ทำธุรกิจให้สำเร็จ มาจากการติดกระดุมเม็ดแรกถูก! - Amarin Academy

ทำธุรกิจให้สำเร็จ มาจากการติดกระดุมเม็ดแรกถูก!

ทำธุรกิจให้สำเร็จ เริ่มจากติดกระดุมเม็ดแรกถูก!

เวลาคุณเปิดร้านอาหาร ถ้าร้านคุณมีปัญหาเรื่องรสชาติอาหารหรือคุณภาพของการบริการ คุณยังมีโอกาสปรับปรุงได้ แต่ถ้าคุณเลือกทำเลที่ผิด หรือลงทุนร้านเกินกว่าที่ควรจะเป็น คุณจะย้อนกลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้เลย ไม่ต่างอะไรกับการติดกระดุมเม็ดแรกผิด เม็ดต่อๆ ไปก็ผิดหมด ผมจะมาบอกเคล็ดลับ ทำธุรกิจให้สำเร็จ ให้เพื่อนๆ ทราบกัน

การติดกระดุมเม็ดแรกให้ถูก เป็นสิ่งที่เจ้าของร้านอาหารควรจะต้องคำนึงเป็นอันดับแรก นั่นก็คือ การศึกษาความเป็นไปได้ในการลงทุน (Feasibility Study) ซึ่งจะทำให้คุณรู้ถึงสภาพตลาด การแข่งขัน ทำเลที่เหมาะสม รวมไปถึงเรื่องการลงทุน ก่อนที่คุณจะเริ่มลงมือทำจริง

แต่ปรากฏว่าสิ่งนี้กลับเป็นสิ่งที่ถูกละเลยไป คนทำร้านอาหารใหม่ส่วนใหญ่มักจะทุ่มเวลาไปกับการคิดเมนูใหม่ และการตกแต่งร้านให้สวยงาม โดยไม่คำนึงถึงการศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการเลยว่า ใครคือลูกค้า ใครคือคู่แข่งของเรา ทำแล้วจะคุ้มไหม ทำให้หลายร้านลงเอยด้วยคำว่า “เจ๊ง” “ขาดทุน” หรือสิ้นเปลืองงบประมาณและเวลาในการปรับเปลี่ยนให้สอดคล้องกับตลาดในภายหลัง

ทั้งนี้ในเบื้องต้น ก่อนเปิดร้านอาหารสิ่งคุณควรศึกษาคือ สภาพตลาด ว่าสินค้าที่คุณจะขาย กำลังอยู่ในช่วงขาขึ้นหรือขาลง เช่น หากคุณอยากเปิดร้านชาไข่มุก แน่นอนว่า ถ้าคุณคิดจะเปิดเมื่อ 10 ปีที่แล้วตลาดคงอยู่ในช่วงขาขึ้น แต่ตอนนี้กลับตรงกันข้าม หากคุณยังยืนยันจะทำธุรกิจนี้จริงๆ ก็ควรวางแผนอย่างรอบคอบ เพราะความเสี่ยงสูงมาก เนื่องจากคนเริ่มไม่นิยมดื่มกันแล้ว

ถัดมาคือ ต้องกำหนดกลุ่มเป้าหมายว่า คุณจะขายสินค้าให้ใคร และทำไมจึงเลือกคนกลุ่มนี้ เพื่อเชื่อมโยงไปถึงการเลือกทำเล ที่กลุ่มเป้าหมายเข้าถึงได้สะดวก เช่น ถ้ากลุ่มเป้าหมายของคุณเป็น กลุ่มนักเรียนนักศึกษา ก็ควรเปิดขายใกล้ๆ โรงเรียน มหาวิทยาลัยหรือหอพักนักศึกษา ถัดมาก็มาวิเคราะห์คู่แข่งว่า ละแวกที่คุณจะเปิดร้าน มีคู่แข่งมากน้อยแค่ไหน ถ้ามีอยู่แล้ว 10 ร้าน ก็ควรถอยแล้วไปหาทำเลอื่นที่คู่แข่งน้อยกว่านี้จะดีกว่า ต่อมาคือกำหนดงบการลงทุน ว่าควรลงทุนเท่าไรจึงจะเหมาะสม ระยะเวลาการคืนทุน เพื่อประเมินว่าสมควรลงทุนในธุรกิจนี้หรือไม่

นี่เป็นเพียงการวิเคราะห์ความเป็นไปได้ในเบื้องต้นเท่านั้น แต่จริงๆ แล้วยังมีรายละเอียดอีกมากที่ต้องคำนึงถึง เพื่อลดโอกาสและความเสี่ยงในการลงทุนที่ผิดพลาด

ประโยชน์ของการศึกษาความเป็นไปได้ในการลงทุน (Feasibility Study) นี้ นอกจากที่จะช่วยเพิ่มอัตราความสำเร็จของร้านได้แล้ว ยังช่วยลดการลองผิดลองถูกของธุรกิจ รวมไปถึงช่วยลดความเสี่ยงจากปัจจัยต่างๆ ลงได้ ทั้งการกำหนดกลุ่มเป้าหมายที่ผิด การเลือกทำเลที่ไม่เหมาะสม กระทั่งการประเมินการลงทุนที่ผิดพลาดได้อีกด้วย

ฉะนั้นก่อนเปิดร้านอาหารควรให้ความสำคัญกับการศึกษาความเป็นไปได้ในการลงทุนด้วย

เพราะเราเชื่อว่าความสำเร็จในธุรกิจย่อมมาจากการติดกระดุมเม็ดแรกที่ถูกต้อง!


หากอยากศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเริ่มต้นธุรกิจ เรามีหลักสูตรเปิดร้านอาหาร…ไม่ให้เจ๊ง (Restaurant Feasibility Study) ที่จะช่วยลดความเสี่ยง เพิ่มโอกาสสำเร็จให้คุณ 

คลิก! เพื่ออ่านรายละเอียดเพิ่มเติม 

เรื่องแนะนำ

ทำอาหารไม่เป็น

ทำอาหารไม่เป็น เปิดร้านอาหารได้ไหม ?

จากการที่เราสังเกตและวิเคราะห์พบว่า ผู้ประกอบการเหล่านี้มีคุณสมบัติเหมือนกันบางอย่าง ที่ทำให้เขาเปิดร้านอาหารได้ ทั้งๆ ที่ ทำอาหารไม่เป็น เราจะมาสรุปให้ฟัง

ธุรกิจ ขายดี

ธุรกิจ ขายดี ที่สุด ไม่จำเป็นต้องราคาถูกที่สุด

เคยสงสัยไหมว่า ทำไมบาง ธุรกิจ ขายดี มาก ทั้งๆ ที่ราคาสูงกว่าเจ้า นั่นเป็นเพราะเขาไม่ได้ขายแค่สินค้าหรือบริการ แต่ขายประสบการณ์ให้ลูกค้าด้วย

Food Rotation Labels สติ๊กเกอร์บอกรายละเอียดวัตถุดิบ มาตรฐานครัวสำคัญที่ร้านอาหารควรมี

Food Rotation Labels สติ๊กเกอร์บอกรายละเอียดวัตถุดิบ มาตรฐานครัวสำคัญที่ร้านอาหารควรมี ทุกวันนี้ผู้คนหันมาให้ความสำคัญกับอาหารการกินในทุก ๆ ทาง นี่จึงเป็นเหตุผลชวนให้ผู้ประกอบการหันมาใส่ใจสุขลักษณะในการประกอบอาหาร เพื่อสร้างความมั่นใจทั้งต่อคนเสิร์ฟและคนรับประทาน ลองเปลี่ยนมาใช้ สติ๊กเกอร์บอกรายละเอียดวัตถุดิบ กัน! . สติ๊กเกอร์บอกรายละเอียดวัตถุดิบ (Food Rotation Labels หรือบางคนอาจจะเรียกว่า Daydot) คือ เป็นเครื่องมือที่ใช้ในการจัดระบบวัตถุดิบที่จะนำมาใช้ประกอบอาหาร โดยในสติกเกอร์จะมีหัวข้อให้ผู้ใช้ระบุข้อมูลเกี่ยวกับวัตถุดิบนั้น ๆ เช่น วัตถุดิบคืออะไร ผลิตวันไหน หมดอายุเมื่อไหร่ และใครเป็นคนเปิดใช้ เพื่อป้องกันการนำวัตถุดิบที่ไม่ปลอดภัยมาใช้ในการบริโภค ตัวอย่างข้อมูลที่ควรมีบนสติกเกอร์ติดอาหาร: 1.ชื่อผลิตภัณฑ์ (Product) เพื่อบ่งบอกว่าผลิตภัณฑ์นั้น คืออะไร 2.การจัดเก็บ (Type) : มีการจัดเก็บแบบไหน เช่น แช่แข็ง (Frozen) แช่เย็น (Chiller) หรือเก็บในอุณหภูมิห้อง (Ambient) 3.วันที่ผลิต (Product Date) 4.เวลาผลิต (Production Time) 5.วันที่หมดอายุ (Expiry Date) […]

ลูกค้าหายไปไหนกัน ? เจ้าของร้านตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับพฤติกรรมลูกที่เปลี่ยนไป

ลูกค้าหายไปไหนกัน ? รวมความคิดเห็นจากคนทำร้านกาแฟ เจ้าของร้านตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับพฤติกรรมลูกที่เปลี่ยนไป ร้านคุณกำลังเผชิญกับภาวะยอดขายตก ลูกค้าหายอยู่หรือเปล่า ? เจ้าของร้านกาแฟรายหนึ่งได้มาโพสต์ตั้งคำถามในกลุ่ม “คนบ้ากาแฟ” เกี่ยวกับการทำธุรกิจของตนเองในขณะนี้ได้อย่างน่าสนใจว่า เดี๋ยวนี้ลูกค้าหายไปไหนหมด โดยโพสต์ดังกล่าวได้ระบุข้อความว่า “#ลูกค้าหายไปไหน มาชวนเพื่อนๆ ช่วยกันคิดหน่อย คิดว่าตอนนี้หลายร้านคงเจอกับภาวะ “นั่งตบยุง” “นั่งไถมือถือ” “นั่งดู Netflix” เราเป็นคนนึงที่เคยไม่กินกาแฟ แต่พอเปิดร้านกาแฟกลายมาเป็นคอกาแฟ ขาดกาแฟไม่ได้สักวัน เปิดร้านกาแฟมาเข้าปีที่ 7 เราเริ่มสงสัยว่า “ลูกค้าหายไปไหน” ทั้ง ๆ ที่ในซอยที่ร้านเราอยู่ ไม่มีร้านกาแฟจริงจังที่เป็นคู่แข่ง อาจจะมีร้านชากาแฟที่เป็นคีออสบ้าง แต่ถ้าร้านกาแฟจริงจังมีเราร้านเดียว พอลูกค้าหายไป เราเลยเริ่มสงสัยว่าลูกค้าหายไปไหน หรือเกิดจากกระแส 1. กาแฟดริป/Moka pot ทานเองที่บ้าน 2. เครื่องทำกาแฟแคปซูล 3. กาแฟในร้านสะดวกซื้อ 4. ลูกค้าเลิกกินกาแฟ 5. ลูกค้าไปทานร้านอื่น เพื่อนๆ ช่วยเราคิดหน่อยว่าลูกค้าหายไปไหน?” . หลังจากที่โพสต์นี้ออกไปก็ได้มีทั้งเจ้าของร้านกาแฟ และผู้บริโภคต่างเข้ามาแสดงความคิดเห็นกัน โดยสรุปเป็นหลายปัจจัยดังนี้ ชงกินเองที่บ้าน […]

Follow Me

Contact

เว็บไซต์ : amarinacademy.com
บริษัท เอเอ็มอี อิมเมจิเนทีฟ จำกัด
ในเครือ บริษัท อมรินทร์ คอร์เปอเรชั่นส์ จำกัด (มหาชน)
Tel : 02-422-9999 ต่อ 4662 หรือ 4669, 092-254-0742
Email : amarin.academy@gmail.com

ติดต่อแจ้งปัญหาหรือร้องเรียน
02-422-9999 ต่อ 4180
(จันทร์ – ศุกร์ เวลา 09.00 – 18.00 น)
bdcx@amarin.co.th

สนใจลงโฆษณากับเว็บไซต์ Amarin Academy
Tel. 081-664-0666, 091-729-8060
E-mail : sineenart_ya@amarin.co.th

© COPYRIGHT 2025 AME IMAGINATIVE COMPANY LIMITED.