กรณีศึกษา PRODUCT IS KING ขายดีได้ ไม่ต้องแข่งที่ "ราคา"

กรณีศึกษา PRODUCT IS KING ขายดีได้ ไม่ต้องแข่งที่ “ราคา”

กรณีศึกษา PRODUCT IS KING
ขายดีได้ ไม่ต้องแข่งที่ “ราคา”

ร้านก๋วยเตี๋ยวเรือพรีเมียม
ที่เลือกจะไม่แข่งขันเรื่องราคา แต่กลับทำให้ขายดีได้

 

เคยสงสัยไหม ? ทำไมร้านอาหารประเภทเดียว ๆ กัน บางร้านขายราคาค่อนข้างสูงเลย แต่ขายดีมาก นั่นเป็นเพราะ ลูกค้าไม่ได้โฟกัสแค่ราคาขายของสินค้า แต่ยังให้ความสำคัญกับความรู้สึกคุ้มค่าที่จะได้รับจากราคาที่จ่ายไปด้วย ซึ่งเมื่อพูดถึงประเด็นนี้แล้ว ก็ทำให้นึกถึงโพสต์หนึ่งของคุณหนุ่ย การตลาดวันละตอน ที่ได้พูดถึงราคาขนมถ้วยของร้านทองสมิทธิ์ ร้านก๋วยเตี๋ยวเรือสุดพรีเมียม ของคุณปลา อัจฉรา เจ้าของ iberry Group เครือร้านอาหารที่มีกว่า 50 สาขา
PRODUCT IS KING

โดยคุณหนุ่ยได้กล่าวประมาณว่า แม้ขนมถ้วยของทองสมิทธ์ จะมีราคาขายต่อถ้วยอยู่ที่คู่ละ 29 บาท ซึ่งดูแล้วก็อาจจะเทียบเท่าราคาขนมถ้วย 1 กล่องที่ขายกันตามท้องตลาด แต่ถึงอย่างนั้นผู้บริโภคหลาย ๆ คนก็ต่างบอกว่าขนมถ้วย และกล้วยทอดของทองสมิทธิ์อร่อยมาก จนบางคนไปเพื่อซื้อขนมของทองสมิทธิ์โดยเฉพาะ หรืออย่างเช่นร้าน Copper ที่ได้แตกไลน์ร้านอาหารใหม่ออกมาเป็น “เตี๋ยวคอปเปอร์” ที่ได้นำเมนูก๋วยเตี๋ยวเรือยอดนิยมในร้าน แยกออกมาทำแบบจริงจัง พร้อมกับเมนูขนม เครื่องดื่มอื่น ๆ ที่สื่อถึงความเป็นก๋วยเตี๋ยวเรือในรูปแบบพรีเมียม ซึ่งก็มีผู้คนต่างให้ความสนใจเข้าไปใช้บริการมากมาย ตั้งแต่เปิดวันแรก!

ซึ่งทั้งนี้เป็นไปได้ว่าปัจจัยที่ทำให้ร้านอาหารบางร้านสามารถขายได้ราคาที่สูงกว่าท้องตลาดนั้น ไม่ได้มีแค่เรื่องราคา แต่ยังมีปัจจัยอย่างอื่นร่วมด้วย

  • ประตูแรกเพิ่มโอกาสดึงดูดลูกค้า

Branding หรือกระบวนการสร้างแบรนด์ เป็นการออกแบบภาพลักษณ์และความเป็นตัวตนของร้านอาหาร ผ่านการออกแบบโลโก้ สื่อโฆษณา คอนเทนต์ในสื่อออนไลน์ต่าง ๆ แม้แต่คอมเมนต์ที่โต้ตอบกับลูกค้าในโซเชียลมีเดีย ก็ถือเป็นการสร้างแบรนด์ทั้งสิ้น
โดยการสร้างแบรนด์นี้มีวัตถุประสงค์หลัก เพื่อสื่อสารให้ลูกค้ารับรู้ว่า ร้านอาหารของเราขายอะไร มีจุดเด่นเอกลักษณ์อะไรบ้าง สร้างความแตกต่างให้ร้านโดดเด่นจากร้านอื่น ๆ เพื่อดึงดูดความสนใจของผู้บริโภค และนำไปสู่ความสนใจเข้ามาใช้บริการร้านอาหาร

  • ติดใจ

คุณภาพของวัตถุดิบและรสชาติที่โดดเด่นแตกต่างจากคู่แข่ง เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ลูกค้าตัดสินใจเข้ามาใช้บริการ เช่น การที่ร้านอาหารใช้วัตถุดิบที่ดี มีคุณภาพ หรือแตกต่างไปจากร้านอื่น ๆ ที่ขายในท้องตลาด เช่น การที่ร้านอาหารขายก๋วยเตี๋ยวเนื้อวากิว ก๋วยเตี๋ยวเนื้อออสเตรเลีย แทนก๋วยเตี๋ยวเนื้อธรรมดา หรือการขายที่ใส่ไอเดียเข้าไป เช่น จากเดิมร้านก๋วยเตี๋ยวอาจมีเส้นก๋วยเตี๋ยวให้เลือก คือ เส้นหมี่ บะหมี่ เส้นใหญ่ เส้นเล็ก วุ้นเส้น เราก็ใส่ไอเดียเพิ่มความแปลกใหม่ให้กับเมนูร้านเราด้วยการเพิ่มเส้นใหม่ ๆ เข้าไป เช่น เส้นอูด้ง วุ้นเส้นญี่ปุ่น เพื่อสร้างรสชาติ รสสัมผัสที่ต่างออกไป มอบประสบการณ์ใหม่ในการกินเมนูเดิม ๆ ให้กับลูกค้า ซึ่งถ้าเขากินแล้วชอบ ก็เป็นไปได้ว่าเขาจะกลับมาใช้บริการเราอีก ไปจนถึงกลายเป็นลูกค้าประจำในอนาคต

  • บริการ

การให้ “ประสบการณ์” เป็นสิ่งหนึ่งที่ทำให้หลาย ๆ ร้านดึงดูดลูกค้าเข้ามาใช้บริการได้ จากความคาดหวังในด้านต่าง ๆ เช่น การได้รับบริการที่ดี พนักงานช่วยเหลือให้คำแนะนำในการสั่งอาหาร มีบริการด้านอื่น ๆ เพิ่มเติม อย่างการมีขนมให้กินหรือมีกิจกรรมให้ทำในขณะรอคิว ระหว่างกินมีโชว์การแสดงให้ดู เพื่อสร้างความสนุกเพลิดเพลินให้กับลูกค้า ไปจนถึงเป็นการแสดงให้เห็นถึงไลฟ์สไตล์ รสนิยมของการมาใช้บริการ รวมถึงสถานะทางเศรษฐกิจ เป็นต้น
ซึ่งทั้งนี้ได้แสดงให้เห็นว่าการที่แบรนด์มอบสิ่งที่ “คุ้มค่า” หรือ “สิ่งที่เกินความคาดหวัง” ให้กับลูกค้าได้ เป็นปัจจัยที่สามารถดึงดูดลูกค้าให้เข้ามาใช้บริการได้ โดยที่ปัจจัยเรื่องราคาอาจไม่ใช่ปัจจัยต้น ๆ ที่มีผลต่อการตัดสินใจอีกต่อไป แต่เป็นสิ่งที่ลูกค้าได้รับและเกิดความรู้สึกพึงพอใจมากกว่า🥰

ขอบคุณรูปภาพจาก “เตี๋ยวคอปเปอร์”

Reference: https://www.facebook.com/nattapon.nui/posts/10160215203645987

 

เรื่องแนะนำ

food delivery

5 สิ่งที่ร้านอาหารต้องปรับ เมื่อเริ่มทำ Food delivery

ธุรกิจ Food Delivery กำลังมาแรง แต่ปัญหาสำคัญคือ ร้านอาหารหลายๆ ร้านไม่รู้จะเริ่มปรับจากจุดไหน เพื่อให้ไม่กระทบต่อหน้าร้าน วันนี้เรามีเทคนิคดีๆ มาฝาก

ตั้งราคาขาย

ตั้งราคาขาย อย่างไร ให้ขายได้และร้านอยู่รอด

        ในช่วงวิกฤตแบบนี้ สิ่งสำคัญที่จะช่วยให้ร้านอาหารอยู่รอดได้ คือการบริหารจัดการต้นทุนที่ดี และการ ตั้งราคาขาย (Price Strategy) ของอาหารที่เหมาะสม โดยเฉพาะในวงการอาหารเดลิเวอรีที่มีการแข่งขันสูง มีร้านอาหารแบบเดียวกันเป็นจำนวนมาก ผู้ประกอบการจะต้องใช้กลยุทธ์ทุกอย่างที่ทำได้ เพื่อให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อจากร้านของเรา ลองมาดูการตั้งราคาขายอาหารและกลยุทธ์ต่างๆ ที่อาจจะช่วยร้านของคุณได้ครับ ตั้งราคาขาย อย่างไร  ให้ขายได้และร้านอยู่รอด         พื้นฐานของการ ตั้งราคาขาย อาหาร ต้องคำนวณมาจากต้นทุนของร้าน เช่น ต้นทุนวัตถุดิบ ควรอยู่ที่ 30-35% ของยอดขาย ตัวอย่างเช่น ต้นทุนวัตถุดิบเท่ากับ 30 บาท ราคาขายก็ควรจะตั้งไว้ประมาณ 100 บาท เป็นต้น          แต่ไม่ใช่ว่าการคำนวณแบบนี้จะเหมาะสมกับทุกร้านอาหาร เพราะยังมีต้นทุนอื่นๆ ได้แก่ ค่าจ้างพนักงาน ค่าเช่าที่ และค่าการตลาดอื่นๆ ส่วนใครที่นำร้านอาหารเข้าร่วมกับผู้ให้บริการเดลิเวอรีต่างๆ ก็อย่าลืมต้นทุนค่า GP […]

พีคไทม์ ออเดอร์แน่น! ร้านอาหารรับมืออย่างไร?

Host จัดคิว ให้เหมาะสมกับที่นั่ง การทำยอดขายขึ้นอยู่กับการจัดที่นั่ง การจัดการด้านที่นั่งให้เพียงพอกับลูกค้าตามจำนวนที่คาดการณ์ การจัดสรรที่นั่ง และรับออเดอร์ได้อย่างรวดเร็ว จะช่วยลดระยะเวลาในการบริการหน้าร้าน ส่งผลให้ร้านสามารถทำรอบได้สูง ในช่วงเวลาพีคไทม์ ร้านอาหารหลายแห่งจะมีการจ้าง Host ในการรับหน้าที่ต้อนรับลูกค้า พาลูกค้าไปยังที่นั่ง แต่หากร้านของคุณเป็นร้านเล็ก ๆ ก็สามารมอบหน้าที่ให้กับหัวหน้าพนักงานเสิร์ฟ หรือผู้จัดการร้านอาหารในการดูแล โดยจะต้องมีทักษะในการวางแผนจัดการที่นั่ง การสื่อสารกับลูกค้า  รวมถึงประสานกับพนักงานส่วนบริการเพื่อรับหน้าที่ต่อได้เป็นอย่างดี   อุปกรณ์ วางแผนให้เหมาะกับ Turn ถ้าหากอุปกรณ์ไม่เพียงพอต่อจำนวนลูกค้า อาจส่งผลโดยตรงกับประสบการณ์ในการรับบริการ การเตรียมความพร้อมด้านอุปกรณ์จึงเป็นเรื่องสำคัญ คุณอาจจะคาดการณ์ได้จากจำนวนลูกค้าที่สูงสุดที่รับในช่วงพีคไทม์ ว่าจะใช้ได้กี่รอบ ยกตัวอย่าง ร้านอาหาร 40 ที่นั่ง คาดการณ์ว่าจะรับลูกค้าได้ 2 รอบในช่วงพีคไทม์ อุปกรณ์สำหรับลูกค้าจะต้องมี 80 ชุด  และคุณอาจจะบวกจำนวนเพิ่มขึ้นมากกว่านั้นสัก 1 เปอร์เซนต์ โดยคำนวณให้เพียงพอ ไม่ควรเผื่อการนำอุปกรณ์ที่มีอยู่ไปล้างเพื่อใช้ในช่วงเวลานี้   เตรียมอาหารให้พร้อม มีคนรอซื้อแต่ไม่มีของขาย มีขายแต่ขายช้า ลูกค้าต้องรอเป็นระยะเวลานานๆ ทำให้รับลูกค้าได้น้อยรอบ  รวมถึงประสบการณ์ยอดแย่อันดับต้น ๆ ที่ลูกค้าร้านอาหารเจอและทำให้ไม่กลับไปกินร้านอาหารนั้น ๆ […]

Follow Me

Contact

เว็บไซต์ : amarinacademy.com
บริษัท เอเอ็มอี อิมเมจิเนทีฟ จำกัด
ในเครือ บริษัท อมรินทร์ คอร์เปอเรชั่นส์ จำกัด (มหาชน)
Tel : 02-422-9999 ต่อ 4662 หรือ 4669, 092-254-0742
Email : amarin.academy@gmail.com

ติดต่อแจ้งปัญหาหรือร้องเรียน
02-422-9999 ต่อ 4180
(จันทร์ – ศุกร์ เวลา 09.00 – 18.00 น)
bdcx@amarin.co.th

สนใจลงโฆษณากับเว็บไซต์ Amarin Academy
Tel. 081-664-0666, 091-729-8060
E-mail : sineenart_ya@amarin.co.th

© COPYRIGHT 2025 AME IMAGINATIVE COMPANY LIMITED.