เริ่มต้น วางระบบร้านอาหาร อย่างมืออาชีพ! - Amarin Academy

เริ่มต้น วางระบบร้านอาหาร อย่างมืออาชีพ!

Step by Step เริ่มต้น วางระบบร้านอาหาร อย่างมืออาชีพ!

เมื่อพูดถึงการเริ่มต้น วางระบบร้านอาหาร เจ้าของร้านอาหารหลายคนอาจจะรู้สึกว่าเป็นเรื่องที่ยุ่งยาก ไม่รู้จะเริ่มต้นจากตรงไหน แต่จริงๆ ทุกร้านอาหารมีระบบอยู่แล้ว เพียงแต่ยังไม่ชัดเจนและละเอียดเท่านั้น เราจึงมีวิธีการวางระบบร้านอาหาร ที่ทำเองได้ง่ายๆ มาแนะนำ

ก่อนจะไปเริ่มขั้นตอนการวางระบบ เรามาทำความเข้าใจกับคำว่าระบบกันก่อนดีกว่า

ระบบ พูดง่ายๆ ก็คือ ขั้นตอนการทำงานเป็นลำดับขั้นที่ชัดเจน มีมาตรฐานและสามารถตรวจสอบได้ ระบบร้านอาหารที่เข้าใจง่ายที่สุดคือ ช่วงเวลาการเปิด – ปิดร้าน หรือการสั่งอาหาร ถ้าลูกค้าสั่งอาหารแล้ว พนักงานจดออร์เดอร์ลงกระดาษ จากนั้นนำส่งเข้าครัว พนักงานครัวทำตามออร์เดอร์ และส่งอาหารมาให้พนักงานเสิร์ฟ แค่นี้ก็ถือเป็นระบบแล้ว เพียงแต่เจ้าของร้านอาหารอาจไม่คิดว่าเป็นระบบเท่านั้นเอง

ถ้าเข้าใจเรื่องระบบอย่างคร่าวๆ แล้ว ก็มาเริ่มต้นการวางร้านอาหารอย่างเป็นระบบกันเลย

ระบบในร้านอาหารแบ่งเป็น 2 ส่วนหลักๆ

พนักงานเสิร์ฟ
พนักงานส่วนงานบริการ มีหน้าที่สำคัญมาก เพราะต้องทำงานกับลูกค้าโดยตรง ดังนั้นจึงต้องมีการเทรนด์ให้เข้มข้น เพื่อให้การบริการดีที่สุด

1.ระบบหน้าบ้าน: ส่วนงานบริการ

งานหน้าบ้านถือเป็นงานที่เกี่ยวข้องกับลูกค้าโดยตรง เป็นส่วนงานที่ต้องสร้างความประทับใจให้ลูกค้าในทุกๆ จุด การวางระบบในส่วนนี้ ควรเริ่มจากการกำหนดหน้าที่ของพนักงานแต่ละตำแหน่งให้ชัดเจน

ตำแหน่งงานสำคัญๆ สำหรับส่วนนี้คือ ผู้จัดการร้าน ผู้ช่วยผู้จัดการร้าน และพนักงาน

ผู้จัดการร้าน: คือผู้ที่ทำหน้าที่ดูแลภาพรวมของร้านทั้งหมด คอยควบคุมการดำเนินงานของพนักงานให้มีประสิทธิภาพและเป็นไปตามหน้าที่ที่กำหนด อีกทั้งต้องคอยแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าที่อาจเกิดขึ้นได้ตลอดเวลาด้วย (ร้านอาหารบางร้าน เจ้าของร้านอาหารมักทำหน้าที่นี้เอง)

(อ่านเพิ่มเติม: หน้าที่ของผู้จัดการร้านคืออะไร)

ผู้ช่วยผู้จัดการร้าน: คือผู้ทำหน้าที่ช่วยเหลือผู้จัดการร้าน ดูแลในเรื่องรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ที่ผู้จัดการร้านอาหารมอบหมายให้ เช่น ตรวจสอบยอดเงินให้ถี่ถ้วน ก่อนจะนำส่งผู้จัดการ เป็นต้น

พนักงาน: คือผู้ที่ทำหน้าที่ทำงานทุกส่วนตามที่ได้รับมอบหมาย เช่น รับออร์เดอร์ลูกค้า เสิร์ฟ และคิดเงิน เป็นต้น

แต่หากต้องการให้การบริการมีประสิทธิภาพ ต้องไม่ใช่แค่กำหนดหน้าที่เท่านั้น แต่ต้องกำหนดขั้นตอนการทำงานให้ละเอียดด้วย

ตัวอย่างง่ายๆ การวางระบบการต้อนรับและรับออร์เดอร์จากพนักงาน

1.เมื่อลูกค้าเข้ามาในร้าน พนักงานต้องเดินเข้าไปต้อนรับพร้อมถามว่า “สวัสดีค่ะ/ครับ ไม่ทราบว่ามากี่ท่านครับ”

2.พาลูกค้าเข้าไปนั่งที่โต๊ะ จากนั้นหยิบเมนูวางบนโต๊ะ ในตำแหน่งหน้าลูกค้าทุกคน

3.รอเวลาให้ลูกค้าได้เลือกเมนูประมาณ 3 นาที จากนั้นเดินเข้าไปรับออร์เดอร์

4.รับออร์เดอร์ลงในเครื่อง Tablet เมื่อลูกค้าสั่งอาหารเสร็จต้องทวนออร์เดอร์ทุกครั้ง

5.กดส่งออร์เดอร์เข้าสู่ครัว

นี่เป็นตัวอย่างเบื้องต้นของการกำหนดระบบการรับออร์เดอร์พนักงาน

2.ระบบหลังบ้าน: ส่วนงานครัว

งานหลังครัวเป็นงานด้านการผลิต หน้าที่สำคัญคือจัดเตรียมอาหารให้มีคุณภาพ เป็นไปตามมาตรฐานที่ร้านอาหารกำหนด เช่นเดียวกับส่วนหน้าบ้าน การวางระบบครัว ก็ต้องเริ่มจากการกำหนดตำแหน่งหน้าที่พนักงานเช่นกัน

ตำแหน่งงานสำคัญๆ สำหรับส่วนนี้คือ หัวหน้าเชฟ ผู้ช่วยเชฟ และพนักงานครัว

หัวหน้าเชฟ: คือกุนซือใหญ่ในห้องครัว เป็นผู้ทำหน้าที่กำกับ ควบคุมและดูการปรุงอาหารให้มีประสิทธิภาพ สร้างสรรค์เมนูใหม่ๆ ดูแลภาพรวมเรื่องต้นทุนของวัตถุดิบ ความสะอาดและการปรุงอาหารให้มีประสิทธิภาพ

ผู้ช่วยหัวหน้าเชฟ: ทำหน้าที่ช่วยเหลือหัวหน้าเชฟ ดูแลในเรื่องรายละเอียดการทำงาน ตามที่หัวหน้าเชฟมอบหมายให้ เช่น เช็คสต็อกวัตถุดิบ ตรวจเช็คเรื่องการสั่งซื้อวัตถุดิบ เป็นต้น

พนักงานครัว: ทำหน้าที่เตรียมวัตถุดิบ ปรุงอาหาร ทำความสะอาด ฯลฯ ตามที่ได้รับมอบหมายในแต่ละส่วนงานที่กำหนด

ตัวอย่างง่ายๆ การวางระบบงานครัวให้มีประสิทธิภาพ

1.เมื่อออร์เดอร์ส่งมาถึงครัว ผู้ช่วยเชฟจะเป็นผู้รับออร์เดอร์และแจกงานให้พนักงานครัว เพื่อปรุงอาหาร ถ้ามีรายละเอียดระบุเป็นพิเศษ ต้องแจ้งพนักงานครัวด้วย เช่น ไม่ใส่พริก ไม่ใส่ผักชี ไม่ใส่กระเทียม เป็นต้น

2.พนักงานครัวลงมือปรุงอาหารตามสูตรมาตรฐานที่กำหนดไว้

3.พนักงานครัวเช็คความเรียบร้อยของอาหารให้ถูกต้องตามออร์เดอร์

4.นำอาหารมาส่งที่เคาท์เตอร์ และกดสัญญาณเรียกพนักงานเสิร์ฟมารับอาหาร

นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของระบบงานครัว

ร้านอาหารแต่ละร้านไม่จำเป็นต้องมีระบบที่เหมือนกัน แต่ขึ้นอยู่กับรูปแบบร้าน เช่น ถ้าเป็นร้านแบบ Fast Food พนักงานก็แค่รอรับออร์เดอร์ที่เคาท์เตอร์เท่านั้น เป็นต้น แต่หลักสำคัญของการวางระบบร้านคือ ต้องมีลำดับขั้นการทำงานที่ชัดเจนและตรวจสอบได้ เพื่อทำให้งานราบรื่น และลดข้อผิดพลาดได้มากที่สุด


บทความที่เกี่ยวข้อง

กำไร เพิ่ม ปีละเกือบแสน แค่ปรับระบบพนักงาน

เรื่องแนะนำ

10 เหตุผลที่ร้านอาหาร ต้องรู้เรื่อง SOP

1. ช่วยในการควบคุมต้นทุนอาหาร             เมื่อพูดถึงการทำ SOP อาหาร เจ้าของร้านอาหารอาจจะนึกถึงการกำหนดขั้นตอนในการทำอาหารแต่ละเมนูเพียงเท่านั้น แต่การทำ SOP ที่เป็นส่วนหนึ่งในการสร้างมาตรฐานอาหารเพื่อให้อาหารมีรสชาติที่คงที่ และสามารถช่วยควบคุมต้นทุนอาหารได้เป็นอย่างดีนั้น คือการกำหนดมาตฐานในการทำงานตลอดกระบวนการ เริ่มตั้งแต่ วัตถุดิบ อุปกรณ์ที่ใช้ ขั้นตอนปรุง ปริมาณเครื่องปรุง การจัดเสิร์ฟ รวมถึงการจัดเก็บวัตถุดิบเพื่อคงความสดใหม่ ยิ่งร้านของคุณสามารถลงรายละเอียดในขั้นตอนส่วนนี้ได้เท่าไหร่ ก็จะยิ่งทำให้ร้านสร้างกำไรได้มากขึ้นจากต้นทุนวัตถุดิบที่ลดลง   2.ช่วยแก้ปัญหาพนักงานลาออก กระทบต่องานบริการหน้าร้าน             ปฏิเสธไม่ได้ว่า ปัญหาพนักงานร้านอาหารลาออกสร้างผลกระทบต่อการทำร้านอาหารไม่น้อย และยังเกิดต้นทุนแฝง ทั้งงบประมาณ เวลา บุคคลากร ในการฝึกพนักงานใหม่ การทำ SOP คู่มือพนักงานที่ระบุขั้นตอนการทำงาน สิ่งที่พนักงานควรรู้ ข้อกำหนดและกฏระเบียบ จะช่วยลดเวลาในการดำเนินการนี้ทั้งหมด และยังสามารถทำให้คุณบริหารร้านอาหารได้อย่างต่อเนื่อง   3.ช่วยให้เจ้าของร้านอาหาร เหนื่อยน้อยลง      ไม่ใช่แค่เหนื่อย จากการบริหารร้านอาหารให้สามารถคงอยู่ได้โดยไม่ขาดทุน แต่คำว่าเหนื่อยของการทำร้านอาหาร ยังหมายรวมไปถึง การทุ่มเทแรงกาย แรงใจ และเวลาทั้งหมดไปกับการแก้ปัญหาในแต่ละวัน การลดปัญหาจุกจิกที่สามารถแก้ไขได้โดยทีมงานร้านอาหารโดยที่เจ้าของร้านอาหารไม่ต้องลงมือไปแก้ทุกปัญหาเองเพียงแต่มอนิเตอร์เท่านั้น ก็คือ การสร้างระบบที่มีประสิทธิภาพในการควบคุมให้การทำงานแต่ละส่วนเกิดปัญหาน้อยที่สุด นั่นก็คือ การวางระบบ […]

สูตรลับทำร้านอาหารอย่างเป็นระบบ…บริหารง่าย กำไรพุ่ง

สูตรลับที่ 1 :  จัดทำมาตรฐานการปฏิบัติงาน SOP  (Standard operating procedure) การจัดการร้านอาหารให้มีประสิทธิภาพ จะต้องมีการกำหนดมาตรฐานและจัดทำเอกสารเพื่อควบคุมทุกอย่างให้ดี SOP นั้นมีหลายหัวข้อที่จะต้องกำหนด เช่น หัวข้อการบริการ, การเสิร์ฟอาหาร  , การรับ order ,  การต้อนรับลูกค้า ควรมี SOP สำหรับการจัดการเมนูอาหาร  เพื่อควบคุมมาตรฐานของรสชาติ และการบริหารจัดการวัตถุดิบที่ดี แก้ไขปัญหารสชาติที่ไม่นิ่ง ซึ่งมีความจำเป็นอย่างยิ่งโดยเฉพาะเมื่อคุณกำลังจะขยายสาขา มาตรฐานการปฏิบัติงาน ยังหมายรวมถึง การจัดทำ Job Description ของพนักงาน การกำหนดตำแหน่งงาน หน้าที่ความรับผิดชอบ ซึ่งจะช่วยให้การทำงานเกิดระบบ และสามารถวางแผนเรื่องกำลังคนได้ สุดท้ายคือ ระบบ Point of Sales (POS)  การจัดการด้านแคชเชียร์ ซึ่งในปัจจุบันมีฟังค์ชั่นการใช้งานที่ช่วยสนับสนุนการจัดการร้านอาหารที่ค่อนข้างครอบคลุม โดยเฉพาะการคำนวณต้นทุน การจัดเก็บข้อมูลลูกค้าซึ่งถือเป็นประโยชน์สำหรับการทำการตลาดร้านของคุณอีกด้วย   สูตรลับที่ 2  : ระบบการจัดการในครัว             ร้านอาหารจะไม่มีทางประสบความสำเร็จเลย หากขาดระบบครัวที่มีประสิทธิภาพ […]

9 Checklist

9 Checklist ธุรกิจ ควรทำ ถ้าไม่อยากเจ๊ง!

ทำธุรกิจต้องหมั่นตรวจสอบระบบการทำงานอยู่เสมอ เพื่อเช็คว่าธุรกิจของคุณมีปัญหาอะไร อย่างนั้นมาดูกันดีกว่าว่า Checklist ธุรกิจ ที่เจ้าของธุรกิจควรทำมีอะไรบ้าง

เมนูเยอะ

จิตวิทยาร้านอาหาร เมนูเยอะ ทำให้ลูกค้าพอใจ จริงหรือ?

เชื่อว่าหลายคนที่เคยไปรับประทานอาหารนอกบ้าน น่าจะเคยเจอร้านที่มีเมนูอาหารเยอะมาก บางร้านมีเป็นร้อยเมนู เพราะอาจจะคิดว่า การมีเมนูอาหารเยอะๆ ไว้ก่อน จะช่วยเพิ่มทางเลือกให้แก่ลูกค้า และทำให้ร้านมีกลุ่มลูกค้าที่หลากหลาย แต่คำถามก็คือ การที่ร้านอาหารมี เมนูเยอะ ช่วยทำให้ลูกค้าพอใจจริงหรือ?     จิตวิทยาร้านอาหาร เมนูเยอะ ทำให้ลูกค้าพอใจ จริงหรือ? การที่ลูกค้าตัดสินใจเลือกเมนูนาน เมื่ออยู่ในร้านอาหารที่มีเมนูหลากหลายนั้น สามารถอธิบายในทางจิตวิทยาได้จากปรากฏการณ์ The Paradox of Choice คือ เมื่อคนเรามีทางเลือกมากขึ้น เรามักจะพอใจกับสิ่งที่เลือกน้อยลง พูดง่าย ๆ คือการรักพี่เสียดายน้องนั่นเอง และในบางครั้ง ความเสียดายที่ไม่ได้เลือกตัวเลือกอื่นๆ อาจจะทำให้ลูกค้าตัดสินใจไม่เลือกอะไรเลยก็ได้ เช่น ร้านอาหารที่มีเล่มเมนูอยู่หน้าร้านและมีเมนูให้เลือกเยอะเกินไป อาจทำให้ลูกค้าแค่ดูเฉยๆ เลือกไม่ได้ และเดินผ่านไปก็เป็นได้ ดังนั้น ร้านอาหารที่มีเมนูอาหารมากจนเกินไป นอกจากจะทำให้ลูกค้าสับสน และตัดสินใจเลือกได้ยากแล้ว ยังส่งผลกระทบต่อร้านอาหารในอีกหลายๆ ด้านด้วย ไม่ว่าจะเป็น วัตถุดิบ : ร้านจะต้องสต๊อกวัตถุดิบหลายชนิด เพื่อเตรียมสำหรับทำทุกเมนูในร้าน แม้ว่าบางเมนูอาจจะไม่เป็นที่นิยมและไม่มีลูกค้าสั่ง จึงอาจจะทำให้วัตถุดิบที่ไม่ได้ใช้มีคุณภาพลดลงหรือหมดอายุไปก่อน เหล่านั้นล้วนเป็นต้นทุนวัตถุดิบทั้งสิ้น ต้นทุน : ทางร้านจะต้องใช้ต้นทุนในการสต๊อกวัตถุดิบมากขึ้น […]

Follow Me

Contact

เว็บไซต์ : amarinacademy.com
บริษัท เอเอ็มอี อิมเมจิเนทีฟ จำกัด
ในเครือ บริษัท อมรินทร์ คอร์เปอเรชั่นส์ จำกัด (มหาชน)
Tel : 02-422-9999 ต่อ 4662 หรือ 4669, 092-254-0742
Email : amarin.academy@gmail.com

ติดต่อแจ้งปัญหาหรือร้องเรียน
02-422-9999 ต่อ 4180
(จันทร์ – ศุกร์ เวลา 09.00 – 18.00 น)
bdcx@amarin.co.th

สนใจลงโฆษณากับเว็บไซต์ Amarin Academy
Tel. 081-664-0666, 091-729-8060
E-mail : sineenart_ya@amarin.co.th

© COPYRIGHT 2025 AME IMAGINATIVE COMPANY LIMITED.