เซตอัพระบบ ร้านบุฟเฟต์ อย่างไร ให้ได้กำไร - Amarin Academy

เซตอัพระบบ ร้านบุฟเฟต์ ต้องอย่างไรให้ได้กำไร

ทำร้านอาหารบุฟเฟต์อย่างไรให้ได้กำไร ? คงเป็นคำถามของเจ้าของร้านอาหารหลาย ๆ คน เนื่องจาก ร้านบุฟเฟต์ ได้รับความนิยมในปัจุบัน จึงกลายเป็นตลาดแมสของธุรกิจร้านอาหารที่มีผู้เข้ามาเล่นจำนวนมาก แต่ไม่ใช่ทุกคนที่ประสบความสำเร็จ ปัญหาสำคัญก็คือ ขาดการเซตอัพระบบการจัดการร้านอาหารที่เหมาะสมกับร้านบุฟเฟต์ ซึ่งแตกต่างจากร้านอาหารประเภทอื่น เพราะอะไรจึงทำให้ร้านบุฟเฟต์แตกต่าง แล้วต้องวางระบบอย่างไรจึงเหมาะสมเรามีคำตอบค่ะ

 

เซตอัพระบบ ร้านบุฟเฟต์ อย่างไร ให้ได้กำไร

 

เพราะต้นทุนอาหารสูง….จึงต้องบริหารจัดการวัตถุดิบให้ดี

ในขณะที่ร้านอาหารประเภทอื่น ๆ กำหนดต้นทุนวัตถุดิบที่ 25 – 30 เปอร์เซ็นต์ แต่ร้านอาหารประเภทร้านบุฟเฟต์ จะมีต้นทุนวัตถุดิบอยู่ที่ 35 -45 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งสูงกว่าต้นทุนอื่น ๆ ของร้าน  จึงต้องมีการกำหนดโครงสร้างที่เหมาะสม เพื่อควบคุมค่าใช้จ่ายต้นทุนอื่น ๆ ให้ดีด้วย

อย่างไรก็ตาม ต้นทุนวัตถุดิบสามารถควบคุมได้ โดยการเซตอัพระบบการจัดการวัตถุดิบไว้อย่างรัดกุม ซึ่งครอบคลุมตั้งแต่ การหาซัพพลายเออร์ที่สอดคล้องกับความต้องการ เพราะซัพพลายเออร์เป็นตัวแปรสำคัญที่ทำให้คุณได้กำไรมากขึ้นหรือน้อยลง เช่น ปัญหาที่พบบ่อย ๆ คือ มาตรฐานในการตัดแต่งวัตถุดิบ ใหญ่บ้างเล็กบ้าง ทำให้ควบคุมการใช้งานยาก เป็นต้น ความต้องการเฉพาะบางอย่างของร้าน ซึ่งการคัดเลือกและการประชุมร่วมกันกับซัพพลายเออร์จึงเป็นสิ่งที่ดี 

สิ่งสำคัญลำดับต่อมา ก็คือ การวางแผนและการจัดเก็บวัตถุดิบเพื่อให้เกิดการสูญเสียน้อยที่สุด การจัดทำสต็อก โดยระบบ First in First out นั้นสำคัญมากสำหรับร้านอาหารบุฟเฟต์เพื่อลดการสูญเสีย  การคิดคำนวณต้นทุนอาหารต่อจานจาก Yield และการจัดทำ Recipe ซึ่งจะช่วยให้ร้านของคุณทำกำไรจากวัตถุดิบได้ 100 เปอร์เซ็นต์ 

 

เพราะงานหนัก…จึงต้องมีมาตรฐานการปฏิบัติงานพนักงานที่ดี

เร็ว และ รู้งาน คือมาตรฐานของการปฏิบัติงานในร้านอาหารบุฟเฟต์ เมื่อลูกค้ามีความมุ่งหวังจะรับประทานอาหารให้คุ้มค่าที่สุดในระยะเวลาที่กำหนด เช่นเดียวกับร้านอาหารที่ต้องการทำรอบให้ได้มากที่สุดในช่วงเวลาพีคไทม์ การออกแบบการบริการ   และการเซตอัพมาตรฐานการปฏิบัติงานจึงเป็นสิ่งสำคัญ เช่น การออกอาหารให้เร็ว การจัดการด้านที่นั่ง การเรียกคิว รวมถึงฝึกอบรมเทคนิคต่าง ๆ ที่สนับสนุนให้ร้านทำกำไรมากขึ้น ขายของได้มากขึ้น ประหยัดต้นทุนวัตถุดิบ เช่น การนำเสนอเมนูกินเล่น การเชียร์ขายเมนู การเติมน้ำดื่ม เป็นต้น 

สิ่งสำคัญของการทำร้านบุฟเฟต์ ถือเป็นประเภทร้านอาหารที่ทำงานหนักที่สุด เพราะฉะนั้น การเซตอัพระบบที่เอื้อต่อการทำงานจะทำให้ชั่วโมงการทำงานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ เหนื่อยน้อยลง การบริหารผลตอบแทนที่เหมาะสม ช่วยให้สามารถรักษาแรงงานร้านอาหารไว้ได้เป็นอย่างดี 

 

เพราะเป็นพื้นที่เปิด….จึงต้องมีมาตรฐานความสะอาด 

นอกจากความสะอาดของวัตถุดิบ และอุปกรณ์ต่างๆ ในร้านอาหารแล้ว พื้นที่โดยรอบก็เป็นสิ่งสำคัญที่มีผลต่อประสบการณ์ที่ดีหรือแย่ของลูกค้า เนื่องจากรูปแบบการบริการ ร้านบุฟเฟต์ เป็นกึ่งบริการตัวเอง ทำให้ลูกค้าไม่จำกัดอยู่แค่โต๊ะอาหารของตัวเองเท่านั้น บางร้านให้ลูกค้าหยิบวัตถุดิบเองจากตู้แช่ บาร์อาหารต่าง ๆ ที่ลูกค้าหลายคนใช้งานร่วมกัน  ดังนั้น ควรมีการเข้าไปดูแลเรื่องความสะอาดหน้างานแบบที่ไม่รบกวนลูกค้า รวมถึงกำหนดขั้นตอนการดูแลความสะอาดช่วงเวลาหลังปิดร้าน และก่อนเปิดร้านจึงเป็นสิ่งจำเป็น โดยต้องกำหนด SOP มาตรฐานการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องไว้เป็นอย่างดี

 

เพราะต้องทำรอบสูงสุดต่อวัน…จึงต้องมีการจัดการด้านพื้นที่

ร้านบุฟเฟต์ กำไรหรือขาดทุน เริ่มได้ตั้งแต่การจัดสรรพื้นที่ให้สมดุลระหว่างครัว และพื้นที่ให้บริการส่วนอื่น ๆ โดยทั่วไปครัวร้านอาหารบุฟเฟต์จะใช้พื้นที่น้อยแต่ต้องเอื้อต่อการใช้งาน เพื่อให้การจัดเตรียมวัตถุดิบเสียเวลาน้อยที่สุด โดยการวางพื้นที่ใช้งานที่ต่อเนื่องกัน ในขณะเดียวกัน พื้นที่ให้บริการต้องรับลูกค้าให้มากที่สุด ซึ่งสามารถคำนวณจากการทำ Feasibility เพื่อประมาณการรายได้ในแต่ละวันตามเป้าหมาย การจัดสรรพื้นที่ใช้งาน การจัดเก็บ การเข้าถึงอุปกรณ์ มีผลต่อการจัดการช่วงพีคไทม์ได้เป็นอย่างดี 

 

เพราะการแข่งขันสูง….จึงต้องบริหารลูกค้า และจัดการด้านโปรโมชั่นให้เหมาะสม

การออกโปรโมชั่นเพื่อแข่งในตลาดร้านอาหารบุฟเฟต์ที่มักใช้คือ การลดราคา แต่กลายเป็นกับดักที่ทำให้ร้านล้มไม่เป็นท่า เพราะร้านดึงตัวเองเข้าไปอยู่ในสงครามราคา ซึ่งมักจะค่อย ๆ แพ้ไปทีละราย สิ่งสำคัญคือ หาจุดยืนของร้านตัวเอง และกลุ่มเป้าหมายที่แท้จริงของร้านให้เจอ  เพราะการขยายฐานลูกค้า อาจจะไม่สำคัญเท่ากับการรักษากลุ่มลูกค้าฐานเดิมและทำให้เกิดความต้องการซื้อซ้ำและบอกต่อ นอกจากนี้ การทำการตลาดที่ค่อนข้างหลากหลายในปัจจุบัน เช่น การร่วมทำการแคมเปญกับพันธมิตรต่าง ๆ  ซึ่งรูปแบบส่วนใหญ่จะเป็นการทำโปรโมชั่น ที่เพิ่มจำนวนลูกค้าหน้าร้านครั้งละมาก ๆ ก็ควรคำนึงถึงความคุ้มค่าด้านต้นทุน ความพร้อมและความเหมาะสมของร้านด้วย 

การวางระบบให้สอดคล้องกับร้านบุฟเฟต์ จะช่วยสร้างมาตรฐานให้แก่ร้าน ทำให้เกิดกำไรและเติบโตในระยะยาว และทำควบคู่ไปกับการสร้างความแตกต่างของสินค้า จึงเป็นแนวทางที่เหมาะสมในการทำร้านอาหารบุฟเฟต์ให้ประสบความสำเร็จนั่นเอง

 

เรื่องแนะนำ

Operation ไม่ดี ส่อเค้าร้านเจ๊ง Set up ด่วน

5 ปัญหาน่าท้อใจของคนทำธุรกิจร้านอาหาร ซึ่งเกิดจากระบบร้านอาหาร Operation ที่หย่อนประสิทธิภาพ ส่งผลต่อยอดขายและการเติบโต ขั้นร้ายแรงสุดอาจต้องปิดร้านก็เป็นได้ มาเช็กกันว่า ปัญหาอะไรบ้างที่ทำให้เจ้าของร้านอาหารต้องถอดใจ   Operation ไม่ดี ส่อเค้าร้านเจ๊ง Set up ด่วน 1. ลูกค้าคอมเพลนบ่อย ไม่ว่าจะเป็นรสชาติอาหารเปลี่ยนไป ขนาดอาหารที่เสิร์ฟน้อยลง วันก่อนไปกินเสิร์ฟแบบนี้  อีกวันไปกินเสิร์ฟอีกแบบ พนักงานบริการขาดนู่น ลืมนี่ เหล่านี้เป็นคอมเพลนยอดฮิตของลูกค้าส่วนใหญ่ ปัญหาเหล่านี้ล้วนเกิดจากการOperation ที่ไม่นิ่งพอ การวางระบบ Operation จึงเป็นสิ่งสำคัญในการควบคุมการทำงานไม่ให้เกิดข้อผิดพลาด เพราะไม่มีลูกค้าคนไหนอยากไปร้านที่ทำให้รู้สึกผิดหวังเป็นครั้งที่ 2   2. ขายดีนะ แต่ไม่มีกำไร น่าแปลกที่ร้านอาหารขายดี แต่ต้องปิดตัวลงเพราะไม่สามารถจัดการกับต้นทุนวัตถุดิบที่เพิ่มขึ้น การวางระบบงานครัวที่ชัดเจนเป็นสิ่งสำคัญ โดยเฉพาะการออกแบบและการวางแผนการผลิต การจัดเก็บวัตถุดิบที่ดีจะช่วยลดการสูญเสีย และเกิดการนำมาใช้เพื่อสร้างรายได้สูงสุด นอกจากนั้นยังรวมไปถึง การตรวจเช็คอาหารก่อนเสิร์ฟ การจัดการ  Recipe และ Sop เพื่อกำหนดขั้นตอนและมาตรฐานการปรุงอาหาร จะช่วยให้คุณวางแผนจัดการต้นทุน ส่งผลถึงคุณภาพอาหารที่ดี ทำให้เจ้าของร้านอาหารสามารถประเมินถึงเมนูที่ทำกำไรได้ ซึ่งการทำงานอย่างเป็นขั้นตอนนั้นจะช่วยให้ไม่ประสบกับปัญหาขาดทุนจากการแบกต้นทุนที่เพิ่มมากขึ้น   3. […]

ทำร้านบุฟเฟต์ให้มีกำไร

เคล็ด (ไม่) ลับ ทำร้านบุฟเฟต์ให้มีกำไร

ทุกวันนี้ร้านบุฟเฟต์โตสวนกระแสร้านอาหารประเภทอื่น แต่ขณะเดียวกันกลับมีไม่กี่ร้านที่อยู่รอด วันนี้เลยอยากสรุปเทคนิคการ ทำร้านบุฟเฟต์ให้มีกำไร มาฝากกัน

Company

ใช้บริการรับจดทะเบียนบริษัทรูปแบบต่าง ๆ มีกี่ขั้นตอน ต้องเตรียมเอกสารอะไรบ้าง? 

อาจจะถึงเวลาแล้วที่ผู้อ่านจะต้องเริ่มคิดถึงการ จดทะเบียนบริษัท เนื่องจากมีข้อดีหลายอย่างและไม่ได้ยุ่งยากอย่างที่คิด หากเริ่มลองทำธุรกิจมาสักพักแล้วถึงจุดหนึ่งที่รายได้สูงพอสมควร การจ่ายภาษีในฐานะบุคคลธรรมดาอาจจะทำให้คุณเสียเปรียบได้ เพราะเป็นการจ่ายภาษีแบบขั้นบันได แต่เมื่อจดทะเบียนบริษัทแล้ว อัตราภาษีจะคงที่อยู่ที 20% ในบทความนี้เราเลยรวบรวมเกี่ยวกับการใช้บริการรับจดทะเบียนบริษัทรูปแบบต่าง ๆ ว่ามีทั้งหมดกี่ขั้นตอน และต้องจัดเตรียมเอกสารอะไรไว้บ้าง? 1.ตั้งชื่อบริษัทสำหรับใช้ยื่นจดทะเบียนบริษัท ก่อนอื่นก็ต้องเข้าไปตรวจสอบในฐานข้อมูลของบริษัทที่จดทะเบียนในไทยของกรมพัฒนาธุรกิจการค้าก่อนว่าชื่อบริษัทที่คุณต้องการนั้นไม่ได้ซ้ำกับบริษัทอื่น แต่ก่อนที่จะใช้งานได้ต้องลงทะเบียนบนเว็บไซต์ก่อนและหากพบว่าชื่อที่ตั้งใจจะใช้ไม่ได้ซ้ำกับใครแล้ว ก็ทำเรื่องจองชื่อบริษัทที่ต้องการและมองหาบริการรับจดทะเบียนบริษัทได้เลย 2.จดทะเบียนหนังสือบริคณห์สนธิก่อนที่จะจ้างบริการรับจดทะเบียนบริษัท หลังจากได้รับการรับรองชื่อบริษัทแล้ว ภายใน 30 วันต้องยื่นจดทะเบียนหนังสือบริคณห์สนธิเพื่อแสดงเจตจำนงในการจัดตั้งบริษัท ซึ่งในขั้นตอนนี้ต้องเตรียมข้อมูลต่อไปนี้ไว้ให้พร้อม ชื่อบริษัท ตำแหน่งที่ตั้งบริษัท วัตถุประสงค์ในการจัดตั้งบริษัท จำนวนของทุนจดทะเบียน ชื่อ อายุ ที่อยู่ พร้อมจำนวนของกรรมการและพยาน 2 คน จำนวนหุ้นที่ชำระแล้วอย่างน้อยร้อยละ 25 ของทุนจดทะเบียน ชื่อผู้ตรวจสอบบัญชี พร้อมเลขทะเบียนผู้สอบบัญชีรับอนุญาต และค่าตอบแทน ชื่อ อายุ ที่อยู่ของผู้ถือหุ้นและรายละเอียดจํานวนหุ้นของแต่ละคน 3.เตรียมเอกสารสำหรับใช้บริการรับจดทะเบียนบริษัท แบบจองชื่อนิติบุคคลในข้อแรก สําเนาบัตรประจําตัวประชาชนของที่ต้องการจดทะเบียนบริษัท รวมทั้งของกรรมการทุกคน หลักฐานการรับชําระค่าหุ้น แผนที่แสดงตำแหน่งที่ตั้งของบริษัท 4.เซ็นรับรองสำเนาถูกต้องของเอกสาร หลังจากที่ได้รับอนุมัติข้อมูลจากฝ่ายทะเบียน ให้เซ็นรับรองเอกสารให้เรียบร้อยเพื่อเตรียมยื่นสำหรับใช้บริการรับจดทะเบียนบริษัท ในขั้นตอนนี้อาจจะมีการขอเอกสารเพิ่มเติมจากนายทะเบียนตามแต่การพิจารณา 5.ยื่นคำขอให้ได้รับจดทะเบียนบริษัทที่สำนักงานของกรมธุรกิจการค้าใกล้บ้าน เมื่อเตรียมเอกสารครบเรียบร้อยแล้ว นายทะเบียนก็จะรับจดทะเบียนบริษัทและออกใบรับรองให้ไว้เป็นหลักฐาน […]

Follow Me

Contact

เว็บไซต์ : amarinacademy.com
บริษัท เอเอ็มอี อิมเมจิเนทีฟ จำกัด
ในเครือ บริษัท อมรินทร์ คอร์เปอเรชั่นส์ จำกัด (มหาชน)
Tel : 02-422-9999 ต่อ 4662 หรือ 4669, 092-254-0742
Email : amarin.academy@gmail.com

ติดต่อแจ้งปัญหาหรือร้องเรียน
02-422-9999 ต่อ 4180
(จันทร์ – ศุกร์ เวลา 09.00 – 18.00 น)
bdcx@amarin.co.th

สนใจลงโฆษณากับเว็บไซต์ Amarin Academy
Tel. 081-664-0666, 091-729-8060
E-mail : sineenart_ya@amarin.co.th

© COPYRIGHT 2025 AME IMAGINATIVE COMPANY LIMITED.