหลายคนถามเข้ามาหลายเรื่องในการเริ่มต้นเปิดร้านอาหาร หรือเครื่องดื่ม ซึ่งหนึ่งในคำถามนั้นก็คือ การคิดราคาขาย ต้องคิดอย่างไร คำนวณจากอะไร ต้องเริ่มอย่างไรดี วันนี้เรามีเทคนิคการ คิดราคาขาย ให้กับร้าน ว่าต้องคำนวณจากอะไร และมีสูตรอย่างไรบ้าง สิ่งที่ต้องคำนึงถึงก่อนจะ คิดราคาขาย 1 เมนู 1. ต้นทุนอาหาร การตั้งราคาอาหารต่อ 1 เมนู ให้อยู่ประมาณ 3 เท่า ของต้นทุนทั้งหมด ทั้งวัตถุดิบ ค่าจัดส่ง ค่าน้ำ ค่าไฟ  เป็นวิธีที่ร้านส่วนมากนิยมใช้ แต่วิธีนี้อาจไม่ละเอียดและไม่แม่นยำมากพอ โดยเฉพาะต้นทุนวัตถุดิบที่อาจมีการเปลี่ยนแปลงไปตามสถานการณ์ ค่าความสูญเสีย รวมถึงค่าวัตถุดิบที่ใช้งานจริง และในส่วนของ Yield (การหาค่าเฉลี่ยของวัตถุดิบ 1 หน่วยที่ผ่านการตัดตกแต่ง หรือหักส่วนที่สูญเสียออกเรียบร้อยแล้ว) ที่ร้านส่วนใหญ่มักไม่ได้นำมาคำนวณด้วย   2. คู่แข่ง กลยุทธ์การตั้งราคา โดยดูจากคู่แข่งของร้านอาหารประเภทเดียวกันกับคุณ จะช่วยคาดเดาได้ว่า ลูกค้ามีกำลังพร้อมจ่ายอยู่ที่เท่าไหร่ แต่โดยส่วนมากจะนำมาใช้กับร้านอาหารที่สามารถแข่งขันด้านราคาได้โดยไม่กระทบต่อต้นทุนวัตถุดิบ และคุณภาพที่ลูกค้าจะได้รับ เช่น ร้านอาหารบุฟเฟต์ ร้านอาหารตามสั่งที่มีเมนูไม่มาก การตั้งราคาโดยคำนึงถึงคู่แข่งจึงต้องทำร่วมกับการคำนวณต้นทุนด้านอื่น ๆ […]

ยิ่งขาย ยิ่งขาดทุน

เพราะอะไร ร้านอาหาร ยิ่งขาย ยิ่งขาดทุน

ปัญหาหลักของร้านอาหารหลายๆ ร้านคือ ขายได้มาก แต่ได้กำไรเพียงน้อยนิด รู้ไหมว่า ปัญหานี้เกิดจากต้นทุนวัตถุดิบ ที่ส่งผลให้ร้านอาหาร ยิ่งขาย ยิ่งขาดทุน

Follow Me

Contact

เว็บไซต์ : amarinacademy.com
บริษัท เอเอ็มอี อิมเมจิเนทีฟ จำกัด
ในเครือ บริษัท อมรินทร์ คอร์เปอเรชั่นส์ จำกัด (มหาชน)
Tel : 02-422-9999 ต่อ 4662 หรือ 4669, 092-254-0742
Email : amarin.academy@gmail.com

ติดต่อแจ้งปัญหาหรือร้องเรียน
02-422-9999 ต่อ 4180
(จันทร์ – ศุกร์ เวลา 09.00 – 18.00 น)
bdcx@amarin.co.th

สนใจลงโฆษณากับเว็บไซต์ Amarin Academy
Tel. 081-664-0666, 091-729-8060
E-mail : sineenart_ya@amarin.co.th

© COPYRIGHT 2025 AME IMAGINATIVE COMPANY LIMITED.