ซื้อหุ่นยนต์ช่วยเสิร์ฟคุ้มไหม? เทียบให้ชัดความต่าง ระหว่างแรงงานคนและหุ่นยนต์

ซื้อหุ่นยนต์ มาช่วยเสิร์ฟจะคุ้มไหม? เทียบให้ชัดความต่าง ระหว่างแรงงานคนและหุ่นยนต์

ซื้อหุ่นยนต์ มาช่วยเสิร์ฟจะคุ้มไหม?
เทียบให้ชัดความต่าง
ระหว่างแรงงานคนและหุ่นยนต์

ปฏิเสธไม่ได้ว่าทุกวันนี้หลาย ๆ ธุรกิจ รวมถึงร้านอาหาร ได้มีการนำเอา หุ่นยนต์ เข้ามาใช้ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการในหลาย ๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นเพื่ออำนวยความสะดวก ลดต้นทุนค่าแรง เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน สร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้า ไปจนถึงการทำกำไรให้ร้านได้มากขึ้น

ซึ่งร้านอาหารในไทยที่ได้มีการนำ หุ่นยนต์ โดยเฉพาะ “ หุ่นยนต์เสิร์ฟอาหาร ” มาใช้ ก็อย่างเช่น Sizzler, MK, Sukishi, BarBQ Plaza และสุกี้ตี๋น้อย ที่เชื่อว่าหลาย ๆ คนที่เคยได้ไปใช้บริการ จะต้องเคยได้ใช้บริการน้อง ๆ หุ่นยนต์กันมาบ้าง ทีนี้มองในแง่ของการนำมาใช้ การใช้ หุ่นยนต์ แตกต่างจากการใช้พนักงานเสิร์ฟยังไง ? แล้วร้านแบบไหนที่เหมาะกับนำ หุ่นยนต์ นี้เข้ามาใช้ เรามาหาคำตอบกัน!

เว็บไซต์ www.idio-tech.net ผู้นำเข้าและจำหน่ายหุ่นยนต์เสิร์ฟอาหาร เคยได้ให้ข้อมูลเปรียบเทียบการทำงานระหว่างพนักงานและหุ่นยนต์ ที่สามารถสรุปได้ดังนี้

  • พนักงาน 1 คน สามารถให้บริการเสิร์ฟลูกค้าได้จำนวน 1-2 โต๊ะต่อรอบการทำงาน โดยมีความเร็วในการเดินอยู่ที่ 0.5-1.5 เมตร/วินาที ซึ่งพนักงาน 1 คนสามารถทำงานได้ในหลากหลายหน้าที่ แต่ก็ต้องมีวันหยุดและช่วงเวลาพัก และในส่วนของค่าแรงก็จะประกอบไปด้วย เงินเดือน, โอที รวมถึงสวัสดิการต่าง ๆ ซึ่งก่อนทำการเริ่มงานก็จะต้องผ่านการเทรนนิ่งมาก่อน เพื่อเป็นการฝึกทักษะ โดยปัญหาที่พบได้ เมื่อร้านใช้แรงงานคน ก็คือ การขาด ลา มาสาย พนักงานลาออก ไปจนถึงคุณภาพในการบริการที่ไม่ได้มาตรฐาน ขึ้นอยู่กับปัจจัยส่วนบุคคล ซึ่งงบประมาณในการใช้พนักงาน ก็จะอยู่ที่ราว ๆ 14,000-15,000 บาท/คน/เดือน

  • ในขณะที่ หุ่นยนต์ 1 ตัว สามารถให้บริการเสิร์ฟลูกค้าได้จำนวน 1-4 โต๊ะ หรือมากกว่านั้นต่อรอบการทำงาน โดยมีความเร็วในการเดินอยู่ที่ 0.5-1.2 เมตร/วินาที แม้หุ่นยนต์จะสามารถทำได้เฉพาะงานเสิร์ฟอาหาร แต่สามารถทำงานได้ต่อเนื่อง จะหยุดก็เฉพาะตอนชาร์ตไฟ โดยค่าใช้จ่ายสำหรับการใช้หุ่นยนต์ ก็จะมีค่าหุ่นยนต์ ที่อาจมาจากการเช่าหรือซื้อ ขึ้นอยู่กับร้านนั้น ๆ และค่าไฟฟ้า ซึ่งการทำงานสามารถเริ่มทำได้ทันที ส่วนปัญหาที่อาจเกิดขึ้นได้ ก็เช่น การชำรุด หรือขัดข้องจากการใช้งาน ซึ่งงบประมาณในการใช้หุ่นยนต์ ก็จะอยู่ที่ราว ๆ 13,000-15,000 บาท/ตัว/เดือน ขึ้นอยู่กับว่าเป็นหุ่นยนต์เช่าหรือซื้อ

  • ข้อดีมีมากเหมือนกัน

ด้วยงานส่วนใหญ่ของพนักงานร้านอาหาร โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ร้านประเภทบุฟเฟต์ คือ หน้าที่เสิร์ฟ ฉะนั้นการนำหุ่นยนต์เข้ามาใช้ จะสามารถช่วยลดงานส่วนนี้ของพนักงานได้เป็นอย่างมาก ไปจนถึงทำให้ร้านอาหารสามารถลดจำนวนพนักงานเสิร์ฟ และลดต้นทุนด้านค่าแรงลงได้ นอกจากนี้ยังมีแนวโน้มทำให้คุณภาพงานบริการของร้านเป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น เพราะพนักงานสามารถดูแลลูกค้าได้อย่างทั่วถึงยิ่ง ไม่ต้องโฟกัสอยู่กับการเสิร์ฟอาหารเพียงอย่างเดียว เมื่อพนักงานเหนื่อยน้อยลงก็อาจทำให้สามารถบริการลูกค้าด้วยพลังที่เต็มเปี่ยมและหน้าตาที่ยิ้มแย้มแจ่มใส พร้อมให้บริการ ซึ่งส่วนหนึ่งยังสามารถลดปัญหาการลาออกของพนักงานได้อีกด้วย

ทุกวันนี้การนำเอาเทคโนโลยีอย่าง “หุ่นยนต์เสิร์ฟอาหาร” มาใช้ เป็นที่แพร่หลายมากขึ้นในวงการธุรกิจอาหารไทย ซึ่งเป็นไปได้ว่าในอนาคตอันใกล้นี้ จะมีหุ่นยนต์เข้ามาทำหน้าที่ในด้านอื่น ๆ ด้วย เช่น การทำอาหาร การทำความสะอาด เนื่องด้วยต้นทุนที่ถูกลงของการผลิตเทคโนโลยี จึงเป็นไปได้ว่าในอนาคตเราอาจจะได้เห็นการนำหุ่นยนต์ประเภทต่าง ๆ ถูกนำมาใช้ในการทำร้านอาหารมากขึ้น

  • คนก็ยังจำเป็น

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าการนำหุ่นยนต์เสิร์ฟอาหารเข้ามาใช้ในร้านอาหาร จะเป็นอีกทางเลือกหนึ่งของผู้ประกอบการในยุคนี้ แต่ก็ต้องยอมรับว่าพนักงานเสิร์ฟก็ยังมีความจำเป็นอยู่ เพราะในบางสถานการณ์ก็ยังต้องพึ่งพาการตัดสินใจและความสามารถของมนุษย์เท่านั้น ที่จะสามารถทำได้ ดังนั้นหุ่นยนต์จึงเป็นตัวช่วยในการทำงานให้ราบรื่นขึ้น แต่อาจจะยังต้องการการทำงานร่วมกับพนักงานด้วย

ขอบคุณรูปภาพจาก “สุกี้ตี๋น้อย”
References: https://bit.ly/3wzJ21K, https://bit.ly/3AUrcJ7, https://bit.ly/3PVBWLF

เรื่องแนะนำ

ขายอาหารในศูนย์การค้า

10 ขั้นตอน ขายอาหารในศูนย์การค้า ต้องเริ่มอย่างไร?

เชื่อว่ามีร้านอาหารมากมาย ที่เคยคิดอยากจะเปิดร้านอาหารภายในศูนย์การค้า รวมถึงร้านที่ไม่ใช่แบรนด์ดัง ก็อยากจะพาร้านตัวเองเข้าสู่ศูนย์การค้า เพื่อให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น แต่ก็มีหลายคำถามมากๆว่า ขายอาหารในศูนย์การค้า ต้องเริ่มอย่างไร มีขั้นตอนอย่างไรบ้าง ยุ่งยากหรือไม่ คุณประภา จิตวิวัฒน์พร Leasing Manager Business Development Group ศูนย์การค้า Seacon Square มาให้คำตอบแบบ Step by Step ให้เจ้าของร้านให้ทราบกันเลย   10 ขั้นตอน ขายอาหารในศูนย์การค้า Step by Step ขั้นตอนแรก เจ้าของร้านต้องโทรเข้ามาที่ศูนย์การค้าเพื่อ ติดต่อฝ่ายขาย ว่ามีความประสงค์ต้องการจะเปิดร้านอาหาร ทีมฝ่ายขายจะมีการสอบถามเบื้องต้นว่า ต้องการเปิดร้านอะไร พื้นที่เท่าไหร่ จากนั้นก็จะให้ทางร้านส่ง Brand Profile มาให้พิจารณาเป็นลำดับถัดไป เจ้าของร้านส่ง Brand Profile ให้ศูนย์การค้าพิจารณา จุดนี้สำคัญมาก เจ้าของร้านต้องทำโปรไฟล์ร้านของตัวเองก่อน เพื่อให้รู้ว่าร้านของคุณเป็นอย่างไร ขายอาหาร หรือเครื่องดื่มประเภทใด หรือแม้กระทั่งมีจุดเด่นอะไรที่น่าสนใจ ยิ่งหากไม่ใช่ร้านดัง Brand […]

อาหารบูด

เมื่อลูกค้าเจอ ” อาหารบูด ” ควรทำอย่างไร

ร้านอาหารหลายๆ ร้าน คงเคยเจอปัญหาลูกค้าเจอ อาหารบูด ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่ของร้านอาหารเลยก็ว่าได้ แล้วอย่างนี้ เจ้าของร้านจะแก้ไขสถานการณ์นั้นอย่างไรดีล่ะ

ลูกค้าอยากบอกเจ้าของ

8 ข้อสำคัญที่ลูกค้า อยากบอกเจ้าของร้านอาหาร

รู้ไหม นอกจากรสชาติอาหารและการบริการ ลูกค้ายังมีความคาดหวังอื่นๆ ซ่อนอยู่ด้วย เราจึงขอรวบรวม 8 ข้อสำคัญที่ ลูกค้าอยากบอกเจ้าของ ร้านอาหารมาให้คุณ

6 ปัญหาที่ต้องระวัง  ในการนำ ร้านอาหารเข้าระบบเดลิเวอรี

6 ปัญหาที่ต้องระวัง เมื่อนำ ร้านอาหารเข้าระบบเดลิเวอรี

        การจะนำ ร้านอาหารเข้าระบบเดลิเวอรี เป็นทางเลือกกึ่งบังคับของผู้ประกอบการหลายๆท่าน ในช่วงที่มีการ Shutdown กรุงเทพฯ รวมถึงอีกหลายจังหวัดจากการแพร่ระบาดของ COVID-19 การปรับตัวเข้าสู่ระบบเดลิเวอรี จึงเป็นการเพิ่มโอกาสทำยอดขายทางออนไลน์ เพื่อชดเชยกับยอดขายหน้าร้านที่ลดลง รวมถึงเป็นการเพิ่มช่องทางในการขายใหม่ๆให้กับลูกค้า แต่ระบบนี้ก็ไม่ได้มีแต่ข้อดีเสมอไป ลองมาดูปัญหาที่ผู้ประกอบการควรระวังเพื่อไม่ให้ร้านขาดทุน!! หากต้องนำร้านอาหารเข้าร่วมให้บริการเดลิเวอรี 6 ปัญหาที่ต้องระวัง  เมื่อนำ ร้านอาหารเข้าระบบเดลิเวอรี 1. ไม่สามารถรักษาคุณภาพและรสชาติของอาหารได้         การส่งอาหารผ่านระบบเดลิเวอรี จะต้องมีการควบคุมมาตรฐานของอาหาร โดยกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ระบุว่าอาหารจะต้องปรุงสุกใหม่ เนื้อสัตว์ควรผ่านกระบวนการทำอาหารที่อุณหภูมิมากกว่า 70 องศาเซลเซียส และหลีกเลี่ยงการจำหน่ายอาหารประเภทเนื้อสัตว์ที่ปรุงไม่สุกเพื่อป้องกันการปนเปื้อนในอาหาร         นอกจากนี้ ผู้ประกอบการอาจจะต้องเจอกับปัญหารสชาติและคุณภาพของอาหารที่ด้อยลง ซึ่งมีสาเหตุได้จากหลายปัจจัย เช่น เกิดจากระยะเวลาในการจัดส่งที่ล่าช้า หรือการเลือกใช้บรรจุภัณฑ์ที่ไม่เหมาะสมกับชนิดของอาหาร เช่น อาหารทอด เมื่อนำบรรจุลงกล่องที่ปิดมิดชิด จะทำให้เกิดไอน้ำควบแน่นอยู่ที่ฝากล่อง และเกิดความชื้นทำให้อาหารนั้นไม่กรอบ รสชาติและสัมผัสของอาหารจึงไม่เหมือนเดิม ทางร้านควรมีแนวทางการแก้ไข โดยอาจจะเลือกใช้กล่องที่มีรูระบายความร้อน […]

Follow Me

Contact

เว็บไซต์ : amarinacademy.com
บริษัท เอเอ็มอี อิมเมจิเนทีฟ จำกัด
ในเครือ บริษัท อมรินทร์ คอร์เปอเรชั่นส์ จำกัด (มหาชน)
Tel : 02-422-9999 ต่อ 4662 หรือ 4669, 092-254-0742
Email : amarin.academy@gmail.com

ติดต่อแจ้งปัญหาหรือร้องเรียน
02-422-9999 ต่อ 4180
(จันทร์ – ศุกร์ เวลา 09.00 – 18.00 น)
bdcx@amarin.co.th

สนใจลงโฆษณากับเว็บไซต์ Amarin Academy
Tel. 081-664-0666, 091-729-8060
E-mail : sineenart_ya@amarin.co.th

© COPYRIGHT 2025 AME IMAGINATIVE COMPANY LIMITED.