5 ข้อผิดพลาดทางการตลาด ที่เจ้าของร้านอาหารต้องรู้! - Amarin Academy

5 ข้อผิดพลาดทางการตลาด ที่เจ้าของร้านอาหารต้องรู้!

5 ข้อผิดพลาดทางการตลาด ที่เจ้าของร้านอาหารต้องรู้! วางแผนผิด ชีวิตเปลี่ยน

การวางแผนการตลาด ถือเป็นเรื่องสำคัญลำดับต้นๆ ที่เจ้าของร้านอาหารควรใส่ใจ เพราะเปรียบเสมือนเข็มทิศนำทางว่า ร้านของเราจะดำเนินกิจการไปในทิศทางไหน หากก้าวแรกที่เริ่มเดินก็ผิดเสียแล้ว ก้าวต่อๆ ไปก็ไม่แคล้วผิดตามไปด้วย อย่างนั้นมาดู 5 ข้อผิดพลาดทางการตลาด ที่เจ้าของร้านอาหารควรรู้กันดีกว่า

  1. ไม่วางกลุ่มเป้าหมาย

“เราไม่เจาะจงกลุ่มลูกค้า เราขายให้ทุกเพศทุกวัย”

นี่คือข้อผิดพลาดอันใหญ่หลวงของการทำการตลาด เจ้าของร้านต้องคำนึงไว้เสมอว่า เราไม่สามารถขายทุกๆ อย่าง ให้กับคนทุกคนได้ ดังนั้นหากอยากประสบความสำเร็จทางการตลาด คุณต้องวางกลุ่มลูกค้าให้ชัดเจน โดยสิ่งที่คุณต้องกำหนดมีหลายข้อ เช่น ช่วงอายุ ระดับรายได้ สถานที่พักอาศัย ไลฟ์สไตล์ เป็นต้น

การกำหนดกลุ่มเป้าหมายให้ชัดเจน จะส่งผลดีในการทำการตลาดทุกๆ ด้าน ทั้งการเลือกทำเล การออกแบบร้าน การตั้งราคาอาหาร การออกโปรโมชั่น ฯลฯ

ยกตัวอย่างเช่น หากเราอยากเปิดคาเฟ่ จำหน่ายเครื่องดื่มและขนม วางกลุ่มเป้าหมายเป็นกลุ่มคนวัยทำงาน อายุ 24-35 ปี เราก็จะรู้ว่าควรเลือกทำเลย่านที่มีสำนักงานหรือออฟฟิศตั้งอยู่ใกล้ๆ ออกแบบร้านให้ถ่ายรูปสวย มีพื้นที่สำหรับนั่งกินพร้อมกันเป็นกลุ่ม ตั้งราคากลางๆ ไม่สูงหรือต่ำจนเกินไป และออกโปรโมชั่นบัตรสะสมแต้ม ซื้อเครื่องดื่มครบ 10 แก้ว รับคูปองส่วนลด 50 บาท เพื่อดึงให้เขากลับมาเป็นลูกค้าประจำ

เห็นไหมครับ แค่เราตั้งกลุ่มเป้าหมายให้ชัดเจนเพียงข้อเดียว ก็ช่วยให้ทำงานง่ายขึ้นเป็นกองเลย

  1. ไม่เคยมองดูคู่แข่ง

“เราทำในสิ่งที่อยากทำ ไม่ได้คิดจะแข่งกับใคร”

คงเคยได้ยินประโยคนี้จากเจ้าของธุรกิจหลายๆ คนใช่ไหม จริงๆ ความคิดนี้ไม่ใช่ความคิดที่ผิด หากการไม่คิดจะแข่งกับใครหมายถึงว่า คุณวางตัวเองให้โดดเด่นและแตกต่างจากเจ้าอื่นๆ แต่หากหมายถึงการเปิดร้านโดยไม่สนใจเลยว่า รอบข้างร้านคุณ เขาขายอะไรกันบ้าง มีร้านที่ขายของเหมือนคุณมากน้อยแค่ไหน ราคาเท่าไร อันนี้น่ากลัวนะครับ

เช่น หากคุณอยากเปิดร้านหมูกระทะ ตั้งกลุ่มเป้าหมายไว้ว่า เป็นกลุ่มวัยรุ่น อายุ 16-25 ปี จึงเลือกทำเลย่านมหาวิทยาลัย ตั้งราคากลางๆ คือ 239 บาทต่อหัว น่าจะมาถูกทางแล้วใช่ไหม ร้านนี้น่าจะไปได้สวยเลย แต่พอเปิดปุ๊บ กลับเจ๊งไม่เป็นท่า เพราะรอบข้างมีร้านหมูกระทะอีก 5 ร้าน ซึ่งระดับราคาและคุณภาพใกล้เคียงกันด้วย

อีกกรณีที่น่าสนใจคือ คุณต้องไม่มองข้ามคู่แข่งทางอ้อม ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหารอื่นๆ (ไม่จำเป็นต้องขายหมูกระทะ) ที่อยู่ละแวกใกล้เคียง เพราะเขาก็เป็นส่วนหนึ่งในส่วนแบ่งทางการตลาดของคุณเช่นกัน

ฉะนั้นก่อนเปิดร้าน คุณต้องศึกษาคู่แข่งก่อน วิธีง่ายๆ คือ ลองเก็บข้อมูลร้านอาหารที่คิดว่าเป็นคู่แข่งมาสัก 3-5 ร้าน ไม่ว่าจะเป็นด้านรูปแบบการจำหน่าย ระดับราคา คุณภาพ การตกแต่ง จากนั้นลองเปรียบเทียบความแตกต่างของแต่ละร้าน แล้ววางแผนดูว่าร้านของเราจะสร้างความแตกต่างได้อย่างไรบ้าง

จำไว้เสมอว่า เมื่อคุณเปิดร้านอาหาร คุณมีคู่แข่งเสมอ ดังนั้นต้องศึกษาให้ดี ยิ่งคุณมีข้อมูลพวกเขามากเท่าไร ความสำเร็จของคุณก็มากขึ้นตามไปด้วย

  1. ไม่ตั้งเป้าหมายให้ตัวเอง

“ตอนนี้เทรนด์สุขภาพกำลังมาแรง เลยอยากลองตลาดดู”

หากอยากประสบความสำเร็จก่อนเริ่มทำทุกสิ่ง เราต้องมีเป้าหมายให้ชัดเจน ยกตัวอย่างง่ายๆ ก่อนออกจากบ้านเรายังต้องรู้เลยว่าจะออกไปไหน ไปอย่างไร และไปเพื่ออะไร การทำร้านอาหารก็เช่นกัน คุณต้องตอบให้ได้ว่า คุณจะขายอะไร ขายอย่างไร และที่สำคัญขาย “เพื่ออะไร”

ขายอะไร: เบเกอร์รี่โฮมเมด เพื่อสุขภาพ

ขายอย่างไร: จำหน่ายทาง IG โดยลูกค้าต้อง Pre-order เพื่อคงคุณภาพและความสดใหม่ ส่งถึงมือผู้บริโภคภายใน 1 วัน

ขายเพื่ออะไร: ต้องการให้ผู้บริโภคได้รับประทานขนมที่อร่อย สดใหม่ ทำจากวัตถุดิบคุณภาพสูงและดีต่อสุขภาพ ไม่ใส่วัตถุกันเสีย แถมไม่ต้องออกไปซื้อหาไกล แค่นั่งอยู่ที่บ้านก็ได้รับประทานแล้ว เพราะเรารู้ว่านอกจากรสชาติที่อร่อย คุณภาพที่ดีแล้ว ความสะดวกสบายของผู้บริโภค ก็เป็นสิ่งสำคัญไม่แพ้กัน

คำว่า เป้าหมายสำคัญมาก เพราะนี่คือหัวใจที่ทำให้เรารู้ว่า ที่เราเหนื่อยมาทั้งหมดนั้นทำไปเพื่ออะไร แถมยังช่วยในการสร้างแบรนด์ได้อีกด้วย

4.ไม่รู้คุณค่าของสิ่งที่ตัวเองจำหน่าย

“ไม่กล้าขายแพง กลัวไม่มีคนซื้อ”

นี่เป็นอีกเหตุผลที่เจ้าของธุรกิจส่วนใหญ่กังวลและไม่กล้าตั้งราคาสินค้าของตัวเอง แต่เคยสงสัยไหมครับ ว่าทำไม Starbuck จึงขายกาแฟแก้วละเกือบ 200 บาทได้ ทั้งๆ ที่มีร้านกาแฟอีกมากมายตั้งอยู่รายรอบ (หลายคนคงเถียงในใจว่า ก็นั่นเขาแบรนด์ระดับโลก แต่อย่าลืมนะครับ ก่อนที่เขาจะกลายเป็นแบรนด์ระดับโลก ก็เคยเริ่มต้นจากศูนย์มาก่อนเช่นกัน)

Starbuck วางตัวเองว่าเป็นกาแฟระดับพรีเมียม มีมาตรฐานสูง มีนวัตกรรมสินค้าและบริการเป็นเลิศ ฉะนั้นเมื่อลูกค้าซื้อกาแฟ 1 แก้ว สิ่งที่เขาจะได้รับ ไม่ใช่แค่เครื่องดื่มขมๆ หอมๆ เท่านั้น แต่จะได้ภาพลักษณ์ “ความพรีเมียม” ของแบรนด์ติดมือไปด้วย ซึ่งสิ่งนี้แหละที่ทำให้ลูกค้าพร้อมควักกระเป๋าจ่ายเงินให้ได้ทุกวัน (แต่กว่าที่ Starbuck จะเติบโตได้ขนาดนี้ก็มีแผนการตลาดที่เข้มข้นเช่นกัน) นี่คือคุณค่าของแบรนด์ที่แข่งขันได้ยากมาก

พอจะทราบแล้วใช่ไหม ว่าทำไม Starbuck จึงตั้งราคาสูงกว่าเจ้าอื่นๆ ได้ นั่นเป็นเพราะเขารู้ว่าคุณค่าของแบรนด์ตัวเองคืออะไร และรู้ว่าผู้บริโภคก็พึงพอใจในคุณค่าของแบรนด์นั่นเอง

เมื่อรู้อย่างนี้แล้ว มั่นใจในสิ่งที่คุณทำ หาข้อแตกต่างและโดดเด่น สร้างคุณค่าแบรนด์ตัวเองให้ได้ แล้วตั้งราคาไปเลยครับ ถ้าสินค้าของคุณดีจริง และมีคุณค่าในสายตาของผู้บริโภคจริงๆ เขาพร้อมจะจ่ายแน่นอน

5.ไม่ยอมปรับแผนการตลาดให้เข้ากับยุคสมัย

“เราไม่เล่นโซเชียลมีเดีย เลยไม่ได้ทำเพจ”

ในอดีตอาจจะพูดแบบนี้ได้ แต่ปัจจุบันทำไม่ได้แล้ว เพราะลูกค้าของคุณเขาเล่นกันแทบทุกคน ถ้าอยากให้เขารู้จักร้านมากขึ้น ก็ต้องกระโจนเข้าไปในที่ที่เขาสนใจ ซึ่งการทำการตลาดผ่านโซเชียลมีเดีย ถือเป็นวิธีที่กำลังมาแรงมากๆ เพราะสะดวก รวดเร็ว ค่าใช่จ่ายน้อยกว่าวิธีอื่นๆ แถมยังเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ตรงสุดๆ สามารถเลือกส่งข้อมูลให้เฉพาะกลุ่มที่เราต้องการก็ได้

ถ้าผ่านการทำร้านอาหาร (สุดหิน) มาได้ การตลาดออนไลน์ก็กลายเป็นเรื่องจิ๊บๆ แล้วครับ

ค่อยๆ เรียนรู้จากข้อผิดพลาดกันไป ความสำเร็จรอเราอยู่ !

เรื่องแนะนำ

น้ำแข็ง

“น้ำแข็ง” วัตถุดิบเล็กๆ ที่ร้านอาหารหลายร้านมักมองข้าม

        เครื่องดื่มอร่อยๆ ก็ต้องคู่กับ น้ำแข็ง เย็นๆ ชื่นใจ แต่ใครจะไปคิดว่าน้ำแข็งแต่ละรูปทรงก็ส่งผลต่อรสชาติของเครื่องดื่มได้อย่างไม่น่าเชื่อ น้ำแข็งทุกก้อนมีคุณสมบัติที่แตกต่างกัน อย่าปล่อยให้รายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ นี้ทำให้ร้านอาหารของคุณต้องมีเครื่องดื่มที่ไม่ได้คุณภาพ!         แต่ก่อนอื่นต้องบอกก่อนเลยว่า น้ำแข็ง เป็นน้ำที่นำมาผ่านกรรมวิธีทำให้เยือกแข็ง ซึ่งแบ่งออกเป็น 2 ชนิด ตามกรรมวิธีการผลิตดังนี้  น้ำแข็งชนิดซอง เป็นน้ำแข็งที่ผลิตโดยวิธีการแช่แข็งในบ่อน้ำเกลือ มี 2 ชนิด คือ –  น้ำแข็งที่รับประทานได้ จะต้องใช้น้ำที่ผ่านขั้นตอนการปรับคุณภาพ แล้วนำไปผลิตเป็นน้ำแข็งก้อนใหญ่ จะมีขั้นตอนการเป่าลมเพื่อให้น้ำแข็งทั้งก้อนใส –  น้ำแข็งที่รับประทานไม่ได้ นิยมใช้ในทางการประมงเพื่อแช่อาหารทะเล แต่กรรมวิธีจะไม่มีขั้นตอนการเป่าลม ทำให้ก้อนน้ำแข็งมีสีขาวขุ่น  น้ำแข็งชนิดก้อนเล็ก เป็นน้ำแข็งที่ทำด้วยเครื่องจักรอัตโนมัติ มีลักษณะเป็นก้อน, หลอด หรือเกล็ด โดยทั่วไปมักจะเรียกว่า น้ำแข็งหลอด ซึ่งจะนำน้ำที่ผ่านขั้นตอนการปรับคุณภาพแล้ว เข้าเครื่องทำน้ำแข็งอัตโนมัติ น้ำแข็ง ประเภทไหน เหมาะกับเครื่องดื่มอะไรบ้าง?         […]

วัดความสำเร็จของร้านอาหาร……ที่ไม่ใช่แค่ยอดขาย

วิเคราะห์ตัวเลข ตัวเลขรายได้รวม ความสำเร็จของร้านอาหารไม่สามารถวัดได้ด้วยยอดขายปัจจุบันเสมอไป ร้านอาหารจำเป็นที่จะต้องวิเคราะห์ตัวเลขรายได้จริงที่เกิดขึ้นทั้งหมด โดยนำรายได้ปีที่ผ่านมา และปีปัจจุบัน มาเปรียบเทียบ เพื่อให้สามารถคาดการณ์ถึงรายได้ในอนาคต การขยายสาขาใหม่แสดงถึงการสามารถทำรายได้ที่มากขึ้นก็จริง แต่รายได้นั้นมีอัตราการเติบโตที่เหมาะสมในการลงทุนหรือไม่ เมื่อเปรียบเทียบกับต้นทุนต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้น   ตัวเลขยอดขายต่อบิล ร้านมีกลยุทธ์การขายที่สามารถเพิ่มค่าใช้จ่ายต่อบิลได้ สามารถเจาะกลุ่มลูกค้าที่หลากหลายไม่ว่าจะด้วยเมนู หรือการจัดการส่งเสริมการขาย แสดงถึงความสำเร็จ และแนวโน้มของการสร้างรายได้ในอนาคต   ตัวเลขอัตราส่วนกำไรขั้นต้น  (Gross Profit Margin) การที่จะวัดว่าร้านอาหารประสบความสำเร็จ หรือมีแบรนด์ที่แข็งแกร่งหรือไม่ ร้านจะต้องมีอัตราส่วนกำไรขั้นต้นต่อหน่วยที่อยู่ในระดับสูง ซึ่งแสดงถึงความสามารถควบคุมต้นทุนการผลิตได้ดี ตัวเลขที่บอกอัตราส่วนกำไรขั้นต้น ต้องนำไปเปรียบเทียบกับกิจการคู่แข่ง หรือตัวเลขเฉลี่ยจากร้านอาหารในตลาดเดียวกัน    ระบบร้านอาหารที่ดี ระบบร้านอาหารที่ดี ไม่ว่าจะเป็นการบริการ การจัดการด้านครัวและวัตถุดิบ พนักงาน  โดยมีตัวชี้วัดที่มีประสิทธิภาพเกิดข้อผิดพลาดด้านการจัดการน้อย แสดงถึงความสามารถในการควบคุมการจัดการร้านอาหารได้เป็นอย่างดี มีส่วนสำคัญอย่างมากกับการทำร้านอาหาร โดยเฉพาะในสภาพการแข่งขันปัจจุบัน หากร้านอาหารของคุณขายดีมาก ๆ แต่ไม่มีระบบจัดการร้านอาหารที่ดี ต้องแก้ปัญหารายวัน ย่อมส่งผลต่อตัวเลขรายได้   Brand Royalty ของลูกค้า             เนื่องจากลูกค้าร้านอาหารมีตัวเลือกเยอะ และหลากหลาย ทำให้เป็นธุรกิจที่ลูกค้ามี […]

จุดคุ้มทุนร้านอาหาร

วิเคราะห์ จุดคุ้มทุนร้านอาหาร ขายเท่าไหร่ถึงได้กำไร!

        ผู้ที่สนใจจะเปิดร้านอาหารมักจะมีคำถามว่า ต้องขายจนถึงเมื่อไหร่ถึงจะคืนทุน? การลงทุนเปิดร้านอาหารจะคุ้มค่าไหม? แล้วต้องขายเยอะแค่ไหนถึงจะได้กำไร? ร้านอาหารจึงต้องมีการวิเคราะห์ข้อมูลต่างๆ เช่น การพยากรณ์ยอดขายของร้าน และขั้นตอนต่อไปคือ การวิเคราะห์ จุดคุ้มทุนร้านอาหาร ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่ควรทำก่อนเปิดร้านอาหารใหม่ เพื่อวางแผนในการบริหารจัดการร้านให้ได้กำไร วิเคราะห์ จุดคุ้มทุนร้านอาหาร ขายเท่าไหร่ถึงได้กำไร! จุดคุ้มทุนร้านอาหาร คืออะไร ?         จุดคุ้มทุน (Break-Even Point) คือ จุดที่รายได้เท่ากับต้นทุนพอดี หรือมีรายรับ = รายจ่ายนั่นเอง เป็นจุดที่ร้านอาหารขายแล้วไม่ขาดทุนแต่ก็ไม่มีกำไร ซึ่งการวิเคราะห์จุดคุ้มทุน จะทำให้ทราบว่าร้านอาหารจะต้องมียอดขายเท่าไหร่ถึงจะทำกำไรได้ ควรลดต้นทุนลงหรือไม่อย่างไร นอกจากนี้ ยังใช้เป็นแนวทางการวางแผนธุรกิจให้มีกำไรได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย         การวิเคราะห์จุดคุ้มทุน (Break-even point) ต้องเริ่มจากพิจารณาค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นของร้าน โดยแบ่งค่าใช้จ่ายออกเป็น 2 ส่วน ได้แก่ ต้นทุนคงที่ (Fixed cost) […]

ทำร้านบุฟเฟต์ให้มีกำไร

เคล็ด (ไม่) ลับ ทำร้านบุฟเฟต์ให้มีกำไร

ทุกวันนี้ร้านบุฟเฟต์โตสวนกระแสร้านอาหารประเภทอื่น แต่ขณะเดียวกันกลับมีไม่กี่ร้านที่อยู่รอด วันนี้เลยอยากสรุปเทคนิคการ ทำร้านบุฟเฟต์ให้มีกำไร มาฝากกัน

Follow Me

Contact

เว็บไซต์ : amarinacademy.com
บริษัท เอเอ็มอี อิมเมจิเนทีฟ จำกัด
ในเครือ บริษัท อมรินทร์ คอร์เปอเรชั่นส์ จำกัด (มหาชน)
Tel : 02-422-9999 ต่อ 4662 หรือ 4669, 092-254-0742
Email : amarin.academy@gmail.com

ติดต่อแจ้งปัญหาหรือร้องเรียน
02-422-9999 ต่อ 4180
(จันทร์ – ศุกร์ เวลา 09.00 – 18.00 น)
bdcx@amarin.co.th

สนใจลงโฆษณากับเว็บไซต์ Amarin Academy
Tel. 081-664-0666, 091-729-8060
E-mail : sineenart_ya@amarin.co.th

© COPYRIGHT 2025 AME IMAGINATIVE COMPANY LIMITED.