The Yard Hostel โฮสเทลกลางอารีย์ อบอุ่นเหมือนนอนบ้านญาติ
ใครจะเชื่อว่าท่ามกลางตึกสูงในย่านอารีย์ (เดินจากรถไฟฟ้าเพียง 5 นาที) ก็จะได้พบกับ The Yard Hostel ที่พักเล็กๆ พร้อมสนามหญ้าสีเขียวขจีให้แขกที่มาเข้าพักได้เอนกายผ่อนคลายกัน จะมุมไหนคุณก็สามารถเอกเขนกได้อย่างไม่เคอะเขิน จะนอนอ่านหนังสือหรือจิบเครื่องดื่มเย็นๆ ก็คงดีไม่น้อย นี่คงเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งของที่พักขนาดเล็กที่เรียกว่าโฮสเทล
คุณส้ม – อมรรัตน์ อมรศิริชัยรัตน์ เจ้าของ The Yard Hostel ยิ้มต้อนรับเราด้วยความเป็นกันเอง เธอบอกว่าที่พักแห่งนี้ได้รับการต่อยอดมาจากการทำอาหารให้เพื่อนกิน
เนื่องมาจากว่าที่บ้านชอบทำอาหาร มีคุณป้าและคุณแม่เป็นแม่ครัวใหญ่ ประกอบกับคุณแม่ชอบให้ชวนเพื่อนมากินข้าวที่บ้าน เราก็เลยลองเอาข้อมูลไปโพสต์ลงในเว็บไซต์ www.withlocals.com ที่เปิดให้คนจากหลากหลายพื้นที่ทั่วโลก ได้โพสต์เชิญชวนชาวต่างชาติที่อยากสัมผัสกับวิถีชีวิตและวัฒนธรรมแบบท้องถิ่นได้จองเข้ามาทำกิจกรรมร่วมกับ “โฮส” เจ้าบ้าน
พอเปิดให้จองเข้ามากินอาหารที่บ้าน ก็มีชาวต่างชาติแวะเวียนมากินข้าวที่บ้านอาทิตย์ละ 2 – 3 ครั้ง เราทำมาเรื่อยๆ เกือบ 1 ปี ก็รู้สึกว่าสนุกดี จากการที่เราได้พูดคุยแลกเปลี่ยนกับคนต่างชาติ ต่างภาษา แต่กลับสามารถต่อกันติด ผ่านความสนใจที่คล้ายคลึงกัน
เมื่อมีแขกมากินข้าวที่บ้านมากขึ้น ก็มีบางคนถามว่าคุณมีที่พักด้วยหรือเปล่า จะขอนอนพักที่บ้านด้วยได้ไหม นั่นจึงกลายเป็นที่มาของที่พักแสนอบอุ่นเหมือนนอนบ้านญาติแห่งนี้ “ตอนทำกับข้าวให้เพื่อนมากินที่บ้าน เราก็เริ่มรู้ตัวแล้วว่าตัวเองชอบแนวนี้ เราอยากเป็นพื้นที่แลกเปลี่ยนประสบการณ์และสร้างเป็นชุมชนที่น่าอยู่”
จากไอเดียในวันนั้นเธอได้ลงมือทำจริง โดยมองหาทำเลว่าตรงไหนที่เหมาะจะทำที่พัก อันดับแรกคุณส้มบอกว่าต้องเดินทางสะดวก ยิ่งใกล้รถไฟฟ้ายิ่งดี มองหาอยู่หลายที่จนมาได้พื้นที่ตรงนี้ในซอยพหลโยธิน 5 ที่ใช้เวลาเดินเพียงนิดเดียวก็เชื่อมต่อกับระบบขนส่งสาธารณะได้อย่างสะดวกสบาย
ธุรกิจที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม
ภายในพื้นที่รูปทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า คุณส้มจัดวางตู้คอนเทนเนอร์ทาสีขาวเป็นรูปตัวแอล ประกอบไปด้วยห้องพักจำนวน 10 ห้องและห้องพักบนเรือนหน้าบ้านแบบส่วนตัวอีก 3 ห้อง โดยมีห้องนั่งเล่นส่วนกลางที่กรุผนังด้านหนึ่งด้วยกระจกใส มองเห็นวิวสวนด้านล่างได้ทั้งหมด ของที่ใช้ประดับตกแต่งส่วนใหญ่เป็นงานฝีมือและของมือสอง ซึ่งเข้ากับคอนเซ็ปต์ลดการผลิตขยะของเจ้าตัว
“เราตั้งใจใช้ตู้คอนเทนเนอร์มาดัดแปลงทำเป็นห้องพัก โดยเรามีแนวคิดที่อยากให้เป็นอะไรง่ายๆ แต่ต้องเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม อย่างการเอาของเก่ามาใช้ให้เกิดประโยชน์ คำนึงถึงการสร้างขยะให้น้อยที่สุด รณรงค์เรื่องการแยกขยะภายในที่พัก บางคนอาจคิดว่านิดหน่อยคงไม่เป็นไร แต่จริงๆ แล้วทุกคนต้องร่วมมือกัน เพื่อช่วยดูแลโลกให้น่าอยู่”
ประเด็นลดใช้พลาสติก ชาวต่างชาติเขาให้ความสำคัญมาก เราเลยชวนเขาเข้าร่วมกับขบวนการงดหลอด “Say no to plastic straw” เพราะตระหนักถึงผลกระทบของพลาสติกที่ย่อยสลายยาก ซึ่งจะกลายเป็นขยะตกค้างบนโลก รวมถึงการใช้ขวดแก้วแทนขวดพลาสติกภายในที่พักแห่งนี้ ในอนาคตเราคิดเรื่องการหมุนเวียนน้ำภายในที่พัก เพื่อลดการใช้น้ำลง ถ้าหากทำอะไรที่เป็นประโยชน์ให้กับสังคมได้บ้างก็คงจะดี
สร้างความประทับใจจนเกิดการบอกต่อ
ช่องทางการจองเรามีหน้าเว็บไซต์เป็นของตัวเอง บางคนอาจเสิร์จแล้วเจอตามเว็บไซต์รับจองที่พักอื่นๆ บ้าง แต่แขกสำคัญของเราเกิดจากการบอกต่อ ชาวต่างชาติใช้เวลาท่องเที่ยวยาวนาน บางคนใช้เวลาถึง 6 เดือน อาจเริ่มต้นจากกรุงเทพฯ ไปลาว กัมพูชา ฯลฯ ระหว่างทางนั้นเมื่อมีคนสอบถามว่าควรไปพักที่ไหนดีในกรุงเทพฯ คนที่เคยมาเข้าพักที่นี่แล้วประทับใจในความเป็นกันเอง ก็แนะนำให้ลองมาที่ The Yard นั่นจึงเป็นช่องทางหนึ่งที่ทำให้เราได้ลูกค้าจากการบอกต่อกว่า 30%
ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ลูกค้าเกิดการบอกต่อคือ รู้สึกดีกับเราและพนักงานและมีกิจกรรมให้ทำหลากหลาย การบริการอย่างใกล้ชิดเป็นกันเอง ทำให้แขกที่มาเข้าพักจะมีภาพจำในเรื่องของพนักงาน คนที่มาบ่อยเขาก็จะถามถึง staff คนที่เขาเคยเจอ อาจมาจากความเป็นกันเอง จนรู้สึกสนิทสนมเหมือนเป็นเพื่อนกันมากกว่า
ส่วนกิจกรรมที่มีภายใน The Yard แขกทุกคนสามารถเข้าร่วมกิจกรรมเหล่านี้ได้ฟรี อย่างวันจันทร์ทำอาหารไทยกินกันแบบง่ายๆ วันพุธฉายหนังกลางแปลง วันเสาร์คลาสโยคะ และยังมีจักรยานให้ยืมไปปั่นชิลๆ ในละแวกใกล้เคียง นอกจากนี้ก็ยังมีกิจกรรมที่จัดตามช่วงเทศกาล เช่น ช่วงนี้มีฟุตบอลโลก เราก็จัดฉายกลางแปลงกันทุกคืน
นักท่องเที่ยวที่เข้าพักที่นี่ส่วนใหญ่ชาวยุโรป อเมริกา และออสเตรเลียกว่า 85% อีก 10% เป็นชาวเอเชีย นอกจากนี้ยังมีชาวไทยที่มาจากต่างจังหวัด แต่มีธุระในเมืองหรือจะต้องมารอต่อเครื่องบิน ก็มาเข้าพักกันที่นี่ด้วย ไม่ว่าจะเป็นชาวเอเชียหรือชาวตะวันตกดูแลง่ายเหมือนกัน อาจมีบ้างที่เขาไม่ได้อ่านรายละเอียดมาว่าที่นี่เป็นห้องน้ำรวมแต่ก็ไม่มีปัญหาอะไร
ใส่ใจและให้ความสำคัญกับคน
หลักในการเป็นเจ้าของกิจการที่ดี คือเราให้ความสำคัญกับทุกๆ คน ไม่ใช่เพียงแค่แขกที่เข้าพัก แต่ยังรวมไปถึงพนักงานที่ทำงานร่วมกับเรา ดูแลพวกเขาด้วยการเอาใจเขามาใส่ใจเรา หากมีปัญหาตรงไหนก็พูดคุยกัน เมื่อพนักงานของเรามีความสุขแล้ว แขกที่มาเข้าพักก็จะสัมผัสถึงพลังความสุขตรงนี้ได้เช่นกัน
“เราดูแลพนักงานเหมือนเป็นสมาชิกในครอบครัว เราแบ่งเวลาให้ทำงานคนละ 4 วัน และอีก 4 วันให้พวกเขากลับไปใช้ชีวิตพักผ่อนอย่างเต็มที่ (แต่ตอนที่ทำงานก็คือมาพักมานอนกับเราที่นี่เลย) บางคนมีสวนก็กลับไปดูแลสวนต่อ ส่วนคนที่ไปเที่ยวก็จะได้นำประสบการณ์ที่ได้รับมาให้คำแนะนำกับลูกค้าต่อได้”
ทุกปัญหาหากเราแก้ไขด้วยความจริงใจก็จะช่วยให้ผ่านไปได้ด้วยดี อย่างแขกบ่นว่าห้องยังไม่เรียบร้อยนะ เราก็พร้อมแก้ปัญหาตรงนั้นทันที หรือเขาบอกว่าห้องเล็กไปหน่อย เราก็ต้องชี้แจงว่าห้องพักได้รับการออกแบบสำหรับตู้คอนเทนเนอร์ อาจจะเล็กไปบ้างแต่คุณสามารถใช้พื้นที่ส่วนกลางได้อย่างเต็มที่แทน
การทำธุรกิจเรื่องเงินก็สำคัญ แต่ไม่ใช่เรื่องที่มาเป็นอันดับแรกสำหรับเรา ถ้าเราทำงานด้วยใจคนที่เข้ามาเขาก็สามารถสัมผัสได้ถึงพลังนี้ เมื่อทุกคนมีความสุขนั่นก็เท่ากับว่าเราประสบความสำเร็จ
บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ