ทำอาหารต้องถอดเครื่องประดับ! มาตรฐานที่คนทำอาหารควรให้ความสำคัญ

เจ้าของร้านจิวเวลรี่แชร์ ทำอาหารต้องถอดเครื่องประดับ! แหล่งสะสมเชื้อโรค มาตรฐานที่คนทำอาหารควรให้ความสำคัญ

ถอดบทเรียน เจ้าของร้านจิวเวลรี่แชร์
ทำอาหารอย่าลืมถอดเครื่องประดับ!

เป็นแหล่งสะสมเชื้อโรคชั้นดี มาตรฐานความปลอดภัย
ที่คนทำอาหารควรให้ความสำคัญ

เวลาทำอาหารอย่าลืมถอดเครื่องประดับ!!! รู้หรือไม่ว่าเครื่องประดับที่เราใส่ ๆ กันอยู่ทุกวันเนี่ย เป็นแหล่งสะสมเชื้อโรคชั้นดีเลยนะ วันก่อนแอดได้เห็นโพสต์ที่เจ้าของร้านจิวเวลรีคนหนึ่งได้มาแชร์เป็นอุทาหรณ์ให้กับสมาชิกในกลุ่ม “เบเกอรี่พอเพียง” ถึงเรื่องการใส่เครื่องประดับทำขนมว่ามันเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำ โดยเฉพาะการใส่แหวน เพราะว่ามันสกปรกมาก อีกทั้งยังได้ส่งผลต่อภาพลักษณ์เรื่องความสะอาดของอาหารและร้านนั้น ๆ ด้วย


🔸แหล่งสะสมเชื้อโรค🤢
เจ้าของร้านจิวเวลรี่รายนี้ได้โพสต์ถึงประเด็นนี้ว่า

“ว่ากันด้วยเรื่องของการใส่แหวนในการทำเบเกอรี่ ในฐานะของเจ้าของร้านจิวเวลรี่ อยากจะบอกทุกคนว่าให้ถอดก่อนทำเถอะค่ะ เพราะแหวนที่เราเห็นว่าสวยวิบวับเนี่ย ด้านในท้องแหวนหรือตามซอกเตยที่เกาะเพชร มันสกปรกมากเลยนะคะ เวลาเห็นคนที่ไลฟ์สดหรืออาจารย์ที่สอนตามคอร์สออนไลน์ใส่แหวนทำแล้วนี่รู้สึกไม่ดีทุกครั้ง เพราะเจอเวลาลูกค้าส่งแหวนมาทำความสะอาด มันไม่โอเคจริงๆ ค่ะ แล้วถ้าแม่ค้าใส่แหวนด้วยความเคยชินไม่ได้ถอด นึกภาพกันออกมั้ยคะว่าเรากำลังกินเชื้อโรคและสิ่งสกปรกเข้าไปอยู่ แม้มันจะผ่านความร้อนแล้วก็ตาม”

พร้อมเสริมว่า “การทำความสะอาดแหวนทุกวันไม่ได้การันตีว่าแหวนเราจะสะอาดหมดจด เพราะตามซอกหลืบเล็กที่แปรงเข้าไม่ถึงยังมีเชื้อโรคที่สะสมอยู่ต้องทำความสะอาดด้วยเครื่องอัลตร้าโซนิค เครื่องใหญ่แบบที่ใช้ในโรงงานเท่านั้น ถึงจะสะอาดจริง ๆ ซึ่งเธอยังได้บอกอีกว่าการมาโพสต์ในครั้งนี้ไม่ได้มีเจตนาโจมตีใคร หากทำให้ท่านใดรู้สึกเห็นต่าง หรือไม่พอใจก็ขออภัย ณ ที่นี้ด้วย

🔸ความเห็นจากชาวเน็ต💬

เมื่อเรื่องนี้ออกไปก็ได้มีสมาชิกกลุ่มเบเกอรี่พอเพียงทั้งคนขายและลูกค้าต่างเข้ามาแสดงความคิดเห็นต่อเรื่องนี้ โดยส่วนใหญ่เห็นด้วยกับเจ้าของโพสต์ว่าการใส่เครื่องประดับทำอาหารเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำ ซึ่งคนทำเบเกอรีหลายคนก็ได้บอกว่าตั้งแต่ทำขนมขายก็ไม่ได้ใส่เครื่องประดับเลย ด้วยเหตุผลต่าง ๆ เช่น ความถนัด ความสะอาด เป็นต้น

บ้างก็แชร์ถึงเรื่องความปลอดภัยในการทำอาหารว่า “จริงๆ แล้ว การทำอาหารไม่ว่าชนิดใด คนปรุงอาหาร 1.เล็บต้องสั้น 2.ห้ามใส่เครื่องประดับ เช่น แหวน,นาฬิกา,กำไร เป็นต้น 3.ห้ามทาเล็บ 4.หมวกคลุมผม 5.ใส่ผ้ากันเปื้อนที่สะอาด 6.ใส่รองท้าปิดส้น 7.ใส่เสื้อมิชิดมีแขน แต่ที่บังคับจริงๆใกล้สุดคือห้ามใส่แหวน,นาฬิกา,กำไร, อันนี้ด่านแรกค่ะ แต่ถ้าจะทำให้ถูกต้องตามหลักสุขาภิบาลจริง ยังมีอีกเยอะค่ะ โต๊ะที่ปรุงอาหารต้องสูงจากพื้น 70-90 ห้ามวางสิ่งของลงพื้น”

“ตอนสมัยเราเรียนคหกรรมศาสตร์ ก่อนจะลงมือปฏิบัติ อาจารย์ต้องสั่งให้ถอดแหวนทุกครั้งที่ลงมือทำอาหาร คาว หวาน เบเกอรี่ และเราจำมาถึงทุกวันนี้ ท่องในใจเสมอมือไม้ต้องสะอาด ผ้าที่เช็ดมือต้องสะอาด”


🔸ความคิดเห็นจากผู้บริโภค💬 เช่น

“ไม่ชอบเหมือนกันเวลาเห็นแม่ค้า ทาเล็บ ใส่แหวน ไว้เล็บยาว ปล่อยผมยาวสลวยเวลาทำ ส่วนผู้ชายอย่าใส่เสื้อกล้ามหรือถอดเสื้อทำเลยค่ะมันดูไม่เหมาะ ส่วนถุงมือขนมบางชนิดเข้าใจว่าใส่ถุงมือมันลำบาก และถ้าไม่ใส่คิดว่าแม่ค้าล้างมือง่ายกว่าเวลาหยิบจับอะไรไปแล้ว ถุงมือไม่ใส่แต่เล็บมือสั้นล้างก่อนทำ เรารับได้ค่ะ ส่วนตัวเคยอยู่ร้านของคนญี่ปุ่นมา คือ ระเบียบสะอาดมาก”

🔸เจ้าของร้านจิวเวลรี่คนอื่นๆ 💍

เจ้าของร้านจิวเวลรีร้านอื่น ๆ ก็ได้มาแสดงความคิดเห็นต่อเรื่องนี้เช่นกัน “เอาประสบการณ์ตรงมาเล่าให้ฟัง ร้านเรารับซ่อมเครื่องประดับ มีลูกค้าประจำคนหนึ่งเอากำไลกับแหวนมาซ่อมและล้างกับทางร้าน กำไลกับแหวนจะมีคราบสกปรกที่คล้ายๆ แป้งกับสบู่เยอะมากๆ เราก็เฉยๆ นะซ่อมล้างทำความสะอาดไปตามปกติ พอหลังๆ สนิทกันลูกค้าเล่าให้ฟังว่าทำร้านอาหารขายราดหน้าหมูหมัก ชวนเราไปกินที่ร้านเล่าให้ฟังว่าทำเองทุกอย่างอร่อยแน่นอน เราเลยเข้าใจแล้วว่าทำไมเครื่องประดับที่เอามาซ่อมและล้างเกือบทุกชิ้นมันมีคราบสกปรกติดเยอะ เราถามเขาตรงๆ ว่าใส่กำไลและแหวนทำอาหารด้วยหรอคะ ลูกค้าบอกพี่ใส่ตลอดค่ะ นอนยังใส่เลย เราก็แนะนำไปว่ามันไม่ควรนะคะ ก็ไม่รู้ว่าเขาเชื่อหรือป่าว”

“เราก็ทำร้านจิวเวลรี่บอกเลยว่า สภาพที่ลูกค้าเอาแหวนมาให้ทำความสะอาดหรือซ่อม เต็มไปด้วยคราบสะสมต่างๆ เวลาแคะออกมาก็ยากมาก เวลาเขานวดแป้ง หยิบจับส่วนผสม บอกเลยว่า ปนเปื้อนไปแล้วเรียบร้อย” เป็นต้น

เพราะว่า “ความสะอาด” ถือเป็นส่วนหนึ่งของมาตรฐานความปลอดภัยในการทำร้านอาหาร ที่มีผลต่อทั้งภาพลักษณ์ของร้านและความมั่นใจในการมาใช้บริการของผู้บริโภค ดังนั้นไม่ว่าจะขายสินค้าที่เป็นอาหาร ทั้งเบเกอรี เครื่องดื่ม หรือเปิดร้านอาหารเลย ก็ควรคำนึงถึงหัวใจหลักตรงนี้เป็นสำคัญด้วย

เรื่องแนะนำ

เทคนิคตกแต่งจาน

เทคนิคตกแต่งจาน ช่วยประหยัดวัตถุดิบ

แต่งจานไปทำไม ในเมื่อไม่มีใครสนใจ และนอกจากลูกค้าไม่กินแล้ว ยังถือเป็นค่าใช้จ่ายที่คุณต้องแบบรับอีกด้วย เราจึงมี เทคนิคตกแต่งจาน ฉบับประหยัดวัตถุดิบมาแนะนำ

การจัดการธุรกิจอาหาร

เจาะลึกเบื้องหลัง การจัดการธุรกิจอาหาร ระดับโลก

เมื่อพูดถึงธุรกิจอาหาร หลายคนมักนึงถึง ร้านอาหาร แต่จริงๆ แล้ว ธุรกิจร้านอาหารมากกว่านั้น เราเลยอยากแชร์เกี่ยวกับ การจัดการธุรกิจอาหาร รูปแบบอื่นๆ ให้รู้กัน

5 คุณสมบัติที่ ผู้จัดการร้าน ต้องมี แล้วร้านคุณจะไม่มีวันเจ๊ง

ผู้จัดการร้าน เปรียบเสมือนตัวแทนของเจ้าของร้านอาหาร  ถ้าผู้จัดการร้านทำหน้าที่ได้อย่างดี เจ้าของร้านอาหารแทบจะไม่ต้องแก้ปัญหาจุกจิกใด ๆ เลย และยังมีส่วนสำคัญให้ร้านของคุณเติบโตได้ตามเป้าหมายอีกด้วย   5 คุณสมบัติที่ ผู้จัดการร้าน ต้องมี แล้วร้านคุณจะไม่มีวันเจ๊ง เก่งคน             การจัดสรรหน้าที่ความรับผิดชอบของพนักงานให้เหมาะสม  ให้คำแนะนำในการทำงานแก่พนักงาน  ผู้จัดการที่ดีจะต้องเป็นตัวแทนในการคัดเลือก ฝึกอบรม จ้างพนักงาน รักษาพนักงานที่ดี และคัดพนักงานที่เป็นปัญหาออก รวมถึงการสร้างบรรยากาศที่ดีในการทำงานอีกด้วย ถ้าผู้จัดการร้านไม่สามารถจัดการทีมงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะถ้าเกิดปัญหาหน้างานขึ้นมาแล้วก็เหมือนงูกินหาง ทำให้ร้านล้มเหลวไม่เป็นท่าในที่สุด   เก่งลูกค้า             ผู้จัดการร้านอาหารจะต้องมีหน้าที่ตรวจสอบความพึงพอใจของลูกค้า ควบคุมและพัฒนาการบริการของพนักงานเพื่อให้ลูกค้าพึงพอใจ   และฝึกให้สามารถรับมือกับลูกค้าเพื่อแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้เป็นอย่างดี เพราะหากลูกค้าไม่พอใจด่านสำคัญที่จะต้องตัดสินใจแก้ปัญหาคือ ผู้จัดการร้าน  นอกจากกำหนดนโยบายในการรับมือถ้าหากลูกค้าไม่พอใจแล้ว เจ้าของร้านควรให้บทบาทที่เหมาะสมในการตัดสินใจแก่ผู้จัดการร้านไว้เป็นกิจจะลักษณะ เช่น สิทธิในการให้ส่วนลดเพื่อชดเชยความไม่พอใจแก่ลูกค้า   เก่งวางแผน             หน้าที่ในการตรวจเช็คของใช้ต่าง ๆ ที่จำเป็น ตั้งแต่ของเล็กน้อย อย่างกระดาษเช็ดปาก ที่รองจาน อุปกรณ์ตกแต่ง ของใช้จำเป็นอื่น ๆ รวมถึงอุปกรณ์ที่จำเป็นให้พร้อมในการใช้งาน การจัดทำสต็อกสินค้าเพื่อจัดซื้อตามรอบ ในบางร้านอาจต้องประสานกับทีมครัวเพื่อจัดซื้อวัตถุดิบจากซัพพลายเออร์ เพราะฉะนั้นความละเอียดรอบคอบ และความสามารถในการคาดการณ์จำนวนให้เพียงพอต่อการใช้งานจึงเป็นสิ่งจำเป็น […]

เดลิเวอรี่

5 ปัญหาต้องรู้! ก่อนนำร้านเข้าสู่ระบบ เดลิเวอรี่

เดลิเวอรี่ ถือว่าเป็นอีกหนึ่งช่องทางทำกำไรในธุรกิจอาหารก็ว่าได้ค่ะ แต่แน่นอนว่ามีข้อดี ก็ย่อมมีข้อเสีย ถ้าหากลองติดตามกลุ่มเจ้าของร้านอาหารขนาดเล็ก ก็จะพบว่าหลายรายมีปัญหากับการเข้าร่วมให้บริการเดลิเวอรี่ ซึ่งส่งผลต่อการบริหารจัดการร้านอาหารอยู่ไม่น้อย วันนี้ Amarin Academy รวม 5 ปัญหาที่ต้องเจอ เมื่อร้านของคุณเข้าสู่ระบบ เดลิเวอรี่ และร้านอาหารต้องเตรียมรับมืออย่างไร   5 ปัญหา เมื่อนำร้านเข้าสู่ระบบ เดลิเวอรี่ 1. ระบบการทำบัญชี ระบบบัญชี การเงิน และกระแสเงินสดมีความสำคัญกับธุรกิจร้านอาหารมาก ซึ่งผลกระทบที่เกิดขึ้น เมื่อนำร้านเข้าระบบ เดลิเวอรี่ ก็คือ การรายงานยอดขายที่ไม่ตรงกันระหว่างหน้าร้านและผู้ให้บริการ กำหนดและระบบการวางบิล การจ่ายเงินค่าคอมมิชชั่นที่ไม่สอดคล้อง ซึ่งถ้าหากต้องมีการจัดการแก้ไขทุกเดือนก็จะทำให้เสียเวลาในการบริหารจัดการอยู่ไม่น้อย เพราะฉะนั้นก่อนการตกลงทำสัญญาเป็นพันธมิตรร่วมกับผู้ให้บริการรายใด ร้านอาหารจำเป็นต้องศึกษาระบบด้านการเงิน การบัญชี เพื่อเลือกผู้ให้บริการที่สอดคล้องกับระบบร้านของตัวเอง หรือเตรียมความพร้อมด้านระบบบัญชีหลังบ้าน เพื่อลดปัญหาในการดำเนินการให้มากที่สุด และควรคำนึงถึงการจัดการด้านภาษีจากรายได้ส่วนนี้ด้วย   2. รสชาติ และคุณภาพอาหารลดลง เมื่อนำร้านเข้าระบบเดลิเวอรี่ อีกหนึ่งปัญหาที่อาจต้องเจอ ก็คือ รสชาติและคุณภาพอาหารที่ลดลง บางร้านถึงขั้นแย่เลยทีเดียว ซึ่งสาเหตุอาจเกิดจากหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นระยะเวลาในการจัดส่ง หรือการบรรจุภัณฑ์ที่ไม่ดีพอ ตัวอย่างเช่น กรณี […]

Follow Me

Contact

เว็บไซต์ : amarinacademy.com
บริษัท เอเอ็มอี อิมเมจิเนทีฟ จำกัด
ในเครือ บริษัท อมรินทร์ คอร์เปอเรชั่นส์ จำกัด (มหาชน)
Tel : 02-422-9999 ต่อ 4662 หรือ 4669, 092-254-0742
Email : amarin.academy@gmail.com

ติดต่อแจ้งปัญหาหรือร้องเรียน
02-422-9999 ต่อ 4180
(จันทร์ – ศุกร์ เวลา 09.00 – 18.00 น)
bdcx@amarin.co.th

สนใจลงโฆษณากับเว็บไซต์ Amarin Academy
Tel. 081-664-0666, 091-729-8060
E-mail : sineenart_ya@amarin.co.th

© COPYRIGHT 2025 AME IMAGINATIVE COMPANY LIMITED.