แก้ปัญหาลูกค้านั่งนาน ไม่สั่งอาหารเพิ่ม - Amarin Academy

แก้ปัญหาลูกค้านั่งนาน ไม่สั่งอาหารเพิ่ม

แก้ปัญหาลูกค้านั่งนาน ไม่สั่งอาหารเพิ่ม

ลูกค้านั่งในร้านนาน ทำให้รับลูกค้าอื่นไม่ได้ ควรทำอย่างไรดี? ปัญหานี้เป็นปัญหาที่หลายๆ ร้านปวดหัว เพราะถ้าแก้ไขผิดอาจทำให้ลูกค้าไม่พอใจ จนกลายเป็นปัญหาใหญ่ตามมา เราจึงมีเทคนิคดีๆ ที่ช่วย แก้ปัญหาลูกค้านั่งนาน มาแนะนำ

แต่ก่อนที่จะไปทราบเทคนิค สิ่งแรกที่ควรรู้คือ คุณวางตำแหน่งของร้านไว้แบบใด ถ้าร้านของคุณวางตำแหน่งไว้ว่าเป็นคาเฟ่ให้ลูกค้ามานั่งเล่น ถ่ายรูป ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องยอมรับว่าลูกค้าต้องนั่งนานแน่นอน เพราะเขายอมจ่ายเงินซื้อกาแฟ เพื่อบรรยากาศ ฉะนั้นหลายๆ ร้านจึงใช้เทคนิคตั้งราคาอาหารค่อนข้างสูง เพื่อชดเชยค่าเสียโอกาสในการรับลูกค้าท่านอื่นๆ

อย่าง Starbucks แบรนด์กาแฟที่วาง Position ว่า ไม่ได้ต้องการขายกาแฟ แต่ต้องการเป็น Community ให้คนได้เข้ามานั่งเล่น พบปะ พูดคุย และขายประสบการณ์ดีๆ ให้ลูกค้า ดังนั้น Starbucks จึงอำนวยความสะดวกให้ลูกค้าทุกอย่าง ซึ่งปัจจัยที่ทำให้ Starbucks ทำได้คือ พื้นที่ร้านกว้าง รองรับลูกค้าได้มาก และต้นทุนต่ำกว่า เนื่องจากมีหลายสาขาทำให้อำนาจการต่อรองกับ Supplier สูง หรือพูดง่ายๆ ว่า ยิ่งซื้อ ยิ่งถูก ที่สำคัญราคาเครื่องดื่มสูงกว่าร้านกาแฟทั่วไป 2 – 3 เท่า นั่นแปลว่าการที่เขารับลูกค้าคนเดียว กลับมียอดขายเทียบเท่ากับร้านกาแฟเล็กๆ รับลูกค้า 2 – 3 คน Starbucks จึงสามารถปล่อยให้ลูกค้านั่งนานๆ ได้โดยไม่เดือดร้อน นี่คือข้อได้เปรียบของแบรนด์ที่ทำให้คู่แข่งอื่น แข่งค่อนข้างลำบาก

แต่หากร้านอาหารหรือคาเฟ่ของคุณไม่ได้วาง Position ไว้เหมือนกับ Starbucks แต่เจอปัญหาลูกค้านั่งนาน ลองทำตามเทคนิคนี้ดูได้เลย

1.ให้รหัส Wifi จำกัดเวลา ไม่มีปลั๊กบริการ

ร้านกาแฟหรือคาเฟ่หลายๆ แห่ง มักใช้วิธีนี้บอกลูกค้ากลายๆ ว่าเราจำกัดเวลา ไม่ให้นั่งนาน เพราะลูกค้าบางกลุ่มมักมานั่งทำงานเป็นเวลานาน ทำให้ร้านรับลูกค้ารายอื่นไม่ได้ และสูญเสียรายได้ไป ดังนั้นร้านส่วนใหญ่จึงให้รหัส Wifi ไว้กับใบเสร็จ โดยจะมีเวลาจำกัดประมาณ 1.30 – 2 ชั่วโมง เมื่อหมดชั่วโมงก็ต้องซื้อแก้วใหม่ ถ้าลูกค้าจำเป็นต้องใช้ Wifi จริงๆ ก็ต้องยอมจ่าย เพื่อรับบริการนี้ เป็นต้น เช่นเดียวกัน การไม่มีปลั๊กไฟก็จะช่วยให้ลูกค้าลุกเร็วขึ้นได้เช่นกัน เพราะไม่มีที่ชาร์ตคอมพิวเตอร์หรือสมาร์ทโฟน

วิธีนี้นอกจากจะช่วยบรรเทาปัญหาลูกค้านั่งนานได้แล้ว ยังเป็นการกรองกลุ่มลูกค้าได้อีกด้วย เพราะลูกค้าที่อยากนั่งคาเฟ่นานๆ เพื่อทำงาน ย่อมมองหาร้านที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน แต่ถ้าเป็นลูกค้าทั่วไปที่นั่งไม่นาน อาจไม่สนใจ 2 ปัจจัยนี้เลยก็ได้ ฉะนั้นถ้าลูกค้าเป้าหมายของคุณคือลูกค้ากลุ่มหลัง ก็ไม่ต้องกังวลว่า การจำกัดชั่วโมง Wifi หรือไม่มีปลั๊ก จะกระทบกับความรู้สึกของเขา

2.เก้าอี้อย่าเลือกแบบนั่งสบายนัก

เคยสังเกตไหม เวลาไปร้านอาหาร คาเฟ่ หรือร้านประเภท fast food บางร้านแล้วรู้สึกว่า เก้าอี้นั่งไม่สบายเลย ทั้งแข็ง ไม่มีเบาะนุ่มๆ รองรับสรีระ บางคนอาจคิดว่า เป็นเพราะร้านประหยัดค่าใช้จ่าย (สำหรับบางร้านที่งบประมาณจำกัด ก็อาจเป็นเพราะเหตุผลนี้) แต่จริงๆ แล้วนั่นอาจเป็นกลยุทธ์หนึ่งที่ออกแบบมาเพื่อทำให้ลูกค้าลุกจากร้านเร็วขึ้น เพราะรู้สึกว่านั่งนานๆ แล้วไม่สบายเท่าไร ลุกไปที่อื่นดีกว่า ทำให้ร้านมีเพิ่มโอกาสรับลูกค้าได้มากขึ้น

3.เสียงเพลงกระตุ้น

รู้หรือไม่…ร้านอาหารที่เป็น Chain restaurant บางร้านมีการกำหนด Playlist ในการเปิดเพลงด้วย เพื่อสร้างบรรยากาศ “มาตรฐาน” ภายในร้าน ทำให้ลูกค้ารู้สึกว่าไม่ว่าจะไปรับประทานที่สาขาไหน ก็ให้ความรู้สึกและประสบการณ์ที่คล้ายคลึงกัน แต่นอกจาก Playlist เพลงจะออกแบบมาเพื่อสร้างบรรยากาศแล้ว บางร้านยังกำหนดระดับเดซิเบลในการเปิดเพลงด้วย บางร้านเปิดเพลงชิลๆ เบาๆ ก็จะทำให้ลูกค้ารู้สึกผ่อนคลาย นั่งได้เรื่อยๆ นั่งได้นาน แต่บางร้านที่อยากกระตุ้นให้ลูกค้าลุกเร็วขึ้น ก็อาจเลือกเปิดเพลงหนักๆ เช่น เพลงร็อค เพลงแร๊ป ในระดับเดซิเบลที่ค่อนข้างดัง เพื่อกระตุ้นให้ลูกค้าตื่นตัว กระฉับกระเฉง และลุกจากร้านได้เร็วขึ้น

4.เก็บจาน สอบถามด้วยความสุภาพว่า ต้องการรับอะไรเพิ่มเติมไหม?

วิธีนี้หลายๆ ร้านอาหารใช้บ่อย แต่ก็มีข้อควรระวังคือ ถ้าเทรนด์พนักงานไม่ดี เข้าไปเก็บจานหรือสอบถามด้วยคำพูดที่ไม่เหมาะสม ใบหน้าไม่ยิ้มแย้ม อาจทำให้ลูกค้าไม่พอใจได้

นอกจากนี้ยังต้องพิจารณาเป็นกรณีๆ ไปว่าจะเข้าไปสอบถามลูกค้าเมื่อไหร่ เช่น นั่งนานเกิน 2 ชั่วโมง และมีลูกค้าคนอื่นรออยู่เต็มหน้าร้าน ก็อาจจะเริ่มด้วยการขออนุญาตเก็บจาน พร้อมเข้าไปสอบถามว่า ขอโทษนะครับ คุณลูกค้า อาหารรสชาติเป็นอย่างไรบ้างครับ หากอยากติชมใดๆ แจ้งได้เลยนะครับ ลูกค้าต้องการสั่งอาหารเพิ่มเติมไหมครับ ถ้าต้องการสั่งเรียกพนักงานได้เลยนะครับ เป็นต้น

การสอบถามเรื่องอื่นๆ ก่อนถามว่าสั่งอาหารเพิ่มเติมไหม จะช่วยให้ลูกค้าไม่รู้สึกอึดอัดว่าถูกเร่งจนเกินไป แต่เข้าใจได้ว่าคุณกำลังกระตุ้นให้เขาสั่งอาหารเพิ่ม หรือลุกจากโต๊ะ

5.วางบิล

วิธีนี้เป็นวิธีสุดท้ายที่อยากให้ทำ เพราะค่อนข้างแสดงออกชัดเจนว่าเรากำลังบอกให้เข้าลุกจากโต๊ะ ซึ่งลูกค้าบางรายที่ไม่เข้าใจ อาจรู้สึกไม่ดีต่อร้านของเราได้ ทางที่ดีควรลองทำวิธีอื่นๆ ก่อน ถ้าไม่ประสบความสำเร็จจริงๆ อาจเข้าไปหาลูกค้าพร้อมกล่าวว่า ขออนุญาตวางบิลนะครับคุณลูกค้า แต่หากต้องการสั่งเมนูใดๆ เพิ่มเติม สั่งเพิ่มเติมได้ตลอดเลยนะครับ

จริงๆ ลูกค้าส่วนใหญ่จะเข้าใจ ถ้าเห็นว่าร้านแน่น คนเยอะ เขาจะรีบลุกให้ เพราะเกรงใจลูกค้าท่านอื่นๆ มีน้อยรายเท่านั้นที่เราต้องงัดไม้เด็ดออกมาใช้ และสุดท้าย ถ้าลูกค้ายังไม่ลุกจากโต๊ะ คุณอาจจะต้องทำใจ และหาวิธีเพิ่มยอดขายจากช่องทางอื่นแทน เพราะการมีเรื่องกันลูกค้า ไม่เป็นผลดีต่อร้านเลย

เรื่องแนะนำ

Food Rotation Labels สติ๊กเกอร์บอกรายละเอียดวัตถุดิบ มาตรฐานครัวสำคัญที่ร้านอาหารควรมี

Food Rotation Labels สติ๊กเกอร์บอกรายละเอียดวัตถุดิบ มาตรฐานครัวสำคัญที่ร้านอาหารควรมี ทุกวันนี้ผู้คนหันมาให้ความสำคัญกับอาหารการกินในทุก ๆ ทาง นี่จึงเป็นเหตุผลชวนให้ผู้ประกอบการหันมาใส่ใจสุขลักษณะในการประกอบอาหาร เพื่อสร้างความมั่นใจทั้งต่อคนเสิร์ฟและคนรับประทาน ลองเปลี่ยนมาใช้ สติ๊กเกอร์บอกรายละเอียดวัตถุดิบ กัน! . สติ๊กเกอร์บอกรายละเอียดวัตถุดิบ (Food Rotation Labels หรือบางคนอาจจะเรียกว่า Daydot) คือ เป็นเครื่องมือที่ใช้ในการจัดระบบวัตถุดิบที่จะนำมาใช้ประกอบอาหาร โดยในสติกเกอร์จะมีหัวข้อให้ผู้ใช้ระบุข้อมูลเกี่ยวกับวัตถุดิบนั้น ๆ เช่น วัตถุดิบคืออะไร ผลิตวันไหน หมดอายุเมื่อไหร่ และใครเป็นคนเปิดใช้ เพื่อป้องกันการนำวัตถุดิบที่ไม่ปลอดภัยมาใช้ในการบริโภค ตัวอย่างข้อมูลที่ควรมีบนสติกเกอร์ติดอาหาร: 1.ชื่อผลิตภัณฑ์ (Product) เพื่อบ่งบอกว่าผลิตภัณฑ์นั้น คืออะไร 2.การจัดเก็บ (Type) : มีการจัดเก็บแบบไหน เช่น แช่แข็ง (Frozen) แช่เย็น (Chiller) หรือเก็บในอุณหภูมิห้อง (Ambient) 3.วันที่ผลิต (Product Date) 4.เวลาผลิต (Production Time) 5.วันที่หมดอายุ (Expiry Date) […]

6 เคล็ดลับ การเปิดร้านอาหาร ให้ “รอด” และ “รวย”

บางคนคิดว่า การเปิดร้านอาหาร เป็นเรื่องง่ายมีเงินก็สามารถเปิดร้านได้แล้ว แต่จะเปิดให้อยู่รอดได้นั้นยากมาก แล้วเคล็ดลับที่จะทำให้ร้านอาหารอยู่รอด คืออะไร? ” การเปิดร้านอาหาร นั้นง่าย แต่ให้อยู่รอดนั้นยาก” คำกล่าวที่ใครหลายๆคนพูดไว้ ธุรกิจร้านอาหารเป็นธุรกิจสำหรับคนที่พอมีเงินลงทุน มักจะเลือกลงทุน เพราะคิดว่าเป็นธุรกิจที่ไม่ยุ่งยาก อย่างไรก็ตามกลับพบว่า ร้านอาหารที่เปิดขึ้นมากมายในแต่ละปีนั้น ปิดตัวลงไปหลายร้าน สาเหตุอาจมาจาก รายได้ไม่เป็นไปตามที่คิด เงินทุนสำรองไม่พอ ค่าใช้จ่ายสูง ในที่สุดก็ต้องปิดกิจการลง สำหรับมือใหม่ที่อยากมีอาชีพด้วยการเปิดร้านอาหาร วันนี้เรามีเคล็ดลับการเปิดร้านอาหาร ให้รอด และ รวย  มาฝากคนที่อยากทำร้านอาหารค่ะ   1.ทำเลที่ตั้ง คนที่อยากจะเปิดร้านอาหาร ไม่ว่าใครต่อใครก็อยากอยู่ในบริเวณแหล่งชุมชนคนเยอะๆ ถ้าจะให้ดีควรลงพื้นที่สำรวจและสังเกตว่ามีกลุ่มลูกค้ามากน้อยแค่ไหน ดูว่ากลุ่มคนแถวนั้นเป็นลูกค้ากลุ่มใด เช่น พนักงานบริษัท กลุ่มคนทำงานโรงงาน กลุ่มนักเรียน นักศึกษา หรือพ่อบ้านแม่บ้าน เพราะกลุ่มคนจะสัมพันธ์กับชนิดสินค้าและราคาที่เราจะขาย เช่น เราคงไม่เปิดร้านอาหาร Fine Dining ในย่านสถานศึกษาเพื่อขายนักเรียน แต่ควรขายของที่กินง่ายๆ อย่างไก่ป๊อบทอด เฟรนช์ไฟลส์ทอด ในราคาไม่แพง นอกจากนั้นต้องรู้ว่าเวลาเข้างาน พักเที่ยง เลิกงาน  เพื่อให้เรารู้ว่าเวลาไหนคนเยอะคนน้อย เตรียมของขายได้ถูกช่วงเวลา […]

ระบบงานครัว

อย่าปล่อยให้ ระบบงานครัว ทำร้านเจ๊ง ถึงเวลาเจ้าของร้านต้องวางแผน

ระบบงานครัว ที่มีปัญหาอาจส่งผลให้เจ้าของร้านอาหารต้องเสียทั้งค่าใช้จ่ายในการแก้ปัญหา เสียโอกาสในการทำกำไรได้อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย และยังอาจทำให้ร้านเติบโตยากขึ้นอีกด้วย ดังนั้นจึงต้องมีการวางระบบครัวที่ดี แล้วการวางระบบครัวให้ดีนั้นต้องทำอย่างไร?   สัญญาณที่บอกว่า ระบบงานครัว กำลังมีปัญหา ความล่าช้าในการออกอาหาร ขายดี แต่ไม่มีกำไร Food Cost สูง คุณภาพอาหาร รสชาติ และปริมาณไม่คงที่ เสียวัตถุดิบบ่อย วัตถุดิบไม่เพียงพอต่อการใช้งาน อุปกรณ์การใช้งานมีปัญหา ส่งผลต่อการขายในแต่ละวัน การเซตอัพระบบงานครัว มีวัตถุประสงค์เพื่อควบคุมมาตรฐานการทำงาน โดยการกำหนดขั้นตอนจัดการงานครัว ทั้งวัตถุดิบและการใช้อุปกรณ์การทำงานที่ถูกต้อง ดังต่อไปนี้   กำหนดขั้นตอนการใช้อุปกรณ์และวัตถุดิบ ตัวอย่าง 1 : ขั้นตอนการใช้อุปกรณ์ การจัดเตรียม การทำความสะอาด Note : กำหนดรายละเอียด และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องให้มากที่สุด เพื่อให้ผู้ที่ได้รับมอบหมาย สามารถรับผิดชอบงานได้ทันที และทำให้เกิดมาตรฐานในการปฏิบัติงาน   ตัวอย่าง 2 : การตรวจสอบ จัดเตรียม จัดเก็บวัตถุดิบ Note : จัดทำรูปภาพการใช้งานจริงเพื่ออ้างอิง สร้างมาตรฐานการจัดการวัตถุดิบ ช่วยควบคุมการใช้วัตถุดิบให้เกิดประโยชน์สูงสุด   […]

เจ๊จง หมูทอด

ถอดบทเรียน เจ๊จง หมูทอด ร้อยล้าน !

เจ๊จง หมูทอด เป็นร้านอาหารไม่กี่แห่งที่ขายดีมากอย่างสม่ำเสมอ เมื่อมีโอกาสคุยกับเจ๊จง เลยอดไม่ได้ที่จะชวนคุยถึงข้อคิดที่ทำให้ประสบความสำเร็จอย่างทุกวันนี้

Follow Me

Contact

เว็บไซต์ : amarinacademy.com
บริษัท เอเอ็มอี อิมเมจิเนทีฟ จำกัด
ในเครือ บริษัท อมรินทร์ คอร์เปอเรชั่นส์ จำกัด (มหาชน)
Tel : 02-422-9999 ต่อ 4662 หรือ 4669, 092-254-0742
Email : amarin.academy@gmail.com

ติดต่อแจ้งปัญหาหรือร้องเรียน
02-422-9999 ต่อ 4180
(จันทร์ – ศุกร์ เวลา 09.00 – 18.00 น)
bdcx@amarin.co.th

สนใจลงโฆษณากับเว็บไซต์ Amarin Academy
Tel. 081-664-0666, 091-729-8060
E-mail : sineenart_ya@amarin.co.th

© COPYRIGHT 2024 AME IMAGINATIVE COMPANY LIMITED.