เทคนิคเก็บวัตถุดิบ ให้สด ใหม่ พร้อมใช้เสมอ - Amarin Academy

เทคนิคเก็บวัตถุดิบ ให้สด ใหม่ พร้อมใช้เสมอ

เทคนิคเก็บวัตถุดิบ ให้สด ใหม่ พร้อมใช้เสมอ

วัตถุดิบกับร้านอาหารถือเป็นของคู่กัน และเป็นสิ่งที่เจ้าของร้านอาหารแทบทุกคนต้องเคยปวดหัวกับเรื่องวัตถุดิบไม่สดใหม่ หรือซื้อมาไม่นานก็เน่าเสีย ทำให้สูญเสีย ต้นทุนวัตถุดิบ ไปโดยเปล่าประโยชน์ เราจึงขอแนะนำ เทคนิคเก็บวัตถุดิบ ให้สด ใหม่ พร้อมใช้เสมอ

1.เนื้อสัตว์

ก่อนอื่นต้องนำเนื้อมาล้างให้สะอาด ซับให้แห้ง จากนั้นใส่ภาชนะที่มีฝาปิดนำเข้าตู้เย็น หากใส่ในตู้เย็นช่องธรรมดาที่อุณหภูมิประมาณ 0-4 องศาเซลเซียส เนื้อจะอยู่ได้ประมาณ 2 วัน แต่หากอยากยืดอายุให้นานกว่านั้น ต้องใส่ในช่องแช่แข็งที่มีอุณหภูมิต่ำกว่าลบ 18 องศาเซลเซียส โดยการใส่ช่องแช่แข็งนี้ ควรแบ่งปริมาณเนื้อ ให้พอดีกับการใช้งาน ไม่ควรนำออกมาวางให้ละลายแล้ว กลับไปแช่ใหม่ซ้ำๆ เพราะจะทำให้เนื้อหมูไม่สด ซ้ำยังสูญเสียความหวานไปด้วย เมื่อต้องการใช้ก็หยิบออกมาวางไว้ที่อุณภูมิห้อง ไม่ควรแช่น้ำ เพราะจะทำให้สูญเสียคุณค่าทางอาหารและความอร่อยไป

ส่วนเนื้อที่ต้องหมักหรือปรุงรส เช่น สเต็ก หมูนุ่ม ควรล้างเนื้อให้สะอาด ปรุงรสและหมักให้เรียบร้อย จากนั้นนำเข้าตู้เย็นช่องธรรมดา และหยิบใช้เมื่อต้องการ วิธีนี้นอกจากจะสะดวกในการใช้งานแล้ว ยังทำให้เครื่องปรุงต่างๆ ซึมเข้าเนื้อได้ดียิ่งขึ้น ทำให้รสชาติดีขึ้นด้วย

2.ผักสด

วิธีเก็บผักสดไม่ยากเลย หากเป็นผักใบควรตัดแต่งใบที่เน่าเสียออกให้หมดเสียก่อน โดยไม่ต้องล้างน้ำ จากนั้นใช้พลาสติกแรปคลุมผักให้ทั่ว นำเข้าตู้เย็น โดยพลาสติกแรปจะช่วยคงความชุ่มชื้นของผักเอาไว้ได้ และควรแยกเก็บตามชนิดของผัก เพราะผักบางชนิดหากอยู่ได้กันอาจปล่อยสารบางอย่างทำให้เน่าเสียเร็วขึ้น เมื่อจะหยิบใช้ค่อยนำมาล้าง หรือหากเก็บพริก ควรเด็ดขั้วแล้วห่อกระดาษทิชชู่ไว้ จะช่วยให้เก็บได้นานขึ้น

ส่วนผักประเภทหัว เช่น หัวไชเท้า หัวบีท เผือก ให้ตัดใบออกให้หมดก่อนเก็บ มิฉะนั้นความหวานในหัวจะลดลง และสิ่งสำคัญที่สุดคือ ไม่ควรเก็บผักไว้ใกล้ผลไม้ เพราะผลไม้สุกจะปล่อยก๊าซเอธิลีนออกมา ทำให้ผักที่ว่างอยู่ใกล้ๆ เสียเร็ว

อีกวิธีหนึ่งที่ช่วยให้ปรุงอาหารได้สะดวกขึ้นคือ ถ้าผักที่จำเป็นต้องปรุงสุก เช่น แครอท บล็อกโคลี ข้าวโพดอ่อน ควรนำไปลวกให้พอสุกก่อน จากนั้นเก็บใส่กล่องแช่ตู้เย็นไว้และหยิบใช้ตามต้องการ

3.อาหารทะเล

อาหารทะเลเป็นวัตถุดิบที่เน่าเสียง่าย ฉะนั้นจึงไม่ควรสั่งสต็อกมาเยอะจนเกินไป ควรกะปริมาณให้พอเหมาะ และใช้ให้หมดภายใน 2 วัน เมื่อซื้อมาแล้วควรล้างให้สะอาด จากนนั้นนำเข้าตู้เย็นให้เร็วที่สุด โดยหลีกเลี่ยงการนำเข้าช่องแช่แข็ง เพราะจะทำให้สูญเสียรสชาติไป

4.ของแห้ง

เนื่องจากเมืองไทยอากาศร้อนชื้น วัตถุดิบที่เป็นของแห้งจึงเสี่ยงต่อการขึ้นรา ทางที่ดีที่สุดคือการนำเข้าตู้เย็นเพื่อป้องกันการเน่าเสีย เช่น กุ้งแห้งหรือปลาหมึกแห้ง อาจนำไปตากแดดอีกครั้งให้แห้งสนิทเสียก่อน จากนั้นนำใส่ภาชนะหรือถึงที่ปิดสนิท แล้วนำเข้าตู้เย็น หากใส่ช่องแช่แข็งจะช่วงให้เก็บได้นานขึ้น เมื่อจะใช้งานก็วางทิ้งไว้ในอุณหภูมิห้อง เท่านี้ก็ไม่ต้องกลัวเชื้อราอีกต่อไป

5.ทำสูตรให้ได้มาตรฐาน

เคล็ดลับสุดท้ายที่ช่วยให้รสชาติอาหารคงที่และเพื่อความสะดวกรวดเร็วในการปรุงคือ การปรุงน้ำซอสสำหรับเมนูต่างๆ เอาไว้ให้พร้อม เช่น ซอสผักกระเพรา ซอสผัดพริกแกง เป็นต้น โดยกำหนดสัดส่วนให้แน่นอน เมื่อต้องการทำเมนูนั้นๆ ก็ไม่ต้องเสียเวลาใส่เครื่องปรุงมากมาย เพียงแค่ตักซอสที่ปรุงไว้ใส่ลงไปตามสัดส่วนที่กำหนด ก็ได้จะรสชาติอาหารที่อร่อยคงที่แล้ว โดยวิธีนี้เป็นที่นิยมใช้ในร้านอาหารใหญ่ๆ แทบทุกร้าน เพื่อให้รสชาติได้มาตรฐาน

รู้อย่างนี้แล้ว เปิดร้านครั้งหน้าคงรู้วิธีจัดการวัตถุดิบให้สดใหม่ น๊านนานกันแล้วไช่ไหมล่ะ

เรื่องแนะนำ

ร้านอาหารฟื้นตัว

พร้อมคว้าทุกโอกาส!! 4 ปัจจัยช่วยให้ ร้านอาหารฟื้นตัว เร็วหลังวิกฤต

        ร้านอาหารฟื้นตัว จากวิกฤตได้หรือไม่? เนื่องจาก “อาหาร” เป็นหนึ่งในปัจจัย 4 ที่ขาดไม่ได้ ธุรกิจอาหารจึงเป็นหนึ่งในธุรกิจที่ไม่มีวันตาย เพียงแต่ว่าธุรกิจนี้มีการแข่งขันที่รุนแรงจากผู้ประกอบการจำนวนมากในตลาด ประกอบกับภาวะเศรษฐกิจขาลง ทำให้ผู้ประกอบการต้องรู้จักปรับตัวพัฒนาอยู่เสมอ ในช่วงวิกฤตโควิด-19 นี้ ก็ทำให้ร้านอาหารหลายๆร้านสามารถคิดหาหนทางใหม่ในการดำเนินธุรกิจ แบบที่ไม่เคยคิดว่าจะทำได้ หรือไม่เคยลองทำมาก่อนในภาวะปกติ เรียกได้ว่าเป็นความท้าทายที่ผลักดันให้หลายคนได้ลองเปิดประตูบานใหม่         ในด่านต่อไปที่ผู้ประกอบการร้านอาหารต้องคิดวางแผนคือ หากสถานการณ์ต่างๆ ดีขึ้น และการแพร่ระบาดของไวรัสอยู่ในการควบคุมแล้ว ธุรกิจร้านอาหารจะต้องทำอย่างไรเพื่อให้ไปต่อได้เร็ว และสามารถคว้าโอกาสได้ก่อน ลองมาดูปัจจัยสำคัญที่จะช่วยให้ ร้านอาหารฟื้นตัว ได้เร็วหลังผ่านวิกฤตกันครับ   ปัจจัยสำคัญช่วยให้ “ร้านอาหารฟื้นตัว” เร็วหลังวิกฤต   1. สร้างฐานลูกค้าประจำให้กลับมาซื้อซ้ำ         การขายแบบเดลิเวอรีหรือทางออนไลน์มากขึ้น ย่อมทำให้ทางร้านเก็บข้อมูลของลูกค้า และข้อมูลการขายเมนูอาหารต่างๆ ได้ง่ายขึ้นมาก กลุ่มเป้าหมายของร้านก็จะชัดเจนมากขึ้น ทางร้านก็ต้องสร้างช่องทางการติดต่อ และช่องทางการสั่งอาหารให้ครบถ้วน มีแผนการตลาดที่ช่วยรักษาลูกค้ากลุ่มนี้ให้กลับมาซื้ออาหารซ้ำอีก อำนวยความสะดวกให้แก่ลูกค้าที่ใช้บริการ หากได้รับคำติชมก็สามารถแสดงความรับผิดชอบ และปรับปรุงแก้ไขได้อย่างรวดเร็ว […]

เทคนิค ปรับร้านรับปีใหม่ เปรี้ยงกว่าเดิมชัวร์

ปีใหม่ทั้งที ร้านอาหารของเราจะทำเหมือนปีที่ผ่านมาได้อย่างไร วันนี้จึงขอแนะนำเทคนิค ปรับร้านรับปีใหม่ เพื่อที่ร้านของเราจะได้ยอดพุ่ง กำไรกระฉูดตลอดทั้งปี

เทคนิค การบริหารร้าน ให้รุ่ง เจ้าของร้านควรโฟกัสเรื่องอะไรบ้าง

ไม่ว่าจะเปิดร้านอะไร แน่นอนว่า คุณย่อมหวังให้ธุรกิจของคุณไปได้ด้วยดี มีกำไร แต่การที่จะทำให้ร้านขายดี ทำกำไรได้นั้น ก็ต้องมี การบริหารร้าน ที่ดีด้วย ซึ่งเจ้าของร้านควรโฟกัสที่ในเรื่องอะไรบ้าง มาดูกันครับ เทคนิคการบริหารร้านให้รุ่ง เจ้าของร้านควรโฟกัสเรื่องอะไรบ้าง กำหนดทิศทาง ตั้งเป้าหมายให้ดี ธุรกิจร้านอาหารเป็นธุรกิจที่จะต้องมีการวางแผนเพื่อเติบโตในแต่ละปี เจ้าของร้านอาหารควรมีความชัดเจนในการกำหนดเป้าหมายอย่างเป็นรูปธรรม ให้ทิศทางการดำเนินงานที่ชัดเจน และสามารถสื่อสารความตั้งใจนั้นไปสู่ทีมงานร้านอาหารทุกฝ่ายได้  เช่น ตั้งใจให้เป็นร้านไก่ทอดที่ชนะร้านไก่ทอดชื่อดังภายใน 5  ปี โดยการขยายสาขาให้มากที่สุด  หรือเป็นร้านผักออแกนิกส์อันดับ 1 ที่มีกลยุทธ์จับมือกับพันธมิตรผู้ให้บริการฟิตเนส  การโฟกัสกับ  “การสร้างภาพความสำเร็จขึ้นในใจของทีมงาน เพื่อให้เขาเป็นส่วนหนึ่งในการที่จะสร้างความสำเร็จนั้น” เป็นสิ่งสำคัญ ก่อนที่จะกำหนดแผนงานเพื่อให้แต่ละฝ่ายรับผิดชอบตามบทบาทหน้าที่ของตัวเอง และคอยตรวจสอบแผนงานนั้นอยู่เสมอ มองหาโอกาส เพื่อวางแผนการเติบโต             ร้านอาหารไม่ใช่การซื้อมาขายไป แต่การทำธุรกิจร้านอาหารให้อยู่รอด ต้องมองหาช่องทางในการเติบโต ธุรกิจร้านอาหารต้องมีการปรับตัวตลอดเวลา เนื่องจากมีปัจจัยต่างๆที่ส่งผลต่อยอดขาย ไม่ว่าจะเป็นปัจจัยภายนอกจากสภาวะการแข่งขัน หรือปัจจัยภายในที่เกิดจากการดำเนินงานของร้านเอง เจ้าของร้านอาหารที่ดีจึงควรให้ความสำคัญกับการพัฒนาร้านอาหาร ตรวจสอบข้อผิดพลาดเพื่อแก้ไขจุดบกพร่อง ทำการบ้านเรื่องคู่แข่งอยู่ทุกวัน ในขณะเดียวกันก็มองหาโอกาสในการที่จะพัฒนาร้านให้พร้อมต่อการเติบโตในอนาคต วางแผนการเติบโตของพนักงานแต่ละฝ่าย             พนักงานร้านอาหารไม่ใช่ต้นทุน แต่เป็นทรัพยากรที่จำเป็นจะต้องส่งเสริมให้สามารถทำงานได้อย่างเต็มศักยภาพมากที่สุด เพื่อให้พนักงานสามารถไปดูแลลูกค้าให้ดี สมกับที่นำรายได้มาให้เรา เจ้าของร้านอาหารนอกจากจะต้องรับรู้หน้าที่ของพนักงานแต่ละคนแล้ว ยังต้องวางแผนในการส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาและเติบโตในสายงาน […]

ขายอาหารคลีน

รู้ก่อนขาย! 4 จุดบอด ขายอาหารคลีน แบบนี้มีแต่เจ๊ง!

ในปัจจุบันนี้จะสังเกตได้ว่า เป็นยุคที่คนหันมาใส่ใจในสุขภาพของตัวเองมากขึ้น มีกิจกรรมรณรงค์เรื่องสุขภาพออกมาอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการออกกำลังกาย หรือแม้แต่การบริโภคอาหารที่มีประโยชน์ เพราะเรื่องอาหารการกินก็เป็นส่วนสำคัญที่จะทำให้สุขภาพร่างกายดีขึ้น จึงเป็นผลทำให้ทุกวันนี้เราจะเห็นร้านอาหารคลีนใหม่ๆ เกิดขึ้นมากมายอย่างต่อเนื่อง เราจะเห็นโฆษณาบ่อย ตามช่องทางต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Facebook, Instargram และช่องทางออนไลน์อื่นๆ เมื่อมีกระแสคนรักสุขภาพมากขึ้น ก็เป็นการเพิ่มช่องทางทำเงินจากธุรกิจอาหารคลีนได้มากขึ้นเช่นกัน แต่การจะ ขายอาหารคลีน ให้รุ่งนั้น ต้องรู้ว่าอะไรควรทำ และอะไรที่เป็นจุดบอดควรหลีกเลี่ยง   ขายอาหารคลีน ควรเลี่ยง 4 จุดบอดนี้!! อาหารคลีน  (Clean Food) คือ อาหารที่ใช้วัตถุดิบสดใหม่ในการปรุงอาหาร ขั้นตอนในการปรุงจะไม่ใช้สารเคมีปรุงแต่งอาหาร หรือผ่านการแปรรูปให้น้อยที่สุด และไม่ผ่านกระบวนการปรุงแต่งรสชาติที่มากเกินไป แต่ยังคงไว้ซึ่งสารอาหารและคุณค่าครบถ้วน รวมถึงมีการคำนวณพลังงานที่ร่างกายจะได้รับในแต่ละมื้ออาหารนั้นไว้ด้วย ดังนั้น อาหารคลีนจึงเป็นอาหารที่ดีต่อสุขภาพนั่นเองค่ะ และถึงแม้ว่ากระแสอาหารคลีนยังคงอยู่ และมีผู้ประกอบการที่อยาก ขายอาหารคลีน เกิดขึ้นมากมาย แต่ก็ใช่ว่าทุกร้านจะอยู่รอดนะคะ ขายอาหารคลีน ยังต้องมีองค์ประกอบอีกหลายอย่างที่ต้องรู้ รวมถึง จุดบอดที่ควรเลี่ยงอย่างที่เราได้กล่าวไป ซึ่ง4 จุดบอดนั้นคือ จุดบอดที่ 1 รสชาติไม่อร่อย แน่นอนว่าใครๆ ก็อยากจะบริโภคอาหารที่อร่อยจริงไหมคะ แม้ว่าจะเป็นอาหารคลีนก็ตาม […]

Follow Me

Contact

เว็บไซต์ : amarinacademy.com
บริษัท เอเอ็มอี อิมเมจิเนทีฟ จำกัด
ในเครือ บริษัท อมรินทร์ คอร์เปอเรชั่นส์ จำกัด (มหาชน)
Tel : 02-422-9999 ต่อ 4662 หรือ 4669, 092-254-0742
Email : amarin.academy@gmail.com

ติดต่อแจ้งปัญหาหรือร้องเรียน
02-422-9999 ต่อ 4180
(จันทร์ – ศุกร์ เวลา 09.00 – 18.00 น)
bdcx@amarin.co.th

สนใจลงโฆษณากับเว็บไซต์ Amarin Academy
Tel. 081-664-0666, 091-729-8060
E-mail : sineenart_ya@amarin.co.th

© COPYRIGHT 2025 AME IMAGINATIVE COMPANY LIMITED.