เจริญชัยไก่ตอน เผยเทคนิคบริหารร้าน 24 ชั่วโมง ให้ได้ล้าน! - Amarin Academy

เจริญชัยไก่ตอน เผยเทคนิคบริหารร้าน 24 ชั่วโมง ให้ได้ล้าน!

เจริญชัยไก่ตอน เผยเทคนิคบริหารร้าน 24 ชั่วโมง ให้ได้ล้าน!

ลองทายกันเล่นๆ ดูสิว่า ร้านข้าวมันไก่ 1 ร้าน ตั้งอยู่ในตึกแถว 2 คูหา จะมียอดขายกี่บาทต่อเดือน? …เฉลยเดือนละ 3.6 ล้านบาท ถือว่าสูงมากๆ เลยใช่ไหม เมื่อคิดจากราคาขายต่อจานคือ 35-50 บาท เท่ากับ เจริญชัยไก่ตอน ขายข้าวมันไก่ได้ประมาณ 68,000 จาน และใช้ไก่ประมาณ 6 ตันต่อเดือน สงสัยใช่ไหมว่า เพราะอะไรยอดขายถึงดีมากเพียงนี้ วันนี้เราจะพาไปหาคำตอบจาก คุณนภาพร พันเยี่ยม เจ้าของร้านเจริญชัยไก่ตอนกัน

จุดเริ่มต้นของข้าวมันไก่หลักล้าน

ร้านแห่งนี้มีจุดเริ่มต้นเมื่อ 40 ปีที่แล้ว คุณปู่เปิดร้านข้าวมันไก่เล็กๆ เป็นรถเข็น โดยเป็นสูตรต้นตำรับข้าวมันไก่ไหหลำแท้ๆ ด้วยความที่สูตรของเราต่างจากเจ้าอื่นๆ โดยเฉพาะข้าว ที่เป็นสูตรเฉพาะ กลิ่นหอมเครื่องเทศไม่เหมือนใคร โดยเราจะเจียวเครื่องเทศให้หอมก่อน จากนั้นจึงนำไปคลุกเคล้ากับข้าวในภายหลัง ส่วนไก่เราก็คัดพิเศษทุกตัว เนื้อนุ่มชุ่มฉ่ำ จึงทำให้มีลูกค้าที่ติดใจในรสชาติเยอะมาก

เมื่อเราขายดีก็เริ่มย้ายมาเช่าตึกห้องเล็กๆ เริ่มเพิ่มเมนูจากข้าวมันไก่อย่างเดียว เป็นเมนูอื่นๆ ด้วย เช่น ซุปเปอร์ขาไก่ ต้มยำไก่ ขาไก่ลวกจิ้ม เป็นต้น โดยต่อยอดจากวัตถุดิบเดิมที่เรามีนั่นคือไก่ เพราะเราคิดว่าไก่ทำอะไรได้ตั้งหลายอย่าง ไม่จำเป็นต้องทำข้าวมันไก่อย่างเดียว นอกจากนี้ยังเพิ่มก๋วยเตี๋ยวหมู ซึ่งเป็นเมนูที่กินง่าย และสะดวก หลังจากนั้นเราก็ขยับขยายร้านมาที่ร้านนี้ (ประชาชื่น 24) ซึ่งย้ายมาได้ประมาณ 4 ปีแล้ว

หลังจากย้ายมาประมาณ 1 เดือน เราเห็นว่ากลางวันคนก็เยอะ กลางคืนคนก็เยอะไม่แพ้กัน จากเดิมที่เราเปิดแค่ช่วงบ่าย 2 โมง ถึงตี 2 เลยทดลองเปิดร้านช่วงกลางวัน 1 เดือน กลางคืนอีก 1 เดือน พอเห็นว่ายอดขายดี เดือนที่ 3 จึงตัดสินใจเปิด 24 ชั่วโมงทันที โดยเราอยู่กะกลางวัน และพี่สาวกับพี่เขยอยู่กะกลางคืน

ตอนที่เปิด 24 ชั่วโมงคิดอย่างเดียวว่า ขอลองดูหน่อย ถามว่ามันเสี่ยงไหม ก็เสี่ยงเหมือนกันว่าจะไม่มีคน หรือบริหารจัดการไม่ได้ แต่เราเชื่อว่าการทำธุรกิจต้องกล้า ต้องลองเสี่ยง เพราะถ้าไม่ลองเราก็ไม่รู้หรอกว่ามันจะดีไหม เราก็ถือว่ามาถูกทาง เพราะเปิดเดือนแรกก็ได้จับเงินล้านเลย

เทคนิคการบริหารงานแบบ 24 ชั่วโมง

หลายคนชอบถามว่ากลางคืนขายได้เหรอ จะมีลูกค้าเหรอ จริงๆ อยากจะบอกว่าเวลากลางคืนขายดีกว่ากลางวันอีก เพราะเราได้กลุ่มนักเที่ยว ที่เขาไปเที่ยวมาแล้วหิว กลางคืนไม่มีร้านไหนเปิดก็มากินร้านเรา อาจจะมีปัญหามากกว่ากลางวันบ้าง เพราะหลายคนดื่มมาบ้าง แต่เราก็พยายามบริการให้ดีที่สุด เขาแข็งมาเราก็อ่อน ใช้วิธีประณีประณอม ทุกอย่างก็ผ่านไปได้

แต่การบริหารงานแบบ 24 ชั่วโมงถือว่ายากมากๆ และเหนื่อยมากๆ เพราะเราต้องมีการบริหารจัดการที่ดี มีการแบ่งหน้าที่ ถึงจะทำงานได้โดยไม่มีสะดุด ตอนนี้ร้านเราแบ่งการทำงานเป็น 2 กะ กะกลางวันมีพนักงานประมาณ 10-11 คน กลางคืนประมาณ 14-15 คน โดยแยกพนักงานเป็นแต่ละแผนก สับไก่ เสิร์ฟ ทำต้มยำ ทุกคนจะแบ่งการทำงานอย่างชัดเจน งานจึงไม่ค่อยมีปัญหา

ส่วนตัวเราเองจะไม่ได้ลงมือทำงานเองทุกอย่าง แต่คอยควบคุมคุณภาพ ตรวจสอบรสชาติอาหารและการบริหารอย่างสม่ำเสมอ คอยดูว่าลูกค้าต้องการอะไรเพิ่มเติมไหม บริการตรงไหนขาดตกบกพร่องเราก็ช่วยเสริม เจ้าของร้านบางคนอาจจะเห็นว่ามีลูกน้องทำแล้ว ไม่ต้องคอยดูก็ได้ แต่เราไม่คิดอย่างนั้น มีลูกน้องทำ เรายิ่งต้องดู ต้องคอยตรวจสอบ ทุกวันนี้เราต้องชิมข้าวทุกวัน ชิมต้มยำทุกวัน เพราะถ้ารสชาติเพี้ยนลูกค้าก็อาจจะไม่ประทับใจ

เช่นกันหลายคนอาจสงสัยว่าเปิด 24 ชั่วโมงแล้วจะมีเวลาทำความสะอาดร้านอย่างไร จริงๆ เราทำความสะอาดทุกวัน โดยจะทำช่วงที่ลูกค้าไม่เยอะ ตึกเรามี 2 ห้อง ก็ทยอยทำความสะอาดทีละห้อง ก่อนทำความสะอาดพนักงานจะบอกให้ลูกค้านั่งที่ฝั่งเดียว อีกฝั่งเราก็จะยกโต๊ะ เก้าอี้ เก็บกวาด ทำความสะอาด โดยไม่ได้ปิดร้าน เพราะถ้าปิดร้านเราก็สูญเสียรายได้

ไม่สต็อกของ ได้ของสดและไม่เสี่ยง

โดยเฉลี่ยวันธรรมดา จันทร์-ศุกร์ เราจะใช้ไก่ประมาณ 50-60 ตัว ส่วนเสาร์-อาทิตย์ จะใช้ไก่ 90 ตัวขึ้นไป ร้านเราขายไก่เยอะก็จริง แต่จะไม่สต็อกของเลย เพราะว่าข้อแรก เราอยากให้ลูกค้าได้กินของสด ใหม่ ไม่ใช่ไก่แช่ฟรีซ ข้อสอง เราป้องกันความเสี่ยงให้ร้านเราเอง เพราะถ้าซื้อมาเก็บไว้แล้วไก่เกิดเน่าเสียขึ้นมา เราเองจะลำบาก จึงตัดสินใจไม่แบกความเสี่ยงไว้ดีกว่า แต่ข้อเสียของการไม่สต็อกคือ ถ้าวันไหนเจ้าประจำไม่มีไก่ส่งเรา เราก็ไม่มีขายเหมือนกัน

บริหารงานลูกน้องด้วยใจ ใครๆ ก็อยากทำงานด้วย

ร้านอาหารหลายๆ ร้านมักเจอปัญหาหลักๆ คือลูกน้องลาออก แต่เราไม่ค่อยเจอ แทบไม่เป็นปัญหาเลย อาจจะเป็นเพราะเราให้ใจกับลูกน้อง เต็มที่มากๆ กินฟรี อยู่ฟรี รักษาพยาบาลฟรี เข้าโรงพยาบาลเอกชน มีสวัสดิการทุกอย่าง เพราะเราคิดถึงใจเขาใจเรา ใครๆ ก็อยากได้รับการดูแลที่ดี เขามาทำงานให้เรา เขาก็เหนื่อยเหมือนกัน ถ้าไม่มีเขาเราก็แย่ ฉะนั้นต้องดูแลให้ดีที่สุด มันคือการพึ่งพากัน เราคิดถึงข้อนี้เป็นอันดับแรก

แต่ปัญหาส่วนใหญ่ที่เจอเป็นการสื่อสารมากกว่า เพราะลูกน้องเราเป็นต่างชาติ ก็จะมีปัญหาเรื่องภาษาที่คุยแล้วไม่เข้าใจกัน แต่เราแก้โดยการวางหน้าที่ให้เขาชัดเจนไปเลย ถ้ามีปัญหาตรงไหน มาบอก เราจะช่วยจัดการให้

อนาคต ของเจริญชัยไก่ตอน

จริงๆ มีคนมาขอซื้อเฟรนไชน์เยอะมากๆ แต่เรายังไม่คิดจะขาย เพราะเราไม่รู้ว่าการที่เขาเอาชื่อร้านเราไปแล้วเขาจะทำได้ดี มีคุณภาพเหมือนเราทำเองหรือเปล่า ถ้าทำไม่ดีมันจะเสียมาถึงเราด้วย จึงคิดว่าถ้าจะขยายก็ขอขยายเองดีกว่า แต่คงเป็นเรื่องของอนาคต ต้องวางแผนอีกที เพราะตอนนี้ก็มีห้างสรรพสินค้าติดต่อให้ไปเปิดใน Food court เราก็ยังตัดสินใจอยู่ เพราะตอนนี้ยังไม่พร้อม อยากศึกษาข้อมูลให้มากกว่านี้ อยากฝึกเด็กให้หนัก ให้เขาทำงานได้มาตรฐาน มีระบบบริหารจัดการที่ดีกว่านี้ อนาคตเราอาจจะขึ้นห้าง

ข้อคิดถึงนักธุรกิจรุ่นใหม่

เราเองเคยเป็นพนักงานออฟฟิศมาก่อน จึงรู้ว่าทุกคนคงเคยรู้สึกเบื่องานที่ตัวเองทำอยู่ อยากออกมาทำธุรกิจเอง จริงๆ เปิดธุรกิจเองก็มีข้อดี เราได้เป็นนายตัวเอง เหนื่อยเพื่อตัวเอง แต่ทุกวันนี้เราได้หยุดงานแค่ปีละครั้งเท่านั้น คือช่วงสงกรานต์ 3 วัน อีก 362 วันที่เหลือ ทำงานทุกวัน เหนื่อยกว่าการเป็นพนักงานออฟฟิศเป็นสิบๆ เท่า ความรับผิดชอบจะเยอะขึ้นมากๆ

ฉะนั้นก่อนจะเริ่มทำธุรกิจอันดับแรกอยากให้ถามตัวเองให้ดี ว่าคุณรักมันจริงๆ หรือเปล่า รักในงานบริการไหม พร้อมจะทุ่มเทให้มันได้หรือเปล่า ถ้าทำได้ แล้วโอกาสมาถึงก็อย่ารอ ลงมือทำเลย แล้วคุณจะประสบความสำเร็จเอง

เจริญชัยไก่ตอน
812/16 ซอย ประชาชื่น 24-25 ซอย ประชาชื่น 24 แขวง วงศ์สว่าง เขต บางซื่อ กรุงเทพมหานคร 10800
โทร.085 236 0063

เรื่องแนะนำ

หม้อเบ้อเร่อ

ถอดบทเรียน “ หม้อเบ้อเร่อ “ พลิกวิกฤติร้านเกือบเจ๊ง ให้กลับมาอยู่รอดอีกครั้ง

หลายคนทำร้านอาหารตามกระแส เห็นร้านอื่นขายดี ก็เลยอยากจะขายบ้าง แต่บอกเลยว่าการทำร้านอาหารหนึ่งร้านนั้น ใช่ว่าทุกคนจะประสบความสำเร็จ ร้าน หม้อเบ้อเร่อ เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างร้านชาบูบุฟเฟต์ที่น่าสนใจ ที่ผ่านทุกช่วงมาแล้ว ตั้งแต่เริ่มขายรายได้หลักแสน จนเข้าขั้นวิกฤติขาดทุนวันละหมื่น แล้วฟื้นตัวกลับมาขายดีมีลูกค้าต่อเนื่องอีกครั้ง หม้อเบ้อเร่อ พลิกธุรกิจที่เกือบเจ๊ง ให้กลับมาปังอีกครั้งได้อย่างไร มาฟังคำตอบจาก คุณป๊อป ฐิติพงศ์ เนตรพ่วง เจ้าของร้านกันครับ >> หม้อเบ้อเร่อ เปิดใหม่กระแสดี ยอดขายหลักแสนต่อวัน ช่วงแรกที่เปิด หม้อเบ้อเร่อ เป็นกระแสดีมาก เป็นชาบูถาดใหญ่ จานใหญ่ๆ ยังไม่เคยมีใครทำ และอยู่ต่างจังหวัดด้วย คนยังไม่เคยเห็นแบบนี้ เรียกว่าใหม่มาก แปลก ออกสื่อเยอะ ลูกค้าจองเป็นเดือน ตอนนั้นเราเลยคิดว่าเรามาถูกทางแล้ว เราขายดีอยู่เป็นปีครับ แต่หลังจากนั้นพอกระแสมันหมด นี่คือชีวิตจริงแล้ว ทีนี้เราต้องมองให้ออกว่า อะไรคือกระแส อะไรคือของจริง วันที่เราแย่สุดๆ เคยขายได้วันละแสนขึ้น ลงมาเหลือสี่พัน แย่สุดๆเลย อยู่แบบนั้นประมาณ 3-4 เดือนจนเราคิดว่ามันลงถึงจุดที่ต่ำสุดแล้ว ถึงขั้นขาดทุนวันละหมื่น คิดว่าอยู่แบบนี้ไม่ไหวแล้ว ทั้งค่าพนักงาน ค่าเช่า ถ้าปล่อยไปแบบนี้ไม่รอด วิกฤติมาก […]

ไม่ลาออกจากงาน เปิดร้านอาหาร

กุ้งยกถัง ไม่ลาออกจากงาน เปิดร้านอาหาร ได้!

หลายคนลาออกจากงานเพื่อเปิดร้านอาหาร เพราะกลัวว่าจะแบ่งเวลาไม่ได้ แต่กุ้งยกถังพิสูจน์แล้วว่า ไม่ลาออกจากงาน เปิดร้านอาหาร ได้ แถมเปิดมานานกว่า 1 ปีแล้วด้วย

ศูนย์การค้า

รวมเรื่องเข้าใจผิด! เกี่ยวกับการเปิดร้านในศูนย์การค้า

เชื่อเลยว่า มีเจ้าของร้านอาหารหลายคน หรือแม้แต่คนที่ยังไม่มีร้านอาหารก็ตาม ต้องเคยมีความคิดว่า การจะนำร้านอาหารของตัวเองเข้าไปเปิดอยู่ในศูนย์การค้าใหญ่ๆได้นั้น ทำอย่างไรถึงจะเข้าได้ คงเป็นเรื่องที่ยุ่งยากมาก และดูไกลตัวจนเกินไป ซึ่งทีมงาน Amarin Academy ได้มีโอกาสพูดคุยกับ คุณประภา จิตวิวัฒน์พร Leasing Manager Business Development Group ศูนย์การค้า Seacon Square ได้เผยว่าความจริงแล้ว การนำร้านเข้ามาเปิดในศูนย์การค้านั้น ไม่ใช่เรื่องยากจนเกินไปอย่างที่หลายคนกังวล และเข้าใจผิดกันไปก่อน แล้วสิ่งที่เจ้าของร้านมักเข้าใจผิด ในการคิดจะนำร้านอาหารเข้าศูนย์การค้า มีอะไรบ้าง มาดูกันครับ   รวมเรื่องเข้าใจผิด! เกี่ยวกับการเปิดร้านในศูนย์การค้า 1. ต้องเป็นร้านใหญ่ แบรนด์ดังเท่านั้น! สาเหตุที่เจ้าของร้านหลายราย มักเข้าใจผิดเป็นอันดับต้นๆ ในการมาเปิดร้านในศูนย์การค้า ก็คือเรื่องแบรนด์ บางรายคิดว่า ศูนย์การค้ามักรับแต่แบรนด์ดังเท่านั้น เราเป็นเพียงร้านเล็กๆ คงไม่สามารถนำร้านเข้าไปอยู่ได้ ซึ่งความจริงแล้ว ศูนย์การค้ารับพิจารณาทั้งแบรนด์ใหญ่ และแบรนด์ใหม่ๆ อยู่เสมอ แต่ที่สำคัญมากๆ เป็นประเด็นหลักเลย ก็คือ ร้านของคุณจะต้องอร่อยจริง คุณภาพดีจริง เพราะฉะนั้น ทำให้อาหารร้านของคุณอร่อยก่อน […]

โอยั๊วะ

โอยั๊วะ การเดินทางกว่า 20 ปี กับ บทเรียนที่หาซื้อไม่ได้

ถ้าใครเคยผ่านไปย่านมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์บางเขน ถนนเกษตร-งามวงศ์วาน อาจจะเคยมีโอกาสได้เห็น หรือเคยไปทานร้านอาหารร้านหนึ่งที่ชื่อว่า โอยั๊วะ ร้านอาหารชื่อดังที่มีมานานกว่า 20 ปี แต่การเดินทางของโอยั๊วะ กว่าจะมาถึงวันนี้นั้น ผ่านเรื่องราวมามากมาย กว่าที่จะหาความเป็นตัวตนได้ และต้องเจอกับบทเรียนอะไรบ้าง เรามาฟังจากคุณกุ้ง ทสานุช ไทกุล เจ้าของร้านโอยั๊วะ กันครับ   การเดินทางกว่า 20 ปี ของธุรกิจร้านอาหาร โอยั๊วะ จุดเริ่มต้นของร้าน โอยั๊วะ ชื่อโอยั๊วะ จริงๆแล้วมีมานาน 20 กว่าปีแล้วค่ะ เริ่มจากร้านขายเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์เล็กๆ ที่ อตก. เป็นแค่ห้องแถวห้องเดียว ทำมาได้ระยะหนึ่ง พอร้านเริ่มไม่เป็นที่นิยมแล้ว ร้านก็ปิดตัวลง แต่แฟนของพี่เป็นคนรักการทำร้านอาหาร ก็เลยคิดว่าเรามาลองเปิดร้านอาหารกันไหม ก็เลยยังเอาชื่อโอยั๊วะคงไว้เหมือนเดิม แต่มาเปิดเป็นร้านอาหารแถวเมเจอร์รัชโยธิน เรียกว่าเป็นร้านอาหารรุ่นแรกๆที่มีความเป็นสวนด้วย ก็จะแปลกจากที่อื่นทำให้ลูกค้าชอบ   ทำไมต้องชื่อโอยั๊วะ จริงๆ ไม่มีเหตุผลอะไรเป็นพิเศษเลย แค่ช่วงวัยรุ่นยุคพี่ ก็จะคุ้นกับคำว่า โอยั๊วะ คือ กาแฟดำ คิดว่ามันเป็นชื่อติดหู ชื่อมันก็ทำให้ร้านเราดูกันเอง เข้าถึงง่าย […]

Follow Me

Contact

เว็บไซต์ : amarinacademy.com
บริษัท เอเอ็มอี อิมเมจิเนทีฟ จำกัด
ในเครือ บริษัท อมรินทร์ คอร์เปอเรชั่นส์ จำกัด (มหาชน)
Tel : 02-422-9999 ต่อ 4662 หรือ 4669, 092-254-0742
Email : amarin.academy@gmail.com

ติดต่อแจ้งปัญหาหรือร้องเรียน
02-422-9999 ต่อ 4180
(จันทร์ – ศุกร์ เวลา 09.00 – 18.00 น)
bdcx@amarin.co.th

สนใจลงโฆษณากับเว็บไซต์ Amarin Academy
Tel. 081-664-0666, 091-729-8060
E-mail : sineenart_ya@amarin.co.th

© COPYRIGHT 2025 AME IMAGINATIVE COMPANY LIMITED.