กรณีศึกษาร้านกาแฟ SLOW BAR วิธีรับมือกับความกดดันเมื่อลูกค้าต้องรอนาน

กรณีศึกษาร้านกาแฟ SLOW BAR แม่ค้ารู้สึกกดดันเวลาลูกค้าเยอะ แชร์วิธีแก้จากคนทำร้านกาแฟ + จิตวิทยาการรอคอย

กรณีศึกษาร้านกาแฟ SLOW BAR
แม่ค้ารู้สึกกดดันเวลาลูกค้าเยอะ
เหตุทำกาแฟอยู่ แต่ก็ออเดอร์อื่นก็รอนาน
แชร์วิธีแก้จากคนทำร้านกาแฟ + จิตวิทยาการรอคอย

ทุกคนเคยมีความรู้สึกแบบนี้ไหม❓ รู้สึกกดดันจังเลยเวลาลูกค้ามายืนจ้อง… แม่ค้าร้านกาแฟรายหนึ่งได้มาโพสต์แชร์ความรู้สึกพร้อมขอคำแนะนำในการรับมือกับความกดดันเมื่อลูกค้าเยอะ ในกลุ่ม “คนบ้ากาแฟ” เนื่องจากเธอรู้สึกกดดันมาก เมื่อลูกค้ามาสั่งเครื่องดื่มแล้วต้องรอนาน
.
1- เธอได้โพสต์ว่า “ขอ HOW TO ทำยังไงไม่ให้กดดันตามลูกค้า เรารู้ ลูกค้ากาแฟรู้ ว่านี่มันคือ SLOW BAR COFFEE แต่บางครั้งคนที่ไม่ได้สั่งกาแฟไม่เข้าใจ งื้ออออ คือแบบ ทำกาแฟอยู่ แล้วลูกค้ามาสั่งเมนูที่ไม่ใช่กาแฟ แล้วรอนาน เพราะติดออร์เดอร์กาแฟ แล้วเราเลยกดดันตามลูกค้าไปด้วย ”
.


2- ซึ่งหลังจากที่โพสต์นี้ออกไปก็ได้มีเหล่าคนทำร้านกาแฟต่างเข้ามาให้คำแนะนำแม่ค้ารายนี้พร้อมแชร์ประสบการณ์ที่ตนเองเจอกันอย่างไม่มีกั๊ก โดยส่วนใหญ่ให้คำแนะนำว่าให้ใช้วิธีติดป้ายแจ้งหรือบอกลูกค้าไว้ก่อนว่าเครื่องดื่มมีคิวก่อนหน้าอยู่กี่คิว ต้องรอประมาณกี่นาที แล้วถามว่าลูกค้าสะดวกรอไหม เพื่อให้ลูกค้าตัดสินใจได้ว่าจะรอหรือจะไม่รอ เช่น

“ลองบอกเขาไหมคะ ว่ามีคิวอยู่เยอะ รอได้ไหม รอประมาณกี่นาที บางคนคิดว่าของฉัน 1 แก้วเอง แต่ถ้าร้านแจ้งก่อน ว่ามีคิวอยู่ก่อน ต้องรอนาน รอ 15 นาที รอ 20 นาที เขาก็เข้าใจนะคะ” “ทำ Slowbar ใจต้องนิ่ง อย่างแรกบอกลูกค้าก่อนว่ามีกี่คิว ใช้เวลาประมาณกี่นาที แล้วลูกค้าสะดวกรอไหม ชวนคุย เดี๋ยวลูกค้าจะบอกเองสะดวกรอหรือไม่ พูดคุยตรง ๆ อย่าเสียดายออเดอร์ลูกค้าจนกลายเป็นคิวล้น ลูกค้าหัวเสีย เราจะปวดหัวครับ” “แจ้งเวลาลูกค้าค่ะ และอธิบายว่าทำไมถึงช้า หากลูกค้าต้องการที่จะรอ ก็ชวนคุยไปพลาง ๆ ทำเสร็จก็เสิร์ฟ พร้อมขอบคุณ และก็ต้องขอโทษที่ทำให้รอนานค่ะ ยิ้มอ่อน” 😅

3- บ้างก็แนะนำว่าทางร้านอาจใช้การเพิ่มอุปกรณ์การชงเข้ามา หรือใช้การเพิ่มพนักงานเพื่อให้ชงได้ทัน เช่น “ลดเมนูที่ต้องกด f ลง เลือกเฉพาะตัวคราฟท์ๆ” “ต้องรู้จักประเมินสถาณการณ์ จะเลือกลูกค้า หรือจะคงความเป็นตัวตนของร้าน หรือจะแก้ด้วยการเพิ่มคนชง คงต้องประเมินเองครับ แต่การขายของกินไม่ควรปล่อยลูกค้ารอออเดอร์นาน”

4- ไปจนถึงบางคนก็ได้แชร์ประสบการณ์การทำร้านของตัวเองว่า “หัวอกสถานการณ์คล้ายกันเลย… ของเรามีทำของกินเล่นกับกาแฟแบบทำสดเพิ่มด้วยหลายอย่าง แถมทำเค้กวันเกิดตามสั่งอีก พอลูกค้ามาพร้อมกัน ตู้มเดียวช่วงพีคไทม์ แต่ละคนสั่งกาแฟ และขนมหลายอย่างพร้อมกัน ออร์เดอร์เค้กที่รับทำก็รอกองอยู่ ลูกค้าสายเม้าท์ก็รอคุยอยู่ ก็ต้องเทคแคร์ แม่ค้ามีคนเดียวไฟบนหัวลุกเป็นซุปเปอร์ไซย่าเลย ทำคนเดียวรีบจนเหนื่อย กลายเป็นช้าไป เพราะระบายลูกค้าไม่ทัน ช่วงนี้เลยพักยาวเลยค่ะ เหนื่อยจนน็อตหลุด สำหรับตัวเราเองคงโลภไปหน่อย เปิดร้านรอบหน้าคงต้องวางแผนจัดระบบใหม่ ตัด product ของกินเล่นออกบ้าง ไม่งั้นน็อคอีกแน่ๆ เลย” “ที่ร้านทำสโลบาร์ใช้ mokapot แต่ช่วงเร่งด่วนต้องต้มให้ทัน 1 ชั่วโมง 20แก้ว ขายคนเดียวแทบร้อง ขอโทษลูกค้าทุกคน” เป็นต้น
.
5- โดยตามธรรมชาติแล้วมนุษย์เราไม่ได้ชอบการรอคอย แต่ชอบที่จะมีอะไรทำอยู่ตลอด ดังนั้นผู้ประกอบการธุรกิจบริการอย่างร้านอาหาร ร้านกาแฟจึงควรให้ความสำคัญกับการเข้าใจพฤติกรรมนี้ เพื่อที่จะสามารถจัดการกับการรอคอยของลูกค้าให้รู้สึกว่าใช้เวลาน้อยที่สุดได้ และสร้างมูลค่าความรู้สึกประทับใจให้กับลูกค้า ซึ่งทางร้านอาจใช้วิธีหาอะไรให้เขาทำ เช่น การมีจออะไรสักอย่างให้ดู หรือมีอาหารว่างให้กิน

6- อีกทั้งควรหลีกเลี่ยงการใช้คำว่า “อีกสักครู่” กับลูกค้า❗️ เพราะทางจิตวิทยาแล้ว คำนี้เป็นคำที่บั่นทอนจิตใจคนรอมาก ๆ เพราะเขาไม่สามารถรู้ได้เลยว่าคำว่าอีกสักครู่เนี่ย มันนานเท่าไหร่ ดังนั้นร้านควรมีการอัปเดทสถานการณ์ให้ลูกค้าที่รอได้รู้ว่าเขาต้องรออีกนานเท่าไหร่ อาหารใกล้เสร็จแล้วหรือยัง เพื่อคลายความกังวลของลูกค้า


7- สุดท้ายที่สำคัญที่สุด คือ การที่ลูกค้าได้รับสิ่งที่ดีคุ้มค่ากับการรอคอย เช่น อาหารที่อร่อยวัตถุดิบคุณภาพดี บริการสุดประทับใจ บรรยากาศดี ลูกค้าก็มีแนวโน้มที่จะลืมการรอคิวนาน ๆ นั้นไปเลย เพราะสิ่งที่ได้รับมันเพอร์เฟคสุด ๆ ในทางตรงกันข้ามถ้าหากลูกค้าได้รับในสิ่งที่ไม่น่าประทับใจ เขาก็จะรู้สึกเสียดายเวลานั้นไปเลยเช่นกัน
.
Reference: https://www.facebook.com/groups/259809032544230/permalink/439171567941308/
#AmarinAcademy #ร้านอาหาร

 

เรื่องแนะนำ

4 ขั้นตอนที่มือใหม่ควรรู้ เริ่มต้น เปิดร้านอาหาร ให้รุ่ง!

เปิดร้านอาหาร เป็นหนึ่งในอาชีพแรกๆ ที่คนจะนึกถึงในช่วงเศรษฐกิจไม่ดี เพราะสามารถเริ่มลงทุนได้ด้วยเงินจำนวนไม่มาก จึงไม่แปลกที่ในช่วงโควิด จะมีการขายของกินออนไลน์กันอย่างคึกคัก บางคนที่เริ่มทำเป็นรายได้เสริม อาจจะทำรายได้ดีกว่ารายได้หลักเสียอีก  ถ้าในอนาคตจะเปิดเป็นหน้าร้าน หรืออยากขยายกิจการต่อไป จะต้องทำอย่างไรต่อไป ลองมาดู 4 ขั้นตอนสำหรับการเริ่มต้น เปิดร้านอาหาร ที่สรุปมาเพื่อให้ร้านของคุณโตได้โดยไม่ต้องเจ็บตัว และเป็นก้าวแรกที่มั่นคงของธุรกิจครับ  4 ขั้นตอนที่มือใหม่ควรรู้ เริ่มต้น เปิดร้านอาหาร ให้รุ่ง!   1.วางรูปแบบร้านให้ชัดเจน การวางรูปแบบของร้านอาหารให้ชัดเจน จะช่วยให้ลูกค้าจดจำได้ง่าย เกิดความน่าสนใจมากกว่าร้านทั่วไป และเป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างแบรนด์  เริ่มตั้งแต่การตั้งชื่อร้าน ควรเป็นชื่อที่มีเอกลักษณ์และจำง่าย เข้ากับประเภทของร้านอาหาร เมนูอาหารในร้าน รวมถึงสไตล์การตกแต่งภายใน ควรจะเป็นไปในแนวทางเดียวกัน และตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย  ขอยกตัวอย่างร้านกาแฟ ที่มีความหลากหลายมากในปัจจุบัน นอกจากรสชาติที่ดีของกาแฟแล้ว แต่ละร้านก็จะมีจุดขายที่แตกต่างกัน บางร้านก็ใช้การตกแต่งร้านและสวนให้สวยงาม เพื่อให้ลูกค้าได้มาถ่ายรูปเช็คอินลงในโซเซียลมีเดีย บางร้านก็เปิดเป็นคาเฟ่แมว เพื่อให้ลูกค้าได้ผ่อนคลายกับน้องๆ ในร้าน หรือแม้แต่การคิดเมนูที่สร้างสรรค์ต่างๆ ก็เป็นแนวทางในการสร้างจุดเด่น ที่ทำให้ลูกค้าจะเลือกมาที่ร้านของเรา และได้รับประสบการณ์ที่น่าประทับใจกลับไป 2.เลือกทำเลที่เหมาะสม เพราะทำเลเป็นปัจจัยสำคัญต่อผลประกอบการของร้าน การเลือกทำเลตั้งร้านอาหารจะต้องคำนึงถึงกลุ่มฐานลูกค้าเป้าหมาย คู่แข่งในละแวกเดียวกัน ที่จอดรถของร้าน ความสะดวกต่อการเข้าถึง และความสะดุดตาของร้าน […]

ลูกค้าเมา

เมื่อ ลูกค้าเมา ร้านอาหารควรทำอย่างไร

เจ้าของร้านอาหารหลายคนอาจเคยประสบปัญหา ลูกค้าเมา แล้วไม่รู้จะจัดการกับเขาอย่างไร วันนี้เราจึงมีข้อแนะนำดีๆ สำหรับการจัดการกับ ลูกค้าเมา มาแนะนำครับ

การจัดการธุรกิจอาหาร

เจาะลึกเบื้องหลัง การจัดการธุรกิจอาหาร ระดับโลก

เมื่อพูดถึงธุรกิจอาหาร หลายคนมักนึงถึง ร้านอาหาร แต่จริงๆ แล้ว ธุรกิจร้านอาหารมากกว่านั้น เราเลยอยากแชร์เกี่ยวกับ การจัดการธุรกิจอาหาร รูปแบบอื่นๆ ให้รู้กัน

Go Mass หรือ Go Niche โตแบบไหนเหมาะกับร้านของคุณ

                “เมื่อสินค้าไม่ได้แตกต่าง ลูกค้าจะเปรียบเทียบที่ราคาเสมอ” นั่นเป็นเหตุผลว่าคุณจะต้องทำร้านอาหารให้แตกต่างจากคู่แข่ง สิ่งสำคัญที่จะทำให้เกิดความแตกต่าง นอกจากการออกแบบสินค้าและบริการ ก็คือ การทำการตลาดและการสร้างแบรนด์ แล้วจะสร้างแบบไหน Go Mass หรือ Go Niche ที่เหมาะสมกับร้านของคุณ บทความนี้มีคำตอบ   >>MASS คืออะไร Niche เป็นแบบไหน ?             การมุ่งตลาด Mass คือ การทำร้านอาหารเพื่อตอบโจทย์คนหลายกลุ่ม มีความต้องการชัดเจน มีขนาดตลาดที่ใหญ่ ในขณะที่ Niche คือ การเจาะกลุ่มตลาดเฉพาะ มีขนาดตลาดที่แคบลงมา มีผู้เล่นน้อยราย มุ่งการสร้างมูลค่าให้กับสินค้า และสามารถขายสินค้าในระดับราคาที่สูงมากกว่า Mass ยกตัวอย่าง สมัยก่อนร้านอาหารญี่ปุ่นมีความนิยมที่จำกัด เนื่องจากมีราคาสูง นิยมแค่คนไทยที่เคยไปท่องเที่ยวที่ญี่ปุ่น ร้านอาหารญี่ปุ่นจึงไปแฝงตัวตามย่านธุรกิจที่มีคนญี่ปุ่นทำงานและใช้ชีวิตอยู่ เช่น สุขุมวิท สีลม จึงเป็นตลาดที่ค่อนข้าง Niche […]

Follow Me

Contact

เว็บไซต์ : amarinacademy.com
บริษัท เอเอ็มอี อิมเมจิเนทีฟ จำกัด
ในเครือ บริษัท อมรินทร์ คอร์เปอเรชั่นส์ จำกัด (มหาชน)
Tel : 02-422-9999 ต่อ 4662 หรือ 4669, 092-254-0742
Email : amarin.academy@gmail.com

ติดต่อแจ้งปัญหาหรือร้องเรียน
02-422-9999 ต่อ 4180
(จันทร์ – ศุกร์ เวลา 09.00 – 18.00 น)
bdcx@amarin.co.th

สนใจลงโฆษณากับเว็บไซต์ Amarin Academy
Tel. 081-664-0666, 091-729-8060
E-mail : sineenart_ya@amarin.co.th

© COPYRIGHT 2025 AME IMAGINATIVE COMPANY LIMITED.