ปูดองอันยอง เปิดหมดเปลือกทำ ธุรกิจเดลิเวอรี่ ให้มีกำไร!

ปูดองอันยอง เปิดหมดเปลือกทำ ธุรกิจเดลิเวอรี่ ให้มีกำไร!

นาทีนี้ธุรกิจอาหารเดลิเวอรี่ที่มาแรงที่สุดคงหนีไม่พ้น ปูดองอันยอง ซีฟู้ดดองสไตล์เกาหลีที่เกิดจากความตั้งใจของคุณเนย – พชิราภาฐิย์ ยุวสกุลไกร และ คุณเนียร์ – พิมพ์นารา พงษ์พยอม ที่อยากมีธุรกิจเป็นของตัวเอง พร้อมบอกตัวเองตั้งแต่เริ่มต้นเลยว่า “อยากขายอาหาร แต่ต้องไม่มีหน้าร้าน!” จึงเกิดเป็น ธุรกิจเดลิเวอรี่ ส่งซีฟู้ดดองสดๆ ตรงถึงมือลูกค้า

ทั้งๆ ที่ตอนนั้นกระแสอาหารเดลิเวอรี่ยังไม่บูม ยังไม่มีบริการส่งอาหารสาธารณะใดๆ สนับสนุนธุรกิจเลย แต่ทั้งคู่ก็สามารถทำให้ปูดองอันยอง แบรนด์ซีฟู้ดดอง เดลิเวอรี่เจ้าแรกๆ ในเมืองไทย เติบโตได้ จนตอนนี้ยอดขายปูเฉลี่ยต่อวันกว่า 100 ตัว! และมียอดขายแตะหลักล้านแล้ว!
(จากข้อมูลของกรมพัฒนาธุรกิจการค้าระบุว่า บริษัท ปูดองอันยอง จำกัด ในปีพ.ศ.2560 มีรายได้ถึง 5.4 ล้านบาท)

เคล็ดลับการจัดการธุรกิจเดลิเวอรี่ของปูดองอันยองคืออะไร คุณเนย จะมาเล่าให้ฟังแบบหมดเปลือก

อยากขายอาหาร แต่ต้องไม่มีหน้าร้าน

ก่อนที่เนยกับน้องสาวจะมาเปิดร้านปูดองอันยอง ครอบครัวเราทำธุรกิจร้านอาหารทะเลมานานกว่า 30 ปี แล้ว ชื่อว่าร้าน “เพ็ญ” อยู่แถวๆ ถนนจันทร์ ใครที่ทำร้านอาหารจะรู้เลยว่า มันเป็นธุรกิจที่ไม่เคยมีวันหยุด ช่วงเทศกาลไม่เคยได้เที่ยว เพราะเป็นช่วงที่ลูกค้าเยอะ พอไม่ใช่เทศกาลเราก็เปิดเทอม เราโตในสภาพแวดล้อมนั้น เลยรู้สึกเก็บกด (หัวเราะ) จึงตั้งใจไว้เลยว่า ถ้าจะทำธุรกิจอะไรก็ตาม ต้องไม่มีหน้าร้าน เพื่อที่เราจะได้มีเวลายืนหยุ่นมากขึ้น

แต่หลังจากที่เรามาทำเดลิเวอรี่แล้ว ถึงรู้ว่า อันนี้แหละ ไม่มีเวลาของจริง (หัวเราะ) เพราะการที่เรามีหน้าร้าน มันมีเวลาเปิด – ปิดที่แน่นอน ปิดร้านปุ๊บ ก็จบ

แต่การขายของออนไลน์ มันหมายถึงลูกค้าสามารถทักเรามาได้ตลอด เราก็ต้องนั่งตอบลูกค้าตลอด ร้านออนไลน์มันไม่มีเงื่อนไขด้านเวลา แต่มันก็ดีตรงที่เราจะทำงานที่ไหนก็ได้

เดลิเวอรี่ไม่มีระบบ ปัญหาจึงตามมา

เราเริ่มทำปูดองอันยองเมื่อประมาณ 3 ปี ที่แล้ว ซึ่งวางตัวเองเป็นร้านซีฟู้ดดองสไตล์เกาหลี ขายทั้งปู กั้ง กุ้ง หอยนางรม ฯลฯ  ซึ่งตอนนั้นยังไม่มีบริการขนส่งอาหารใดๆ เลย เราก็ต้องส่งเองทั้งหมด เราก็ไม่รู้จะทำยังไง เลยใช้วิธีจ้างวินมอเตอร์ไซต์นี่แหละ ไปส่งลูกค้า พยายามจัดระบบให้คนหนึ่งส่ง 10 ออร์เดอร์ ใกล้ตรงไหน ก็ส่งตรงนั้นก่อน

ปัญหาที่ตามมาคือ ด้วยความที่สินค้าของเรามันค่อนข้าง Sensitive ต้องเก็บในที่เย็น (ปูดองอันยองเก็บปูในช่องแช่แข็งอุณหภูมิติดลบก่อนส่งลูกค้า เพื่อคงความสด และลดโอกาสการปนเปื้อนของเชื้อแบคทีเรียต่างๆ) และต้องส่งถึงลูกค้าตอนที่พร้อมกินได้ทันที แต่ปรากฏว่าเจ้าแรกที่ไปถึงปูยังแข็ง กินไม่ได้ ส่วนเจ้าสุดท้ายคือปูละลายเละเป็นน้ำ เราก็ต้องพยายามจัดการใหม่เส้นทางเดียวกันก็ไปส่งพร้อมๆ กัน พยายามคุมไม่ให้ออกนอกเส้นทาง

ปัญหาอีกข้อคือ ค่าขนส่งค่อนข้างสูง ซึ่งลูกค้าบางคนก็ยังรับไม่ค่อยได้ บางคนสั่งสินค้าเราหลักพัน แต่ต้องจ่ายค่าส่ง 600 บาท เพราะเขาอยู่ไกลมาก นี่ก็เป็นอีกปัญหาที่ทำให้ลูกค้าเข้าไม่ถึงสินค้าของเรา

บริการขนส่งเข้ามา แต่ก็ไม่ละทิ้งบริการเดิม

หลังจากเปิดมาได้ครึ่งปี เราโชคดีมากที่มี Lalamove เกิดขึ้น ทำให้บริการจัดส่งเราสะดวกสบายยิ่งขึ้น ช่วงหลังก็เริ่มมี LINEMAN Grab ขึ้นมา เราก็เข้าไปร่วมกับทุกการขนส่งเพื่อกระจายสินค้าให้เข้าถึงมือผู้บริโภคได้เร็วที่สุด แต่ว่าเราก็ยังไม่ทิ้งบริการขนส่งเดิม

ตอนนี้การขนส่งของเราแบ่งออกเป็น 2 รูปแบบคือ ส่งด้วยบริการขนส่งของบริษัทต่างๆ บริการนี้เหมาะกับลูกค้าที่ต้องการความเร็ว สั่งแล้วอยากได้ทันที แต่ข้อจำกัดคือ ราคาค่อนข้างสูง ก็ขึ้นอยู่กับระยะทาง ความใกล้ ไกลด้วย แล้วเราก็ไม่มีบริการรับประกันสินค้า เช่น กล่องแตก เพราะว่าเราไม่สามารถควบคุมการขนส่งได้ บางคนเขามีกล่องมาใส่อย่างดี บางคนมารับแล้วหิ้วไปก็มี ฉะนั้นเราจะรับประกันสินค้าไม่ได้ แต่ถ้ามีปัญหาที่สินค้าภายใน อันนั้นเรารับประกัน

อีกบริการคือส่งด้วย อันยองไบค์ เป็นบริการจัดส่งด้วยตัวเราเอง คนส่งจะมีเสื้อคลุม มีกล่อง โดยจะจัดส่ง 2 รอบต่อวัน คือ 11.00 และ 17.00 น. เป็นมื้อเที่ยงกับมื้อเย็น เหมาะสำหรับลูกค้าที่รอได้ ส่วนใหญ่จะเป็นลูกค้าประจำ ข้อดีคือ ราคาถูกกว่า โดยเราจะคิดค่าส่งตามระยะทาง และเรารับประกันคุณภาพสินค้า กล่องแตกรับเคลม เพราะว่าสินค้ายังอยู่ในความรับผิดชอบของเรา

ทุกวันนี้อันยองไบค์ใช้พี่ๆ ที่เป็นแมสเซนเจอร์ในการส่ง ประมาณ 10 คนต่อวัน ซึ่งระบบของเราก็ไม่ซับซ้อน ก่อน 10 โมงเช้าของทุกวัน เราจะส่งออร์เดอร์ของลูกค้าให้หัวหน้า เขาก็จะไปกระจายงานต่อเองว่า ใครไปเส้นทางไหน ซึ่งเราก็ให้อิสระเขาที่จะรับงานที่ไหนก็ได้ แค่ต้องมาสแตนบายให้เรา 2 ช่วงเวลาต่อวัน คือ 10.00 และ 16.00 นอกจากนั้นเขาจะรับงานอื่นก็ได้ เราไม่ได้ห้าม

นอกจากนี้ถ้าลูกค้าอยู่ต่างจังหวัด เราก็จะใช้บริการขนส่งสาธารณะ เช่น รถตู้ รถทัวร์ หรือถ้าจังหวัดไหนมีสนามบินก็ส่งทางเครื่องบิน มีบริการแพ็ค ใส่น้ำแข็งแห้งไปส่ง

จริงๆ การที่มีบริการเดลิเวอรี่ของบริษัทรับขนส่งต่างๆ มันก็ดี แต่เราก็ยังอยากมีบริการของตัวเอง เพราะเราโตมาก็เห็นคุณพ่อ คุณแม่ทำร้านอาหารแล้วแคร์ลูกค้ามากๆ ทำให้เขามีลูกค้าประจำเยอะ บางคนมาที่ร้านตั้งแต่ยังเรียนมัธยม จนตอนนี้พาลูกมากินที่ร้านก็มี เราก็อยากเป็นแบบนั้นบ้าง ซึ่งการที่เรามีบริการอันยองไบค์นี่แหละ คือตัวที่ช่วยให้เรารักษาฐานลูกค้ากลุ่มนั้นเอาไว้ได้ พนักงานส่งเราเทรนด์มาอย่างดี เรื่องมารยาท การพูดจา การบริการ หรือว่าตัวสินค้าที่เรามีการขนส่งที่ดีกว่า มีกล่องเก็บความเย็น มีการรับประกันกรณีสินค้าเสียหาย เรื่องพวกนี้จะทำให้ลูกค้ารู้สึกประทับใจและกลายเป็นลูกค้าประจำ

อีกอย่างบริการเดลิเวอรี่ของเจ้าอื่น เราไม่สามารถการันตีได้เลยว่า เจ้าไหนจะไป เจ้าไหนจะมา ฉะนั้นเราจึงคิดว่าต้องมีของตัวเอง ถ้ามันเกิดการเปลี่ยนแปลงอะไรขึ้น จะได้ไม่กระทบกับธุรกิจมาก เราก็ยังอยู่ต่อได้

ความท้าทายของธุรกิจเดลิเวอรี่

เราว่าเดลิเวอรี่มันคือธุรกิจที่สามารถเกิดขึ้นได้ภายใน 30 นาที แล้วก็ตายได้ภายใน 30 นาทีเช่นกัน เพราะมันเป็นธุรกิจที่เกิดง่าย แทบไม่ต้องลงทุนอะไรเลย แค่มีไอเดียดีๆ มีสินค้า เปิดบัญชีในเฟซบุ๊กหรืออินสตาแกรม ก็สามารถทำธุรกิจได้แล้ว ต่างจากธุรกิจอื่นๆ ที่มันต้องลงทุนค่อนข้างสูง ทั้งค่าเช่าที่ ค่าก่อสร้าง ค่าพนักงาน ฯลฯ ฉะนั้นถ้าจะเกิดก็ยาก จะเลิกก็ยาก เพราะมันมีตัวเงินเข้ามาเกี่ยวข้อง

ต่างจากธุรกิจออนไลน์ ถ้าอยากเลิกมันแทบไม่ต้องคิดมากเลย เพราะเราไม่ได้ลงทุนสูงอยู่แล้ว แค่ปิดอินสตาแกรมก็จบ ฉะนั้นความท้าทายมันคือจิตใจเรานี่แหละ เวลาเจอปัญหา เจออุปสรรคต่างๆ จะยังอยากสู้ต่อไปไม่ เจอคู่แข่งเยอะๆ แล้วจะท้อไหม จะหยุดหรือจะเลิกทำไหม เราว่านี่แหละคือความท้าทาย

ปีที่ 1 มุ่งออนไลน์ ปีที่ 2 กระจายความสะดวก ปีที่ 3 เติบโตด้วย Partner

เราวางแผนปูดองอันยองไว้ว่า ปีแรก เราจะมุ่งออนไลน์อย่างเดียวเลย ไม่ทำหน้าร้าน เพราะเราอยากสร้างแบรนด์ให้แข็งแกร่งก่อนว่าเราเป็นปูดองเดลิเวอรี่

ปีที่สอง ตั้งเป้าว่าจะเพิ่มความสะดวกสบายให้ลูกค้า จึงเริ่มเปิดสาขาเป็นคีออสเล็กๆ ให้ลูกค้ามาซื้อกลับบ้าน และเป็นจุดกระจายสินค้าให้ LINEMAN Grab Lalamove มารับ โดยวางเป้าหมายว่าจะขยาย 1 เดือนต่อ 1 สาขา ตอนนี้ก็มีมากกว่า 20 สาขาแล้ว ซึ่งบางสาขาอย่างที่ Eathai Central Embassy ก็จะมีพื้นที่ให้นั่งรับประทานได้

โดยหลักการขยายหน้าร้านของเราคือ จะดูที่ประวัติการสั่งซื้อของฐานลูกค้าเดิมเป็นหลักว่ายอดสั่งซื้อพื้นที่ไหนเยอะ เราก็จะขยายสาขาไปตรงนั้น

ปีที่สาม เป็นปีที่เริ่มเติบโต เราเริ่มมองหา partner ที่สามารถโตไปพร้อมๆ กับเราได้ ตอนนี้เราก็นำสินค้าไปเพิ่มเป็นเมนูและขายในร้าน Red Sun มีร่วมกันทำเมนูกับ วัวนู้ด แล้วก็แสนแซ่บด้วย เพราะเราคิดว่าการเติบโตทุกวันนี้มันต้องมี partner มันถึงจะโตได้เร็ว ยั่งยืนและมั่นคง นอกจากนี้เราลองประเมินศักยภาพของตัวเองแล้วก็เห็นว่าเราพร้อมเปิดร้านอาหาร โดยตอนนี้เรามีร้านโซลจูปูดอง อยู่ที่ J avenue ซอยทองหล่อ 17

ตอนนี้สินค้าของปูดองอันยองจะมีทั้งซีฟู้ด เช่น หอยนางรมสด ปูทะเลไข่ดอง ปูม้าไข่ดองกุ้งแชบ๊วยดอง กั้งไข่ดอง ฯลฯ น้ำจิ้มซีฟู้ดสูตรต่างๆ เช่น สูตรมะนาวสวน วาซาบิ น้ำปลาร้า มัสตาร์ด และที่เพิ่งเพิ่มเติมเข้ามาคือน้ำพริกไข่ปู

Key Success ของธุรกิจเดลิเวอรี่

ความเร็ว เราว่าเป็นหัวใจสำคัญของธุรกิจเลย เพราะว่าการที่ลูกค้าสั่งซื้อของเราผ่านออนไลน์ เขาต้องการซื้อความสะดวกสบายและซื้อความรวดเร็ว ฉะนั้นสินค้าเราต้องไปให้ถึงมือเขาได้เร็วที่สุด แต่เร็วอย่างเดียวก็ไม่พอ ต้องควบคู่ไปกับสินค้าและบริการที่มีคุณภาพ ได้มาตรฐานด้วย เราว่า 2 ปัจจัยนี้แหละ คือสิ่งสำคัญที่ทำให้ธุรกิจประสบความสำเร็จ

ข้อมูลเพิ่มเติม

https://www.facebook.com/puudeongannyeong/
Line: @puudeong_annyeong
IG: puudeong_annyeong
หรือโทร.092 249 2442

---

ใครอยากรู้เคล็บลับการทำธุรกิจและโชว์การต่อยอดเมนูซีฟู้ดดอง เพิ่มมูลค่าให้สินค้า พบกับคุณเนย เจ้าของร้านปูดองอันยองได้ที่งาน Thailand food show มหกรรม (ความรู้) เพื่อธุรกิจอาหาร

งานเดียวที่จัดขึ้นเพื่อผู้ประกอบการร้านอาหารโดยเฉพาะ! รวบรวมความรู้เกี่ยวกับการทำธุรกิจอาหารทุกแขนง ทั้งเทคนิคด้านการจัดการธุรกิจอาหารให้มีประสิทธิภาพ นำเสนอเทคโนโลยีเพื่ออำนวยความสะดวกให้ธุรกิจ แชร์ทุกประสบการณ์จากผู้ประสบความสำเร็จในวงการ

จัดขึ้นระหว่างวันที่ 26 ตุลาคม – วันที่ 4 พฤศจิกายน 2561 ณ ชาเลนเจอร์ 1 อิมแพ็ค เมืองทองธานี