หลักการ บริหารร้านอาหารกับหุ้นส่วน - Amarin Academy

หลักการ บริหารร้านอาหารกับหุ้นส่วน

หลักการ บริหารร้านอาหารกับหุ้นส่วน

ทุกวันนี้มีคนสนใจหันมาลงทุนทำร้านอาหารมากขึ้น ซึ่งหลายคนเลือกเปิดร้านอาหารร่วมกับคนรู้จักหรือเพื่อนๆ จะได้ร่วมกันคิด ตัดสินใจ และกระจายความเสี่ยงในการทำธุรกิจ แต่การจะเริ่มทำธุรกิจร้านอาหารกับใครนั้น ควรมีหลักการบริหารที่ชัดเจน ไม่อย่างนั้นอาจเกิดปัญหาตามมาได้ วันนี้เราจึงมีหลักการ บริหารร้านอาหารกับหุ้นส่วน เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหามาฝาก

1.คุยให้เคลียร์ ก่อนลงมือทำ

สาเหตุหลักที่เจ้าของร้านอาหารส่วนใหญ่มีปัญหากับหุ้นส่วนนั้น มักมาจากเรื่อง “การสื่อสาร” ไม่ว่าจะเป็นลงมือทำโดยไม่บอก หรือสื่อสารกันไม่เข้าใจ คนนึงเข้าใจว่าจะทำอย่างนี้ แต่อีกคนเข้าใจว่าอย่างนั้น ทำให้เกิดปัญหาตามมา

ฉะนั้นก่อนจะลงมือทำสิ่งใดก็ตามคุณควรต้องพูดคุย ปรึกษากันเสมอ ไม่ว่าเรื่องนั้นจะเป็นเรื่องเล็กหรือเรื่องใหญ่ (บางร้านแค่เรื่องการเลือกซื้อถ้วย ชาม ก็ทำให้หุ้นส่วนมีปัญหากันมาแล้ว) และเมื่อคุยกันแล้วก็ควรมีการสรุปประเด็นที่คุยให้เคลียร์ทุกครั้ง เพื่อป้องกันปัญหาด้านการสื่อสารผิดพลาด

2.แบ่งหน้าที่ให้ชัดเจน

อีกข้อที่ควรทำก่อนจะร่วมมือ (และลงเงิน) ทำร้านอาหารคือ ต้องแบ่งหน้าที่กันให้ชัดเจน เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาการทำงานที่ทับซ้อน ก้าวก่ายหน้าที่ซึ่งกันและกัน หรือปัญหาที่ว่า งานนี้ไม่มีใครเป็นผู้รับผิดชอบ ร้านอาหารที่ประสบความสำเร็จหลายๆ ร้าน มักใช้วิธีการแบ่งหน้าที่ตามความถนัด เช่น A ดูแลเรื่องการสร้างแบรนด์และการทำการตลาด B ดูแลเรื่องระบบภายในร้าน งานครัว C ดูแลเรื่องการเงิน เอกสารและงานบุคคล เป็นต้น การทำเช่นนี้นอกจากป้องกันปัญหาที่กล่าวไปข้างต้นได้แล้ว ยังทำให้พนักงานภายในร้านไม่สับสน เพราะหากไม่แบ่งหน้าที่ให้ชัด เจ้าของร้านคนนั้นเดินมาสั่งที อีกคนเดินมาสั่งที พนักงานก็ไม่รู้จะทำตามคนไหนกันแน่

3.มีปัญหาต้องรีบเคลียร์

ไม่มีธุรกิจไหนที่ไม่เจอปัญหา ร้านอาหารก็เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นปัญหาเรื่องระบบงาน การบริการ พนักงาน คุณภาพอาหาร การจัดการวัตถุดิบ หรือแม้กระทั่งปัญหาระหว่างหุ้นส่วนด้วยกันเอง ที่อาจมีความคิดเห็นไม่ตรงกัน เจ้าของธุรกิจควรจำไว้เสมอว่า เมื่อคุณเจอปัญหา ไม่ว่าจะเรื่องเล็กหรือเรื่องใหญ่ คุณต้องรีบแก้ไขโดยเร็วที่สุด ยิ่งเป็นปัญหาที่เกี่ยวกับหุ้นส่วนด้วยแล้ว ยิ่งต้องรีบเคลียร์ เพราะถ้ามัวเกรงใจกัน คิดว่าเป็นปัญหาเล็กๆ น้อยๆ มองข้ามไปดีกว่า ปัญหาเหล่านั้นอาจลุกลามจนกลายเป็นปัญหาใหญ่ได้

4.รายงานการทำงานอย่างสม่ำเสมอ

การบอกให้หุ้นส่วนรู้ว่างานในส่วนของเราดำเนินไปถึงไหนแล้วเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม (หลายๆ ธุรกิจมีปัญหากันเพราะเรื่องนี้แหละ) เพราะเมื่อแบ่งหน้าที่กันชัดเจน ต่างฝ่ายต่างลงมือทำงานกัน อาจจะไม่มีเวลามานั่งดูว่า งานของอีกคนไปถึงไหนบ้าง ติดขัดอะไรหรือเปล่า หรือเป็นไปตามแผนที่วางไว้ไหม สุดท้ายเมื่อผลงานไม่ได้ตามที่ตกลงกันไว้ (อาจเพราะเงื่อนไขต่างๆ)  หุ้นส่วนอีกคนอาจไม่เข้าใจว่าเพราะอะไรจึงเป็นเช่นนั้น จนทำให้เกิดความขัดแย้งตามมาได้

5.เรื่องเงินต้องชัดเจน

เงินทองไม่เข้าใครออกใคร ไม่ว่าสนิทกันแค่ไหนก็ต้องคุยเรื่องเงินให้ชัดเจนว่าจะกำหนดสัดส่วนการลงทุนแต่ละส่วนเท่าไร และเมื่อธุรกิจมีผลกำไรจะแบ่งผลกำไรนั้นอย่างไร เพราะหากไม่มีการคุยกันเรื่องนี้ให้เรียบร้อยตั้งแต่ต้น ย่อมส่งผลเสียตามมาแน่นอน จนอาจเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ธุรกิจของคุณ “ไม่ได้ไปต่อ” ก็ได้

6.งานส่วนงาน เพื่อนส่วนเพื่อน

ส่วนใหญ่คนที่ทำธุรกิจร่วมกัน มักเป็นเพื่อนกันมาก่อน ข้อดีคือไม่ต้องปรับจูนทัศนคติ ความคิดกันมากนัก เพราะสนิทสนม รู้จักและรู้ใจกันอยู่แล้ว แต่ปัญหาที่ตามมาคือ ผู้ประกอบการหลายคนมักไม่แบ่งแยกความสัมพันธ์ระหว่าง “เพื่อน” กับ “เพื่อนร่วมงาน” เช่น เวลานัดประชุม ไม่รักษาเวลา เพราะคิดว่าเพื่อนรอได้ หรือใช้อารมณ์ในการทำงานมากกว่าเหตุผล ซึ่งถ้าเกิดเหตุการณ์นี้ครั้งสองครั้งอาจไม่มีปัญหา แต่ถ้าเกิดขึ้นบ่อยๆ จากเพื่อนรักที่หวังจะร่วมสร้างธุรกิจด้วยกัน อาจกลายเป็นคนไม่รู้จัก มองหน้ากันไม่ติดก็มี ฉะนั้นเรื่องงานกับเรื่องส่วนตัว ต้องแบ่งแยกให้ชัดเจน

นี่คือหลักการเบื้องต้นในการทำธุรกิจร่วมกับหุ้นส่วน หลายคนอ่านแล้วอาจกังวลว่าทำไมปัญหามันเยอะเหลือเกิน จนคิดว่าอย่างนั้นลงทุนเองดีว่า แต่จริงๆ แล้ว ถ้าคุณมีการวางแผนที่ดี คุยและเคลียร์ให้ชัดตั้งแต่ต้น ก็ไม่ต้องกลัวปัญหาเหล่านี้เลย

เรื่องแนะนำ

หุ้นกับเพื่อนเปิดร้านอาหารดี….แต่ต้องคุยเรื่องนี้กันก่อน

คนที่มีความฝันเหมือนกัน ตกลงจับมือร่วมกันทำธุรกิจร้านอาหาร แต่เมื่อลงขันร่วมกันแล้ว กลับขัดแย้งกันในทุกเรื่อง ก็ไม่สามารถทำร้านอาหารให้ประสบความสำเร็จได้   เมื่อต้องลงเรือลำเดียวกัน เป้าหมายในการทำร้านอาหาร และทัศนคติในการทำธุรกิจเป็นสิ่งสำคัญที่จะต้องทำความรู้จักหุ้นส่วนให้มากพอ นอกจากนี้การเลือกหุ้นส่วนที่มีความถนัดที่แตกต่างกันจะช่วยส่งเสริมในส่วนที่อีกฝ่ายหนึ่งขาด และควรมอบสิทธิ์ขาดในการตัดสินใจในเรื่องที่แต่ละคนถนัดดูแล ก็เป็นอีกแนวทางในการสรุปข้อขัดแย้งที่เกิดจากการคิดเห็นที่ไม่ตรงกันได้   ลงทุนกับลงแรง การลงทุนทำร้านอาหารกับเพื่อนมักเป็นลักษณะลงทั้งทุนและแรงด้วยกัน เมื่อมีฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดต้องทำมากกว่า หรือได้รับค่าตอบแทนน้อยกว่า จะนำไปสู่ข้อขัดแย้งได้มากที่สุด เพราะฉะนั้นต้องแบ่งเรื่องงานและเรื่องเงินให้ลงตัว ถ้าลงแรงด้วยควรกำหนดค่าตอบแทนเงินเดือนให้อยู่ในค่าใช้จ่าย ในขณะเดียวกันควรมีระบบตรวจสอบที่โปร่งใส และสัดส่วนต้องเป็นไปตามเงินลงทุนตามหุ้นที่กำหนดไว้ตั้งแต่แรก   ไม่มีสัญญาใจ ในโลกของการทำธุรกิจ อย่าทำสัญญาปากเปล่าแม้ว่าจะเป็นเพื่อนสนิทหรือคนรัก ถึงจะเป็นแค่ร้านอาหาร หรือร้านกาแฟเล็ก ๆ ที่เริ่มต้นลงทุนไม่กี่บาทก็ตาม การเขียนข้อสัญญาร่วมกันมีผลทางด้านกฎหมาย ซึ่งจะต้องกำหนดบทบาทหน้าที่รับผิดชอบ เงินลงทุน จำนวนหุ้น  การคิดเงินปันผลและระยะเวลาในการคืนผลกำไร ยังเป็นหลักฐานการจ่ายเงิน ที่ยืนยันการร่วมลงทุนระหว่างคุณและหุ้นส่วน ซึ่งหากสุดท้ายเกิดปัญหาจนไปต่อไม่ได้ ข้อกำหนดที่ทำร่วมกันยังเป็นประโยชน์กับทุกฝ่ายในการหาข้อสรุปข้อขัดแย้งร่วมกันด้วย   อย่าอะไรก็ได้….แผนธุรกิจต้องชัดเจน ช่วงเริ่มต้นอะไรก็ดี เพราะไม่มีใครมองเห็นถึงปัญหา และมักจะตกม้าตายด้วยความคิดที่ว่าคนกันเองไม่โกงแน่นอน แผนธุรกิจจะช่วยให้การทำกิจการร้านอาหารเป็นไปอย่างมีทิศทาง ทั้งงบประมาณในการลงทุน การทำการตลาด การพัฒนาสินค้าและบริการ เป้าหมายธุรกิจ รวมถึงระยะเวลาในการลงทุนเพิ่ม ควรเลือกที่จะทะเลาะกันตั้งแต่มันอยู่ในกระดาษ ก่อนที่จะเริ่มปฏิบัติงานจริงที่เป็นการตกลงแล้วของทุกฝ่ายเท่านั้น    อย่ามองข้าม…เรื่องเล็กที่กลายเป็นเรื่องใหญ่ ไม่ใช่เพียงแค่ผลประโยชน์ที่ทำให้หุ้นส่วนร้านขัดแย้งกันเสมอไป […]

Ghost Kitchen ร้านอาหารยุคใหม่ ไม่ต้องมีหน้าร้าน!

Ghost Kitchen ร้านอาหารยุคใหม่ ไม่ต้องมีหน้าร้าน!!

สมัยนี้คนที่อยากเป็นเจ้าของร้านอาหาร ไม่จำเป็นต้องมีหน้าร้านเป็นของตัวเอง หรือลงทุนอะไรเพิ่มเลยด้วยซ้ำ ด้วย “Ghost.Kitchen” หรือร้านอาหารที่มองไม่เห็น ซึ่งกำลังเป็นเทรนด์ที่เติบโตขึ้นเรื่อยๆ ไปพร้อมกับการสั่งอาหารแบบเดลิเวอรี ลองมาดูความเป็นมาและข้อดีข้อเสียของโมเดลร้านอาหารนี้กันครับ “Ghost Kitchen” ร้านอาหารยุคใหม่ ไม่ต้องมีหน้าร้าน ที่มาของครัวที่มองไม่เห็น “Ghost.Kitchen”  “Ghost.Kitchen” ก็คือการเปิด “ร้านอาหารที่มีแต่ครัว” โดยไม่ต้องเปิดขายหน้าร้าน แต่เน้นรับออเดอร์อาหารผ่านแอปพลิเคชันต่าง ๆ เพื่อจัดส่งเดลิเวอรี่เท่านั้น โดยเจ้าของร้านเหล่านี้อาจจะขายอาหารได้แม้จะอยู่ภายในบ้าน หรือคอนโดมิเนียมที่ใช้พื้นที่ขนาดเล็กภายในตัวเมือง แค่เชื่อมต่อร้านกับแอปลิเคชันเดลิเวอรีต่างๆ หรือรับออเดอร์ผ่านโซเชียลมีเดีย ถ้าใครสะดวกก็จัดส่งเองได้เลย หรือบางคนก็ใช้วิธีจัดส่งเป็นรอบๆ ในพื้นที่บริเวณที่กำหนด เทรนด์อาหารเดลิเวอรี่กับการเติบโตของ Ghost.Kitchen สถิติจากศูนย์วิจัยกสิกรไทยระบุว่า ธุรกิจอาหารเดลิเวอรี่มีเติบโตขึ้นราวปีละ 10% ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ซึ่งสูงกว่าการขยายตัวของร้านอาหารทั่วไปที่โตแค่ 3-4% ต่อปี สอดคล้องกับการโตของธุรกิจ Ghost.Kitchen โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงโควิดที่กระตุ้นให้การเกิดเปลี่ยนแปลงเร็วขึ้นไปอีก จะเห็นได้ว่าแม้แต่คนรอบตัวของเรา ก็หันมาขายอาหารผ่าน application หรือออนไลน์มากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ปัจจุบันร้านอาหารแบรนด์ใหญ่ก็มีการแชร์ครัวประเภทนี้ร่วมกัน เพื่อประหยัดค่าใช้จ่ายที่จะต้องลงทุนทำครัวของแต่ละร้านเอง ตัวอย่างเช่น Grab Kitchen ที่รวมเอาร้านอาหารยอดนิยม 12 ร้าน […]

อยากเปิดร้านอาหาร ต้องเตรียมค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง

เปิดร้านอาหารสักร้านไม่ว่าจะเปิดในห้าง หรือ นอกห้าง ต้องมีค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง ที่เป็นค่าใช้จ่ายสำคัญ ๆ เพื่อให้ทุกท่านที่กำลังจะเปิดร้านได้เตรียมความพร้อม

เพิ่มกำไรร้านอาหาร เพิ่มยอดขาย VS ลดต้นทุน วิธีไหนดีกว่ากัน ?

ทุกคนย่อมหวังว่าจะได้กำไรเป็นกอบเป็นกำ จึงสรรหาสารพัดวิธีเพื่อ เพิ่มกำไรร้านอาหาร ซึ่งมี 2 วิธีหลักๆ ที่ช่วยได้ นั่นคือการ เพิ่มยอดขาย และ การลดต้นทุน

Follow Me

Contact

เว็บไซต์ : amarinacademy.com
บริษัท เอเอ็มอี อิมเมจิเนทีฟ จำกัด
ในเครือ บริษัท อมรินทร์ คอร์เปอเรชั่นส์ จำกัด (มหาชน)
Tel : 02-422-9999 ต่อ 4662 หรือ 4669, 092-254-0742
Email : amarin.academy@gmail.com

ติดต่อแจ้งปัญหาหรือร้องเรียน
02-422-9999 ต่อ 4180
(จันทร์ – ศุกร์ เวลา 09.00 – 18.00 น)
bdcx@amarin.co.th

สนใจลงโฆษณากับเว็บไซต์ Amarin Academy
Tel. 081-664-0666, 091-729-8060
E-mail : sineenart_ya@amarin.co.th

© COPYRIGHT 2024 AME IMAGINATIVE COMPANY LIMITED.