เจาะลึกมุมมองธุรกิจอาหารของผู้บริหาร Kuppadeli - Amarin Academy

เจาะลึกมุมมองธุรกิจอาหารของผู้บริหาร Kuppadeli

“เรียนรู้จากข้อผิดพลาด พัฒนาสู่ความสำเร็จ”
เจาะลึกมุมมองธุรกิจของคุณกวิน ว่องกุศลกิจ ผู้บริหาร Kuppadeli (2)

Highlight

  • สาเหตุที่ทำให้ร้านอาหารอายุไม่ยืนเป็นเพราะ Trend และพฤติกรรมผู้บริโภคมันเปลี่ยนเร็วมากๆ ถ้าคุณปรับไม่ทัน คุณตายแน่นอน ลองมองย้อนกลับไปแบรนด์ฮิตๆ ที่มีคนต่อแถวรอกินยาวเหยียด ผ่านไปไม่กี่เดือน คนหายไปหมด
  • สำหรับคนที่อยากเปิดร้านอาหาร เราต้องมี 3 H เริ่มแรก Heart เราต้องมีหัวใจที่อยากทำ Hand เราต้องลงมือทำและหาคนเก่งๆ มาช่วยทำมันให้สำเร็จ แต่มี 2 อย่างไม่พอ ต้องใช้ Head คือ หัวด้วย
  • ด้วยความที่ธุรกิจอาหารความเสี่ยงค่อนข้างสูง มันจึงบีบเรื่องการลงทุน หากจะลงทุนในร้านอาหาร ต้องลงทุนไม่สูงมากและพยายามทำให้คืนทุนเร็วที่สุด อย่างช้าต้องไม่เกิน 3 ปี

บทความที่แล้วเราได้พาไปเจาะลึกถึงปัญหาเกี่ยวกับการเปิดร้านอาหาร รวมทั้งแนวทางการแก้ไขกันแล้ว บทความนี้จะมาศึกษาถึงปัจจัยสำคัญที่จะทำให้ร้านอาหารประสบความสำเร็จ รวมทั้งคำแนะนำด้านการลงทุนในร้านอาหารสำหรับผู้ประกอบการรายใหม่ จาก คุณกวิน ว่องกุศลกิจ ผู้ก่อตั้งร้าน Kuppadeli และกรรมการผู้จัดการ บริษัท เฮอริเทจ เอสเตทส์ จำกัด (ทายาทคุณอิสระ ว่องกุศลกิจ ประธานกรรมการ กลุ่มน้ำตาลมิตรผล)

จากการที่ Kuppadeli มีสาขาแล้วถึง 5 สาขา อยากให้แนะนำว่า หากร้านอาหารต้องการขยายสาขา มีขั้นตอนใดบ้าง จะควบคุมคุณภาพได้อย่างไร

เริ่มจากการจัดการ สำคัญคือต้องมีผู้จัดการร้าน ที่มีความเป็นผู้นำในระดับหนึ่ง สามารถควบคุมคนได้ ถัดมาต้องจ้างเชฟที่สามารถควบคุมเชฟได้ทั้ง 5 สาขา อันนี้คือการควบคุมคุณภาพ

นอกจากนี้ยังต้องคิดว่า ถ้าจะขยายใหญ่ ต้องจ้างฝ่ายการตลาดไหม ทำออฟฟิศไหม คือมันกลายเป็นอีกระดับหนึ่งแล้ว ถ้าคุณจะขยายสาขาต้องรู้ว่าค่าใช้จ่ายหลังบ้านมันมากขึ้นแน่นอน ต้องคิดดีๆ ว่าคุ้มค่าหรือเปล่า มีสาขาน้อยๆ แต่ว่าแต่ละสาขามีประสิทธิภาพและทำกำไรได้ดีกว่าไหม

ขอถามถึงเรื่องหลังบ้านบ้าง หลายคนกังวลกับเรื่อง Food waste จริงๆ แล้วร้านอาหารควรมีวิธีบริหารจัดการเรื่องนี้อย่างไร

จะบอกว่ายากก็ยาก ง่ายก็ง่ายนะ มันแล้วแต่มุมมอง แต่สำหรับผมเรื่องนี้เป็นเรื่องที่สอนได้ ทุกตำราทุกสถาบันเชฟต้องมีสอน เพราะมันเป็นเรื่องที่สำคัญเกือบที่สุดเลยของการทำร้านอาหาร

ตามปกติ มันจะมีมาตรฐานอยู่แล้วว่า ร้านอาหารประเภทนี้ ต้นทุนวัตถุดิบเท่านี้ จะมี food waste ได้เท่าไร อาจจะประมาณ 2 เปอร์เซ็นต์ คือมันมีตัวเลขอยู่แล้ว

เมื่อมีตัวเลข ที่เหลือก็ขึ้นอยู่กับการดีไซน์เมนู ให้วัตถุดิบหนึ่งชนิด ใช้กับเมนูอื่นๆ ได้ด้วย มันจะได้เคลียร์ของได้ง่ายขึ้น หรืออาจจะมีวิธีจัดการวัตถุดิบที่มีอายุสั้นหรือเป็นของสดว่า ต้องจัดเก็บอย่างนี้ คนที่เรียนจบเชฟมา เขาต้องรู้เรื่องนี้อยู่แล้ว

ฉะนั้นหน้าที่ของเจ้าของร้านคือ จ้างเชฟที่เข้าใจและทำเรื่องนี้เป็น แล้วตกลงกับเขาก่อนเลยว่า ต้องการให้มี Food cost เท่านี้ food waste เท่านี้ เชฟก็จะไปออกแบบเมนูมาให้ รวมทั้งเป็นผู้บริหารจัดการเองว่า ตู้เย็นขนาดนี้จะใส่ของเท่าไร มีวิธีควบคุมการทำงานหรือพนักงานอย่างไรให้เป็นไปตามที่กำหนด

ในฐานะนักธุรกิจ มีมุมมองด้านธุรกิจอาหารอย่างไรบ้าง

ผมมองว่าทุกวันนี้ ใครๆ ก็อยากเปิดร้านอาหาร เพราะมันเปิดง่าย แต่ประเด็นคือ ถ้าคุณไม่มีประสบการณ์ ไม่มีการบริหารจัดการที่ดี มันก็เจ๊ง โลกทุกวันนี้ ธุรกิจ retail มันกำลังตายละเรื่อยๆ เมื่อตายแล้วก็เกิดพื้นที่ว่าง นำไปทำอะไร ส่วนใหญ่ก็เอามาเปิดร้านอาหาร คือพื้นที่ที่ไม่รู้จะเอาไปทำอะไรส่วนใหญ่ทำเป็นร้านอาหารหมด การแข่งขันมันจึงสูง เราเปิดอยู่ดีๆ มีอยู่ร้านเดียว ผ่านไปไม่กี่ปีเพิ่มขึ้นอีกหลายร้าน กลายเป็นว่า ค่าเช่าเราเท่าเดิม แต่คู่แข่งมากขึ้น

แล้วธุรกิจร้านอาหารวงจรชีวิตมันสั้นมาก เมื่อเทียบกับธุรกิจอื่นๆ ยกเว้นว่าคุณจะเป็น Top Brand ที่ทุกคนรู้จักหมดแล้ว อายุก็อาจจะยืนหน่อย

ส่วนสาเหตุที่ทำให้ร้านอาหารอายุไม่ยืนเป็นเพราะ Trend และพฤติกรรมผู้บริโภคมันเปลี่ยนเร็วมากๆ ถ้าคุณปรับไม่ทัน คุณตายแน่นอน ลองมองย้อนกลับไปแบรนด์ฮิตๆ ที่มีคนต่อแถวรอกินยาวเหยียด ผ่านไปไม่กี่เดือน คนหายไปหมด ขายไม่ได้เลย นอกจาก Trend แล้ว ยังขึ้นกับการบริหารของคุณด้วย ถ้าบริหารไม่เป็น ก็จบ

แถมยังมีปัจจัยเรื่องพื้นที่อีก สมมติคุณอยู่ในห้าง เมื่อก่อนอาจจะมี โซนร้านอาหารแค่ชั้นเดียว แต่พอห้างเห็นว่าโซนอาหารไปได้สวย แต่ร้านเครื่องประดับหรือแบรนด์บางตัวขายไม่ออก เขาก็ทำโซนอาหารอีก 1 ชั้น ยอดขายคุณตกลงไป 30 เปอร์เซ็นต์เลยนะ หรือถ้ามีห้างมาเปิดข้างๆ อีกห้าง ตกไปอีก 3 เปอร์เซ็นต์ ฉะนั้นมันจึงเสี่ยง

Key success ของธุรกิจร้านอาหารคืออะไร

“เข้าใจตัวเอง เข้าใจตลาด และบริหารคนเป็น” หมายถึง ต้องรู้ก่อนว่าจุดยืนของตัวเองคืออะไร รู้ว่าตัวเองเก่งด้านไหน และมี passion กับอะไร จากนั้น ต้องดูว่าตลาดต้องการอะไร กลุ่มลูกค้าของคุณเป็นรูปแบบไหน ควรจะทำ research ให้ดีก่อน เมื่อทำการบ้าน 2 ข้อนี้แล้ว ค่อยมาดูว่า จุดตัดหรือ Cross over ของ 2 สิ่งนี้อยู่ตรงไหน คุณก็นำเสนอสิ่งนั้น จะเอาแต่ใจตัวเองก็ไม่ได้ เอาแต่ใจตลาดก็ไม่ได้ มันต้องหาจุดเชื่อมให้เจอ จากนั้นก็ต้องมาเรียนรู้การบริหารคน เพื่อให้เขาช่วยทำให้มันสำเร็จ

สำหรับคนที่กำลังเริ่มต้นทำธุรกิจอาหาร อยากแนะนำอย่างไรบ้าง

เราต้องมี 3 H เริ่มแรก Heart เราต้องมีหัวใจที่อยากทำ มี passion ต่อมันจริงๆ Hand เราต้องลงมือทำและหาคนเก่งๆ มาช่วยทำมันให้สำเร็จ แต่มี 2 อย่างไม่พอ ต้องใช้ Head คือ หัวด้วย ผมก็เพิ่งมาเรียนรู้การใช้หัวในปีหลังๆ นี่แหละ ว่าเราต้องวางแผนแบบนี้ วิเคราะห์ตัวเลขอย่างนี้ ปรับตรงนี้จะลดต้นทุนได้ เปลี่ยนเมนูแบบไหนถึงจะโอเค ใช้เวลานานเหมือนกัน

แต่สำหรับคนที่ไม่เคยทำมาก่อนเลย ไม่มีความรู้ด้านการทำร้านอาหารเลย มีทางเลือก 3 ทาง

1.เปิดไปเลย แล้วลองผิดลองถูกเอง เรียนรู้จากข้อผิดพลาดแล้วนำมาปรับใช้ แต่กรณีนี้คุณต้องมีสายป่านที่ยาวหน่อย เพราะผมบอกเลย 95% ล้มเหลวแน่นอน
2.เรียนรู้จากคนอื่น หาความรู้ให้มาก ตามเว็บไซต์เดี๋ยวนี้มีความรู้ให้ศึกษามากมาย อาจจะช้าหน่อย แต่ดีกว่า
3.หา Partner ที่เขาทำเป็นอยู่แล้ว คุณค่อยไปเรียนรู้จากเขา งานคุณจะง่ายขึ้นมาก เพราะเขาวางแผนเป็น บริหารจัดการเป็นอยู่แล้ว เขาสอนคุณได้ ก็ช่วยให้โอกาวประสบความสำเร็จของคุณมากขึ้น แต่ก็ต้องเลือกคนที่คุณไว้ใจได้ด้วย

ธุรกิจอาหาร ถือเป็นธุรกิจที่มีความเสี่ยงสูง แต่หากคุณมีการบริหารจัดการที่ดี เรียนรู้จากความผิดพลาดทั้งจากตัวเองและผู้อื่น และพร้อมปรับตัวรับมือกับการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ธุรกิจอาหารก็กลายเป็นธุรกิจที่ยั่งยืนได้ไม่ยาก

(อ่านเพิ่มเติม: เรียนรู้จากข้อผิดพลาด พัฒนาสู่ความสำเร็จ Kuppadeli )


เคล็ด (ไม่) ลับ การลงทุนในธุรกิจอาหาร แบบฉบับนักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์

ด้วยความที่ธุรกิจอาหารความเสี่ยงค่อนข้างสูง มันจึงบีบเรื่องการลงทุน หากจะลงทุนในร้านอาหาร  ต้องลงทุนไม่สูงมากและพยายามทำให้คืนทุนเร็วที่สุด อย่างช้าต้องไม่เกิน 3 ปี ต่างจากอสังหาริมทรัพย์บางครั้ง 10 ปียังไม่คืนทุนเลย แต่มันปลอดภัยกว่า เพราะจะขายเมื่อไรก็ได้ อย่างไรราคาก็ขึ้น

การลงทุนควรจะเหมาะสมกับโลเคชั่นและเหมะสมกับแบรนด์ ต้องไม่ต่ำหรือสูงเกินไป สูงไปก็คืนทุนยาก ต่ำไปก็สร้างแบรนด์ไม่ได้ อันนี้พูดถึงในประเทศไทย แต่ถ้ามองระดับต่างประเทศ เช่น สิงคโปร์ ฮ่องกง ค่าพื้นที่มันแพงกว่าเมืองไทยมาก ประมาณ 8-10 เท่า ฉะนั้นถ้าคุณไปในประเทศเหล่านั้น อาจจะเพิ่มงบการลงทุนกับค่าตกแต่งอีกสักหน่อย ซึ่งเมื่อเทียบกับค่าที่แล้วถือว่าน้อยมาก แต่คุณสามารถชาร์ตค่าอาหารเพิ่มได้ ก็ถือว่าคุ้มค่ากว่า

เรื่องแนะนำ

Specialty Coffee คืออะไร ? แตกต่างจากคาเฟ่ทั่วไปอย่างไร ?

Specialty Coffee คืออะไร ? แตกต่างจากคาเฟ่ทั่วไปอย่างไร ? แชร์มุมมองโดย คุณมิน เจ้าของร้าน Gorilla Coffee&Bakery ทุกวันนี้มีร้านกาแฟให้เราได้เลือกกินอยู่เต็มไปหมด ซึ่งก็มีทั้งร้านที่เป็นรูปแบบคาเฟ่ ร้านกาแฟทั่วไป รวมถึงร้านแบบ Specialty ที่หลายคนให้คำจำกัดความร้านรูปแบบนี้ว่าเป็นร้านกาแฟที่มี “ความพิเศษ” ที่ต่างออกไปจากร้านกาแฟแบบอื่น ๆ ว่าแต่มันพิเศษยังไงล่ะ ? ลองมาดูมุมมองต่อความเป็นร้านกาแฟ Specialty ของคุณมิน ธมลวรรณ เจ้าของร้าน Gorilla Coffee&Bakery ร้านกาแฟ Specialty ย่านลาดกระบังกัน! . นิยามของ Specialty . ในมุมมองของเรา Specialty Coffee คือ กาแฟที่พิเศษแตกต่างจากกาแฟทั่ว ๆ ไป เพราะเราให้ความใส่ใจ สนใจตั้งแต่ต้นทางถึงปลายทาง ตั้งแต่การเลือกสายพันธ์ุกาแฟ ประเทศที่ปลูก การชง คาแรกเตอร์ของกาแฟแต่ละแบบ เอามาให้ผู้บริโภคเลือกมากกว่าร้านที่ขายกาแฟแบบปกติ เพราะคาแรกเตอร์แต่ละประเทศก็จะแตกต่างกัน เมื่อก่อนคนกินกาแฟ ก็อาจจะดูจากเรื่องความขม ให้ความกระปรี้กระเปร่า แต่เดี๋ยวนี้คนให้ความสนใจกับรสชาติ […]

Copper

กรณีศึกษา Copper Buffet รับมือกับปัญหาที่ไม่คาดคิดอย่างไร ให้ชนะใจลูกค้า

Copper International Buffet นับว่าเป็นอีกหนึ่งร้านบุฟเฟต์ที่มาแรง และโดนใจลูกค้าในเรื่องของคุณภาพของวัตถุดิบ ความใส่ใจ รวมถึงงานบริการที่หลายคนประทับใจ ซึ่งในช่วง 3 ปีที่ผ่านมาถือได้ว่าcopper เป็นที่นิยม และเป็นที่รู้จักมากขึ้น จำนวนลูกค้าก็มีมากขึ้นเช่นกัน ทำให้ต้องมีการขยายพื้นที่ร้าน และรีโนเวทใหม่เพื่อให้เพียงพอกับจำนวนลูกค้าที่เพิ่มขึ้นนั่นเอง   รับมือกับปัญหาที่ไม่คาดคิดอย่างไร ให้ชนะใจลูกค้า by Copper แต่ก็คงไม่มีเจ้าของร้านอาหารร้านใด ที่ไม่เคยพบเจอปัญหา แม้แต่ร้านบุฟเฟต์ชื่อดังอย่าง Copper ที่มีระบบการจัดการที่ดี มีพนักงานที่เทรนด์เรื่องงานบริการดีเยี่ยมแล้ว แต่ปัญหาเฉพาะหน้าที่ไม่คาดคิด ก็เกิดขึ้นได้เช่นกัน เรามีโอกาสได้พูดคุยกับ คุณเกษมสันต์ สัตยารักษ์ General Manager ร้าน Copper International Buffet ซึ่งคุณเกษม ได้แชร์ถึงเรื่องราวปัญหาที่พบเจอในวันที่ร้านเปิดตัวเป็นวันแรก หลังจากรีโนเวทร้าน ซึ่งเรียกว่าเป็นปัญหาใหญ่ไม่น้อยที่ถาโถมเข้ามาอย่างต่อเนื่องในวันเดียว แต่ก็สามารถรับมือได้ และแก้ไขสถานการณ์ได้เป็นอย่างดี โดยที่ยังได้รับคำชมจากลูกค้า  Copper กู้สถานการณ์นี้ได้ด้วยวิธีใด คุณเกษม จะมาแชร์ให้ฟังกัน   วิกฤต ติดขัดหน้างาน โดยไม่คาดคิด ก่อนจะถึงวันเปิดร้านวันแรก เราเปิดตัวรอบ Press […]

Mee OK

ต่อยอดโรงงานบะหมี่ สู่ธุรกิจร้านอาหาร Mee OK (หมี่ โอเค)

ไม่ใช่เรื่องง่ายของการทำธุรกิจที่จะเปลี่ยนแปลงจากสิ่งที่มีอยู่เดิม ให้สามารถสร้างมูลค่าเพิ่ม หรือหาโอกาสใหม่ๆ ให้กับธุรกิจได้ “Mee OK” หนึ่งตัวอย่างความสำเร็จของ ธุรกิจร้านอาหาร ที่ต่อยอดมาจากโรงงานผลิตเส้นบะหมี่ (ส่งร้านสุกี้ชื่อดัง) และแป้งที่มีประสบการณ์มากกว่า 80 ปี  จากประสบการณ์ผลิตบะหมี่กว่า 80 ปี สู่ธุรกิจร้านอาหาร Mee OK (หมี่ โอเค)  “อยากให้เพื่อนได้กินบะหมี่ของตัวเอง” จุดเริ่มต้นง่ายๆ ของคุณม้ง – ปรมะ ห่อทองพูน เจ้าของร้าน Mee OK และเจ้าของบริษัทผู้ผลิตเส้นบะหมี่ให้ร้านดัง ที่คิดอยากจะทำแบรนด์ร้านอาหารของตัวเอง  แบรนด์มันคือสิ่งสำคัญที่ทำให้คนรู้จักเรา ธุรกิจโรงงานของเราเริ่มมาตั้งแต่รุ่นอากง จากทำเส้นบะหมี่ขายในชุมชนและย่านใกล้ๆ มาถึงรุ่นพ่อก็เริ่มขยับขยาย ขายให้ภัตตาคารหรือร้านอาหารในเยาวราช ธุรกิจเริ่มใหญ่ขึ้น มีลูกค้าเยอะขึ้น ซึ่งส่วนใหญ่เราจะได้ลูกค้าที่บอกกันปากต่อปาก ทีนี้พอมาถึงรุ่นผม ก็เลยตัดสินใจที่จะเปิดโรงงานผลิตเส้นบะหมี่และแป้ง เพื่อสร้างมาตรฐาน คุณภาพ และความน่าเชื่อถือให้กับธุรกิจ จนได้กลุ่มลูกค้าเพิ่มเป็นธุรกิจร้านอาหาร และธุรกิจส่งออกไปต่างประเทศ อยากทำแบรนด์ของตัวเอง  เหตุผลหลักๆ เลย ก็คือตอนที่เราทำโรงงานอย่างเดียว เหมือนเราต้องพึ่งลูกค้าเป็นหลักในการขาย เพราะเราเป็นโรงงาน ไม่มีหน้าร้านหรือแบรนด์แบบเค้า ยกเลิกออเดอร์ทีเราก็เสียกำไรตรงนั้นไป […]

Follow Me

Contact

เว็บไซต์ : amarinacademy.com
บริษัท เอเอ็มอี อิมเมจิเนทีฟ จำกัด
ในเครือ บริษัท อมรินทร์ คอร์เปอเรชั่นส์ จำกัด (มหาชน)
Tel : 02-422-9999 ต่อ 4662 หรือ 4669, 092-254-0742
Email : amarin.academy@gmail.com

ติดต่อแจ้งปัญหาหรือร้องเรียน
02-422-9999 ต่อ 4180
(จันทร์ – ศุกร์ เวลา 09.00 – 18.00 น)
bdcx@amarin.co.th

สนใจลงโฆษณากับเว็บไซต์ Amarin Academy
Tel. 081-664-0666, 091-729-8060
E-mail : sineenart_ya@amarin.co.th

© COPYRIGHT 2025 AME IMAGINATIVE COMPANY LIMITED.