ร้านอาหาร บริการลูกค้า ต่างกลุ่มยังไง ให้โดนใจทุกคน - Amarin Academy

ร้านอาหาร บริการลูกค้า ต่างกลุ่มยังไง ให้โดนใจทุกคน

ร้านอาหาร บริการลูกค้า ต่างกลุ่มยังไง ให้โดนใจทุกคน

ร้านอาหาร เลือกลูกค้าไม่ได้ แต่ ร้านอาหาร บริการลูกค้า แบบเฉพาะเจาะจงเพื่อให้เขารู้สึกประทับใจได้ โดยลูกค้าแต่ละกลุ่มก็มีความต้องการต่างกัน ดังนั้นเราจึงต้องวิเคราะห์ให้ดีว่าลูกค้ากลุ่มใด ควรบริการแบบไหน เพื่อให้เขาพึงพอใจที่สุด วันนี้จึงขอวิเคราะห์ให้ฟังคร่าวๆ ว่า ลูกค้าแต่ละกลุ่ม (มัก) มีความต้องแบบใด เราจะได้บริการได้เหมาะสม

1.คู่รัก

ลูกค้าที่เป็นคู่รัก มักชอบความเป็นส่วนตัว ไม่อยากให้ใครเข้าไปกวนใจมากนัก ดังนั้นสิ่งที่พนักงานควรทำคือ พยายามทำให้เขารู้สึกเป็นส่วนตัวมากที่สุด เช่น เลือกโต๊ะด้านในของร้าน ที่ค่อนข้างเป็นส่วนตัว ไม่พลุกพล่าน หรือคอยสังเกตว่าเขาต้องการความช่วยเหลือไหม แล้วค่อยเข้าไปบริการ เป็นต้น และเมื่อเขารับประทานอาหารใกล้เสร็จ อาจเข้าไปแนะนำเมนูของหวานเพิ่มเติมเพื่อเพิ่มยอดขายได้

2.กลุ่มเพื่อน

ลูกค้ากลุ่มเพื่อนมักมามากกว่า 3 คน (บางกลุ่มอาจมีถึงหลักสิบ) สิ่งที่ลูกค้ากลุ่มนี้ต้องการมากที่สุดคือ การได้นั่งด้วยกันทั้งกลุ่มเพื่อจะได้พูดคุยกันได้สะดวก ดังนั้นหากร้านโฟกัสลูกค้ากลุ่มนี้เป็นหลัก ควรจะจัดวางแปลนร้านให้เคลื่อนย้ายโต๊ะ เก้าอี้ได้สะดวก เพื่อรองรับความต้องการของคนกลุ่มนี้

ลูกค้ากลุ่มนี้พนักงานเสิร์ฟสามารถคุยเล่น สร้างความเป็นกันเองได้ เพื่อทำให้เขารู้สึกผ่อนคลาย ทริกควรรู้คือ เมื่อเขารู้สึกผ่อนคลายแล้ว พนักงานควรแนะนำเมนูเด็ดไปเยอะๆ เพราะลูกค้ากลุ่มนี้มักใช้วิธีการแชร์ค่าอาหาร จึงมักสั่งอาหารจำนวนมาก โดยไม่ค่อยกังวลเรื่องราคามากนัก ฉะนั้นถ้าเชียร์เก่งๆ ยอดขายอาจพุ่งสูงขึ้นมากเลยทีเดียว

ด้านการบริการ พนักงานต้องหมั่นสังเกตความต้องการของพวกเขาบ่อยๆ เพราะยิ่งมาหลายคน ความต้องการก็ยิ่งมากตามไปด้วย ที่สำคัญอย่าบริการช้า เพราะถ้าเขารู้สึกว่าต้องรอนาน พนักงานไม่กระตือรือร้น ไม่ยิ้มแย้ม บริการไม่ดี เขาจะไม่กลับมาใช้บริการอีก

ทั้งนี้การที่ลูกค้ากลุ่มนี้ไม่กลับมาใช้บริการร้านคุณซ้ำ ไม่ได้แปลว่าคุณจะเสียลูกค้ากลุ่มนี้เท่านั้น เขาจะต้องบอกต่อเพื่อนกลุ่มอื่นๆ อีกแน่นอน ว่า “อย่ามาร้านนี้” (ลองคิดดูสิว่าคุณจะเสียรายได้ไปมากแค่ไหน) กลับกัน หากเขารู้สึกว่าร้านนี้บริการดี อาหารรสชาติดี เขาจะกลับมาเป็นลูกค้าประจำแน่นอน แถมยังบอกต่อให้อีกด้วย

3.มาคนเดียว

สำหรับลูกค้าที่มาคนเดียว ส่วนใหญ่มักต้องการความเป็นส่วนตัว คล้ายๆ กับคู่รัก ฉะนั้นหลักการบริการไม่ต่างกันเท่าไรนัก นั่นคือพยายามทำให้เขารู้สึกผ่อนคลายมากที่สุด อย่าเข้าไปรบกวนหรือเสนอเมนูมากมาย (เพราะอย่างไรเขาก็สั่งได้มากที่สุดแค่ 1-2 อย่าง) แต่หากร้านไหนอยากเพิ่มยอดขายจากลูกค้าที่มีคนเดียว อาจใช้วิธีแนะนำให้สั่งเครื่องดื่มเพิ่ม จะเป็นวิธีที่ดีที่สุด

(อ่านเพิ่มเติม วิธีเพิ่มยอดขายจากลูกค้าที่มาคนเดียว)

4.กลุ่มครอบครัว

ลูกค้าที่มาเป็นครอบครัว มักมากันหลายคนและมีกำลังซื้อสูง ฉะนั้นใช้หลักการบริการเดียวกับกลุ่มเพื่อนได้ เพียงแต่สิ่งที่พนักงานเสิร์ฟควรทำเพิ่มเติมคือ สังเกตว่ามีผู้สูงอายุ หรือเด็กมาด้วยหรือเปล่า หากมี พนักงานก็ควรต้องเข้าไปดูแลเป็นพิเศษ เช่น หาเก้าอี้เสริมสำหรับเด็ก หรือเข้าไปช่วยจัดโต๊ะ / ที่นั่งให้ผู้สูงอายุรู้สึกสบายยิ่งขึ้น

นอกจากนี้ระหว่างแนะนำเมนูอาจบอกว่า เมนูนี้เหมาะกับผู้สูงอายุ หรือเมนูนี้เป็นเมนูเอาใจเด็กๆ ก็จะช่วยให้เขาตัดสินใจสั่งอาหารได้เร็วขึ้น

ปิดท้ายอย่าลืมแนะนำเมนูของหวานให้ได้รับประทานร่วมกัน เช่น บิงซู ฮันนี่โทสต์ วาฟเฟิล เป็นต้น ก็จะสามารถเพิ่มยอดขายให้ร้านได้อีก 200 – 300 บาทเลยทีเดียว

5.คุยธุรกิจ

ลูกค้ากลุ่มนี้มักมาเพื่อเลี้ยงรับรองลูกค้า หรือเจรจาธุรกิจ ดังนั้นความเป็นส่วนตัวจึงสำคัญมาก พนักงานต้องเลือกโต๊ะที่อยู่ในทำเลดี ไม่มีคนพลุกพล่าน เพื่อให้เขารู้สึกสงบมากที่สุด นอกจากนี้ควรให้บริการอย่างสุภาพ อาจไม่จำเป็นต้องแนะนำเมนู หรือเสนอขายมาก (แต่เมนูที่เลือกแนะนำต้องโดดเด่น ดึงดูดให้เขาอยากสั่ง และดูดีมีรสนิยม) เพราะจุดประสงค์ที่เขามารับประทานอาหารร้านเรา ไม่ใช่เพื่อกินให้อิ่มท้อง แต่เพื่อพูดคุยเรื่องสำคัญในบรรยากาศที่ผ่อนคลายมากขึ้น

ฉะนั้นหากอยากเสนอขายจริงๆ ควรทำให้เสร็จตั้งแต่การรับออร์เดอร์ครั้งแรก เพราะส่วนใหญ่เขาจะออร์เดอร์แค่ครั้งเดียวเท่านั้น หลังจากนั้นจะเป็นโหมดเจรจาธุรกิจแล้ว

เช่นเดียวกัน เราต้องหมั่นสังเกตว่าเขาต้องการความช่วยเหลือหรือเปล่า โดยควรยืนดูแลอยู่ห่างๆ เพราะถ้าลูกค้าเรียกแล้วพนักงานไม่เห็น หรือไม่มาให้บริการสักที เขาอาจรู้สึกเสียหน้าต่อคู่เจรจาได้ กระทบมาถึงความประทับใจในร้านอาหารของเราด้วย

6.พนักงานออฟฟิศ

กลุ่มสุดท้ายคือพนักงานออฟฟิศ ซึ่งส่วนใหญ่จะมากันเป็นกลุ่ม 3-4 คนขึ้นไป กลุ่มนี้มักเลือกสั่งอาหารจานหลักคนละจาน และสั่งเมนูอื่นๆ มารับประทานร่วมกัน ดังนั้นหลังจากที่เขาสั่งอาหารจานหลักเรียบร้อยแล้ว พนักงานเสิร์ฟ ควรแนะนำเมนูอื่นๆ เพิ่มเติม เพื่อกระตุ้นให้เขาอยากสั่งมากขึ้น อาจเป็นเมนูของว่าง เช่น เปาะเปี๊ยะ ลูกชิ้นปิ้ง หรือเป็นเมนูหลักที่รับประทานกับข้าวได้ เช่น ต้มแซ่บ ต้มจืด เป็นต้น เพียงเท่านี้ก็จะช่วยให้ร้านของเรามียอดขายเพิ่มขึ้นแล้ว

ยิ่งเราเข้าใจลูกค้ามาเท่าไร เราก็ยิ่งเสนอขายสินค้า และให้บริการเขาได้ตรงจุด โดนใจมากเท่านั้น ดังนั้นลองกลับไปสังเกตกลุ่มลูกค้าของคุณดูว่าเขามักมีพฤติกรรมแบบไหน แล้วนำมารับใช้เพื่อเพิ่มโอกาสสำเร็จให้ร้านของคุณ!

เรื่องแนะนำ

4 วิธีเจาะกลุ่มลูกค้าคนจีน

นักท่องเที่ยวจีน ถือเป็นกลุ่มลูกค้าที่น่าจับตาเพราะเป็นตลาดขนาดใหญ่ มีกำลังซื้อสูง ฉะนั้นถ้าผู้ประกอบการจับตลาดนักท่องเที่ยวจีนได้ ก็สามารถสร้างยอดขายไม่ยาก

สร้าง content

สร้างเนื้อหา อย่างไร ให้โดนใจบน Facebook

เมื่อคุณเริ่มลงมือทำเพจ Facebook ร้านอาหารเป็นของตัวเอง นอกจากการใส่ข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับร้านอาหารให้ละเอียดชัดเจน เพื่อให้ง่ายต่อการติดต่อแล้ว สิ่งสำคัญลำดับต่อมาก็คือการสร้างสรรค์เนื้อหาในหน้าเพจร้านอาหารให้คนสนใจด้วย

คู่แข่งร้านอาหาร

Marketing Collaboration สร้างพันธมิตรจาก คู่แข่งร้านอาหาร

“Marketing Collaboration”  สร้างพันธมิตรจาก คู่แข่งร้านอาหาร ในช่วงหลายปีมานี้ ถือเป็นยุคแห่งการ Collaboration หรือการจับมือกันของธุรกิจอาหาร เราจะเห็นหลาย ๆ แบรนด์สร้างสินค้าหรือโปรโมชั่นใหม่ร่วมกัน ทำให้เกิดความแปลกใหม่ในวงการธุรกิจอาหารมากยิ่งขึ้น เป็นการสร้างพันธมิตรจาก คู่แข่งร้านอาหาร ซึ่งการร่วมมือกันระหว่างธุรกิจอาหารนี้ มีประโยชน์มากมาย ดังนี้ สร้างความน่าสนใจและให้ประสบการณ์ใหม่ๆ กับผู้บริโภค ปลุกกระแสทางการตลาดให้เป็นไวรัล และได้รับการพูดถึงในวงกว้าง แลกเปลี่ยนกลุ่มลูกค้าระหว่างแบรนด์ ขยายฐานลูกค้าใหม่ๆ ลดการแข่งขัน และเพิ่มพันธมิตรทางการค้า ทำให้แบรนด์ดูทันสมัย และเข้าถึงกลุ่มลูกค้ารุ่นใหม่มากขึ้น ใช้จุดแข็งของพาร์นเนอร์มาชดเชยจุดอ่อนของแบรนด์ตัวเอง   เหล่านี้ถือเป็นกลยุทธ์ที่กำลังมาแรงทีเดียว กับการสร้างพันธมิตรจาก คู่แข่งร้านอาหาร เราลองมาดูตัวอย่างความร่วมมือในธุรกิจอาหารที่น่าสนใจกัน ว่ามีแบรนด์ไหน จับมือกับแบรนด์ไหนบ้าง   4 Case Study: เปลี่ยนคู่แข่งเป็นคู่ค้าร้านอาหาร Bar B Q Plaza X Pizza Hut ในปีที่ผ่านมา บาร์บีคิวพลาซ่าและพิซซ่าฮัท ได้จัดแคมเปญและออกเมนูฟิวชั่นร่วมกัน โดยทางร้านบาร์บีคิวพลาซ่าจะมีเมนูหมูที่เสิร์ฟแบบใหม่บนถาดพิซซ่า เครื่องเคียงแบบพิซซ่าและน้ำจิ้มใหม่ ส่วนร้านพิซซ่าฮัท ก็มีพิซซ่าหน้าหมูบาร์บิกอนในซอสใหม่ เป็นการรวมจุดเด่นของทั้งสองแบรนด์เข้าด้วยกัน สร้างความตื่นเต้นแก่ลูกค้า และเกิดเป็นกระแสในโซเชียลมีเดียในช่วงนั้นได้  […]

Follow Me

Contact

เว็บไซต์ : amarinacademy.com
บริษัท เอเอ็มอี อิมเมจิเนทีฟ จำกัด
ในเครือ บริษัท อมรินทร์ คอร์เปอเรชั่นส์ จำกัด (มหาชน)
Tel : 02-422-9999 ต่อ 4662 หรือ 4669, 092-254-0742
Email : amarin.academy@gmail.com

ติดต่อแจ้งปัญหาหรือร้องเรียน
02-422-9999 ต่อ 4180
(จันทร์ – ศุกร์ เวลา 09.00 – 18.00 น)
bdcx@amarin.co.th

สนใจลงโฆษณากับเว็บไซต์ Amarin Academy
Tel. 081-664-0666, 091-729-8060
E-mail : sineenart_ya@amarin.co.th

© COPYRIGHT 2024 AME IMAGINATIVE COMPANY LIMITED.