สรุปไฮไลท์งาน Wongnai for Business : Restaurant 2020 - Amarin Academy

ชานมไข่มุก ยังมาแรง อัตราการเปิดร้านพุ่ง 700% : สรุปไฮไลท์งาน Wongnai for Business : Restaurant 2020

ทีมงาน Amarin Academy ไม่พลาดที่จะไปหาข้อมูลดีๆ ที่เป็นประโยชน์กับผู้ประกอบการธุรกิจอาหารมาฝากกันตลอด ล่าสุดเราได้มีโอกาสไปร่วมงาน Wongnai for Business : Restaurant 2020  เผยเทรนด์และเทคโนโลยีสำหรับธุรกิจร้านอาหารแห่งอนาคต ในยุค O2O (Online to Offline) ซึ่งเราสรุปประเด็นที่น่าสนใจ มาให้เข้าใจง่ายๆ มีประเด็นอะไรบ้าง มาดูกันครับ

 

สรุปไฮไลท์จากงาน

“ Wongnai for Business : Restaurant 2020 ”

⇒ ร้านอาหารเปิดใหม่ทั่วไทยในปี 2019 โตพุ่ง 97%

  • จำนวนร้านอาหารเปิดใหม่ทั้งหมดในปี 2019 ทั่วประเทศ พุ่งเป็น 70,149 ร้าน โตขึ้นจากจำนวนร้านเปิดใหม่ในปี 2018 ถึง 97%
  • สถิติในช่วง 3 ปีที่ผ่านมามีร้านอาหารที่เปิดใหม่เพียง 10% เท่านั้นที่อยู่รอด
  • ร้านขนาดเล็กถึง ร้านขนาดกลางเปิดใหม่เป็นสัดส่วนมากที่สุด
Wongnai
คุณยอด ชินสุภัคกุล CEO  Co-founder – Wongnai

⇒ 5 จังหวัดที่มีร้านอาหารมากที่สุด

  • อันดับ 1 กรุงเทพมหานคร
  • อันดับ 2 เชียงใหม่
  • อันดับ 3 ชลบุรี
  • อันดับ 4 นนทบุรี
  • อันดับ 5 สมุทรปราการ

 

⇒ 5 จังหวัดที่มีร้านอาหารเปิดใหม่มากที่สุด

  • อันดับ 1 กรุงเทพมหานคร 18,000 ร้าน
  • อันดับ 2 นนทบุรี 3,600 ร้าน
  • อันดับ 3 สมุทรปราการ 2,300 ร้าน
  • อันดับ 4 ปทุมธานี 1,800 ร้าน
  • อันดับ 5 ชลบุรี 1,600 ร้าน

 

⇒5 ประเภทร้านอาหารที่เปิดใหม่มากที่สุดปี 2019

  • อันดับ 1 กาแฟ และคาเฟ่
  • อันดับ 2 อาหารไทย และอาหารตามสั่ง
  • อันดับ 3 ก๋วยเตี๋ยว
  • อันดับ 4 อาหารอีสาน
  • อันดับ 5 สตรีทฟู้ด

 

*ชานมไข่มุกอยู่ในอันดับที่ 6 แต่เป็นประเภทที่มีอัตราการเปิดร้านเพิ่มมากที่สุดถึง 700%

 Wongnai

⇒ 5 เมนูอาหารที่ถูกค้นหามากที่สุด

  • อันดับ 1 ยำ
  • อันดับ 2 ข้าวมันไก่
  • อันดับ 3 ข้าวต้ม / โจ๊ก
  • อันดับ 4 ก๋วยเตี๋ยวเรือ
  • อันดับ 5 เค้ก

 

⇒ 5 เขตที่มีการสั่งอาหารมากที่สุด

  • อันดับ 1 ปทุมวัน
  • อันดับ 2 วัฒนา
  • อันดับ 3 จตุจักร
  • อันดับ 4 ลาดพร้าว
  • อันดับ 5 อำเภอเมืองนนทบุรี

 

⇒ เทรนด์ธุรกิจอาหาร เดลิเวอรี่ 2020

  • ธุรกิจร้านอาหารเดลิเวอรีโตต่อเนื่อง 5 ปีติด (2014-2018) ในปี 2019 โตสูงสุดเป็นประวัติการณ์ แตะ 14%
  • มูลค่าตลาดรวมร้านอาหารเดลิเวอรีในปี 2019 มูลค่า 31,814 ล้านบาท
  • เขตปทุมวัน ครองแชมป์เขตที่มีออเดอร์สั่งซื้ออาหารสูงสุดในปี 2019 เพิ่มขึ้นจากปี 2018 ถึง 70% และเป็นเขตที่มีจำนวนร้านอาหารที่ให้บริการเดลิเวอรีมากที่สุดในกรุงเทพฯ ถึง 4,000 ร้าน
  • ย่านออฟฟิศคนทำงาน ได้แก่ เขตวัฒนา เขตจตุจักร และเขตลาดพร้าว ยอดออเดอร์เพิ่มเฉลี่ย 40-60%
  • อำเภอเมืองนนทบุรี ม้ามืดโตพุ่ง 300% ภายในปีเดียว กระโดดจากอันดับที่ 20 ในปี 2018 มาเป็นอันดับที่ 5 ในปี 2019 ของเขตที่มีการสั่งออเดอร์เพิ่มขึ้นมากที่สุด
  • ร้านก๋วยเตี๋ยว ติดอันดับ 1 ร้านที่มียอดการสั่งออเดอร์สูงที่สุด โดยร้านก๋วยเตี๋ยวยอดฮิตเดลิเวอรีคือร้านรุ่งเรือง ก๋วยเตี๋ยวหมูต้มยำ
  • ชานมไข่มุก ยอดออเดอร์เดลิเวอรีเพิ่มขึ้นถึง 4 เท่า
  • ในปี 2019 มีจำนวนร้านอาหารที่มีเพียงหน้าร้านออนไลน์เพียงอย่างเดียวเพิ่มขึ้นเกือบ 50% จากปี 2018 ที่มีเพียง 800 ร้าน และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

 

⇒ พฤติกรรมลูกค้าที่ควรจับตาในยุคเดลิเวอรีครองเมือง

  • 63% ของลูกค้าสะดวกใช้บริการเดลิเวอรีมากกว่าออกไปกินที่ร้าน
  • 76% ของลูกค้าที่ใช้บริการเดลิเวอรีกับร้านนั้นๆ มีแนวโน้มจะเดินทางไปร้านอาหารมากขึ้น
  • 40% ของผู้ใช้บริการเดลิเวอรีเป็นวัยรุ่นและวัยกลางคน (25-34 ปี) รองลงมาคือกลุ่มอายุ 18-24 ปี และกลุ่มอายุ 35-44 ปี
  • เพศหญิงชอบทานอาหารนอกบ้าน คิดเป็นสัดส่วน 64%
  • วันที่มีออเดอร์เดลิเวอรีสูงที่สุด คือ วันอาทิตย์ วันเสาร์ และวันศุกร์ ตามลำดับ แสดงให้เห็นว่าลูกค้านิยมสั่งอาหารในช่วงวันหยุดมากกว่า
  • ช่วงเวลาที่สั่งเดลิเวอรีเยอะสุด คือ 00 น., 18.00 น. และ 17.00 น. ตามลำดับ
  • โจ๊ก จากร้านโจ๊กสามย่าน เมนูร้านดังที่คนนิยมสั่งช่วงหลังเลิกงานมากที่สุด
  • หมูปลาร้า จากร้านหมูต่ำ ราชดำเนิน เมนูร้านดังที่คนนิยมสั่งช่วงหลังเที่ยงคืนมากที่สุด

Wongnai

             O2O (Online to Offline) นับเป็นอีกหนึ่งช่องทางหรือหนึ่งโอกาสสําหรับร้านอาหาร เพราะทุุกวันนี้้การทำการตลาดเพียงฝั่งใดฝั่งหนึ่งก็คงเข้าถึงผู้บริโภคไม่ได้ทั้งหมด การทําการตลาดอย่างมีประสิทธิภาพจริงๆ จึงต้องทํา ไปพร้อมๆ กัน ดังนั้นการคิดแบบ O2O (Online to Offline หรือ Offline to Online) จึงเป็นวิธีการคิดที่ร้านอาหารในยุุคนี้ควรนําไปปรับใช้เพราะจะช่วยให้เข้าถึงลูกค้าได้มากขึ้น รู้จักลูกค้ามากขึ้น ช่วยสร้างฐานลูกค้าประจำ และช่วยเพิ่มยอดขายจากการขยายฐานลูกค้าได้ ดังนั้นหวังว่าข้อมูลที่เรานำมาสรุปให้นี้ จะเป็นประโยชน์กับผู้ประกอบการ ในการนำไปปรับใช้ให้เหมาะสมกับร้านของคุณ และพัฒนาร้านได้ต่อไป

 

จะเห็นได้ว่าในยุคปัจจุบันผู้บริโภคหันมาใช้บริการ เดลิเวอรี่มากขึ้น ด้วยพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปของผู้บริโภค ที่ต้องการความสะดวกสบาย รวมถึงความรวดเร็ว อย่างที่เราได้เคยนำเสนอไปบ้างแล้วในเรื่องของพฤติกรรมผู้บริโภคยุคใหม่ ทำให้ธุรกิจเดลิเวอรี่ยังคงมีโอกาสที่จะเติบโตได้อีก และที่สำคัญหากคุณคิดจะทำเดลิเวอรี่ แต่ก็ต้องไม่ลืมดูแลลูกค้าหน้าร้านให้ดีด้วยเช่นกัน ลูกค้าก็จะไม่หนีคุณไม่ไหน

Wongnai

เรื่องแนะนำ

5 เรื่องพลาดที่คุณต้องรู้! ก่อน วางระบบร้านอาหาร เจ๊ง

เจ้าของร้านอาหารหลายแห่งประสบกับปัญหาการดำเนินงานร้านอาหาร สุดท้ายพาร้านอาหารเจ๊งไปได้ไม่รอด เมื่อวิเคราะห์ดูแล้วพบว่าเกิดจากการ วางระบบร้านอาหาร  ที่ผิดพลาด และมองข้ามเรื่องเล็ก ๆ ที่อาจกลายเป็นเรื่องใหญ่ได้ในที่สุด 1. พลาด…เพราะวางระบบไม่ตอบโจทย์ร้าน ร้านอาหารรูปแบบต่างกัน ก็มีระบบการทำงานที่ต่างกันด้วย ก่อนวางระบบร้านอาหาร จึงต้องรู้ว่าร้านของคุณเป็นร้านประเภทไหน เสิร์ฟอาหารแบบไหน เน้นการบริการรูปแบบใด การเซตอัพที่เหมาะสมกับประเภทของร้าน จะช่วยให้เกิดแผนงานที่มีประสิทธิภาพแล้ว ยังช่วยให้การวางแผนต้นทุนต่าง ๆ เป็นไปอย่างรัดกุม มีค่าใช้จ่ายที่เหมาะสมในการลงทุนไปกับสิ่งที่จำเป็น จัดการต้นทุนได้ ส่งผลต่อระยะเวลาในการคืนทุนของร้าน ในทางกลับกันหากระบบที่วางไม่สอดคล้องกับการดำเนินงานร้านอาหารก็ทำให้เกิดผลตรงกันข้าม 2. พลาด…เพราะไม่เคยคำนึงเรื่องพื้นที่ ในการวางระบบงานครัว ทราบไหมว่า ปัญหาการเสิร์ฟอาหารช้าอาจแก้ได้แค่การเปลี่ยนผังครัว ? แต่ร้านอาหารหลายร้านอาจไม่เคยนึกถึงก่อนวางระบบ เมื่อเจอกับปัญหาการเสิร์ฟอาหารช้า ล้มเหลวในการบริหารจัดการเวลาพีคไทม์ มักไปแก้ด้วยวิธีการเปลี่ยนสูตรหรือการลดขั้นตอนบางอย่างที่ต้องใช้เวลา ซึ่งส่งผลต่อรสชาติอาหาร ปัญหาความล่าช้า อาจต้องวิเคราะห์ว่าพนักงานเสียเวลาไปกับอะไรบ้าง ซึ่งต้องคำนึงถึงพื้นที่ในการทำงาน การจัดวางอุปกรณ์ให้เหมาะสมด้วย ร้านที่มีผังครัวที่ดี ทำให้พนักงานเคลื่อนไหวน้อยลง มีการจัดเรียงวัตถุดิบและอุปกรณ์ที่ง่ายต่อการใช้งาน จะช่วยกระชับเวลาในการจัดทำอาหารได้ไม่น้อยเลย 3. พลาด… เพราะขาดระบบสอนงานที่ดี แม้ว่าจะวางระบบร้านอาหารไว้อย่างดีแล้ว แต่หากขาดการวางโครงสร้างงานที่ดี ขาดระบบในการฝึกอบรมงาน ก็มีส่วนทำให้ระบบงานที่วางไว้ไม่สามารถดำเนินไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะธุรกิจอาหารที่มีอัตราการเข้าออกสูง ขาดระบบการฝึกงานพนักงานใหม่ นอกจากจะทำให้เสียต้นทุนเวลา ต้นทุนค่าจ้างแล้ว […]

สตาร์ทอัพ

SCG Bangkok Business Challenge at Sasin 2020 เปิดโอกาสนักศึกษาไทยสาย สตาร์ทอัพ

เป็นอีกหนึ่งเวทีระดับโลกที่เปิดโอกาสให้นิสิต นักศึกษาไทย มาร่วมแข่งขันประกวดแผนธุรกิจ สตาร์ทอัพ ระดับโลก SCG Bangkok Business Challenge at Sasin 2020 เพราะโอกาสทางธุรกิจนั้นเปิดกว้างมากขึ้น นักศึกษาไทยจำนวนมาก ก็มีความสามารถที่ก้าวไกลในการวางแผนธุรกิจสตาร์ทอัพได้ดีเช่นกัน ซึ่งปีนี้ได้เปิดโอกาสให้นักศึกษาระดับปริญญาตรีได้เข้าร่วมการแข่งขันด้วย จากเดิมที่เป็นการแข่งขันเฉพาะนักศึกษาระดับปริญญาโทเท่านั้น   SCG Bangkok Business Challenge at Sasin 2020 โดยการประกวดในปีนี้ จัดขึ้นในหัวข้อ Sustainability (ความยั่งยืน) สำหรับนิสิต นักศึกษาปริญญาตรีและโทภาคภาษาอังกฤษ  ชิงชนะเลิศถ้วยรางวัล พร้อมทั้งรางวัลเงินสดรวมมูลค่ากว่า 1,800,000 บาท  การแข่งขันแผนธุรกิจ สตาร์ทอัพ SCG Bangkok Business Challenge at Sasin 2020 เป็นการแข่งขันที่สนับสนุนให้นักศึกษามีความเป็นผู้ประกอบการ กระตุ้นให้เกิดธุรกิจใหม่ๆ เชื่อมโยง นวัตกรรม การวิจัย การสร้างสังคมและเครือข่ายที่เข้มแข็งระหว่างประเทศ และเป็นแพลทฟอร์มที่ให้นักลงทุนค้นพบธุรกิจใหม่ที่น่าสนใจ และทีมงานที่มีคุณภาพสามารถนำไปต่อยอดทางธุรกิจหรือลงทุนสร้างธุรกิจใหม่ได้แบบยั่งยืน เป็นโอกาสที่นักศึกษาสามารถพบเจอกับนักลงทุนที่มีคุณภาพ และสามารถช่วยกันผลักดันจากไอเดียดีๆ ให้กลายเป็นธุรกิจที่แท้จริงได้ ก่อนหน้านี้ช่วงปี 2002 […]

Hai di lao

หมัดเด็ด Hai di lao หม้อไฟสัญชาติจีน สู่การเป็นร้านอาหารระดับโลก

ถ้าพูดถึงร้านอาหารประเภท hot pot หม้อไฟ ที่กำลังมาแรงในขณะนี้ จนคนต้องยอมต่อแถวรอคิวหลายชั่วโมงคงหนีไม่พ้น ร้านหม้อไฟสัญชาติจีนที่ชื่อว่า Hai di lao (ไห่-ตี้-เหลา) ร้านหม้อไฟที่โด่งดังในประเทศจีน รวมถึงอีกหลายประเทศ และเพิ่งมาเปิดสาขาในประเทศไทยได้ไม่นาน จนเกิดความสงสัยว่า ร้านนี้มีดีอะไร และทำไมลูกค้าถึงยอมที่จะรอคิวเพื่อให้ได้ทาน   ” Hai di lao “ จากความสงสัยก็ได้หาข้อมูลเพิ่มเติมของร้าน Hai di lao ก็พบว่าธุรกิจนี้ไม่ธรรมดาเลย เพราะแบรนด์นี้มีต้นกำเนิดจากมณฑลเสฉวน ประเทศจีน และก่อตั้งโดย Zhang Yong (จาง หย่ง) ซึ่งความน่าสนใจอยู่ที่การเริ่มต้นจากเชน Hotpot ในประเทศจีน แต่สามารถก้าวกระโดดขึ้นมาเป็นเชนร้านอาหารระดับโลก ซึ่งปัจจุบันขยายไปแล้ว 400 กว่าสาขาทั่วโลก ซึ่งประเทศไทยก็เป็นหนึ่งในนั้น และมียอดขายในปี 2018 กว่า 17,000 ล้านหยวน ซึ่งถ้าเทียบกับร้านอาหารประเภทที่คล้ายกันในบ้านเราอย่าง MK Restaurant ที่คิดว่าใหญ่แล้ว มีทั้งร้านสุกี้และร้านอาหารญี่ปุ่น กว่า 600 สาขา […]

ผ่านวิกฤติ COVID-19 ไปด้วยกัน กับเทคนิคปรับตัวของร้านอาหารในช่วงวิกฤติ COVID-19 จาก Penguin Eat Shabu

Penguin Eat Shabu ในสถานการณ์ที่อะไรๆ ก็ดูไม่เป็นใจ มองไปทางไหนก็เห็นแต่ความเศร้าปกคลุม จะดีกว่าไหม ถ้าเรามาเติมไฟในตัวให้ลุกโชนด้วยการนั่งดูสาระดีๆ เก็บความรู้ไปต่อยอด สำหรับผู้ประกอบการร้านอาหารผ่าน LIVE บนช่องทาง LINE Official Account : LINE for Business กันดีกว่าครับ เมื่อวันศุกร์ที่ 17 เมษายน ที่ผ่านมา ผมได้นั่งฟัง “คุณต่อ-ธนพงศ์ วงศ์ชินศรี ผู้ร่วมก่อตั้ง Penguin Eat Shabu” พูดคุยถึงเรื่อง ธุรกิจร้านอาหารต้องปรับตัวอย่างไรในช่วง COVID-19? พร้อมคุณโซอี้-ภญ.โสภา พิมพ์สิริพานิชย์ LINE Certified Coach ที่มาให้ความรู้เพิ่มเติมในการใช้ LINE เพื่อให้ธุรกิจเติบโตได้อย่างน่าสนใจมาก ผมเลยนำประเด็นมาสรุปและเรียบเรียงออกมาให้เพื่อนๆ อ่านกันครับ Penguin Eat Shabu ไม่อร่อย ให้ต่อยเพนกวิ้น ร้านบุฟเฟ่ต์ชาบูขวัญใจทั้งวัยรุ่น และวัยผู้ใหญ่ ที่มาพร้อมกับสโลแกนน่ารักๆ ว่า “ไม่อร่อย ให้ต่อยเพนกวิ้น” […]

Follow Me

Contact

เว็บไซต์ : amarinacademy.com
บริษัท เอเอ็มอี อิมเมจิเนทีฟ จำกัด
ในเครือ บริษัท อมรินทร์ คอร์เปอเรชั่นส์ จำกัด (มหาชน)
Tel : 02-422-9999 ต่อ 4662 หรือ 4669, 092-254-0742
Email : amarin.academy@gmail.com

ติดต่อแจ้งปัญหาหรือร้องเรียน
02-422-9999 ต่อ 4180
(จันทร์ – ศุกร์ เวลา 09.00 – 18.00 น)
bdcx@amarin.co.th

สนใจลงโฆษณากับเว็บไซต์ Amarin Academy
Tel. 081-664-0666, 091-729-8060
E-mail : sineenart_ya@amarin.co.th

© COPYRIGHT 2025 AME IMAGINATIVE COMPANY LIMITED.