แนวคิดจับ ตลาดเด็กรุ่นใหม่ ที่ใครๆ กำลังจับตา - Amarin Academy

แนวคิดจับ ตลาดเด็กรุ่นใหม่ ที่ใครๆ กำลังจับตา

แนวคิดจับ ตลาดเด็กรุ่นใหม่ ที่ใครๆ กำลังจับตา

“ ตลาดเด็กรุ่นใหม่ ถ้าเราทำให้เขารักได้ เขาจะรักเลย แต่ถ้ายังทำไม่ได้ เขาก็จะเปลี่ยนไปเรื่อยๆ”

นี่เป็นข้อสังเกตของพี่เบียร์ – ธนากร ปมุติโต เจ้าของร้านหนุ่มมาดเท่ หนึ่งในผู้ก่อตั้ง Hotto Bun ร้านบันสไตล์ไต้หวัน แต่มีกลิ่นอายความเป็นญี่ปุ่นเล่าให้ผมฟัง

“จุดเริ่มต้นของเรา คืออยากทำร้านอาหารเป็นสถานที่ ที่ให้เพื่อนๆมีพื้นที่สังสรรค์กัน พูดคุยกัน เฮฮาเหมือนสมัยตอนที่อยู่นิวยอร์คด้วยกัน แต่วันนี้ถือว่ามาไกลเกินฝันของเรามากแล้วครับ”

จำนวนสาขาที่มีกว่า 6 สาขา (มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รังสิต สามย่าน มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ท่ามหาราช เซ็นทรัลลาดพร้าว และมหาวิทยาลัยมหิดล) ด้วยเวลาเพียง 3 ปี และยอดขายที่เติบโตมากขึ้นเรื่อยๆ คงเป็นสิ่งที่ยืนยันคำพูดของพี่เบียร์และเพื่อนๆ ได้ดีทีเดียว

“กลุ่มนักศึกษาเป็นกลุ่มลูกค้าที่บางคนกลัว แต่เป็นกลุ่มที่ผมถนัดครับ” พี่เบียร์เกริ่น ทำให้ผมต้องถามต่อว่า Hotto Bun มีแนวความคิดอย่างไร ในการทำการตลาดกับลูกค้ากลุ่มที่ได้ชื่อว่าอยู่กับแบรนด์ไม่ค่อยนาน

“ไม่ใช่แค่รู้ว่ากลุ่มลูกค้าของเราเป็นใคร แต่ต้องเห็นให้ชัดว่ามีไลฟ์สไตล์ยังไง

“เราควรจะเขียนตุ๊กตา (model) ออกมาชัดๆ ก่อนเลยว่า กลุ่มลูกค้าของเราเป็นใคร ใช้ชีวิตยังไง แต่งกายยังไง ถือกระเป๋ายังไง ใส่รองเท้าอะไร”

“สำหรับ Hotto Bun ลูกค้าเป็นเด็ก ปี 1- 2 ใส่กางเกงขาสั้น ใส่ sneaker ดูแล้วเป็นคนรุ่นใหม่ แต่ดูดีมีสไตล์”

เหตุผลที่พี่เบียร์ให้เริ่มต้นจากการมองหากลุ่มลูกค้าของเราให้ชัด นั่นเป็นเพราะมีผลต่อการสร้างแบรนด์ สร้างโลโก้ การตกแต่งร้าน และการทำการตลาดให้โดนใจ

ทั้งหมดนี้ต้องเริ่มต้นจากการเห็นภาพลูกค้าที่ชัดเจนก่อน

“ดึงดูดลูกค้ากลุ่มนี้ด้วยประสบการณ์ใหม่ๆ”

หนึ่งในหุ้นส่วนเป็น Chef ใหญ่ ฝีมืออันดับต้นๆ ของประเทศ มีประสบการณ์มานาน มองเห็นโอกาสของอาหาร Finger Food ที่ไม่ต้องใช้อุปกรณ์ช้อน ส้อมในการรับประทาน แต่ใช้มือหยิบได้ทันที (สำหรับสาวๆ ไม่ต้องกลัวมือเลอะ เพราะทางร้านมีถุงมือให้)

“พี่ต้อม เป็นเชฟยอดฝีมือ อยากทำอาหารอร่อย ถูกปากคนไทย ในราคาที่จับต้องได้ แต่ต้องไม่ซ้ำแบบใคร” นี่เป็นแรงบันดาลใจของการคิดค้น “บัน” ที่ดูผิวเผินจะคล้ายกับหมั่นโถว ทำจากแป้งสาลี เนย และยีสต์ มาตีรวมกัน แล้วนำมานึ่งด้วยสูตรลับพิเศษ โดยที่ไม่ใช้ ผงฟู และสารคงรูป เป็นบันที่ดีต่อสุขภาพมากๆ

แต่เมื่อกัดลงไป จะสัมผัสได้ถึงความนุ่ม พร้อมได้กลิ่นของซอสทสูตรพิเศษและเนื้อ ต้องบอกว่าฟินจริงๆ

อ่านมาถึงบรรทัดนี้ ก็รู้สึกหิวเลยนะครับ สรุปคือ อาหารของคุณต้องมีเอกลักษณ์ มีจุดขายไม่ซ้ำใคร

ไม่แพงเกินไป ถ้าทำให้เค้ารู้สึกว่าคุ้มค่า

เมนูอาหารของ Hotto Bun ที่เฉลี่ยอยู่ที่ 60 บาท บางคนอาจจะมองว่าน่าจะเป็นราคาที่สูงเกินไปสำหรับกลุ่มนักศึกษา

“หลังจากที่เรา survey สำรวจกลุ่มลูกค้าดีๆ จะเห็นว่าน้องๆ รุ่นใหม่นี้กำลังซื้อสูงมากอย่างไม่น่าเชื่อ หลายคนดื่มน้ำแก้วละ ร้อยบาท และทานอาหารมื้อละหลายร้อย”

พี่เบียร์และเพื่อนๆ จึงมั่นใจว่าราคา 60 บาทของ Hotto Bun ที่ทั้งถูกปากคนไทยและกินแล้วอิ่มท้อง เป็นราคาที่คุ้มค่า ไม่ทำให้กลุ่มนักศึกษารู้สึกว่าแพงเกินไป เพราะคำว่าแพง หรือ ไม่แพงในสายตาลูกค้าขึ้นอยู่กับความคุ้มค่าที่เขาได้รับ

แต่แน่นอนว่า การให้วัตถุดิบดีและเยอะแบบจัดหนัก จัดเต็มก็อาจทำให้ธุรกิจมีกำไรไม่มากนัก ทำให้ Hotto Bun เองก็ต้องปรับตัว

“สิ่งที่เราทำคือ ต้องกระจายสินค้าให้มากที่สุด ทั้งเร่งเปิดสาขา เปิดจุดขายใหม่ เช่น Food Truck และการทำ Catering จัดอาหารสำหรับจัดเลี้ยง เพื่อเพิ่มยอดขาย”

“ลูกค้ากลุ่มนี้เปิดรับการตลาดที่สร้างสรรค์และแหวกแนว”

“ช่วงที่เปิดร้านแรกๆ เงียบกริ๊บ เลย” ทีมงาน Hotto Bun จึงเปลี่ยนกลยุทธ์ เชิญเน็ตไอดอลของมหาลัยให้มารับประทานที่ร้าน (เช่น ลีดมหาลัย ดาวคณะ พิธีกรมหาลัย)

“บังเอิญว่า น้องๆ ชอบ ก็เลยโพสต์ใน IG และ Facebook ให้” จุดนี้แหละที่เปรียบเสมือนกับใบเบิกทางให้ Hotto Bun เพราะหลังจากนั้นไม่นานร้านก็โด่งดังเป็นพลุแตก และขายดีขึ้นอย่างมาก

“เราเห็นพฤติกรรม ของน้องๆ นักศึกษาตั้งแต่ตอนเป็น freshy เข้ามหาวิทยาลัย ตอนเรียนอ่านหนังสือ จนถึงตอนสอบ”

ตรงนี้สำคัญมาก เพราะการที่เราศึกษาและเข้าใจพฤติกรรมของลูกค้า ทำให้คิดลูกเล่นการตลาดได้เยอะ เช่น ถ้าน้องๆ สอบตก จิตใจก็คงจะห่อเหี่ยว Hotto Bun เลยออก แคมเปญ ถ้าน้องคนไหนสอบตก ติด F ก็เอาใบเกรดมาให้ทางร้านดู ก็กินฟรีไปเลย! เพื่อเป็นการปลอบใจ ทำให้ร้านยิ่งถูกพูดถึงมากขึ้นไปอีก

“เป็นแบรนด์ที่เข้าถึงได้ง่าย เพื่อให้ลูกค้าจดจำและนึกถึงตลอดๆ”

“Hotto Kung” คาแรคเตอร์ การ์ตูน มีผมสามเส้น และมักจะอ้าปากกว้างๆ เป็นอีกเครื่องมือหนึ่งที่สร้างสรรค์ขึ้นมา เพื่อให้ร้าน Hotto Bun แตกต่างและเป็นที่จดจำ ตอนนี้เจ้า Hotto Kung นอกจากจากโลดแล่นอยู่บนโลโก้ของร้าน ก็ยังไปอยู่ในสติกเกอร์ไลน์ อยู่ในของที่ระลึกจากทางร้าน

วิธีนี้จะช่วยเข้าถึงลูกค้าได้…. รู้ตัวอีกที ร้าน Hotto Bun ก็อยู่ในใจของคนรุ่นใหม่แล้ว

ความเห็นของถามอีก กับอิก เรื่องลงทุน

ธุรกิจอาหารเป็นธุรกิจที่เติบโตอย่างรวดเร็ว…. แต่นั่นก็หมายถึงการแข่งขันที่สูงขึ้นเป็นทะเลแดง (Red Ocean) เช่นกัน

ดังนั้น การเข้าใจพฤติกรรมลูกค้า จึงเป็นสิ่งตั้งต้นที่ทำให้เราสามารถต่อยอดกลยุทธ์ทางการตลาด และรู้ว่าเครื่องมือไหนคือสิ่งที่เหมาะสม เพื่อให้ร้านอาหารของเราเป็นร้านในดวงใจของลูกค้า

ขอบคุณภาพจาก Hotto bun

เรื่องแนะนำ

เจาะกลุ่มลูกค้า

เจาะกลุ่มลูกค้า ร้านอาหาร บริการให้ตรงใจ ❤︎

ในยุคที่ธุรกิจร้านอาหารมีการแข่งขันสูง ทางร้านย่อมจะต้องหาวิธีดึงดูดและจูงใจลูกค้าให้เข้ามาใช้บริการ แต่ผู้บริโภคแต่ละกลุ่มมีความต้องการที่แตกต่างกันออกไป ดังนั้น การทำความเข้าใจลูกค้าแต่ละกลุ่มจึงเป็นเรื่องสำคัญ ที่จะช่วยให้พนักงานบริการลูกค้าที่ต่างกันอย่างเหมาะสม ทำให้ได้รับประสบการณ์ที่ดีจากร้าน ในบทความนี้เราจึง เจาะกลุ่มลูกค้า แต่ละแบบในร้านอาหาร เพื่อแนะนำแนวทางในการบริการให้เหมาะสม และเพิ่มโอกาสในการขายของร้านอาหารครับ เจาะกลุ่มลูกค้า ในร้านอาหาร บริการให้ตรงใจ 1. ลูกค้าที่มาเป็นคู่ ลูกค้าที่มากันสองคนหรือเป็นคู่รัก มักจะต้องการใช้เวลาด้วยกันมากกว่าต้องการให้พนักงานบริการเพิ่มเติม ดังนั้น พนักงานควรจะเลือกที่นั่งที่ให้ความรู้สึกค่อนข้างส่วนตัว เช่น โต๊ะที่อยู่ด้านในของร้าน หรือโต๊ะที่ห่างออกไปจากกลุ่มลูกค้าที่มาด้วยกัน เพื่อลดเสียงรบกวน หลังจากลูกค้าสั่งอาหารแล้วก็คอยสังเกตห่างๆ ว่าลูกค้าต้องการบริการใดเพิ่มเติมแล้วค่อยเข้าไปบริการ โดยเมื่อลูกค้ารับประทานอาหารหลักใกล้เสร็จ อาจจะขออนุญาตเข้าไปเก็บจานที่ไม่ใช้แล้ว พร้อมกับแนะนำเมนูของหวานเพิ่มเติม เพื่อเพิ่มยอดขายให้กับร้านอาหารได้ 2. กลุ่มคนทำงาน พนักงานออฟฟิศ สำหรับร้านที่อยู่บริเวณที่ทำงานในเมือง พนักงานออฟฟิศคงเป็นกลุ่มลูกค้าหลักในร้าน  ส่วนใหญ่จะมาในเวลาพักกลางวัน หรือหลังเลิกงานในตอนเย็น จากเวลาพักที่ใกล้เคียงกันของพนักงานออฟฟิศ ทำให้ร้านอาหารต้องบริหารจัดการโต๊ะให้ดีเพื่อเพิ่มจำนวนลูกค้าต่อวันให้มากขึ้น และหาวิธีทำงานที่รวดเร็วขึ้น เช่น อาจจะปรุงวัตถุดิบบางส่วนล่วงหน้าไว้ เพื่อลดระยะเวลาการทำอาหาร หรือมีกระดาษให้เลือกเมนูอยู่ที่โต๊ะเพื่อลดภาระของพนักงาน ลูกค้ากลุ่มนี้มักจะมาเป็นกลุ่มย่อยๆ ประมาณ 3-4 คน โดยสั่งอาหารจานหลักคนละจาน และอาจจะสั่งเมนูอื่นๆ มาแชร์กัน พนักงานอาจจะแนะนำเมนูทานเล่นอื่นๆ ที่มีขายภายในร้านนอกเหนือจากอาหารจานหลัก เพื่อกระตุ้นให้ลูกค้าอยากสั่ง […]

การบริหารพนักงาน

เทคนิค การบริหารพนักงาน หลายเชื้อชาติ

ทุกวันนี้ร้านอาหารไทย มีพนักงานหลากหลายเชื้อชาติ กลายเป็นความท้าทายของเจ้าของร้านอาหารไทยในยุคนี้ว่าจะปรับตัวอย่างไรเพื่อ การบริหารพนักงาน หลายเชื้อชาติ

บริการเดลิเวอรี่

ร้านอาหาร กับ บริการเดลิเวอรี่ วางสมดุลไม่ดี ร้านขาดทุนได้

บริการเดลิเวอรี่ ก็เป็นส่วนสำคัญที่คนทำร้านอาหารควรมี เพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภคในยุคนี้ แต่สงสัยหรือไม่ว่า บางร้านยอดเดลิเวอรี่ดี แต่ขาดทุน และบางรายเสียลูกค้าประจำไป เป็นเพราะสาเหตุอะไร     ร้านอาหาร กับ บริการเดลิเวอรี่ วางสมดุลไม่ดี ร้านขาดทุนได้   การทำธุรกิจร้านอาหารในปัจจุบันนี้ จะเห็นได้ว่ามีการแข่งขันกันสูงขึ้นเพื่อดึงดูดลูกค้า ไม่ว่าจะเป็นโปรโมชั่นต่างๆ การทำการตลาดในหลายช่องทาง รวมถึง บริการเดลิเวอรี่ ที่กำลังเป็นที่นิยมอย่างสูงในกลุ่มของลูกค้าที่ต้องการความสะดวกสบาย ซึ่งมีมากขึ้นเรื่อยๆ แน่นอนว่าร้านอาหารก็ควรมีบริการนี้เพื่อให้ตอบโจทย์พฤติกรรมของผู้บริโภคด้วย แต่ถ้าเจ้าของร้านวางสมดุลระหว่างหน้าร้าน และบริการเดลิเวอรี่ไม่ดี ก็อาจจะทำให้ร้านคุณขาดทุน และสูญเสียลูกค้าได้เช่นกัน แล้วเจ้าของร้านอาหารควรทำอย่างไร มาฟังมุมมองจาก คุณธามม์ ประวัติตรี Managing Director, Wow Thai Food B.V. Amsterdam Netherland ที่จะมาให้ความคิดเห็นกับเรื่องนี้กันค่ะ   ปัญหาการแข่งขันในตลาด เดลิเวอรี่ จากประสบการณ์การทำร้านอาหาร ทั้งในประเทศไทย และร้านอาหารในต่างประเทศ คุณธามม์ ได้ให้ความเห็นที่น่าสนใจอย่างหนึ่งว่า ที่ผ่านมาเกือบตลอดทั้งปี จะเห็นได้ว่าการให้บริการแบบเดลิเวอรี่ กำลังมาแรงมากในการทำธุรกิจอาหารในประเทศไทย ร้านอาหารให้ความสนใจในบริการนี้ เพราะตอบโจทย์พฤติกรรมของลูกค้าในปัจจุบัน […]

ลดของเสียในร้านอาหาร

9 วิธีช่วย ลดของเสียในร้านอาหาร

หนึ่งในหัวใจสำคัญในการบริหารจัดการร้านอาหารให้ประสบความสำเร็จคือการควบคุมต้นทุนไม่ให้สูงจนเกินไป วันนี้เราจึงมีเทคนิคดีๆ ในการ ลดของเสียในร้านอาหาร มาแนะนำ

Follow Me

Contact

เว็บไซต์ : amarinacademy.com
บริษัท เอเอ็มอี อิมเมจิเนทีฟ จำกัด
ในเครือ บริษัท อมรินทร์ คอร์เปอเรชั่นส์ จำกัด (มหาชน)
Tel : 02-422-9999 ต่อ 4662 หรือ 4669, 092-254-0742
Email : amarin.academy@gmail.com

ติดต่อแจ้งปัญหาหรือร้องเรียน
02-422-9999 ต่อ 4180
(จันทร์ – ศุกร์ เวลา 09.00 – 18.00 น)
bdcx@amarin.co.th

สนใจลงโฆษณากับเว็บไซต์ Amarin Academy
Tel. 081-664-0666, 091-729-8060
E-mail : sineenart_ya@amarin.co.th

© COPYRIGHT 2025 AME IMAGINATIVE COMPANY LIMITED.