5 ธุรกิจมาแรง เมื่อโลกก้าวสู่ สังคมผู้สูงอายุ - Amarin Academy

5 ธุรกิจมาแรง เมื่อโลกก้าวสู่ สังคมผู้สูงอายุ

5 ธุรกิจมาแรง เมื่อโลกก้าวสู่ สังคมผู้สูงอายุ

โลกกำลังก้าวเข้าสู่ ‘สังคมผู้สูงวัย’ (Aging society) โดยเฉพาะในกลุ่มอาเซียนที่มีประชากรอายุมากกว่า 65 ปีขึ้นไปถึง 36.9 ล้านคน คิดเป็น 5.89 % ของประชากรทั้งหมดในภูมิภาค ขณะที่ประเทศไทยมีประชากรกว่า 66 ล้านคน มีจำนวนผู้สูงอายุที่อายุมากกว่า 65 ปี ราว 6.5 ล้านคน คิดเป็น 9.9% ของประชากรทั้งหมด ซึ่งไทยเป็นประเทศที่มีสัดส่วนผู้สูงอายุมากเป็นอันดับสองของอาเซียนรองจากสิงคโปร์ โดยเรากำลังจะก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงวัยอย่างเต็มรูปแบบในปี 2564 และจากตัวเลขนี้ทำให้เห็นว่าธุรกิจสำหรับผู้สูงอายุกำลังมาแรง เราจึงขอแนะนำ 5 ธุรกิจมาแรง เมื่อโลกก้าวสู่ สังคมผู้สูงอายุ ดังนี้

1.สินค้าอุปโภคบริโภคและการดูแลสุขภาพ

ธุรกิจอาหารเพื่อสุขภาพ กำลังมาแรงมากๆ เพราะไม่ได้เจาะกลุ่มลูกค้าสูงอายุได้เท่านั้น แต่ยังเจาะกลุ่มคนที่รักสุขภาพด้วยเช่นกัน เช่น ผลิตภัณฑ์อาหารคลีน หรืออาหารไขมันต่ำปราศจากคอเลสเตอรอล เครื่องดื่มที่มีน้ำตาลน้อยหรือไม่มีเลย เป็นต้น ในช่วงปีที่ผ่านมาเราจะเริ่มเห็นธุรกิจนี้เพิ่มมากขึ้น เช่น ปลูกปั่น ที่จำหน่ายน้ำผัก-ผลไม้ปั่นเพื่อสุขภาพ เป็นต้น

นอกจากนี้ผลิตภัณฑ์บำรุงสุขภาพ หรืออาหารเสริมที่ช่วยป้องกันหรือลดความเสี่ยงในการเกิดโรคต่างๆ เช่น โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคมะเร็ง เบาหวาน และระบบย่อยอาหาร ก็กำลังเริ่มเป็นที่นิยม โดยส่วนใหญ่มักชูจุดเด่นว่ามาผลิตจากสมุนไพร ไร้ผลข้างเคียง ทั้งนี้ผู้ที่สนใจทำธุรกิจด้านนี้ควรต้องหาความรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ ต้องจดทะเบียนกับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ให้ถูกต้อง และต้องมั่นใจจริงว่าผลิตภัณฑ์ของคุณดีต่อสุขภาพจริงๆ ด้วย

  1. การท่องเที่ยวสำหรับผู้สูงอายุ

ปัจจุบันสถานที่ท่องเที่ยวส่วนใหญ่ มีออกแบบและพัฒนาเพื่อรองรับการท่องเที่ยวของผู้สูงอายุมากขึ้น (รวมทั้งรองรับการเดินทางของผู้พิการด้วย หรือบางคนอาจรู้จักกันในชื่อ Universal Design) ส่งผลให้การท่องเที่ยวสำหรับผู้สูงอายุสะดวกขึ้นตามไปด้วย จึงเกิดเป็นโมเดลธุรกิจใหม่ นั่นคือ การท่องเที่ยวสำหรับผู้สูงอายุ ซึ่งเป็นการเดินทางที่มีกิจกรรมไม่หนักนัก สถานที่ที่ไปมักมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน เช่น รถรับ-ส่ง รถวีลแชร์ หน่วยพยาบาล เป็นต้น และใช้เวลาท่องเที่ยวแต่ละสถานที่ค่อนข้างนาน มีการแวะพักบ่อยครั้งเพื่อเอื้อต่อการเข้าห้องน้ำที่บ่อยขึ้น เป็นต้น และที่ขาดไม่ได้เลยคือ มีสินค้าที่เหมาะกับผู้สูงอายุจำหน่ายระหว่างเส้นทางท่องเที่ยว เพื่อให้ผู้สูงอายุซื้อติดไม้ติดมือกลับบ้าน โดยอาจใช้ชื่อว่า “มุมสุขภาพ” เพื่อให้ผู้ซื้อไม่รู้สึกเขิน

  1. เฟอร์นิเจอร์สำหรับผู้สูงอายุ

เนื่องจากกลุ่มผู้สูงอายุมีข้อจำกัดในการดำเนินชีวิตมากขึ้น เช่น สภาพร่างกายเริ่มเสื่อมถอย ต้องระมัดระวังในการใช้ชีวิตมากขึ้น ดังนั้นผู้ประกอบการในธุรกิจเฟอร์นิเจอร์และเครื่องใช้ภายในบ้านควรปรับรูปแบบผลิตภัณฑ์ให้เหมาะสมมากขึ้น เช่น เตียงนอนที่สามารถปรับระดับได้และไม่สูงเกินไป ที่นอนยางพาราที่มีความแข็งตัว เก้าอี้ไม้ที่มีพนักพิง และหมอนเพื่อผู้สูงอายุ เป็นต้น เพื่อที่จะช่วยอำนวยความสะดวกในการดำเนินชีวิตมากขึ้น

4.อสังหาริมทรัพย์สำหรับผู้สูงอายุ

คือโมเดลธุรกิจรูปแบบใหม่ ที่ออกแบบมาเพื่อผู้สูงอายุโดยเฉพาะ นั่นคือ ธุรกิจดูแลผู้สูงอายุ เช่น การดูแลระหว่างวันแบบไปเช้า-เย็นกลับ และการพักฟื้นระยะยาว  เช่น ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ ซึ่งจะมีกิจกรรมให้ผู้สูงอายุได้ร่วมทำตลอดเวลา เป็นต้น จะเห็นได้ว่าปัจจุบันโรงพยาบาลเริ่มเปิดศูนย์ดูแลผู้สูงอายุมากขึ้น เนื่องจากโรงพยาบาลมีศักยภาพเพียงพอ ไม่ว่าจะเป็น สถานที่ที่เอื้ออำนวย เครื่องมืออุปกรณ์ และบุคลากรที่เชี่ยวชาญ

นอกจากนี้ยังมีธุรกิจคอนโดมินียมสำหรับผู้สูงอายุ ซึ่งมีบริการครบวงจร เช่น โครงการสวางคนิเวศที่จัดทำโดยสภากาชาดไทย ออกแบบเพื่อให้ผู้สูงอายุ มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน มีหน่วยพยาบาล และที่สำคัญคือมีการคัดสรรผู้พักอาศัยที่มีรสนิยมเดียวกัน สร้างเป็นสังคมระบบพึ่งพา มีการจัดกิจกรรมต่างๆ สม่ำเสมอ ช่วยให้ผู้สูงอายุไม่เหงา และมีความสุขมากขึ้น

5.ปรับบริการเพื่อผู้สูงวัย

นอกจากการสร้างธุรกิจใหม่เพื่อรองรับสังคมผู้สูงอายุแล้ว ผู้ประกอบการรายเดิมอาจใช้วิธีปรับรูปแบบธุรกิจของตนเองเพื่อให้เหมาะสมกับการบริการผู้สูงวัยมากขึ้น เช่น ปรับเวลาการเปิดบริการให้เช้าขึ้น เดิมอาจเปิดร้าน 9.00 น. เปลี่ยนเป็น 7.00 น. เนื่องจากกลุ่มผู้สูงอายุจะมีพฤติกรรม ตื่นเช้า นอนเร็ว หรือร้านอาหาร ควรออกแบบทางเดินกว้างขึ้น มีราวจับเพื่อช่วยพยุง มีทางลาดสำหรับวีลแชร์ เก้าอี้ในร้านควรมั่นคงแข็งแรง มีพนักพิง โต๊ะค่อนข้างเตี้ยกว่ามาตรฐาน เพิ่มเมนูสุขภาพ อาหารอ่อนที่ย่อยง่าย เป็นต้น

เมื่อโอกาสวิ่งเข้ามาแล้วผู้ประกอบการอย่างเราต้องรีบคว้าเอาไว้ให้ทัน ใครที่สร้างสรรค์หรือปรับเปลี่ยนธุรกิจได้ดีที่สุด ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคได้มากที่สุด และที่สำคัญ ทำได้เร็วที่สุด ก็จะประสบความสำเร็จได้ไม่ยาก

เรื่องแนะนำ

เทรนด์ร้านอาหารปี 2018

เทรนด์ร้านอาหารปี 2018 รู้แล้ว ปรับเลย!

ยุคที่เทคโนโลยีมีบทบาทในชีวิตมนุษย์เช่นนี้ ร้านอาหารก็ควรปรับเปลี่ยนบริการให้สอดคล้องกับพฤติกรรมดังกล่าว ว่าแต่ เทรนด์ร้านอาหารปี2018 เป็นอย่างไรบ้างนะ

ธุรกิจอาหาร

20 เทรนด์ ธุรกิจอาหาร ปี 2020 ที่ผู้ประกอบการควรรู้!

20 เทรนด์ ธุรกิจอาหาร ปี 2020 ที่ผู้ประกอบการควรรู้!   1.ให้ความสำคัญกับเทคโนโลยีมากขึ้น เมื่อโลกก้าวไกลเรื่องเทคโนโลยีขึ้นเรื่อยๆ เจ้าของร้านแบรนด์ใหม่ๆ จะเริ่มลงทุนกับการใช้ระบบเทคโนโลยีมากขึ้น และอาจลดแรงงานคนลง ร้านจะให้ลูกค้าบริการตัวเองมากขึ้น เพื่อลดค่าใช้จ่าย ส่วนร้านดั้งเดิมเก่าแก่ ก็จะหันมาใช้ระบบการจัดการใหม่ๆมากขึ้น โดยทายาทรุ่นใหม่ที่เข้ามาบริหารร้านเพื่อควบคุมต้นทุนให้มากที่สุด   2. Social Marketing สำคัญมาก ปฏิเสธไม่ได้ว่ายุคนี้ ถ้าอยากให้ร้านเป็นที่รู้จักมากขึ้น การทำการตลาดบนโลกออนไลน์สำคัญมาก อะไรที่เป็นกระแสใน Social จะส่งผลกระทบรวดเร็ว ทำให้คนอยากลองและตามไปรีวิวมากมาย แต่ที่สำคัญร้านของคุณก็ต้องมีคุณภาพด้วย เพราะอย่าลืมว่าถ้าร้านไม่ดีจริง กระแสมาไวก็ไปไวได้เช่นกัน   3. เดลิเวอรี่ แข่งขันสูง ผู้บริโภคยุคใหม่ต้องการความสะดวกสบายมากขึ้น ทำให้เดลิเวอรี่จึงมาแรงตั้งแต่ปีที่ผ่านมา จนมาถึงปีนี้ และเกิดการแข่งขันกันที่สูงขึ้น ธุรกิจร้านอาหารที่ไม่มีหน้าร้านก็จะเพิ่มขึ้นด้วย ทั้งนี้ก็อยู่ที่ว่าผู้ประกอบการแต่ละรายจะงัดกลยุทธ์ไหนออกมาเพื่อดึงดูดลูกค้าได้มากกว่ากัน   4. มากกว่าการกิน คือการสร้างประสบการณ์ให้ลูกค้า แม้ว่าเรื่องรสชาติจะสำคัญที่สุดในการทำธุรกิจอาหาร แต่ปัจจุบันการสร้างประสบการณ์ใหม่ๆในการทานให้กับลูกค้า เป็นสิ่งที่ทำให้ลูกค้าเกิดความตื่นตาตื่นใจปละประทับใจไม่น้อย เช่น การให้ลูกค้ามีส่วนร่วม หรือแม้แต่การกินอาหารพร้อมโชว์เทคโนโลยี AR   5. […]

Food Trend เทรนด์อาหารมาแรง 2018

เมื่อเทรนด์อาหาร ก็เหมือนเทรนด์แฟชั่น ที่ถูกเปลี่ยนไปตามกระแสไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภค ลองมาดู เทรนด์อาหารมาแรง ปี 2018 กันดีกว่าครับว่ามีอะไรบ้าง

เปิดเพลงในร้านอาหาร

5 วิธี เปิดเพลงในร้านอาหาร ไม่ให้ละเมิดลิขสิทธิ์

ก่อนหน้านี้เรามักจะได้ยินข่าวอยู่บ่อยๆว่า ร้านอาหาร ร้านกาแฟ ที่เปิดเพลงต่างๆ ภายในร้านของตัวเอง ถูกดำเนินคดีในข้อหาละเมิดลิขสิทธิ์งานเพลง หรือแม้แต่ข่าวตัวศิลปินเอง ที่นำเพลงมาร้องก็ถูกดำเนินคดีเช่นกัน ต้องบอกเลยว่าในยุคปัจจุบันนี้ ปัญหาเรื่องลิขสิทธิ์เพลงเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นอยู่บ่อยครั้ง เพราะเป็นเรื่องที่ค่อนข้างซับซ้อน และมีรายละเอียดมาก ซึ่งเจ้าของร้านบางราย หรือตัวศิลปินที่นำเพลงมาร้องตามร้านนั้น อาจจะยังไม่เข้าใจถึงข้อกฎหมายในเรื่องลิขสิทธิ์เพลงที่ชัดเจนมากพอ วันนี้ Amarin Academy จะมาอธิบายให้ทราบว่า จะมีวิธี เปิดเพลงในร้านอาหาร อย่างไรไม่ให้ผิดกฎหมาย และหากถูกกล่าวหาว่าละเมิดลิขสิทธิ์งานเพลง ต้องทำอย่างไร มาดูกันค่ะ   5 วิธี เปิดเพลงในร้านอาหาร ไม่ให้ละเมิดลิขสิทธิ์ ตรวจสอบรายชื่อเพลงที่จะใช้เปิด ว่ามีบริษัทใดจัดเก็บค่าลิขสิทธิ์บ้าง ตรวจสอบได้ที่เว็บไซต์กรมทรัพย์สินทางปัญญา www.ipthailand.go.th เลือกใช้เพลงที่ศิลปินหรือค่ายเพลง ประกาศอนุญาตให้ใช้ได้โดยไม่เสียค่าลิขสิทธิ์ จำกัดการใช้งานเพลงเพื่อลดต้นทุนค่าลิขสิทธิ์ และลดปัญหาการถูกดำเนินคดี ตรวจสอบความเคลื่อนไหวของรายชื่อเพลงที่แจ้งจัดเก็บค่าลิขสิทธิ์ในเว็บไซต์กรมทรัพย์สินทางปัญญาอย่างต่อเนื่อง หากเกิดการละเมิดลิขสิทธิ์เพลง และต้องการจ่ายค่ายอมความจะต้องกระทำต่อหน้าเจ้าหน้าที่ตำรวจ และระบุรายชื่อเพลง และจำนวนเงินที่ยอมความในบันทึกยอมความไว้เป็นหลักฐานเสมอ   สำหรับทั้ง 5 คำแนะนำข้างต้น เจ้าของร้านที่จะ เปิดเพลงในร้านอาหาร ควรจะต้องรีบตรวจสอบเลยค่ะ ว่างานเพลงที่ใช้เปิดอยู่นั้นมีเจ้าของลิขสิทธิ์หรือไม่ และดำเนินการเจรจาค่าลิขสิทธิ์ให้ถูกต้องตามกฎหมาย ตัวเจ้าร้านเองก็จะได้สบายใจ ไม่ต้องกังวลว่าจะถูกดำเนินคดีค่ะ แต่ถ้าหากพูดถึงอีกหนึ่งกรณี […]

Follow Me

Contact

เว็บไซต์ : amarinacademy.com
บริษัท เอเอ็มอี อิมเมจิเนทีฟ จำกัด
ในเครือ บริษัท อมรินทร์ คอร์เปอเรชั่นส์ จำกัด (มหาชน)
Tel : 02-422-9999 ต่อ 4662 หรือ 4669, 092-254-0742
Email : amarin.academy@gmail.com

ติดต่อแจ้งปัญหาหรือร้องเรียน
02-422-9999 ต่อ 4180
(จันทร์ – ศุกร์ เวลา 09.00 – 18.00 น)
bdcx@amarin.co.th

สนใจลงโฆษณากับเว็บไซต์ Amarin Academy
Tel. 081-664-0666, 091-729-8060
E-mail : sineenart_ya@amarin.co.th

© COPYRIGHT 2025 AME IMAGINATIVE COMPANY LIMITED.