พร้อมคว้าทุกโอกาส!! 4 ปัจจัยช่วยให้ ร้านอาหารฟื้นตัว เร็วหลังวิกฤต

พร้อมคว้าทุกโอกาส!! 4 ปัจจัยช่วยให้ ร้านอาหารฟื้นตัว เร็วหลังวิกฤต

        ร้านอาหารฟื้นตัว จากวิกฤตได้หรือไม่? เนื่องจาก “อาหาร” เป็นหนึ่งในปัจจัย 4 ที่ขาดไม่ได้ ธุรกิจอาหารจึงเป็นหนึ่งในธุรกิจที่ไม่มีวันตาย เพียงแต่ว่าธุรกิจนี้มีการแข่งขันที่รุนแรงจากผู้ประกอบการจำนวนมากในตลาด ประกอบกับภาวะเศรษฐกิจขาลง ทำให้ผู้ประกอบการต้องรู้จักปรับตัวพัฒนาอยู่เสมอ ในช่วงวิกฤตโควิด-19 นี้ ก็ทำให้ร้านอาหารหลายๆร้านสามารถคิดหาหนทางใหม่ในการดำเนินธุรกิจ แบบที่ไม่เคยคิดว่าจะทำได้ หรือไม่เคยลองทำมาก่อนในภาวะปกติ เรียกได้ว่าเป็นความท้าทายที่ผลักดันให้หลายคนได้ลองเปิดประตูบานใหม่

        ในด่านต่อไปที่ผู้ประกอบการร้านอาหารต้องคิดวางแผนคือ หากสถานการณ์ต่างๆ ดีขึ้น และการแพร่ระบาดของไวรัสอยู่ในการควบคุมแล้ว ธุรกิจร้านอาหารจะต้องทำอย่างไรเพื่อให้ไปต่อได้เร็ว และสามารถคว้าโอกาสได้ก่อน ลองมาดูปัจจัยสำคัญที่จะช่วยให้ ร้านอาหารฟื้นตัว ได้เร็วหลังผ่านวิกฤตกันครับ  

ปัจจัยสำคัญช่วยให้ “ร้านอาหารฟื้นตัว” เร็วหลังวิกฤต

ร้านอาหารฟื้นตัว

 

1. สร้างฐานลูกค้าประจำให้กลับมาซื้อซ้ำ

        การขายแบบเดลิเวอรีหรือทางออนไลน์มากขึ้น ย่อมทำให้ทางร้านเก็บข้อมูลของลูกค้า และข้อมูลการขายเมนูอาหารต่างๆ ได้ง่ายขึ้นมาก กลุ่มเป้าหมายของร้านก็จะชัดเจนมากขึ้น ทางร้านก็ต้องสร้างช่องทางการติดต่อ และช่องทางการสั่งอาหารให้ครบถ้วน มีแผนการตลาดที่ช่วยรักษาลูกค้ากลุ่มนี้ให้กลับมาซื้ออาหารซ้ำอีก อำนวยความสะดวกให้แก่ลูกค้าที่ใช้บริการ หากได้รับคำติชมก็สามารถแสดงความรับผิดชอบ และปรับปรุงแก้ไขได้อย่างรวดเร็ว
        นอกจากนี้ การตลาดออนไลน์ของร้านอาหารก็เป็นเรื่องสำคัญมากเช่นกัน ควรมีการอัพเดตข้อมูลเมนูอาหาร โปรโมชันต่างๆ มาตรฐานความสะอาดในร้าน เพื่อสร้าง Brand awareness และเรียกความมั่นใจของลูกค้า รวมถึงพร้อมประชาสัมพันธ์ร้านอาหารในกรณีที่สถานการณ์ดีขึ้นแล้ว 

2. รักษาพนักงานที่ดีไว้กับร้าน

        ในช่วงวิกฤตที่ผ่านมานี้ รายได้ที่ลดลงทำให้ผู้ประกอบการต้องจัดการกับต้นทุนที่ยังคงต้องจ่ายเท่าเดิม ตัวอย่างเช่น ค่าแรงพนักงาน ซึ่งร้านอาหารแต่ละที่ก็มีการจัดการแตกต่างกันไป บางแห่งใช้วิธีพูดคุยถึงปัญหาและหาทางออกร่วมกัน ทั้งการลดเงินเดือนพนักงานบางส่วน การเปลี่ยนช่วงเวลาทำงาน คิดหาผลิตภัณฑ์ใหม่มาจำหน่าย รวมถึงหารายได้เสริมทางอื่นๆ เพื่อให้ทั้งร้านและทีมงานสามารถไปต่อด้วยกันได้ 

        อย่าลืมว่าการบริหารจัดการพนักงานเป็นหนึ่งในปัญหาใหญ่ของร้านอาหาร กว่าที่ร้านจะรับสมัครพนักงานในทีมที่เหมาะสมมาได้ไม่ใช่เรื่องง่าย การรักษาพนักงานที่ดีไว้กับร้าน จะช่วยลดค่าใช้จ่ายและเวลาในการหาพนักงานใหม่ ประหยัดเวลาที่ใช้เทรนงาน และการดำเนินงานในร้านไหลลื่นขึ้น เพราะร้านอาหารไม่สามารถทำคนเดียวได้ และทีมงานที่ดีจะช่วยให้ธุรกิจฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็วขึ้นแน่นอน 

ร้านอาหารฟื้นตัว

3. วางแผนธุรกิจล่วงหน้า

        การวิเคราะห์และวางแผนล่วงหน้าจะช่วยให้ธุรกิจไปต่อได้เร็วขึ้น เพราะทุกอย่างได้ผ่านการคิดหาลู่ทางไว้แล้ว ไม่ใช่แค่ Plan A แต่จะต้องมี Plan B, C, D และอื่นๆ เท่าที่จะคิดได้ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว เพื่อรองรับในแต่ละสถานการณ์ ซึ่งอาจจะวางแผนในด้านต่างๆ ตามหลัก 7Ps ซึ่งเป็นกลยุทธ์ทางการตลาดสำหรับธุรกิจบริการ

  • People (พนักงาน)
    เช่น จำนวนพนักงานที่พร้อมทำงานเมื่อสามารถเปิดหน้าร้านได้ เงินเดือนที่เหมาะสมกับตำแหน่งงานต่างๆ การฝึกอบรมพนักงานใหม่ให้ได้ตามมาตรฐานของร้าน
  • Process (ขั้นตอนการทำงาน)
    การแบ่งหน้าที่ภายในร้านที่จะเปลี่ยนไปหลังจากให้คนนั่งทานในร้านได้ การปรับเปลี่ยนเวลาทำการของร้านหลังจบเคอร์ฟิว จะมีการจัดการต้นทุนอย่างไรให้ร้านมีกำไรเท่าที่ตั้งเป้าหมายไว้
  • Physical Evidence (สิ่งแวดล้อมทางกายภาพ)
    การรักษามาตรฐานความสะอาดของอาหาร และภายในร้านเพื่อความมั่นใจของลูกค้า
  • Price (ราคา)
    การตั้งราคาเมนูอาหารที่ขายหน้าร้าน และราคาอาหารเมนูทางเดลิเวอรีที่ทำให้ลูกค้ารู้สึกคุ้มค่า และร้านยังสามารถบริหารจัดการต้นทุนให้ได้กำไร
  • Product (ผลิตภัณฑ์)
    ต้องปรับเมนูอาหารในร้านอย่างไรเมื่อสามารถให้ลูกค้านั่งทานในร้านได้แล้ว จะนำผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่คิดไว้ในช่วงปิดร้านมาต่อยอดอย่างไร ให้ร้านมีช่องทางหารายได้มากขึ้น
  • Place (ช่องทางการจัดจำหน่าย)
    ทั้งการขายผ่านสื่อออนไลน์ แอปพลิเคชันเดลิเวอรี และการขายหน้าร้าน ร้านอาหารจะสามารถรองรับลูกค้าได้แค่ไหน หรือวางผังที่นั่งในร้านอย่างไรจึงจะมี social distance ที่เหมาะสม? ทำเลของร้านอาหารเหมาะสมหรือไม่?
  • Promotion (การส่งเสริมการขาย) ร้านจะมีแผนการตลาดที่จะดึงดูดลูกค้าอย่างไร

        หรือแม้แต่คิดว่าถ้าเกิดการระบาดอีกครั้งจะมีแผนรองรับอย่างไร? คำถามเหล่านี้ก็เป็นโจทย์ที่ท้าทายสำหรับผู้ประกอบธุรกิจร้านอาหาร เพราะต้องคำนึงถึงรายละเอียดมากมาย แต่การวางแผนเหล่านี้จะช่วยให้คว้าโอกาสในช่วงเวลาที่เหมาะสมได้ง่ายขึ้น และลดความเสี่ยงที่อาจจะเกิดปัญหาต่างๆ  

ร้านอาหารฟื้นตัว


4. สร้างคุณค่าด้วยจุดเด่นของร้าน

        ในสถานการณ์ที่เพิ่งฟื้นตัว เกือบทุกร้านต้องแข่งกันเพื่อดึงดูดความสนใจของผู้บริโภค เพื่อชดเชยรายได้ที่หายไปจากการปิดหน้าร้าน และแน่นอนว่าร้านอาหารขนาดกลางไปจนถึงขนาดเล็ก ย่อมไม่สามารถจัดโปรโมชันสู้ “สงครามราคา” กับเครือข่ายธุรกิจอาหารขนาดใหญ่แบบ Food Chain Restaurant ได้
        การแข่งขันลดราคาอย่างเดียวจึงไม่ใช่ทางออกที่ดี จะต้องใช้การตลาดแบบไหนที่จะช่วยดึงดูดลูกค้าได้มากขึ้น? ร้านควรหาสิ่งที่เป็นจุดเด่นของร้านมาชูเป็นจุดขาย สร้างความแตกต่างด้วยความคิดสร้างสรรค์ ทำเมนูใหม่ๆ ที่น่าประทับใจ และทำให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ด้วยต้นทุนที่มีอยู่

 

        หากช่วงเวลาที่แย่ที่สุดผ่านพ้นไป สถานการณ์ของร้านอาหารก็จะดีขึ้น เพราะมีผู้บริโภคที่ออกมาใช้จ่ายกันมากในช่วงแรกๆ แต่อย่างไรก็ตาม ยอดขายของร้านในระยะยาวอาจจะไม่สามารถกลับมาเท่ากับช่วงปกติ ด้วยสภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวที่ต้องใช้เวลาในการพักฟื้น ทำให้ผู้บริโภคใช้จ่ายอย่างประหยัด รวมถึงบางส่วนก็มาทำอาหารเองมากขึ้น

ทำให้ความท้าทายของผู้ประกอบการร้านอาหารก็ยังมีอยู่เสมอ เราก็คงต้องติดตามข่าวสารต่างๆ ปรับแผนการไปตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้น และไม่หยุดที่จะพัฒนาต่อไปครับ 

เรื่องแนะนำ

ข้อผิดพลาดทางการตลาด

5 ข้อผิดพลาดทางการตลาด ที่เจ้าของร้านอาหารต้องรู้!

หากก้าวแรกที่เริ่มเดินก็ผิดเสียแล้ว ก้าวต่อๆ ไปก็ไม่แคล้วผิดตามไปด้วย อย่างนั้นมาดู 5 ข้อผิดพลาดทางการตลาด ที่เจ้าของร้านอาหารควรรู้กันดีกว่า

เทคนิคคิดโปรโมชั่น เอาใจลูกค้าสาย Foodie!

ชอบกิน ชอบลอง และชอบแชร์ประสบการณ์ร้านอาหารใหม่ ๆ กลุ่ม Foodie จึงเป็นกลุ่มที่ร้านอาหารในยุคนี้ให้ความสนใจ เพราะนอกจากจะสามารถขายให้กลุ่มนี้ได้มากแล้ว คนกลุ่มนี้ยังทำให้ร้านเป็นที่รู้จักมากขึ้นอีกด้วย เรามาดู เทคนิคคิดโปรโมชั่น เอาใจลูกค้าสาย Foodie! กันครับ   เทคนิคคิดโปรโมชั่น เอาใจลูกค้าสาย Foodie! เซฟเงินแต่ได้ภาพ แม้กลุ่ม Foodie ยินดีจะจ่ายเงินในการกิน ดื่ม เพื่อประสบการณ์ใหม่ ๆ แต่ก็มองหาทางที่จะประหยัดค่าใช้จ่ายอยู่เหมือนกัน โปรโมชั่นที่น่าสนใจคือ เป็นส่วนลดที่ให้ประสบการณ์ที่พิเศษ เช่น คูปองส่วนลดเพื่อได้ทดลองเมนูใหม่ หรือการร่วมกับบัตรเครดิตโดยการแลกแต้มบัตรสะสมในบัตรเป็นเมนูพิเศษ นอกจากนั้นโปรโมชั่นที่ทำให้ได้กินอาหารอย่างหลากหลายในราคาที่ถูกกว่า เช่น มา 4 จ่าย 3 ของร้านอาหารบุฟเฟต์ นอกจากคุ้มค่าแล้วยังได้ภาพถ่ายเยอะอีกด้วย   ท้าทายและน่าแชร์ กลุ่ม Foodie ชอบการแชร์ภาพถ่ายลงในโซเชียลมีเดีย สนุกกับการเล่าเรื่องอาหารในมุมมองตัวเอง ซึ่งโปรโมชั่นออนไลน์ไม่ได้มีเพียงแค่เช็คอิน แชร์ แล้วได้รับสินค้าฟรี แต่การใส่ความสนุกเข้าไปจะทำให้เกิดการแชร์ที่อิมแพคมากกว่า เช่น แคมเปญตอกไข่ของ MK หรือการจับคูปองที่มีโอกาสซื้อสินค้าพิเศษได้จำนวนจำกัด นอกจากนำเสนอจุดขายของเมนูใหม่แล้ว ยังส่งเสริมให้ลูกค้าอยากมีส่วนร่วมอีกด้วย   […]

food delivery

5 สิ่งที่ร้านอาหารต้องปรับ เมื่อเริ่มทำ Food delivery

ธุรกิจ Food Delivery กำลังมาแรง แต่ปัญหาสำคัญคือ ร้านอาหารหลายๆ ร้านไม่รู้จะเริ่มปรับจากจุดไหน เพื่อให้ไม่กระทบต่อหน้าร้าน วันนี้เรามีเทคนิคดีๆ มาฝาก

“กะหล่ำผัดน้ำปลา” หรือ “กะหล่ำทอดน้ำปลา” คือเมนูเดียวกันไหม?

“กะหล่ำผัดน้ำปลา” หรือ “กะหล่ำทอดน้ำปลา” เมนูคิดไม่ตก ทั้งร้านและลูกค้า สั่งอันนี้ได้อีกอย่าง ตกลงเมนูเดียวกันไหม? “กะหล่ำผัดน้ำปลา” หรือ “กะหล่ำทอดน้ำปลา” เมนูเดียวกันหรือเปล่า? เป็นเมนูที่ค่อนข้างสร้างความสับสนให้กับทั้งคนกิน คนขาย เป็นอย่างมากกับเมนู “กะหล่ำผัดน้ำปลา” และ “กะหล่ำทอดน้ำปลา” ที่บางทีก็ทำให้เกิดความเข้าใจที่ไม่ตรงกันระหว่างลูกค้าและร้านได้ เมื่อเมนูนี้มาเสิร์ฟ ซึ่งล่าสุดก็ได้มีผู้ใช้ทวิตเตอร์คนหนึ่งได้มาทวีตภาพเปรียบเทียบให้เห็นชัด ๆ ว่าจริง ๆ แล้ว 2 เมนูนี้ คือคนละเมนูกัน! โดยผู้ใช้ทวิตเตอร์รายนี้ได้ทวีตรูป 2 เมนูที่เป็นประเด็นพร้อมข้อความว่า “เทียบให้เห็นภาพ ซ้าย กะหล่ำ “ผัดน้ำปลา” ขวา กะหล่ำ “ทอดน้ำปลา” ที่เรามีปัญหาเพราะร้านอาหารส่วนมากจะเขียนลงเมนูว่า กะหล่ำทอดน้ำปลา แต่ทำออกมาหน้าตาแบบกะหล่ำผัด กะหล่ำผัดน้ำปลาจะน้ำเจิ่งนอง ผัดนิ่ม กะหล่ำทอดน้ำปลาจะแห้ง น้ำมันเคลือบผิวกะหล่ำ เกรียม ๆ น้ำปลาไหม้ ต่างอย่างเห็นได้ชัด” 🔸ความเห็นชาวเน็ต💬 ซึ่งหลังจากที่โพสต์นี้ออกไปก็ได้มีผู้ใช้ทวิตเตอร์ต่างเข้ามาแสดงความคิดเห็นแชร์ประสบการณ์ของตนเองด้วยเหมือนกัน เช่น 🗣💬 “เคยทำให้แฟนกินครั้งนึง เราทำออกมาแบบขวา ผช.บอกทำกับข้าวแค่นี้ก็ไหม้ […]

Follow Me

Contact

เว็บไซต์ : amarinacademy.com
บริษัท เอเอ็มอี อิมเมจิเนทีฟ จำกัด
ในเครือ บริษัท อมรินทร์ คอร์เปอเรชั่นส์ จำกัด (มหาชน)
Tel : 02-422-9999 ต่อ 4662 หรือ 4669, 092-254-0742
Email : amarin.academy@gmail.com

ติดต่อแจ้งปัญหาหรือร้องเรียน
02-422-9999 ต่อ 4180
(จันทร์ – ศุกร์ เวลา 09.00 – 18.00 น)
bdcx@amarin.co.th

สนใจลงโฆษณากับเว็บไซต์ Amarin Academy
Tel. 081-664-0666, 091-729-8060
E-mail : sineenart_ya@amarin.co.th

© COPYRIGHT 2025 AME IMAGINATIVE COMPANY LIMITED.