GEN ไหน ชอบกินแบบไหน รู้ไว้ได้เปรียบ สำหรับเจ้าของร้านอาหารในปัจจุบัน

GEN ไหนกินแบบไหน รู้ไว้ได้เปรียบ

แม้ว่ากลุ่ม GEN Y จะมีจำนวนมากที่สุดในประเทศไทย แต่ก็ยังเป็นกลุ่มที่ยังต้องคำนึงค่าใช้จ่ายเพราะรายได้ยังไม่มั่นคงนัก ทำให้กลุ่ม GEN X ซึ่งมีพฤติกรรมในกินอาหารนอกบ้านมากที่สุด มีกำลังซื้อมากสุด เพราะอยู่ในช่วงวัยที่มีรายได้มั่นคงแล้ว ถูกมองว่ากำลังส่งผลกับการเติบโตของร้านอาหารมากที่สุด

 

กลุ่ม GEN Y คาดหวังเรื่องรสชาติอาหารมากกว่าคน GEN X แต่ GEN X คาดหวังในด้านการบริการมากกว่าคน GEN Y ในขณะที่ GEN Y สนใจเรื่องบรรยากาศ แต่ GEN X จะคาดหวังว่าพนักงานมีความเข้าใจเมนูของร้านด้วย ให้ความสนใจกับรูปแบบการบริการและเครื่องแต่งกายของพนักงาน ในขณะที่ GEN Y จะชอบให้บริการเหมือนกับเป็นครอบครัวมากกว่า แต่ก็สนใจในเรื่องคุณภาพกับราคาที่จ่าย

 

ร้านอาหารประเภท Quick Service ได้ใจทั้ง GEN X  และ Y

คน GEN X ยังชอบที่จะสั่งอาหารประเภทฟาสฟู๊ด เช่น พิซซ่า แฮมเบอร์เกอร์ แต่จะรู้สึกดีหากมีตัวเลือกสุขภาพอยู่ด้วย จะเห็นได้จากธุรกิจร้านอาหารเชนใหญ่ ๆ ที่เริ่มวางตำแหน่งแบรนด์ตัวเองให้เป็น healthy food มากขึ้น ในขณะเดียวกัน คน GEN X มีแนวโน้มจะเลือกอาหารที่พวกเขาโตมากับมัน การใช้วัตถุดิบที่สร้าง Value นั้นก็ดึงดูดใจคน GEN X

 

GEN X คาดหวังเรื่องรสชาติ จึงเป็นกลุ่มที่เสาะแสวงหาร้านที่อร่อยในตำนานมากที่สุด ในขณะที่ GEN Y เลือกร้านที่น่าสนใจ ชอบสร้างคอนเทนต์ แสดงออกด้านไลฟ์สไตล์ และร้านอาหารที่เลือกเป็นการการแสดงถึงตัวตน ในขณะที่ GEN Z ร้านอาหารคือ Social life มองการกินอาหารเป็นการพบปะเพื่อนฝูง

 

กลุ่ม GEN Y เลือกความสะดวกรวดเร็ว ในขณะที่ GEN X ยังชอบบรรยากาศการนั่งกินที่ร้านอาหารเพื่อสังสรรค์ แชร์กับกลุ่มเพื่อน

 

กลุ่ม GEN Y ชอบที่จะกินอาหารออร์แกนิค อาจจะไม่ต้องพิถีพิถันปรุง แต่เน้นในเรื่องวัตถุดิบที่มีความ original  กล้าจ่ายแพงเพื่อซื้อประสบการณ์ใหม่ ๆ  ชอบการเข้าถึงง่าย ถ้าเป็นร้านอาหารที่สามารถจัดส่งได้ถึงหน้าบ้านก็จะดี แต่ต้องคงความสดใหม่อยู่

 

กลุ่ม GEN Y ไม่ชอบขั้นตอนที่วุ่นวาย หากไปกินที่หน้าร้านแล้วไม่ได้รับความสะดวก หรือการบริการที่แตกต่าง ก็จะเลือกสั่งอาหารแบบออนไลน์มากินมากกว่า

 

กลุ่ม GEN Y  มีพฤติกรรมกินอาหารที่ต่างจากความนิยมเดิม  คือ กินเกินสามมื้อต่อวัน ไม่จำกัดว่าอาหารเช้าต้องกินเป็นมื้อเช้า ร้านประเภท All day Breakfast จึงตอบโจทย์คนกลุ่มนี้

 

หากเจาะกลุ่ม GEN X และอย่าลืม Focus ที่กลุ่มเด็ก เพราะว่าเป็นกลุ่มที่เริ่มมีครอบครัว มีลูกเล็ก

กลุ่ม GEN Y มีแนวโน้มจะเปิดใจกับอาหารต่างชาติที่ไม่รู้จักมาก่อน รวมถึงอาหารที่ผสมผสานกันแต่ว่าเน้นการปรุงแบบเมนูดั้งเดิม เช่น อาหารแบบทวิสต์ โมเดิร์น  ผัดหมี่จีนแต่เสิร์ฟในแผ่นแป้งแมกซิกัน เป็นต้น

 

กลุ่ม GEN Z เป็นกลุ่มที่ชอบอาหารแปลกใหม่ สร้างสรรค์มากที่สุด  ในขณะเดียวกันก็ยอมจ่ายให้กับอาหารที่มีคุณค่าด้านอาหารสูง  แฮงค์เอาท์บ่อย แต่ก็สามารถทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้คนเดียว เข้าถึงข้อมูลและชอบอะไรที่ด่วน

 

Baby Boomer กลุ่มผู้ที่ดูแลสุขภาพ

อาหารประเภท Medical food บำรุงป้องกันโรคต่าง ๆ กระตุ้นให้ผู้บริโภคกลุ่มนี้ตัดสินใจซื้อ และเลือกจ่ายให้กับความคุ้มค่า ไม่ได้แปลว่าเลือกซื้อที่ราคา แต่ยินดีจ่ายให้กับความคุ้มค่าของคุณภาพเมื่อเปรียบเทียบกับราคา

 

ในขณะเดียวกัน Comfort food ก็สามารถดึงดูดความสนใจกลุ่ม Baby Boomerได้ และยังเป็นกลุ่มที่ให้ความสำคัญต่อการบริการที่บริการด้วยความใส่ใจ หรือประสบการณ์ที่มีความพรีเมียม สิ่งที่น่าสนใจ คือ เมนูอาหารที่สามารถเติมเต็มความรู้สึกได้ กลุ่มสูงวัยยังต้องการความรู้สึกเหมือนได้ออกเดินทางท่องเที่ยว อาจจะคิดเมนูที่มีวัตถุดิบจากประเทศต่าง ๆ มาใช้ เช่นเดียวกับอาหารประเภทสแนกซ์ อาหารที่ดึงความทรงจำที่ดี ก็เป็นสิ่งที่ตอบโจทย์ในด้านความรู้สึกด้วยเหมือนกัน อีกทั้งกลุ่ม Baby Boomer ยังเป็นกลุ่มที่สร้าง Royalty ได้อยู่ เช่น สิทธิสมาชิก ส่วนลด ยังเป็นการทำการตลาดที่ได้ผลสำหรับผู้บริโภคGenนี้

 

            นอกจากนี้ การเลือกร้านอาหารก็ไม่ได้กำหนดตามคนที่กินเสมอไป คนกลุ่ม GEN X อาจเป็นคนเลือกร้านอาหารให้กับพ่อแม่ในกลุ่ม Baby Boomer จึงอาจต้องทำการตลาดกับคนกลุ่ม GEN X ที่สามารถตอบโจทย์การกินอาหารแบบครอบครัว และบางครั้งร้านอาหารของคุณก็ต้องทำการตลาดกับกลุ่มคนทุก GEN  เพราะฉะนั้นความสามารถในการผสมผสานเพื่อจับคนได้ทุก Gen ก็ยังเป็นเรื่องที่ท้าทายความสามารถ ถ้าทำได้จะทำให้คุณแตกต่างจากคู่แข่ง และยิ่งสามารถสร้างความแตกต่างได้เท่าไหร่ ก็จะยิ่งสร้างกำไรให้กับร้านของคุณได้มากขึ้นเท่านั้น

 

สมัครเลยถ้าคุณไม่อยากพลาดหลักสูตรที่จะช่วยคุณวางระบบ SOP ให้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ   คลิก

เรื่องแนะนำ

วิเคราะห์ ปัญหาร้านอาหาร ทำการตลาดดีแต่ไม่มีลูกค้าประจำ

เชื่อไหมว่า… ปัญหาร้านอาหาร ที่เจ้าของร้านประสบชะตากรรมยอดขายตก มักจะมีคำถามว่าทำการตลาดอย่างไรดีช่วงนี้ให้ลูกค้าเข้าร้านเยอะ ๆ แทนที่จะตั้งคำถามว่า Operation อย่างไรให้ดี จนลูกค้าบอกต่อโดยไม่ต้องทุ่มงบทำการตลาด ซึ่งเจ้าของร้านอาหารบางท่าน ก็ไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่า Operation ทำหน้าที่ไล่ลูกค้าไปกี่คนแล้วต่อเดือน !   ทำไมการตลาดเรียกลูกค้า Operation ไล่ลูกค้า ?             ไม่ว่าจะเป็นการโฆษณา การจัดทำโปรโมชั่น ล้วนเป็นการสร้างความเคลื่อนไหวให้กับร้าน ทำให้ลูกค้าเกิดความสนใจ และตัดสินใจลองใช้บริการมากขึ้นในช่วงนั้น ๆ ซึ่งร้านอาหารมีโอกาสที่จะเปลี่ยนลูกค้าใหม่ให้เป็นลูกค้าประจำ และทำให้ลูกค้าประจำมีการซื้อมากขึ้นได้ ในทางกลับกันถ้า Operation มีจุดบอดก็จะเปิดโอกาสให้ลูกค้ามาเจอกับประสบการณ์ที่ไม่ดีได้มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นพนักงานบริการไม่ดี อาหารออกช้า ความไม่คงที่ของรสชาติและปริมาณ แทนที่จะเพิ่มยอดขาย กลับทำให้ร้านเกิดผลกระทบด้านลบในระยะยาวแทน เช่นเดียวกัน ถ้าหากร้านของคุณยังมีปัญหาด้าน Operation ก็ยากที่จะครองใจลูกค้าไว้ได้ แม้จะดันการตลาดมากแค่ไหนก็ตาม   การตลาดที่ดีต้องคำนึงถึงการ Operation หน้าร้านด้วย             กรณีศึกษา เกิดขึ้นกับร้านอาหารในประเทศจีน ทำการตลาดกินฟรี โดยกำหนดช่วงเวลา เพื่อหวังให้ร้านเป็นที่รู้จักในระยะเวลาอันรวดเร็ว แต่ปรากฏว่าการจัดการหน้าร้านไม่สามารถรองรับจำนวนลูกค้าที่ล้นหลามได้ และยังทำให้ร้านอาหารประสบกับปัญหาขาดทุนจากการจัดการต้นทุนที่ผิดพลาด แทนที่ร้านจะมีชื่อเสียงกลับทำให้เจ้าของร้านต้องตัดสินใจปิดร้านในเวลาอันรวดเร็ว การทำการตลาดจึงต้องคำนึงถึงความพร้อมของการจัดการหน้าร้านด้วย […]

กินอาหารนอกบ้าน

เจ้าของธุรกิจร้านอาหารต้องรู้ 4 พฤติกรรมของผู้บริโภคกับการ กินอาหารนอกบ้าน

จากสภาพเศรษฐกิจที่ส่งผลถึงพฤติกรรมของผู้บริโภค ทำให้เราได้เห็นถึงรูปแบบการกินอาหารนอกบ้านที่แตกต่างกันออกไปในแต่ละปี แสดงให้เห็นว่าอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มนั้นมีการเปลี่ยนแปลงเสมอ

สร้างแบรนด์

5 หลัก สร้างแบรนด์ สู่ร้านอาหารที่มีคน follow หลักล้าน!

ทุกวันนี้ใครๆ ก็พูดถึงเรื่องการ สร้างแบรนด์ เพื่อทำให้ตัวเองแตกต่างจากคู่แข่ง แต่ร้านอาหารควรจะสร้างแบรนด์อย่างไร เรามีหลักการง่ายๆ มาแนะนำ

#ถอดบทเรียน BEARHOUSE ลงทุนเป็นแสน ทำเพลงให้ร้านชานม “Music Marketing” กลยุทธ์ที่ให้มากกว่าความเพลิดเพลิน

#ถอดบทเรียน BEARHOUSE ลงทุนเป็นแสน ทำเพลงให้ร้านชานม การสร้าง Brand Loyalty และอยากเป็น “เพื่อน” “Music Marketing” กลยุทธ์ที่ให้มากกว่าความเพลิดเพลิน เพราะเพลงมีอิทธิพลต่ออารมณ์และความรู้สึกของมนุษย์… สอง youtuber ดัง คุณกานต์ และคุณซารต์ เจ้าของแบรนด์ Bear House ได้ออกมาเล่าถึงแรงบันดาลใจในการทำเพลงหรือ BEARHOUSE Playlist เพื่อนำมาเปิดในร้าน โดยทั้งคู่ได้มาแชร์เรื่องราวของการทำเพลงนี้ ดังนี้ 🔸แรงบันดาลใจ💖 โดยคุณกานต์ และคุณซารต์ได้เล่าว่า จุดเริ่มต้นของการทำเพลงนี้ มาจากช่วงที่พวกเขาต้องทำงานอยู่บ้านหรือ Work frome Home นั้น ได้มีการเปิดเพลย์ลิสต์เพลงของแบรนด์สินค้าสุดมินิมอลอย่าง Muji ฟังอยู่ตลอด ซึ่งการฟังเพลงนี้ได้ทำให้เขารู้สึกราวกับว่าเขากำลังเลือกซื้อของอยู่ในร้าน Muji อะไรอย่างนั้นเลย อีกทั้งยังทำให้เขาเกิดความรู้สึกจงรักภักดีต่อแบรนด์ จนรู้สึกว่าถ้าไปห้างจะต้องแวะไปซื้อของที่ Muji ด้วย ทั้งนี้จึงทำให้พวกเขาเกิดแรงบันดาลใจว่าเมื่อเพลงของ Muji ทำให้เกิดความรู้สึกแบบนี้ได้ ก็อยากให้ Bear House มีเพลงที่ฟังแล้วสามารถคิดถึง Bear House […]

Follow Me

Contact

เว็บไซต์ : amarinacademy.com
บริษัท เอเอ็มอี อิมเมจิเนทีฟ จำกัด
ในเครือ บริษัท อมรินทร์ คอร์เปอเรชั่นส์ จำกัด (มหาชน)
Tel : 02-422-9999 ต่อ 4662 หรือ 4669, 092-254-0742
Email : amarin.academy@gmail.com

ติดต่อแจ้งปัญหาหรือร้องเรียน
02-422-9999 ต่อ 4180
(จันทร์ – ศุกร์ เวลา 09.00 – 18.00 น)
bdcx@amarin.co.th

สนใจลงโฆษณากับเว็บไซต์ Amarin Academy
Tel. 081-664-0666, 091-729-8060
E-mail : sineenart_ya@amarin.co.th

© COPYRIGHT 2025 AME IMAGINATIVE COMPANY LIMITED.