ตั้งชื่อร้าน ว่าอะไรดี ? เชื่อว่าผู้ที่กำลังจะเปิดร้านอาหารหลาย ๆ คน ต้องมีคำถามนี้เกิดขึ้นในหัว คุณอาจจะมีชื่อที่ชอบอยู่ในใจอยากนำมาตั้งชื่อร้านอาหารในฝัน หรือยังนึกไม่ออกว่าจะตั้งชื่อร้านของคุณว่าอะไรดี ลองใช้เทคนิคการตั้งชื่อเหล่านี้เป็นตัวช่วย
7 เคล็ดลับ ตั้งชื่อร้าน โดนใจ..ขายอะไรก็โดน!
1. จำง่าย อ่านง่าย
ถ้าลูกค้าเห็นร้านคุณครั้งแรกว่าเป็นร้านที่อยู่ในโลเคชั่นที่เดินทางผ่าน แต่แล้วพอจะไปกินกลับจำชื่อร้านไม่ได้ จะเสิร์ชหาข้อมูลเพื่อไปกินที่ร้านก็ไม่ถูก เพราะชื่อจำยาก ทำให้คุณเสียโอกาสที่คุณจะขายลูกค้าคนนั้นไปเลยก็ได้ ชื่อที่จำง่าย สะกดง่าย จึงเป็นสิ่งสำคัญและเป็นเทคนิคอันดับแรก ๆ ของการตั้งชื่อร้านที่คุณต้องคำนึงถึง รวมถึงยังส่งผลดีต่อการออกแบบโลโก้ร้าน หรือทำการตลาดในช่องทางต่าง ๆอีกด้วย การใช้คำที่อ่านง่าย ที่สามารถใส่เรื่องราวให้กับชื่อร้าน ก็เป็นสิ่งที่ช่วยสร้างการจดจำแบรนด์ที่ดีให้แก่ลูกค้า เช่น ร้านขนมหวาน After You ตั้งชื่อจากโลเคชั่นแรกของร้านที่เปิดอยู่บนร้านอาหารญี่ปุ่นชื่อยู
สิ่งที่ควรระวังก็คือ หลีกเลี่ยงการใช้คำที่ก่อให้เกิดความสับสน และคำที่ส่งผลต่อภาพลักษณ์ร้านของคุณในด้านลบ
2. บอกรูปแบบของร้านชัดเจน หรือรู้ทันทีว่าขายอะไร
การตั้งชื่อร้านที่สามารถบอกได้ทันทีว่าขายอะไร มีข้อดีนอกจากช่วยให้จดจำได้ ทำการตลาดง่ายแล้ว ยังสามารถสื่อถึงจุดขายของร้านของคุณไม่ว่าจะเป็น รสชาติ หรือคุณภาพ ซึ่งมีส่วนช่วยให้ลูกค้าตัดสินใจมากินร้านของคุณได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้การเพิ่มสโลแกนเข้าไปท้ายชื่อ ยังช่วยเพิ่มให้ชื่อร้านมีความน่าสนใจ และสามารถบอกคอนเซปต์ของร้านได้ดีมากยิ่งขึ้น เช่น หมูทำอะไรก็อร่อย บอกได้ทันทีว่าร้านนี้ขายอาหารที่ทำจากหมู นอกจากนั้นยังเป็นหมูที่อร่อยด้วย หรือ ร้านเบอร์เกอร์คิง สามารถรู้ได้ทันทีว่าร้านนี้ขายแฮมเบอร์เกอร์ หรือการใช้ชื่อที่บอกถึงคอนเซปต์และประเภทอาหารไปเลย เช่น แพนด้าสุกี้ เดอะพิซซ่า นอกจากนั้นแล้วชื่อที่ดียังสามารถบอกตัวตน และจุดเด่นของร้านได้ดีมากยิ่งขึ้น เป็นต้น
3. มีความเป็นเอกลักษณ์
หลีกเลี่ยงการใช้ชื่อร้านที่คล้ายคลึงกับร้านที่มีอยู่แล้วในตลาด หรือร้านที่เป็นคำตรงตัวจนเกินไป เช่นคุณจะขายส้มตำ ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องใช้คำว่าส้มตำเสมอไป เพราะจะมีคนใช้ชื่อส้มตำอีกมากมายหลายเจ้า คุณอาจเลือกคำที่สื่อถึงอาหารประเภทอีสานอื่น ๆ ที่เข้ากับคอนเซปต์ของร้าน ยกตัวอย่าง ร้านปลาร้าคาเฟ่ ที่เน้นเมนูอาหารอีสานต้นตำรับที่ต้องมีปลาร้าเป็นส่วนประกอบ ในรูปแบบคาเฟ่ที่ทันสมัย เหมาะกับลูกค้าในเมือง
อย่างไรก็ตามชื่อที่คุณอยากได้ อาจจะมีคนใช้ไปแล้ว เพราะฉะนั้นให้ลองค้นหาข้อมูลจากอินเตอร์เน็ต เพื่อตรวจสอบรายชื่อร้านอาหารก่อน สิ่งสำคัญอีกหนึ่งอย่างที่ต้องคำนึงถึงก็คือ เลือกชื่อที่เหมาะสมกับการทำการตลาดออนไลน์ด้วย เช่น การจดชื่อโดเมนเนม การทำเว็บไซต์ร้านและสื่อโซเชียลต่าง ๆ ซึ่งควรเป็นคำที่เฉพาะและง่ายต่อลูกค้าในการเข้าถึง
นอกจากนี้ ถ้าคุณอยากตั้งชื่อร้านเป็นภาษาต่างประเทศ อาจหาคำเพิ่มเติมจาก Dictionary online ที่ตรงกับคอนเซปต์ร้านของคุณ เช่น คุณอาจจะเปิดร้านขายอาหารอิตาเลียน อาจจะลองดูว่ามีคำไหนที่สื่อถึงอาหารอิตาเลียน โดยเริ่มต้นจากการใส่คีย์เวิร์ดคำที่คุณชอบลงไป เช่น เว็บไซต์ wordlab , visuwords , thesaurus , fantacynamegenerators
4. อย่าลืมคิดถึงการเติบโตของร้านในอนาคต
มีร้านอาหารไม่น้อยที่ตั้งชื่อตามทำเลที่ตั้ง ซึ่งเป็นไอเดียที่ดี แต่ต้องคำนึงถึงในอนาคตหากคุณต้องการขยายสาขาไปในพื้นที่อื่น ๆ อาจทำให้ลูกค้าเกิดความสับสนที่ตั้งของร้านได้ รวมถึงการใช้ชื่อที่เฉพาะมากเกินไป อาจทำให้เกิดข้อจำกัดในการปรับคอนเซปต์ของร้านในอนาคต เพราะฉะนั้นการตั้งชื่อจึง อย่าลืม คำนึงถึงปัจจัยในข้อนี้ด้วย
ยกตัวอย่าง ข้าวมันไก่ประตูน้ำ ที่ไปเปิดสาขาใหม่ที่โชคชัย 4 แม้ว่าร้านข้าวมันไก่ประตูน้ำจะเป็นร้านอาหารที่ติดตลาดไปแล้ว แต่ลูกค้าในทำเลใหม่ก็ยังมีความสับสนว่าร้านดังกล่าว เป็นร้านเจ้าเดียวกันหรือไม่ หรือเป็นร้านที่ตั้งใจใช้ชื่อเดียวกัน
5. ลองเล่นคำ ช่วยสร้างความแตกต่าง
การเล่นคำจะช่วยดึงดูด สร้างความน่าสนใจ และสร้างการจดจำให้แก่ร้านของคุณได้ เช่น การใช้คำที่คุ้นหูของคนทั่วไป นำมาดัดแปลง การใช้คำพื้นเมือง คำจากภาพยนตร์ แต่ต้องระวังว่าการใช้ชื่อที่เป็นการดัดแปลงหรือโลโก้ที่อาจจะเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ เช่น ร้านกาแฟที่ตั้งชื่อว่าสตาร์บัง ซึ่งคล้ายคลึงกับร้านสตาร์บัคส์ที่เป็นร้านกาแฟเหมือนกัน นอกจากนี้คำที่พลิกแพลงมาก ๆ อาจทำให้ลูกค้าไม่เข้าใจรูปแบบของร้านโดยทันที แต่ถ้าต้องการใช้ชื่อนั้นจริง ๆ ก็ควรมีวิธีในการนำเสนอคอนเซปต์ของร้านผ่านวิธีต่าง ๆ เพิ่มขึ้นด้วยเพื่อสร้างการรับรู้ ไม่ว่าจะเป็นการตกแต่งร้าน การทำ Content Marketing เป็นต้น
เทคนิคในการตั้งชื่อโดยการเล่นคำนั้น คุณอาจจะลองลิสต์รายชื่อ ที่คุณสนใจและนำทั้ง 2 คำที่ต่างความหมาย มารวมกันเพื่อสร้างความหมายใหม่ เช่น คำว่า Subway ก็มาจาก Sub + Way ซึ่งสื่อถึงรูปแบบของร้านอีกด้วย
6. เข้าใจกลุ่มลูกค้าและตลาด
สำหรับร้านอาหารคุณไม่ได้แค่ขายอาหารและเครื่องดื่ม แต่ขายประสบการณ์ในการกินให้กับลูกค้าด้วย การที่คุณรู้ว่าใครคือคนที่จะเดินเข้าร้านเพื่อจ่ายเงินสำหรับ 1 มื้อให้กับร้านของคุณ จะช่วยให้คุณเลือกชื่อร้านที่เชื่อมโยงกับกลุ่มลูกค้าและสอดคล้องกับความต้องการของพวกเขา ลูกค้าวัยทำงาน ลูกค้ากลุ่มครอบครัว มีความต้องการและรู้สึกพอใจแตกต่างกัน การที่จะเข้าใจความต้องการของลูกค้าให้มากที่สุด ก็คือ 1 . ลองคิดแทนลูกค้าว่า คาดหวังอะไรจากร้านอาหารบ้าง 2. คิดถึงความต้องการของลูกค้าในอนาคต ซึ่งจะทำให้คุณสามารถรักษาฐานลูกค้าไว้ได้ในอนาคต
กลุ่มลูกค้าจึงมีส่วนสำคัญในการตั้งชื่อ จึงควรเลือกใช้คำที่สอดคล้องกับ Position ทางการตลาดของร้าน และสอดคล้องกับกลุ่มเป้าหมาย เช่น ถ้าต้องการเจาะลูกค้ากลุ่มพรีเมี่ยม การใช้คำฮิตวัยรุ่นจนเกินไปก็อาจจะไม่เหมาะสม
7. ชื่อที่ทำการตลาดง่าย ๆ และไม่ขัดกับวัฒนธรรม
ชื่อควรจะต้องโดดเด่นในตลาด เป็นคำที่คุ้นหูง่าย ทันสมัยและต้องสร้างความรู้สึกประทับใจให้กับกลุ่มลูกค้า ชื่อของร้านให้ความรู้สึกร่วมในการที่เขาจะแนะนำร้านให้แก่คนใกล้ตัวของเขาได้
นอกจากนี้ วัฒนธรรมก็มีส่วนในการตั้งชื่อ โดยเฉพาะการทำธุรกิจคนไทยที่มีความเชื่อค่อนข้างสูง ชื่อที่ไม่เป็นสิริมงคลหรือสื่อความหมายในทางที่ไม่ดี ก็ส่งผลต่อความรู้สึกของลูกค้าเหมือนกัน จึงควรระวังในข้อนี้ด้วย ยกตัวอย่าง ร้านก๋วยเตี๋ยวแห่งหนึ่งตั้งชื่อว่า ตายทั้งกลม ซึ่งเจ้าของร้านอาจมีความตั้งใจที่จะสื่อถึงความอร่อยต้องกินจนพุงกาง แต่ลูกค้าอาจจะรู้สึกไม่ดีกับชื่อที่มีคำว่าตาย
เมื่อคุณได้ชื่อที่น่าสนใจแล้ว ควรจะลิสต์รายชื่อทั้งหมด แล้วควรให้เวลากับการคัดเลือกชื่อที่เหมาะสมที่สุด ตามหัวข้อดังที่กล่าวมา การเลือกชื่อที่ใช่ที่สุดอาจไม่ใช่เรื่องง่ายโดยเฉพาะเมื่อคุณมีหุ้นส่วนหลาย ๆ คน แต่การระดมสมองก็จะทำให้เกิดไอเดียที่หลากหลาย เพราะฉะนั้นเมื่อจะเปิดร้านอาหารควรให้เวลากับการคัดเลือกชื่อที่จะใช้ และคำนึงถึงการทำการตลาดทั้งออฟไลน์และออนไลน์ด้วย
กลับมาอีกครั้งกับหลักสูตร HR for Food Business บริหารคน สำหรับธุรกิจอาหาร รุ่นที่ 3 หลักสูตรที่จะทำให้ผู้ประกอบการเรียนรู้การบริหารบุคลากรอย่างมีประสิทธิภาพ ไขข้อข้องใจปัญหาเรื่องพนักงานลาออกบ่อย ขาด ลา มาสาย ทะเลาะกัน การหาพนักงานที่ดี โครงสร้างเงินเดือน สัญญาจ้างงาน รวมถึงกฎหมายเกี่ยวกับแรงงานต่างๆ ที่ต้องรู้ โดยวิทยากร คือ อาจารย์ พีรพัฒน์ กองทอง ผู้มีประสบการณ์จากธุรกิจอาหารเชนใหญ่อย่าง แมคโดนัลด์ ประเทศไทย ที่จะมาพร้อมแขกสุดพิเศษ งานนี้จะจัดขั้นในวันอังคารที่ 31 มีนาคม – วันพุธที่ 1 เมษายน 2563 เวลา 9.00-17.00 น.
คลิกสมัครด่วน! หลักสูตร HR for Food Business บริหารคน สำหรับธุรกิจอาหาร รุ่นที่ 3