เทคนิค การออกแบบเมนู ให้เปรี้ยง - Amarin Academy

เทคนิค การออกแบบเมนู ให้เปรี้ยง

เทคนิค การออกแบบเมนู ให้เปรี้ยง

เคยสงสัยไหมว่า ทำไมบางครั้ง เราใช้เวลาเลือกอาหารเพียงไม่ถึง 1 นาที แต่บางทีเปิดเมนูพลิกไปพลิกมาอยู่นานก็ตัดสินใจไม่ได้ หรือว่า การออกแบบเมนู ส่งผลต่อการตัดสินใจของเราด้วย เพราะอะไรจึงเป็นเช่นนั้น วันนี้เราจะมาไขความลับกัน

สาเหตุที่เป็นเช่นนั้นเพราะร้านอาหารบางแห่งใช้หลักจิตวิทยาในการออกแบบเมนู เพื่อช่วยดึงดูดให้ลูกค้าสั่งอาหารได้เร็วขึ้น มากขึ้น และบางครั้งยังชักจูงให้ลูกค้าสั่งอาหารจานที่เรากำหนดได้ด้วย โดยใช้หลักการหลายๆ อย่างเข้ามาประกอบ เช่น การใช้สี การจัดวางองค์ประกอบ การใช้คำ เป็นต้น ฉะนั้นหากเจ้าของธุรกิจท่านใดอยากพัฒนาเมนูของคุณให้มีคุณสมบัติดังกล่าว ลองทำตามเทคนิคเหล่านี้กันเลยครับ

1.สีสื่อความหมายได้มากกว่าที่คิด

ทฤษฎีสีเป็นสิ่งที่ผู้ประกอบการร้านอาหารควรศึกษาไว้ เพราะสีส่งอิทธิพลต่อการรับรู้ของมนุษย์ได้มากกว่าที่คิด เช่น สีเขียว สื่อความหมายถึงความสดชื่น จึงควรใช้ประกอบเมนูที่โดดเด่นด้านความสด สะอาด สีส้ม ช่วยกระตุ้นความอยากอาหาร สีเหลือง สื่อความหมายถึงความสุข จึงดึงดูดสายตาของลูกค้าได้ดี สีแดง กระตุ้นให้เกิดการซื้อ ฉะนั้นจึงควรใช้กับเมนูที่เราอยากขายมากที่สุด เป็นต้น

2.ใช้ทฤษฎีสามเหลี่ยมทองคำ

ข้อนี้ไม่ใช่สถานที่นะครับ แต่เป็นทฤษฎีเกี่ยวกับการจัดองค์ประกอบที่มีชื่อว่า Golden Triangle โดยปกติแล้วเวลาเรามองเมนูอาหาร สายตาจะตรงไปที่บริเวณกึ่งกลางก่อน จากนั้นจึงค่อยๆ เลื่อนสายตาไปด้านขวาบน และสุดท้ายจะหยุดที่ด้านซ้ายบน เกิดเป็นสามเหลี่ยมกลับหัว ฉะนั้น คุณควรใส่เมนูที่โดดเด่น และต้องการให้ลูกค้าสั่งบริเวณ 3 จุดยุทธศาสตร์นี้ รับรองว่าได้ผลแน่นอน

3.ใช้คำอธิบายเมนูให้ดูน่าตื่นตาตื่นใจ

“จานเด็ด” “Recommend dish” “เปรี้ยวซ่า สะใจ” “กรอบสะท้านโลก” รู้ไหมครับว่า คำอธิบายเหล่านี้ช่วยกระตุ้นให้ลูกค้าสนใจและอยากสั่งอาหารได้มากเลยทีเดียว ลองคิดคำเด็ดๆ แล้วใส่ลงไปในเมนูที่คุณอยากขาย แต่อย่าใส่มากเกินไปนะครับ เพราะลูกค้าอาจจะสับสนได้ เลือกมาเฉพาะเมนูเด็ดๆ ก็พอแล้ว

4.เลือก 2 เมนูเด็ด ไว้บนสุดของเมนู

เคยไหมครับ ดูเมนูมาตั้งนานแต่ย้อนกลับไปสั่ง 2 จานแรกที่อยู่บนสุดของเมนู นี่ถือเป็นพฤติกรรมส่วนใหญ่ของผู้บริโภคก็ว่าได้ ส่วนตำแหน่งที่ 3 ที่คนนิยมสั่งรองลงมาคือ บริเวณท้ายสุดของเมนู ฉะนั้นหากจานไหนเด็ดจริง (และมีกำไรมาก) วาง 3 จานนั้นไว้ทั้ง 3 จุดแบบไม่ต้องคิดมากเลย

5.ตั้งราคาให้ดึงดูดใจ

เทคนิคการตั้งราคา 199 หรือ 259 หรือ 299 เป็นอีกหนึ่งวิธีที่หลายคนคงคุ้นเคยดี เพราะร้านอาหาร (และร้านค้าอื่นๆ) แทบทุกร้านนิยมใช้เทคนิคนี้ เนื่องจากทำให้ลูกค้ารู้สึกว่าราคาไม่แพงจนเกินไป (แม้จะเพิ่มอีกแค่ 1 บาทก็ตาม) ฉะนั้นถ้าจะเปิดร้านก็อย่างลืมนำเทคนิคนี้ไปใช้นะครับ

6.อย่าเยอะ

เคยเข้าร้านอาหารแล้วเจอเมนูหนาเป็นเล่ม ละลานตาเป็นร้อยๆ เมนูกันไหมครับ ฟังดูเป็นสิ่งที่ดี ผู้บริโภคจะได้มีทางเลือกเยอะๆ แต่จริงๆ แล้วถือเป็นวิธีการที่ไม่ค่อยดีสักเท่าไร เพราะเมนูยิ่งเยอะ ลูกค้ายิ่งเลือกไม่ถูก การที่ต้องเลือกอาหาร 1 อย่างจากหลายร้อยอย่าง เป็นใคร ใครก็เครียดนะครับ อันที่จริงตัวเลขที่เหมาะสมที่สุด ไม่มากเกินไปและน้อยเกินไปคือ ชนิดละ 7 เมนู (อาจแบ่งหมวดเป็นจานผัด จานทอด ของหวาน ฯลฯ อย่างละ 7 เมนู) เท่านี้ลูกค้าก็เลือกได้อย่างสบายใจ เราก็ไม่ต้องเหนื่อยคิด เหนื่อยทำ เหนื่อยจำ โดยไม่เกิดประโยชน์อีกด้วย

7.จะเด่นจะดังมันต้องมีเรื่องราว

ใครจะรู้ว่าประวัติของอาหาร มีอิทธิพลต่อผู้ซื้อไม่แพ้รสชาติ (และราคา) เลยนะครับ เพราะมันทำให้ลูกค้ารู้สึกว่าอาหารที่เขาซื้อมีคุณค่ามากยิ่งขึ้น ยิ่งเรื่องราวลึกซึ้งกินใจมากเท่าไร คนก็ยิ่ง “อิน” มากเท่านั้น ลองยกตัวอย่างง่ายๆ ถ้ามีร้านพายแอปเปิล 2 ร้านตั้งอยู่ใกล้กัน ร้านหนึ่งใช้ชื่อเมนูว่า พายแอปเปิล อีกร้านใช้ชื่อว่า พายแอปเปิลของคุณยาย คุณว่า ลูกค้ามีแนวโน้มจะเลือกเดินเข้าร้านไหนมากกว่าครับ

8.ตกแต่งจานให้สวย เพิ่มมูลค่าอาหาร

การตกแต่งจาน ไม่ใช่เพียงแค่การจัดวางอาหารอย่างมีสไตล์เท่านั้น ยังรวมไปถึงการเพิ่ม เสริม เติม แต่งจานนั้นๆ ด้วยวัตถุดิบเกรดพรีเมียมเล็กๆ น้อยๆ ทำให้ลูกค้ารู้สึกว่าอาหารจานนั้นดูมีคุณค่ามากยิ่งขึ้น เช่น ซูชิแซลมอนธรรมดา ลอง Top ด้วยไข่ปลาแซลมอนสักนิด หรือปิดทองลงไปสักหน่อย เพิ่มวิตถุดิบเพียงนิดเดียว แต่กลับทำให้ลูกค้าประทับใจมากขึ้น (แถมอัพราคาให้สูงขึ้นได้อีกด้วย)

9.เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับเมนูลงไปสักนิด

เมนูส่วนใหญ่มักมีคำอธิบายวัตถุดิบเล็กน้อย เพื่อให้ลูกค้าเข้าใจว่าอาหารที่พวกเขากำลังจะสั่งมีส่วนประกอบใดบ้าง โดยปกติแล้วทุกเมนูจะจัดวางในรูปแบบเดียวกัน ไม่มีเมนูไหนโดดเด่นเป็นพิเศษ ฉะนั้นลองเลือกเมนูเด็ดๆ มาสัก 2-3 เมนู แล้วจัดวางให้โดดเด่น แตกต่างจากรูปแบบเดิมๆ พร้อมเพิ่มเติมเรื่องราวเกี่ยวกับเมนูลงไปสักหน่อย อาหารนั้นก็จะกลายเป็นเมนูหลักที่คนสั่งแทบทุกโต๊ะได้ไม่ยาก

10.ให้ข้อมูลลูกค้าให้มากหน่อย

ข้อนี้เป็นเทคนิคสำหรับร้านอาหารที่ต้องการจำหน่ายไวน์ ซึ่งมีการแข่งขันค่อนข้างสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตลาดกลุ่ม Hi-end ฉะนั้นเทคนิคสำคัญในการจูงใจลูกค้าให้เลือกไวน์ที่เราต้องการจำหน่ายคือ ให้ข้อมูลเกี่ยวกับไวน์ขวดนั้นๆ ให้มากที่สุด เพราะยิ่งเราให้ข้อมูลมากเท่าไร ลูกค้าก็มีแนวโน้มเลือกไวน์ขวดที่เราเสนอมากเท่านั้น

11.วางเมนูเด็ดไว้บริเวณพื้นที่โล่งๆ

ตามธรรมชาติของคน เมื่อใช้สายตาอ่านมากไป มักหันไปพักสายตากับพื้นที่ว่างๆ ดูสบายตา นักออกแบบเมนูจึงใช้หลักการนี้เป็นข้อได้เปรียบ หากเจ้าของร้านอาหารต้องการจำหน่ายอาหารจานไหนเป็นพิเศษ มักจะจัดวางเมนูนั้นไว้ที่พื้นที่ที่ค่อนข้างโล่ง แยกออกจากส่วนที่เป็นตัวอักษร เพราะเป็นส่วนที่มั่นใจได้ว่าลูกค้าจะต้องหันมาพักสายตาและเห็นเมนูนี้แน่นอน

12.วัสดุที่ทำเมนูส่งผลต่อภาพลักษณ์ของร้าน

เคยสังเกตไหมว่า ร้านอาหารระดับ Hi-end ส่วนใหญ่ มักใช้แผ่นหนังหรือกระดาษแข็งคุณภาพสูงในการจัดทำเมนู เพราะวัสดุเหล่านี้สะท้อนภาพลักษณ์ของร้านอาหารได้เช่นกัน ทำให้ผู้บริโภครู้สึกว่า อาหารทุกจานต้องมีคุณภาพสูงตามวัสดุที่ใช้ทำเมนูไปด้วย

13.มีส่วนอธิบายเมนูเฉพาะ

เคยเข้าร้านอาหารที่ตั้งชื่อเมนูแปลกๆ เช่น ไก่กรอบหมักซอสซุปเปอร์ หมูสะท้านโลก กันบ้างไหมครับ วิธีนี้ถือเป็นไอเดียการตั้งชื่อเมนูที่น่าสนใจ ดึงดูดให้ลูกค้าอยากสั่งมาลองรับประทานมากขึ้น แต่ก่อนที่เขาจะสั่งก็ต้องสงสัยกันบ้างว่า เจ้าเมนูเหล่านี้มีหน้าตา ส่วนผสมและวิธีการอย่างไร จะให้พนักงานเราบอกทุกโต๊ะก็คงจะเสียเวลาน่าดู ฉะนั้น จึงต้องเพิ่มส่วนอธิบายเมนูขึ้นมาสักหน่อย เพื่อให้ลูกค้ารู้ว่าสิ่งที่เขาจะสั่งคืออะไร วิธีนี้จะช่วยให้เขาตัดสินใจสั่งได้รวดเร็วยิ่งขึ้น

ใครจะรู้ว่าเมนูอาหารมีอิทธิพลต่อการสั่งอาหารของลูกค้าได้มากถึงเพียงนี้ ทราบอย่างนี้แล้ว เจ้าของร้านอาหารท่านไหนกำลังจะออกแบบเมนูใหม่หรืออยากจะปรับปรุงเมนูเดิม อย่าลืมนำเทคนิคเหล่านี้ไปใช้นะครับ

ขอบคุณ http://aaronallen.com

When we borrow work from other authors, living or essay writing help dead, we have to consider academic writers online 1.

เรื่องแนะนำ

ฟาสต์ฟู้ด

ฟาสต์ฟู้ด แห่ง ฮอยอัน Banh Mi มีดีอะไร?

หนาวนี้ที่เวียดนาม เดอะซีรีส์ ตอนที่ 2 ฟาสต์ฟู้ด แห่ง ฮอยอัน Banh Mi มีดีอะไร? เมืองฮอยอัน ประเทศเวียดนาม เมืองที่เต็มไปด้วยนักท่องเที่ยว และอุดมสมบูรณ์ไปด้วยอาหารการกินมากมาย วันนี้เราไม่พลาดที่จะมาลอง ฟาสต์ฟู้ดสไตล์เวียดนามกันบ้าง ว่าเมนูเด็ดคืออะไร? และทำไมถึงครองใจทั้งชาวเวียดนามและชาวต่างชาติได้   ฟาสต์ฟู้ด แห่ง เมืองฮอยอัน              เรามาทำความรู้จัก “ฮอยอัน” หรือ “โห่ยอาน” คร่าวๆกันก่อน ฮอยอันถือได้ว่าเป็นเมืองขนาดเล็กอยู่ตรงฝั่งทะเลจีนใต้ ในเขตจังหวัด “กว๋างนาม” ทางตอนกลางของประเทศเวียดนาม เมืองฮอยอันได้รับการขึ้นทะเบียนมรดกโลก เมื่อปี พ.ศ. 2542 โดยองค์การยูเนสโก ด้วยเหตุผลว่าเป็นตัวอย่างของเมืองท่าในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่มีการผสมผสานศิลปะและสถาปัตยกรรมทั้งของท้องถิ่นและของต่างชาติไว้อย่างมีเอกลักษณ์             ในอดีตเมืองฮอยอันเป็นเมืองแห่งความคึกคัก เนืองแน่นเนื่องจากมีทั้งชาวดัตท์ จีน ญี่ปุ่นและอินเดียเดินทางเข้ามาตั้งหลักปักฐาน ทำมาค้าขายกันในเมืองนี้จำนวนมาก จนถึงทุกวันนี้ฮอยอัน ยังคงมีนักท่องเที่ยวเข้ามาเยี่ยมเยือนตลอด ที่เจอเยอะมากๆเลย คือนักท่องเที่ยวชาวเกาหลี และชาวจีน จึงได้รับการขนานนามว่า […]

แต่งร้านอาหารวันฮาโลวีน

รวมไอเดียหลอน แต่งร้านอาหารวันฮาโลวีน

ใกล้ช่วงเทศกาลวันฮาโลวีนแบบนี้ ก็ต้องหาอะไรสนุกๆกันหน่อยค่ะ ผู้ประกอบการร้านอาหารคงเริ่มหาไอเดียในการแต่งร้านแบบหลอนๆ ให้เข้ากับเทศกาลกันบ้างแล้วใช่ไหมคะ ดังนั้นจะต้องมีของตกแต่งสุดหลอน มาเพิ่มความสนุกสนานและตื่นเต้นให้กับลูกค้ากันหน่อย จะมีไอเดีย แต่งร้านอาหารวันฮาโลวีน อย่างไรบ้างมาดูกันค่ะ      รวมไอเดียหลอนๆ แต่งร้านอาหารวันฮาโลวีน   ซุ้มประตูฟักทอง เริ่มความหลอนจากหน้าร้านกันก่อนเลยค่ะ กับการตกแต่งซุ้มประตูทางเข้าร้านอาหารให้เป็นซุ้มฟักทอง อาจจะเพิ่มการประดับไฟ  และของตกแต่งอื่นๆ ช่วยเพิ่มความหลอนเข้าไปอีก เรียกว่าแค่เห็นหน้าร้านก็ตื่นเต้น ชวนให้เช็คอินแล้วค่ะ   หมอนอิง หมอนประดับ ของตกแต่งต่อมากับความหลอนแบบเบาๆ น่ารักๆกันหน่อยค่ะ กับของตกแต่งร้านที่เป็นหมอนอิง หรือหมอนประดับตามโซฟา ได้ความหลอนเบาๆ แต่ยังคงความน่ารักอยู่ค่ะ ซึ่งลายก็เลือกให้เหมาะกับวันฮาโลวีน เช่น ลายฟักทอง ลายใยแมงมุม ฯลฯ   เงาหลอนประดับกระจก ถ้าเราเห็นเงาลางๆบนกระจก กับไฟสลัวๆ ก็คงจะหลอนอยู่ไม่น้อยนะคะ ดังนั้น ของตกแต่งเงาหลอนประดับกระจก น่าจะเป็นอีกหนึ่งของตกแต่งเก่ๆ ที่เหมาะกับการแต่งร้านในช่วงเทศกาลฮาโลวีนมากเลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็นเงารูปคน เงาต้นไม้ เงาวิญญาณหลอน หรือรูปแบบอื่นๆ ซึ่งเดี๋ยวนี้มีแบบที่เป็นสติ๊กเกอร์ใช้งานง่ายค่ะ   ลูกโป่งผีเรืองแสง เป็นไอเดียที่ทำง่ายที่สุดแล้ว เพราะแค่นำลูกโป่งสีเหลืองหรือสีเขียวอ่อน ๆ […]

บรรจุภัณฑ์

Food Packaging สำคัญเลือก บรรจุภัณฑ์ อย่างไรให้เหมาะกับอาหาร

จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 ทำให้มีมาตรการปิดห้างสรรพสินค้าและตลาด รวมถึงร้านอาหารทุกแห่งในกรุงเทพ ฯ ที่ต้องเป็นลักษณะการขายแบบให้ลูกค้าซื้อกลับบ้าน (take away) หรือเดลิเวอรีเท่านั้น ซึ่งแน่นอนว่าทางร้านจะต้องแบกรับค่าใช้จ่ายของ Food Packaging หรือ บรรจุภัณฑ์ ที่ใช้บรรจุอาหารเพิ่มขึ้น ซึ่งบางท่านอาจจะคิดว่าการเลือกบรรจุภัณฑ์อาหารไม่ใช่เรื่องสำคัญเท่าไหร่นัก เป็นแบบไหนก็ได้ แต่ไม่ใช่เลยค่ะ การเลือกบรรจุภัณฑ์ที่ใช้สำหรับใส่อาหาร ยังต้องมีสิ่งที่ควรคำนึงถึงมากกว่านั้น Food Packaging สำคัญ เลือก บรรจุภัณฑ์ อย่างไรให้เหมาะกับอาหาร เมื่อร้านต้องปรับตัวมาขายแบบเดลิเวอรี หรือขายสำหรับให้ลูกค้าซื้อกลับบ้านมากขึ้น การเลือก บรรจุภัณฑ์ สำหรับใส่อาหารจึงเป็นสิ่งสำคัญ อย่างที่กล่าวไปไม่ใช่แค่เลือกว่าใส่อาหารได้แล้วจบ แต่สิ่งที่ต้องคำนึงถึงเพิ่มเติมก็คือ   ต้องรักษาคุณภาพอาหาร บรรจุภัณฑ์จะต้องช่วยรักษาคุณภาพอาหารให้คงที่จนถึงมือลูกค้า ไม่ให้มีการปนเปื้อนจากฝุ่น แมลง หรือเชื้อโรคต่างๆ รวมถึงควรที่จะช่วยยืดอายุการเก็บรักษาอาหารได้ด้วย ขนส่งสะดวก การออกแบบหรือการเลือกบรรจุภัณฑ์อาหารที่เหมาะสมกับประเภทของอาหาร จะช่วยให้การขนส่งอาหารสะดวกขึ้น และป้องกันอาหารไม่ให้เกิดความเสียหายมากระหว่างการเดินทาง ซึ่งถือเป็นสิ่งที่สำคัญในการจัดส่งอาหารแบบเดลิเวอรี ส่งเสริมการตลาด นอกจากภาพอาหารที่น่ารับประทานแล้ว บรรจุภัณฑ์ที่สวยงาม ดีไซน์เก๋ แปลกตาก็สามารถสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับร้านอาหารได้เลยทีเดียว เป็นเหมือนโฆษณาที่เชิญชวนให้ผู้บริโภคที่เห็นผลิตภัณฑ์เกิดการตัดสินใจซื้อที่มากขึ้น สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับอาหาร ยิ่งไปกว่านั้นถ้าหากร้านที่เลือกใช้วัสดุที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมด้วย ก็ยิ่งเป็นการแสดงถึงความรับผิดชอบต่อสังคม ก็จะยิ่งได้ใจผู้บริโภคเพิ่มมากขึ้นอีก  […]

Follow Me

Contact

เว็บไซต์ : amarinacademy.com
บริษัท เอเอ็มอี อิมเมจิเนทีฟ จำกัด
ในเครือ บริษัท อมรินทร์ คอร์เปอเรชั่นส์ จำกัด (มหาชน)
Tel : 02-422-9999 ต่อ 4662 หรือ 4669, 092-254-0742
Email : amarin.academy@gmail.com

ติดต่อแจ้งปัญหาหรือร้องเรียน
02-422-9999 ต่อ 4180
(จันทร์ – ศุกร์ เวลา 09.00 – 18.00 น)
bdcx@amarin.co.th

สนใจลงโฆษณากับเว็บไซต์ Amarin Academy
Tel. 081-664-0666, 091-729-8060
E-mail : sineenart_ya@amarin.co.th

© COPYRIGHT 2025 AME IMAGINATIVE COMPANY LIMITED.