เริ่มจากก้าวเล็ก ๆ เปิดท้ายขายของหลังรถ ตัวเลือกการขายที่ทำให้ใกล้ลูกค้ามากขึ้น

เริ่มธุรกิจจากก้าวเล็ก ๆ เปิดท้ายขายของหลังรถ ตัวเลือกการขาย ที่ทำให้ใกล้ลูกค้าได้มากขึ้น

เริ่มธุรกิจจากก้าวเล็ก ๆ
เปิดท้าย ขายของหลังรถ
ตัวเลือกการขาย ที่ทำให้เราใกล้ลูกค้าได้มากขึ้น

เคยไหม ? อยากจะเริ่มต้นขายอาหาร แต่ก็อยากเริ่มจากจุดเล็ก ๆ ลงทุนไม่มาก ถ้าคิดว่าขายได้ ก็ค่อยขยับขยายต่อ วันก่อนแอดได้ไปสะดุดตากับโพสต์หนึ่งในกลุ่มขายของแถวบ้าน ที่เจ้าของร้านได้นำรถยนต์ส่วนตัวมาเปิดท้ายขายขนมและผลไม้ ซึ่งเดาว่าเธอน่าจะทำงานประจำ แล้วมาเปิดขายเวลาเลิกงาน เพราะไม่ได้มาทุกวัน ตอนได้เห็นก็เออน่ารักดี เอาของที่มีอยู่มาปรับใช้

และทำให้นึกถึงอีกร้านหนึ่งที่นำรถยนต์ส่วนตัวมาเปิดท้ายขายของเหมือนกัน และช่วงปีก่อนดังมากแต่ร้านนี้ขายส้มตำ มาวันนี้เขาก็ยัง ขายหลังรถ เหมือนเดิมนะ แต่ที่เพิ่มเข้ามาคือมีหน้าร้านในห้างฯ ด้วย ปังไหมล่ะ นี่จึงทำให้เห็นว่าแม้ว่าจะเริ่มจากก้าวเล็ก ๆ ก็ไม่ได้แปลว่าเราจะขยับขยายไม่ได้อีก มาถึงตรงนี้เห็นคนใช้รถมาขายของ แล้วหันมามองดูรถตัวเอง เราก็มีต้นทุนนี่นา งั้นวันนี้เราลองมาดูว่าถ้าเราอยากจะ เปิดท้ายขายของ บ้าง จะต้องคำนึงถึงอะไรบ้าง?

การขายท้ายรถเป็นยังไง?

การขายท้ายรถที่ว่านี้ เป็นการเอารถมาเปิดท้ายทำเป็นหน้าร้าน โดยนำเอาสินค้าและอุปกรณ์ต่าง ๆ มาจัดวางในบริเวณที่วางสัมภาระหลังรถ และใช้วิธีการไปจอดขายยังสถานที่หนึ่ง ๆ ที่สามารถจอดได้ โดยร้านอาจมีจุดจอดประจำเพื่อให้ลูกค้าจำได้ ว่าร้านจะขายอยู่ตรงนี้ หรืออาจใช้การกำหนดจุดจอดในแต่ละวัน แล้วอาศัยวิธีบอกให้ลูกค้าที่มาซื้อทราบ หรือแจ้งผ่านทางช่องทางต่าง ๆ แทน

ขายอะไร?

คำถามแรกที่คนอยากจะเปิดร้านต้องตอบให้ได้ ก็คือขายอะไร ซึ่งถ้าเราคิดไว้แล้วว่าเราจะขายหลังรถ ก็ต้องยอมรับว่ามันก็มีข้อจำกัดหลายอย่าง เช่น พื้นที่ของรถ ข้อจำกัดของประเภทสินค้าที่ขาย

ดังนั้นก็ต้องดูว่าสินค้าของเราคืออะไร และเหมาะที่จะมาตั้งขายหลังรถได้หรือเปล่า เช่น เป็นอาหารสดหรืออาหารแห้ง เป็นอาหารแบบทำใหม่ half-cooked หรือสำเร็จรูป

อย่างร้านที่นำมายกตัวอย่างในตอนต้น ขายขนมและผลไม้ เป็นของแห้งและสำเร็จรูป ก็สามารถขายได้เลยไม่ต้องปรุงใหม่ หรืออย่างร้านส้มตำ ที่ใช้การเตรียมของมาปรุง ตำ ยำ ก็ไม่ต้องมีกรรมวิธีมาก ง่ายต่อการขาย และสอดรับกับข้อจำกัดที่มีอยู่ได้

ขายให้ใคร?

เมื่อได้ของที่จะขายแล้ว ก็มาพิจารณาต่อว่าสินค้าของเรามีกลุ่มเป้าหมายเป็นใคร ใครที่ต้องการสินค้าของเรา จากนั้นก็คิดว่า แล้วเราจะไปหาคนเหล่านั้นได้จากที่ไหน เวลาไหน ซึ่งคำตอบของคำถามนี้นี่แหละ ที่จะทำให้เรารู้ว่าควรไปจอดขายที่ไหนถึงจะมีคนซื้อ

ขายที่ไหน?

สุดท้ายเมื่อเรารู้แล้วว่ากลุ่มเป้าหมายของสินค้าเราคือใคร และเขาอยู่ที่ไหน เราก็ไปหาแหล่ง พื้นที่ สถานที่ที่คิดว่าเราจะสามารถไปจอดขายได้ เพื่อทำการขาย เช่น การไปจอดขายผัก ผลไม้แถวสวนสาธารณะ ในตอนเช้าและตอนเย็น การไปจอดขายส้มตำใกล้ ๆ ตลาดหรือชุมชนที่มีคนเยอะ ๆ สำหรับการเปิดท้ายขายของ การเลือกพื้นที่จอดเป็นสิ่งสำคัญ ซึ่งส่วนนี้ผู้ขายก็ต้องทำการบ้านมาด้วย ว่าจุดไหนสามารถจอดได้ หรือต้องทำอะไรบ้างในการจอด เพื่อที่จะไม่สร้างปัญหาให้กับตัวเองในภายหลัง

ทั้งนี้ก็เป็นเรื่องพื้นฐานที่คนอยากจะเปิดท้ายขายของควรรู้ ถ้าหากอยากจะลองเริ่มต้นทำธุรกิจเล็ก ๆ ลองตลาดดู ซึ่งก็ถือเป็นตัวเลือกในการทำธุรกิจอย่างหนึ่งที่ทำได้จริง ๆ แม้ว่าช่วงนี้น้ำมันจะแพงมาก เราก็เลยจะเน้นจอด ไม่เน้นขับ มองอีกมุมนึงถ้าลงทุนไป แล้วมันคุ้มค่าก็ดีกว่าอยู่เฉย ๆ จริงไหม ยุคนี้ต้องมีมากกว่า 1 อาชีพจริง ๆ แอดก็จะลองไปเปิดท้ายขายของหลังรถดูบ้างแล้ว

#AmarinAcademy #ร้านอาหาร

เรื่องแนะนำ

ถอดบทเรียนสุกี้ตี๋น้อย เหตุผลของปรากฎการณ์ 5 ทุ่มก็ยังคิวล้นร้าน

ถอดบทเรียน สุกี้ตี๋น้อย เหตุผลของปรากฎการณ์ 5 ทุ่มก็ยังคิวล้นร้าน ผู้บริโภคตั้งคำถาม หลังอยากกิน ตี๋น้อย แต่คิวยาวทุกร้าน พร้อมรวมเหตุผลจากผู้บริโภคหลายคนพูดเป็นเสียงเดียวกัน เป็นเหมือนกันไหม ? อยากกิน ตี๋น้อย แต่คิวยาวเกิ้น… ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งได้มาโพสต์ตั้งคำถามใน “กลุ่มคนรักบุฟเฟต์ (Buffet Lovers)” ถึงเรื่องการไปใช้บริการร้านสุกี้ตี๋น้อย ที่มักจะพบว่าทุกสาขามีลูกค้ารอคิวอยู่ยาวเหยียดตลอด พร้อมตั้งคำถามถึงการใช้กลยุทธ์การตลาดของร้านดังกล่าว ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายนี้โพสต์ว่า “การตลาดตี๋น้อยเขาดีหรืออะไรยังไง เมื่อคืน5ทุ่มกว่าๆ ไปกินคิดว่าไม่มีคิว พอไปถึงคิวยาวเหยียด วนรถไปอีกสาขาก็คิวยาวเหมือนกัน ยอดขายจะปังไปไหน” ซึ่งเมื่อเรื่องนี้ออกไปก็ได้มีสมาชิกกลุ่ม ผู้บริโภคต่างเข้ามาแสดงความคิดเห็นถึงเหตุผลที่ใครต่อใครมักจะไปใช้บริการร้านสุกี้ตี๋น้อย จนทำให้ทุกสาขามีคิวยาวอย่างที่เห็น โดยสามารถสรุปเป็นเหตุผลหลัก ๆ ดังนี้ ความคุ้มค่า เรื่องราคาเป็นเหตุผลอันดับแรก ๆ ที่หลายคนบอกว่าเป็นปัจจัยที่ทำให้พวกเขามาใช้บริการร้านสุกี้ตี๋น้อย เนื่องจากสุกี้ตี๋น้อย ถือว่าอยู่ในเรทราคาที่จับต้องได้ และสามารถทานได้หลายอย่าง โดยบางคนได้ยกตัวอย่างว่าถ้าเทียบกับร้านอื่นที่เรทราคาเท่ากัน บางร้านอาจจะไม่มีอาหารประเภทซีฟู้ดรวมอยู่ด้วย แต่สุกี้ตี๋น้อยมี และที่สำคัญคุณภาพของวัตถุดิบที่ใช้ ก็อยู่ในระดับที่เขาพึงพอใจ ประกอบกับบรรยากาศของร้านสุกี้ตี๋น้อยที่อยู่ในห้องแอร์ มีที่นั่งกว้างขวาง จึงทำให้เขารู้สึกคุ้มค่าในการมาใช้บริการ ช่วงเวลาในการเปิด ต่อมาคือช่วงเวลาในการเปิดปิดร้านที่เปิดตั้งแต่ 12.00-05.00 ด้วยช่วงเวลาเปิดที่ยาวนานถึงดึก ตรงนี้จึงเป็นจุดหนึ่งที่ตอบโจทย์ลูกค้าที่ไม่มีเวลามาใช้บริการในช่วงกลางวัน […]

ยอดขายร้านอาหาร

จิตวิทยาการตลาด เพิ่ม ยอดขายร้านอาหาร ด้วย “เทคนิค FOMO”

        ในยุคที่ร้านอาหารถูกบังคับให้ต้องพึ่งพาระบบเดลิเวอรี การตลาดออนไลน์จึงยิ่งมีการแข่งขันสูงขึ้น โดยมีเป้าหมายให้ลูกค้าซื้ออาหารจากร้านของตัวเอง ซึ่งหนึ่งในวิธีที่จะช่วยดึงดูดลูกค้าได้ คือการสร้างโฆษณาที่น่าสนใจ แต่จะทำอย่างไรให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้น ลองมาศึกษาหลักจิตวิทยาการตลาด ที่จะช่วยเพิ่ม ยอดขายร้านอาหาร ของคุณด้วยเทคนิค FOMO ครับ หลักจิตวิทยาการตลาด: เทคนิค FOMO  ช่วยเพิ่ม ยอดขายร้านอาหาร         FOMO เป็นคำย่อมาจาก Fear Of Missing Out ซึ่งเป็นกลยุทธ์การตลาดจากทำให้ลูกค้าเกิดความรู้สึกว่า “ไม่อยากพลาดโอกาส” เช่น กลัวจะไม่ได้รับสิทธิพิเศษที่มีจำกัด ซึ่งจะช่วยกระตุ้นให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้น เป็นการเลือกจากความรู้สึกในตอนนั้นมากกว่าการใช้เหตุผล และทำให้เกิดความพอใจที่ซื้อได้ทันเวลา รู้สึกคุ้มค่า เหมือนเวลาที่เผลอซื้อสินค้าช่วง Flash Sales แม้จะไม่จำเป็นนั่นแหละ หรือแม้แต่การกด Like เพจที่รวมโปรโมชันอาหารต่างๆ ในเฟสบุ๊ก เพราะไม่มีใครอยากพลาดโอกาสกันหรอกครับ          จะเห็นว่าหลักจิตวิทยาแบบนี้พบได้จริงในชีวิตประจำวัน และเกิดขึ้นได้ในทุกเพศทุกวัย  รวมถึงช่องทางออนไลน์ก็สามารถเข้าถึงผู้บริโภคกลุ่มใหญ่ได้ โดยที่มีค่าใช้จ่ายไม่สูงมากนัก ผู้ประกอบการร้านอาหารในยุคนี้ […]

7 Social Media Marketing การทำการตลาดออนไลน์สำหรับธุรกิจร้านอาหาร

Social Media Marketing การทำการตลาดออนไลน์สำหรับธุรกิจร้านอาหาร ลองคิดดูว่ามันน่าเสียดายขนาดไหน? หากคุณเป็นเจ้าของร้านอาหาร ลงทุนไปกับการเปิดร้านใหม่ คิดสูตรเมนูอาหารอร่อยๆหลากหลายเมนู ร้านก็ตั้งอยู่ในทำเลที่ดี แต่กลับไม่มีใครรู้จัก เพียงเพราะขาดช่องทางการโปรโมทที่ดี แถมลูกค้าเก่าก็เริ่มย้ายไปกินร้านที่มีคนรีวิวเยอะๆกันหมด ทั้งที่ทำเลก็ไม่ได้ดีเท่าไร แน่นอน! เป็นใครก็เสียดาย อุตส่าห์ใช้เงินเก็บมากมายลงทุนเปิดร้าน แต่ดันจะเจ๊งเพราะไม่รู้ “ช่องทาง” ดีๆไว้ใช้โปรโมทร้าน  เมื่อรู้แล้วว่ามันสำคัญขนาดนี้ มาดูกันดีกว่า ว่าคุณจะโปรโมทร้านอาหารของคุณผ่านช่องทาง Social Media Marketing ไหนได้บ้าง ทำได้รับรองลูกค้าไหลมาเทมา คอนเฟิร์ม!!    7 Social Media Marketing สำหรับธุรกิจร้านอาหาร 1. Facebook ข้อดีของการโปรโมทร้านบน Facebook อย่างแรกเลยคือ ร้านอาหารของคุณจะมีตัวตนอยู่บน Social Media ที่คนเล่นเยอะที่สุดในประเทศไทย โดยมีถึง 45 ล้านบัญชีที่ออนไลน์ และที่เยี่ยมกว่านั้น การใช้ Facebook อย่างมีกลยุทธ์ ยังเป็นการสร้างแบรนด์และสร้างความน่าเชื่อถือของร้านได้เป็นอย่างดี ทำให้เกิดฐานลูกค้าประจำในระยะยาวได้อีกด้วย Facebook ยังช่วยเพิ่มการรับรู้ กระตุ้นการพิจารณาซื้อ และเพิ่มความผูกพันกับประสบการณ์ด้านอาหารให้ร้านของคุณ ลูกค้าสามารถสั่งอาหารบนมือถือได้ทุกที่ ทุกเวลา คุณจึงต้องเตรียมตัวให้พร้อมเสมอ เช่น […]

วิธีตั้งชื่อแบรนด์ แบบอูน DIAMOND GRAINS เจ้าแม่อาหารสุขภาพร้อยล้าน

ถอดบทเรียน การตั้งชื่อแบรนด์ คุณอูน DIAMOND GRAINS เจ้าแม่อาหารเพื่อสุขภาพร้อยล้าน ผู้ไม่เคยหยุดพัฒนา กับแนวคิดการสร้างแบรนด์และการตั้งชื่อแบรนด์ต่างๆ เชื่อว่าหลาย ๆ คนจะต้องรู้จักนักธุรกิจสาวไฟแรงคนนี้ “คุณอูน ชนิสรา วงศ์ดีประสิทธิ์” หรือที่ใคร ๆ รู้จักกันในชื่อ อูน Diamond Grains ต้นแบบและแรงบันดาลใจในการใช้ชีวิตหรือทำธุรกิจของใครหลาย ๆ คน แต่ทุกคนรู้ไหมว่าคุณอูนไม่ได้ทำแค่แบรนด์ Diamond Grains อย่างเดียวนะ แต่ยังทำแบรนด์อื่น ๆ อีกถึง 6 แบรนด์!!! ซึ่งวันก่อนแอดก็ได้มีโอกาสดูคลิปที่คุณอูนได้มาแชร์ถึงวิธีการตั้งชื่อแบรนด์ของตัวเอง ที่ต้องบอกว่าแต่ละชื่อมีเอกลักษณ์และบ่งบอกถึงตัวตนของแบรนด์มาก ๆ ว่าแต่วิธีของคุณอูน จะมีอะไรบ้าง ? เราลองมาถอดบทเรียนการตั้งชื่อแบรนด์ในแบบของ คุณอูน Diamond Grains กัน! เล่ากระบวนการ ในที่นี้คุณอูนเล่าที่มาของการตั้งชื่อแบรนด์ผลิตภัณฑ์อาหารสุขภาพจากกราโนล่าและธัญพืช Diamond Grains ว่าเกิดมาจากการที่สามี คุณแพค วุฒิกานต์ กำลังดูการ์ตูนเรื่อง One Piece ทำให้รู้สึกว่า กว่าที่ธัญพืชจะผ่านกระบวนการต่าง […]

Follow Me

Contact

เว็บไซต์ : amarinacademy.com
บริษัท เอเอ็มอี อิมเมจิเนทีฟ จำกัด
ในเครือ บริษัท อมรินทร์ คอร์เปอเรชั่นส์ จำกัด (มหาชน)
Tel : 02-422-9999 ต่อ 4662 หรือ 4669, 092-254-0742
Email : amarin.academy@gmail.com

ติดต่อแจ้งปัญหาหรือร้องเรียน
02-422-9999 ต่อ 4180
(จันทร์ – ศุกร์ เวลา 09.00 – 18.00 น)
bdcx@amarin.co.th

สนใจลงโฆษณากับเว็บไซต์ Amarin Academy
Tel. 081-664-0666, 091-729-8060
E-mail : sineenart_ya@amarin.co.th

© COPYRIGHT 2025 AME IMAGINATIVE COMPANY LIMITED.