7 ขั้นตอนสุดง่าย สำหรับมือใหม่ หัดเขียน SOP ร้านอาหารด้วยตัวเอง

7 ขั้นตอนสุดง่าย เขียน SOP ร้านอาหารด้วยตัวเอง

1.ตั้งเป้าหมาย

            คุณอาจจะเคยได้ยินคำกล่าวที่ว่า ทำอะไรก็ตามต้องรู้เป้าหมาย การเขียน SOP ก็เช่นกัน การกำหนดเป้าหมายตั้งแต่เริ่มต้นจะช่วยให้คุณวางโครงร่างของ SOP ได้ง่าย และเกิดการใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น เช่น คุณต้องการเขียน SOP ในการรับสินค้าจากซัพพลายเออร์ในแต่ละอาทิตย์ อาจกำหนดเป้าหมายเพื่อลดระยะเวลาการทำงานให้ได้มากที่สุด SOP ที่ดีจะไม่ได้เขียนขึ้นเพียงเพื่อบอกขั้นตอนในการวัตถุดิบทั่วไปเท่านั้น แต่ทุก ๆ ขั้นตอน จะต้องถูกคิดเพื่อลดระยะเวลาในการทำงาน กระทบต่อการจัดการหน้าร้านให้น้อยที่สุดหรือไม่มีเลย

การตั้งเป้าหมายของ SOP ง่ายที่สุด คือ การแก้ปัญหาที่มีอยู่ให้หมดไป และการพัฒนาให้ขั้นตอนการทำงานเดิมให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

 

2.กำหนดรูปแบบ            

            วัตถุประสงค์ของ  SOP คือการกำหนดการทำงานแบบเป็นขั้นตอน เพื่อให้ทีมงานที่เกี่ยวข้องเข้าใจ และสามารถปฏิบัติงานได้ตามได้อย่างถูกต้อง  รูปแบบที่นำมาใช้จึงเป็นสิ่งสำคัญ โดยเอกสาร  SOP ที่ใช้อยู่ทั่วไปนั้นมีหลายรูปแบบด้วยกัน ควรคำนึงถึงความเหมาะสมกับลักษณะงานนั้น ๆ เช่น  การเขียน SOP เป็นหัวข้อ  (Simply Format)  เน้นการสร้างความเข้าใจโดยภาพรวม เช่น ข้อกำหนดพนักงานร้านในการเข้างานก่อนการปฏิบัติงาน หรือขั้นตอนหน้าร้านที่ไม่ซับซ้อนมากนัก ส่วนงานที่ต้องเน้นการปฏิบัติที่ถูกต้อง มีการอธิบายเป็นลำดับขั้น ( Hierarchical Format) เขียนโดยใช้ลำดับหัวข้อใหญ่ และมีหัวข้อย่อย หรือการใช้ภาพประกอบคำอธิบาย เช่น  การจัดเตรียมวัตถุดิบ การปรุงตกแต่งเมนู การจัดโต๊ะเสิร์ฟ การใช้งานเครื่องจักร  สุดท้ายคือ SOP ที่เขียนเพื่อให้เห็นภาพรวมของการทำงานที่เกี่ยวเนื่อง ส่งผลต่อการปฏิบัติงานในส่วนอื่น ๆ เช่น  (Flowchart) หรือการทำ Mind Map  รูปแบบนี้ยังใช้ได้ผลดีสำหรับการปฏิบัติงานที่ผลสามารถเกิดขึ้นได้หลายๆ ทางในสถานการณ์จริง เช่น การวาง SOP สำหรับบริหารจัดการลูกค้าร้องเรียน ซึ่งจะต้องกำหนดให้มีแนวทางในการแก้ไขสำหรับสถานการณ์ที่แตกต่างกัน

 

3.กำหนดรายละเอียด

            เจ้าของร้านอาหารบางท่าน มองว่า SOP ทำให้การดำเนินงานไม่ยืดหยุ่น มีความละเอียดมากเกินไปจนขาดอิสระในการดำเนินงาน จึงไม่ค่อยให้ความสำคัญกับการลงรายละเอียดมากนัก แต่ข้อเท็จจริงก็คือ ยิ่งคุณอยากอิสระในการบริหารร้านอาหารมากเท่าไหร่ ยิ่งต้องลงรายละเอียดงานที่เกี่ยวข้องให้มากที่สุด เพราะจะทำให้ทุกคนที่เกี่ยวข้องสามารถปฏิบัติงานได้อย่างเป็นมาตรฐาน ลดเวลาในการฝึกอบรม เจ้าของร้านอาหารก็มีอิสระในการจัดงานส่วนอื่น แทนที่จะต้องมาใช้สัญชาตญาณในการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นหน้าร้านตลอดเวลา

 ก่อนเริ่มต้นเขียน SOP งานในแต่ละส่วน จะต้องลิสต์ขั้นตอนที่เกี่ยวข้องทั้งหมดว่ามีอะไรบ้าง  ใครเป็นผู้เกี่ยวข้อง ณ หน้างานนั้น ๆ บ้าง จากนั้นกำหนดขอบเขตเพื่อลงรายละเอียดในแต่ละขั้นตอนให้รัดกุม เจ้าของร้านอาหารควรได้พูดคุยกับทีมงาน และเปิดโอกาสให้ทีมที่เกี่ยวข้องเสนอแนวทาง ก่อนจะเป็นผู้ตัดสินใจในการเลือกข้อกำหนดการปฏิบัติงานที่คิดว่าได้ประสิทธิภาพมากที่สุด โดยสามารถเลือกแนวทางที่สามารถวัดผลได้

 

4. ต้องออกแบบด้วยตัวเอง

            ทุกสิ่งที่ลูกค้าได้สัมผัสคือประสบการณ์ที่เขาได้รับจากร้านอาหารของคุณ ประสบการณ์เหล่านี้สามารถกำหนดได้ด้วย SOP เพราะฉะนั้น SOP จึงไม่ใช่การจัดทำโดยมีวัตถุประสงค์ด้าน Function เพียงอย่างเดียว แต่มีวัตถุประสงค์ด้าน Emotion ร่วมด้วย โดยเฉพาะ  SOP ด้านการบริการ ซึ่งถือเป็นเครื่องมือในการสื่อสารโดยตรงกับลูกค้า ปัจจุบันคุณสามารถค้นหา SOP งานบริการได้จากร้านอาหารทั่วโลก มี SOP ที่ดีที่สุดที่สามารถนำมาปรับใช้กับร้านอาหารของคุณได้มากมาย  แต่การเขียน SOP ในการให้บริการที่ดีที่สุด คือการเขียนมันขึ้นมาเอง โดยสอดคล้องกับคอนเซปต์ร้านอาหารของคุณ

 

5. ตรวจสอบ

            หลังจากเขียน SOP ในแต่ละส่วนเสร็จแล้ว จำเป็นต้องมีการรีวิว SOP เพื่อตรวจสอบความถูกต้องก่อนการนำไปใช้งานจริง สิ่งที่สำคัญที่สุดของ SOP คือ ทีมงานที่เกี่ยวข้องต้องเข้าใจ จดจำได้ง่าย และสามารถปฏิบัติงานได้ตามได้อย่างถูกต้อง การตรวจสอบต้องคำนึงถึงผลกระทบการใช้งานจริงในทุกด้านที่เกี่ยวข้อง เช่น  ความเหมาะสมกับสถานการณ์จริง ความปลอดภัย  อุปกรณ์และเอกสารที่เกี่ยวข้อง สภาพแวดล้อมในการทำงานจริง

 

6.ทดสอบการใช้งาน

            ควรกำหนดให้มีการทดสอบการบริหารจัดการหน้าร้าน เพื่อสร้างการรับรู้ให้กับทีมงานที่เกี่ยวข้อง ทำให้เห็นถึงความต่อเนื่องเพื่อปรับแก้ไขก่อนใช้งานจริง  โดย SOP ที่ให้ประสิทธิผลที่สุด ไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อบอกขั้นตอนว่าต้องทำอย่างไรเพียงเท่านั้น แต่ถูกเขียนขึ้นเพื่อให้ทีมงานเกิดความเข้าใจว่าทำไมต้องทำเช่นนั้น เช่น พนักงานเสิร์ฟถูกกำหนดให้ถามลูกค้าก่อนเสิร์ฟน้ำแก้วใหม่ให้ทุกครั้งก็อาจจะรู้สึกว่าเสียเวลา แต่เมื่อรู้เหตุผลว่า จากสถิติการถามลูกค้าก่อนจะให้บริการนั้นลูกค้ารู้สึกดีกว่าเพราะรู้สึกว่าไม่ถูกรบกวน สร้างความรู้สึกที่ดีในการบริการ และยังเป็นช่วงที่พนักงานสามารถแนะนำเครื่องดื่มที่ใกล้หมดเพื่อให้เกิดการสั่งเพิ่มเติมได้ พนักงานก็จะมีความเข้าใจและมีเป้าหมายในการปฏิบัติงานตาม SOP ที่ได้กำหนดไว้

 

7.แก้ไขและพัฒนา          

การเขียน SOP นั้นไม่ใช่งานที่ทำเสร็จเพียงครั้งเดียวแล้วจบ แต่ต้องมีการปรับเปลี่ยนให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนไปในแต่ละช่วงเวลาด้วย การเขียน SOP สามารถกำหนดให้ใช้งานได้ทั้งแบบระยะสั้นและระยะยาว ซึ่งควรกำหนดให้มีการวัดผล เช่น กำหนดไตรมาส เนื่องจากการปรับเปลี่ยนรูปแบบในระยะเวลาที่กระชั้นชิดเกินไปส่งผลต่อความต่อเนื่องในการดำเนินเงิน ทำให้ระบบไม่นิ่ง  อย่างไรก็ตาม ควรรีวิว SOP เพื่อเปลี่ยนแปลงหรือปรับแก้รายละเอียด อย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง

 

SOP เป็นเครื่องมือในการวางระบบที่สำคัญต่อร้านอาหารเป็นอย่างมาก ซึ่งหากคุณเป็นเจ้าของร้านอาหารที่อยากวางระบบ SOP ร้านอาหารของคุณให้ดีมากขึ้น แต่ไม่มีความเชี่ยวชาญมากพอ  นี่คือโอกาสที่คุณจะได้เรียนรู้และสามารถวางแผนระบบร้านอาหารอย่างชำนาญด้วยตัวคุณเอง ในหลักสูตร “SOP & Recipe Workshop รุ่นที่ 1” สูตรลับทำร้านอาหารอย่างเป็น ระบบ ที่จะให้คุณเรียนรู้การวางระบบร้านให้ได้มาตรฐานพร้อมกับการฝึกปฏิบัติการจริง จากวิทยากรที่มีประสบการณ์ แถมเผยสูตรเด็ดจากเชฟ A Cuisine ที่สามารถนำไปใช้เพื่อทำกำไรกับที่ร้านของคุณได้ด้วย

 

สมัครเลยถ้าคุณไม่อยากพลาดหลักสูตรที่จะช่วยแก้ทุกปัญหาให้กับคุณ   คลิก

เรื่องแนะนำ

ต้นทุนอาหารควบคุมได้ กำไรเห็น ๆ

  การกำหนดต้นทุนอาหารส่วนใหญ่จะกำหนดไม่เกิน 35-40 เปอร์เซนต์ของต้นทุนทั้งหมด โดยสูตรการคำนวณที่นิยมใช้กันคือต้นทุน เท่ากับ ยอดขาย (ราคาขาย ) คูณด้วยเปอร์เซนต์ของต้นทุน เพราะฉะนั้นถ้าเรากำหนดต้นทุนและยอดขายโดยประมาณไว้แล้ว เราก็จะได้จำนวนต้นทุนเพื่อควบคุมไว้ให้ไม่เกิน ยกตัวอย่าง ยอดขาย 90,000 คูณด้วย 35 เปอร์เซนต์ เท่ากับต้นทุนต้องไม่เกิน 31,500  บาท เป็นต้น ระบบการควบคุมต้นทุนให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น  ควรทำควบคู่กับระบบการจัดทำ Recipe  เพื่อกำหนดราคาขาย  และการกำหนด SOP เพื่อจัดการเมนูอาหาร   การจัดทำ  recipe เพื่อลงรายละเอียดของวัตถุดิบ   การจัดทำ recipe นั้นจะช่วยให้เรากำหนดราคาขายที่เหมาะสม ประเมินงบประมาณจัดซื้อวัตถุดิบ และยังช่วยลดการสูญเสียวัตถุดิบ ยกตัวอย่าง ดังนั้น ข้าวไข่ข้นกุ้งเมนูนี้ จึงมีต้นทุนอยู่ที่ 14.4 % หากขายที่ราคา 90  บาท นอกจากนี้ การคำนวณวัตถุดิบควรลงละเอียดในเรื่องของ yield  (การหาค่าเฉลี่ยวัตถุดิบ) ลงไปด้วยเพื่อการกำหนดต้นทุนที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น ในส่วนของการจัดทำ Recipe […]

เทคนิคทำ SOP งานบริการดี ลูกค้าไหลมาเทมา

งานบริการ เรียกว่าเป็นอีกหนึ่งหัวใจสำคัญของการทำร้านอาหารก็ว่าได้ ซึ่งถ้าอยากให้ร้านของคุณมีงานบริการที่ดี การทำ SOP สำหรับงานบริการลูกค้าก็เป็นสิ่งสำคัญที่เจ้าของร้านต้องทำ เพื่อให้พนักงานมีแบบแผนการบริการที่เป็นระบบ ถูกต้องตาม มาตรฐานของร้าน แล้ว เทคนิคทำ SOP เพื่อให้งานบริการดี ลูกค้าประทับใจทำได้อย่างไร มาดูกันครับ เทคนิคทำ SOP งานบริการดี ลูกค้าไหลมาเทมา การกำหนดบทบาทหน้าที่ พนักงานมีส่วนสำคัญในการชี้วัดว่า SOP ที่เขียนขึ้นมา สามารถใช้ประโยชน์ในการควบคุมมาตฐานงานบริการได้ดีจริงหรือไม่ การกำหนด SOP ที่ดี ควรทำให้พนักงานแต่ละคนรู้บทบาทหน้าที่ที่ชัดเจน ของตัวเอง ว่ามีอะไรบ้าง และจะต้องปฏิบัติอย่างไรในสถานการณ์ต่าง ๆ  รวมถึงช่วยให้มองเห็นภาพรวมการทำงานร่วมกับส่วนอื่น ๆ ได้   รูปแบบที่นำมาใช้ และความชัดเจน รูปแบบเป็นอีกสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม เพราะจะทำให้การสื่อสารเป็นไปอย่างกระชับและเข้าใจง่ายมากยิ่งขึ้น อาจจะเป็นการใช้แผนผัง หรือภาพประกอบที่ชัดเจน เพื่อช่วยให้จดจำง่าย ใช้ศัพท์เทคนิคที่เข้าใจไปในทิศทางเดียวกัน มีภาษาที่สอดคล้องกับผู้ที่นำไปปฏิบัติจริง และตรวจสอบให้แน่ใจในการนำเอกสารมาใช้ มีการกำกับเลขที่เอกสารเพื่อใช้อ้างอิง   วัตถุประสงค์และการวัดผล วัตถุประสงค์ที่สำคัญของการกำหนด SOP ด้านการบริการ คือ การรักษามาตรฐานที่เกิดจากการให้บริการลูกค้าที่เป็นไปอย่างมีลำดับขั้นตอน ช่วยลดความผิดพลาด  […]

เรียนรู้นิสัยของทำเล ก่อนตัดสินใจเช่าพื้นที่

ย่านออฟฟิศ สำนักงาน (Office area) ทำเลย่านออฟฟิศ สำนักงานเป็นทำเลที่มีกลุ่มลูกค้าชัดเจนคือ พนักงานออฟฟิศ แต่อาจมีกำลังซื้อแตกต่างกันในแต่ละทำเล ยิ่งเป็นทำเลที่อยู่ใจกลางเมืองอย่าง สาทร สีลม อโศก ฐานรายได้เฉลี่ยของกลุ่มลูกค้าก็อาจจะมากขึ้น ค่าเช่าก็อาจจะสูงขึ้นตามไปด้วย ทำให้ราคาขายของร้านอาหารจะสูงกว่าย่านออฟฟิศสำนักงานที่อยู่ถัดออกมา เช่น ย่านพหลโยธิน ทาว์อินทาวน์ หรือแจ้งวัฒนะ ทำให้ร้านอาหารที่อยู่ในทำเลออฟฟิศ สำนักงานในเมืองส่วนใหญ่ จึงเป็นร้านที่มีขนาดไม่ใหญ่มาก แต่มีค่าใช้จ่ายเฉลี่ยต่อคน (Check Average) ที่สูงกว่าย่านออฟฟิศสำนักงานนอกเมือง วันธรรมดา ช่วงเช้า – อาจจะขายแบบ Grab and go ได้ ถ้าทำเลตรงนั้นเป็นทำเลที่อยู่ในหรือใกล้อาคารสำนักงาน  หรืออาจจะอยู่ระหว่างสถานีรถไฟฟ้ากับอาคารสำนักงาน เพราะพนักงานออฟฟิศโดยมากมักจะซื้อก่อนขึ้นไปทำงานตอนเช้า ช่วงกลางวัน – จะขายดีช่วง 11.30 – 13.30 น. โดยอาหารอาจจะต้องเป็นประเภทที่ใช้เวลาปรุงไม่นาน เพื่อที่ทางลูกค้าจะได้รีบทานและรีบกลับไปทำงาน ในอีกมุมหนึ่งก็จะทำให้ร้านอาหารสามารถทำรอบ ได้มากขึ้นด้วย ช่วงเย็น – ช่วงเวลาหลังเลิกงานคือ 17.30 – 20.00 น. […]

Omni media ช่วยร้านอาหารของคุณ ทำการตลาดได้ตรงจุด

ใช้เพื่อเข้าถึงลูกค้าได้ครอบคลุมมากกว่าเดิม การใช้ Omni Media ก็เหมือนกับการที่คุณมีประตูเปิดรับลูกค้าได้หลาย ๆ ช่องทาง ที่สุดแล้วลูกค้าจะเลือกรับบริการจากช่องทางที่สะดวกที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการกินหน้าร้านหรือการสั่งแบบเดลิเวอรี่  ความนิยมในสื่อออนไลน์ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ทำให้ค่าโฆษณาออนไลน์สูงขึ้น แต่อาจไม่ได้ตอบโจทย์แคมเปญการตลาดทั้งหมด สื่อออฟไลน์จึงถูกนำมาพูดถึงเพื่อหาจุด Touch Point ที่มีประสิทธิภาพที่สุด  ข้อดีของ Omni Media ทำให้ลูกค้าสามารถสื่อสารผ่านสื่อการตลาดออฟไลน์ที่เชื่อมโยงออนไลน์ได้โดยทันที  ยกตัวอย่าง ร้านค้าใหม่ ๆ ที่ตั้งอยู่ในห้าง ติดตั้งสื่อ POP ที่ทำการสแกน QR Code เพื่อเข้าถึงข้อมูลร้านและโปรโมชั่นได้ทันที  หรือเทคโนโลยี Location Base Service สามารถส่งข้อความเข้ามือถือลูกค้าที่อยู่ในรัศมีร้านเพื่อแนะนำสินค้าและบริการ  ลูกค้าสามารถคลิกเพื่อรับสิทธิพิเศษผ่านข้อความได้เลยทันที นอกจากนั้นการใช้เครื่องมือที่ช่วยเชื่อมโยงกัน ยังช่วยในเรื่องการสื่อสาร ลดความเข้าใจผิด เพราะเข้าถึงข้อมูลเดียวกัน ทำให้จัดการแคมเปญต่าง ๆ ทำได้ง่ายขึ้น   ใช้เพื่อรู้จักลูกค้ามากกว่าที่เคย การสื่อสารออฟไลน์ที่เคยเป็นการสื่อสารทางเดียว สามารถเชื่อมโยงออนไลน์ได้ และมีเครื่องมือที่หลากหลายในการเก็บข้อมูลลูกค้า การเก็บข้อมูลลูกค้า สามารถทำได้ง่ายมากขึ้น และข้อมูลของลูกค้าจะเป็นประโยชน์อย่างสูงสุดในการทำกิจกรรมทางการตลาด ร้านอาหารดัง ๆ หลายแห่ง เริ่มเก็บข้อมูลความต้องการพิเศษ […]

Follow Me

Contact

เว็บไซต์ : amarinacademy.com
บริษัท อมรินทร์ คอร์เปอเรชั่นส์ จำกัด (มหาชน)
Tel : 02-422-9999 ต่อ 4662 หรือ 4669, 092-254-0742
Email : amarin.academy@gmail.com

ติดต่อแจ้งปัญหาหรือร้องเรียน
02-422-9999 ต่อ 4180
(จันทร์ – ศุกร์ เวลา 09.00 – 18.00 น)
bdcx@amarin.co.th

สนใจลงโฆษณากับเว็บไซต์ Amarin Academy
Tel. 081-664-0666, 091-729-8060
E-mail : sineenart_ya@amarin.co.th

© COPYRIGHT 2024 Amarin Corporations Public Company Limited.