เปิดร้านของตัวเอง VS ซื้อ แฟรนไชส์ แบบไหนดีกว่ากัน? - Amarin Academy

เปิดร้านของตัวเอง VS ซื้อแฟรนไชส์ แบบไหนดีกว่ากัน?

เชื่อว่าหลายคน มีความคิดว่าอยากจะมีธุรกิจเป็นของตัวเองสักครั้ง แต่การจะเริ่มต้นทำธุรกิจนั้น ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยค่ะ โดยเฉพาะมือใหม่ที่อยากเริ่มมีธุรกิจของตัวเอง ที่ต้องคิดทั้งเรื่องสินค้า การตลาด บัญชี การเงิน เยอะแยะไปหมด และมักจะมีคำถามว่าจะลงทุน เปิดร้านของตัวเอง หรือซื้อแฟรนไชส์ จะเลือกแบบไหนดี? มาดูกันว่าข้อดี ข้อเสียของทั้งสองแบบว่าเป็นอย่างไร แล้วค่อยมาตัดสินใจให้เหมาะกับธุรกิจของคุณเองกันค่ะ

 

เปิดร้านของตัวเอง VS ซื้อแฟรนไชส์ เลือกแบบไหนดี?

ข้อดีของการเปิดร้านของตัวเอง

  1. มีอิสระในการบริหารจัดการ การตัดสินใจและกำหนดทิศทางธุรกิจของเราเองได้อย่างเต็มที่ สามารถทำตามไอเดียของตัวเอง สร้างแบรนด์ที่เป็นตัวตนของเราเองได้ ถ้าเป็นธุรกิจอาหารก็สามารถที่จะเพิ่ม หรือดัดแปลงสูตรเมนูของร้านได้ อีกทั้งยังมีความยืดหยุ่นสูง ในการปรับเปลี่ยนพัฒนาธุรกิจ การสร้างแบรนด์เองอาจจะเหมาะกับคนรุ่นใหม่ หรือคนที่มีความคิดสร้างสรรค์ อยากทำอะไรใหม่ๆ แบบที่ไม่ต้องตามแบบใครค่ะ
  2. การเปิดร้านเอง อาจไม่ต้องลงทุนสูงมาก เพราะบางคนก็มีทุนน้อย หรือมีจำกัด แต่อยากที่จะทำธุรกิจ ก็สามารถทำได้ไม่จำเป็นต้องเปิดร้านใหญ่จนเกินตัว ค่อยๆเริ่มต้นจากธุรกิจเล็กๆ แล้วต่อยอดไปเรื่อยๆ จนสามารถขยายกิจการ สร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักได้ในอนาคต
  3. เรื่องส่วนแบ่งกำไร หากคุณเปิดร้านเอง แน่นอนว่า คุณไม่จำเป็นต้องแบ่งกำไร คุณสามารถบริหารกำไรของคุณทั้งหมดได้เอง
  4. อย่างที่บอกว่าใครก็อยากมีธุรกิจเป็นของตัวเอง แล้วหากคุณทำได้ ข้อดีนี้ก็คือ ความภาคภูมิใจที่คุณทำ และมีความสุขที่ได้เริ่มต้นทำสิ่งใหม่ๆ และถ้ายิ่งพัฒนาไปจนแบรนด์ประสบความสำเร็จ ก็คงเป็นสิ่งที่น่าภูมิใจมากๆเลยค่ะ

 

ข้อเสียของการ เปิดร้านของตัวเอง

  1. อาจมีปัญหาเรื่องการลงทุน และค่าใช้จ่าย ด้วยความที่เป็นมือใหม่ ทำให้ต้องเริ่มลงทุนและสร้างธุรกิจด้วยตัวเองทั้งหมด และคาดการณ์การสั่งซื้อสินค้าด้วยตัวเอง ซึ่งอาจก่อให้เกิดค่าใช้จ่ายบานปลายเป็นจำนวนมาก
  2. เปิดร้านเองก็คือ การเริ่มต้นใหม่ทั้งหมด ต้องสร้างระบบการบริหารจัดการเอง ต้องวางแผนธุรกิจเอง ไม่มีการแนะนำขั้นตอนที่เป็นระบบถูกต้อง อาจทำให้เกิดความล่าช้า เพราะต้องใช้เวลาในการเรียนรู้ วางรากฐาน ศึกษาระบบต่างๆ ในระยะแรก ซึ่งถ้าขาดความรู้ความเข้าใจในขั้นตอนการทำธุรกิจอย่างเป็นระบบ ก็อาจทำให้ธุรกิจไปต่อได้ยาก
  3. ด้านความน่าเชื่อถือ สำหรับผู้ที่เปิดร้านเอง อาจจะต้องใช้เวลาในการสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จัก เริ่มสร้างแบรนด์จากศูนย์ ยิ่งถ้ามีคู่แข่งจำนวนมาก ก็ยิ่งต้องเหนื่อยกับการสร้างความน่าเชื่อถือให้กับแบรนด์
  4. อำนาจการต่อรองกับผู้ผลิตน้อย ยังไม่สามารถต่อรองกับผู้ผลิตได้มากนัก เนื่องจากจำนวนการสั่งซื้อสินค้ายังเป็นจำนวนที่ไม่มาก

 

ข้อดี ของการซื้อแฟรนไชส์

  1. สามารถเริ่มต้นธุรกิจได้เลย เร็วทันใจ เพราะมีระบบการจัดการและการปฏิบัติงานที่มีมาตรฐานเตรียมไว้ให้แล้ว สามารถนำไปใช้ได้เลย รวมถึงมีการฝึกอบรมก่อนเปิดร้าน ซึ่งในบางแฟรนไชส์อาจมีการจัดอบรมต่อเนื่อง และยังเตรียมพร้อมเรื่องการสนับสนุนวัตถุดิบ อุปกรณ์ และรูปแบบร้านให้อีกด้วย
  2. ไม่ต้องเสียเวลาลองผิดลองถูก ไม่ต้องเสียเวลาในการสร้างแบรนด์ใหม่ ไม่ต้องทำการตลาดใหม่ เพราะส่วนใหญ่แฟรนไชส์ต่างๆ มักจะเป็นที่รู้จักในระดับหนึ่งแล้ว ลูกค้าก็เกิดความมั่นใจ การตัดสินใจซื้อสินค้าก็ง่ายตามไปด้วย
  3. ธุรกิจแฟรนไชส์ที่มีคุณภาพ เป็นบริษัทใหญ่ๆ มีสินค้าและบริการที่ได้มาตรฐาน ก็มีโอกาสที่จะอยู่รอดสูง และยิ่งหากมีระบบการบริหารงานที่ดี ทำการตลาดต่อเนื่อง เข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้เป็นจำนวนมาก ก็มีโอกาสทำกำไรสูงไปด้วยค่ะ
  4. สามารถที่จะเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ง่าย เนื่องจากธุรกิจแฟรนไชส์ มักร่วมมือกับสถาบันการเงินในการปล่อยกู้เพื่อทำธุรกิจแฟรนไชส์ หรือต้องการติดต่อขอสินเชื่อ ก็มีโอกาสที่จะอนุมัติสูงกว่าร้านที่เพิ่งเปิดและยังไม่เป็นที่รู้จัก

 

ข้อเสีย ของการซื้อแฟรนไชส์

  1. มีข้อกำหนด หรือข้อจำกัดจากเจ้าของแฟรนไชส์ ที่ไม่สามารถทำให้มีอิสระในการจัดการธุรกิจได้อย่างเต็มที่ เช่น ไม่สามารถปรับเปลี่ยนสูตรได้ หรือแม้แต่ ราคา โปรโมชั่น ก็อาจต้องเป็นไปตามที่เจ้าของแฟรนไชส์กำหนดมา ซึ่งข้อเสียนี้อาจทำให้เสียโอกาสบางประการไปได้
  2. ต้องเตรียมเงินหนึ่งเพื่อใช้ซื้อสิทธิ์ในการบริหารร้าน ค่าแฟรนไชส์ หรืออาจต้องมีการชำระค่าธรรมเนียมแรกเข้าก่อนเริ่มธุรกิจด้วย
  3. อาจต้องมีการแบ่งกำไรจากยอดขายบางส่วนให้แก่แฟรนไชส์ เพื่อใช้ในการสนับสนุนการสร้างแบรนด์ และทำการตลาดอื่นๆ ทำไรกำไรลดลงกว่าเดิม
  4. เสี่ยงต่อการเสียชื่อเสียงโดยสาขาอื่น เนื่องจากธุรกิจแฟรนไชส์นั้นมีหลายสาขา ซึ่งหากสาขาอื่นๆ บริการผิดพลาด หรือเกิดเรื่องที่ทำให้เสียชื่อเสียง ก็อาจส่งผลกระทบมาถึงสาขาของเราด้วยเช่นกัน ยิ่งอยู่ในยุคที่กระแสโซเชียลสามารถส่งข่าวสารไปยังผู้บริโภคได้อย่างรวดเร็วด้วยแล้ว ก็อาจส่งผลกระทบต่อยอดขายได้เลยทีเดียวค่ะ

 

ได้รู้ทั้งข้อดี และข้อเสียของการ เปิดร้านของตัวเอง กับการซื้อแฟรนไชส์กันไปแล้ว ซึ่งมีทั้งข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกันไป คงจะตัดสินไม่ได้ซะทีเดียวว่าแบบไหนจะดีกว่ากัน ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของธุรกิจแต่ละประเภทด้วย รวมถึงความต้องการ และความพร้อมของเจ้าของธุรกิจ แต่ไม่ว่าจะทำธุรกิจใดๆ ก็ตาม ควรที่จะศึกษาเกี่ยวกับธุรกิจนั้นๆ อย่างละเอียดรอบคอบ รวมถึงกลยุทธ์ต่างๆ ในการทำให้ธุรกิจอยู่รอด และไปได้สวยด้วยค่ะ

 

ขอบคุณข้อมูล  taokaemai.com

 

อ่านต่อบทความที่น่าสนใจ

How to 10 เทคนิค ถ่ายภาพอาหารให้น่ากิน

วิธีเก็บผัก เก็บอย่างไรให้ถูกต้อง และเก็บได้นาน

วิธี คำนวณต้นทุนร้านอาหาร ที่เจ้าของร้านต้องรู้! by คุณ ธามม์ ประวัติตรี

อย่าปล่อยให้ ระบบงานครัว ทำร้านเจ๊ง ถึงเวลาเจ้าของร้านต้องวางแผน

วิธีรับมือลูกค้า ที่มีปัญหา รับมืออย่างไรให้เจ๋ง พลิกวิกฤตเป็นโอกาสได้

เรื่องแนะนำ

Food Blogger

Food Blogger กับ ร้านอาหาร ความ WIN WIN ที่ลงตัว

พลังของการรีวิวบนโลกออนไลน์ เข้ามามีอิทธิพลต่อการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภคในยุคนี้เป็นอย่างมาก แม้แต่การเลือกร้านอาหาร ทำให้ปัจจุบันมีอาชีพใหม่ที่เรียกว่า Food Blogger / Food Reviewer หรือนักรีวิวอาหารนั่นเอง ร้านอาหารหลายๆร้าน เริ่มให้ความสนใจกับนักรีวิวอาหารมากขึ้น บางร้านเลือกใช้นักรีวิวอาหารที่ได้รับความนิยม อยู่ในกระแสที่มีผู้ติดตามจำนวนมากในการโปรโมทร้าน หากร้านไหนถูกพูดถึงมาก หรือมีรีวิวที่ดี ก็มีแนวโน้มที่จะขายดีและเป็นที่รู้จักมากขึ้น “ Food Blogger ช่วยในการขยายฐานลูกค้าหรือชักนำไปสู่ร้านก็จริง แต่ที่สำคัญ ร้านต้องทำตัวเองให้แข็งแกร่งก่อน ”   อาหารที่เป็นมากกว่าปัจจัย 4 ร้านอาหารเป็นหนึ่งในธุรกิจที่มีการเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพราะอาหารถือได้ว่าเป็นปัจจัย 4 ในการดำรงชีวิต แต่ทุกวันนี้อาหารเป็นมากกว่าปัจจัย 4 ไปแล้ว เพราะอาหารสามารถบ่งบอกไลฟ์สไตล์ของคุณได้เลย ผ่านภาพถ่ายที่คุณแชร์ ว่ามีไลฟ์สไตล์อย่างไร ชื่นชอบอาหารแนวไหน ทำให้เหล่านักชิมและนักรีวิวอาหาร หรือFood Blogger / Food Reviewer เริ่มต้นในการทำเพจอาหารหรือเพจชิมอาหารตามร้านต่างๆ เพื่อตอบโจทย์กับผู้บริโภคที่มักหาข้อมูลรีวิวต่างๆ จากสื่อโซเชียลก่อนไปลองทานที่ร้านจริงๆ คราวนี้เรามาดูกันว่าFood Blogger และ  ร้านอาหาร สามารถทำงานร่วมกันได้อย่าง WIN WIN ทั้งสองฝ่ายได้อย่างไร […]

ถ่ายภาพอาหาร

6 เทคนิค ถ่ายภาพอาหาร ให้สวยเป๊ะ

ภาพอาหาร เป็นปัจจัยสำคัญในการโปรโมทร้านอาหาร แต่ถ้าทักษะการถ่ายภาพของเราอยู่ในระดับ “พอถ่ายได้” จะทำอย่างไรดีล่ะ วันนี้เรามี เทคนิคการ ถ่ายภาพอาหาร มาแนะนำ

logo ร้านอาหาร

ออกแบบ Logo ร้านอาหาร ให้โดนใจจนลูกค้าจำได้!!

Logo ร้านอาหาร ถือเป็นส่วนสำคัญที่เปรียบเสมือนหน้าตาของร้าน มีผลต่อการสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักได้ โดยเฉพาะในบริการเดลิเวอรี ที่ลูกค้าอาจจะไม่ได้เห็นหน้าร้านของเรา แต่จะจำร้านได้จากโลโก้ที่ติดอยู่บนบรรจุภัณฑ์อาหารเท่านั้น  ร้านอาหารจึงควรมีหลักการในการออกแบบโลโก้ที่ดี เพื่อให้ตรงกับตัวตนของร้าน และเป็นที่น่าจดจำของลูกค้ามากที่สุด บทความนี้ เราจึงขอนำหลักการออกแบบโลโก้ร้านอาหารที่ดีมาแนะนำกันครับ ออกแบบ Logo ร้านอาหาร ให้โดนใจจนลูกค้าจำได้!! มีความเป็นเอกลักษณ์ของร้าน  โลโก้ของร้านควรจะสื่อสารถึงตัวตนของร้าน สไตล์อาหารที่ขาย มองแล้วรับรู้ทันทีว่านี่คือร้านอาหารอะไร และสัมพันธ์กับการตั้งชื่อร้าน รวมถึงควรมีความเป็นเอกลักษณ์ ไม่ไปซ้ำซ้อนกับร้านอื่นๆ เพื่อป้องกันความสับสนของลูกค้า  ตัวอย่างของโลโก้ร้านอาหารญี่ปุ่น Sushi Time ที่อาจจะขายซูซิเป็นหลัก จึงแสดงออกมาในรูปของนาฬิกาที่ทำจากมากิซูชิ เพื่อให้สื่อถึงชื่อของร้าน และช่วงเวลาที่ได้ทานอาหารญี่ปุ่น ไส้ซูซิด้านในออกแบบให้เป็นปลาแซลมอนด้วยสีส้มและลายปลาที่เป็นเอกลักษณ์ ดูแล้วใช้ลายเส้นที่เรียบง่าย แต่แสดงถึงความเป็นอาหารญี่ปุ่นได้อย่างชัดเจนและน่าสนใจทีเดียวครับ   ใช้โลโก้สื่อความหมาย โลโก้ที่ดีจะต้องสามารถสื่อความหมายได้มากกว่าแค่บอกชื่อร้าน รูปที่อยู่ในโลโก้ควรจะผ่านการคิดว่ามีความหมายอย่างไร เพื่อสื่อสารไปให้ถึงลูกค้า  ยกตัวอย่างการออกแบบโลโก้ร้านกาแฟ ก็ควรจะเลือกใช้รูปเชิงสัญลักษณ์ที่สื่อถึงถ้วย และสีน้ำตาลที่ทำให้นึกถึงกาแฟ ดังเช่นโลโก้ร้านกาแฟในภาพ ที่ใช้ภาพของถ้วยกาแฟ ผสมกับสัญลักษณ์ power ที่พบได้บ่อยบนอุปกรณ์ทางคอมพิวเตอร์ และยังมีการเคลื่อนไหวของกาแฟที่กระฉอกขึ้นมา ดูกระฉับกระเฉงไม่หยุดนิ่ง สื่อความหมายถึงการเริ่มต้นวันใหม่ด้วยกาแฟ เป็นเหมือนปุ่ม Start ของชีวิต และการเพิ่มพลังให้กับตัวเอง ซึ่งเป็นโลโก้ที่คนที่เห็นสามารถรู้สึก […]

คาเฟ่บ้านพักแมวจร Catster ด้วยปณิธานเปลี่ยน “แมวจร” ให้เป็น “แมวบ้าน”

คาเฟ่ บ้านพัก แมวจร Catster by Kingdomoftigers มาจกพุงได้ ถูกใจพากลับบ้านไปเลย แหล่งรวมความสดใส ด้วยปณิธานเปลี่ยน “แมวจร” ให้เป็น “แมวบ้าน” คงจะดีถ้าเขาได้มีบ้านอยู่ ได้อยู่กับเจ้าของที่รักเขาจริง ๆ ปฏิเสธไม่ได้ว่าปัญหาเรื่องสัตว์จรจัด สัตว์ไร้บ้านในไทย เป็นปัญหาที่ยากที่จะแก้ไข ทุกวันนี้เมื่อไปที่ไหนเราจึงมักจะเห็นน้อง ๆ โดยเฉพาะน้องหมา น้อง แมว เดินอยู่ตามสถานที่ต่าง ๆ ซึ่งมีโอกาสสูงมากที่น้องจะโดนทำร้าย หรือเกิดอุบัติเหตุได้ นี่จึงเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้เกิด “Catster by Kingdomoftigers” บ้านพักพิงของ แมวจรกึ่ง คาเฟ่ ที่เปิดโอกาสให้ทาสได้เข้ามาเล่นกับน้อง และถ้าถูกชะตาก็รับไปเลี้ยงได้ ด้วยปณิธาน การแก้ปัญหาแมวจรที่ดีที่สุด คือเปลี่ยนให้เขาเป็นแมวบ้าน คาเฟ่แมวจร บ้านพักพิงของแมวจรกึ่งคาเฟ่นี้ มีชื่อว่า “Catster by Kingdomoftigers” ริเริ่มโดยคุณนัชญ์ ประสพสิน เจ้าของเพจ “Kingdom Of Tigers: ทูนหัวของบ่าว” เพจที่ให้ความช่วยเหลือด้านต่าง ๆ […]

Follow Me

Contact

เว็บไซต์ : amarinacademy.com
บริษัท เอเอ็มอี อิมเมจิเนทีฟ จำกัด
ในเครือ บริษัท อมรินทร์ คอร์เปอเรชั่นส์ จำกัด (มหาชน)
Tel : 02-422-9999 ต่อ 4662 หรือ 4669, 092-254-0742
Email : amarin.academy@gmail.com

ติดต่อแจ้งปัญหาหรือร้องเรียน
02-422-9999 ต่อ 4180
(จันทร์ – ศุกร์ เวลา 09.00 – 18.00 น)
bdcx@amarin.co.th

สนใจลงโฆษณากับเว็บไซต์ Amarin Academy
Tel. 081-664-0666, 091-729-8060
E-mail : sineenart_ya@amarin.co.th

© COPYRIGHT 2025 AME IMAGINATIVE COMPANY LIMITED.