20 เทรนด์ ธุรกิจอาหาร ปี 2020 ที่ผู้ประกอบการควรรู้ - Amarin Academy

20 เทรนด์ ธุรกิจอาหาร ปี 2020 ที่ผู้ประกอบการควรรู้!

20 เทรนด์ ธุรกิจอาหาร ปี 2020

ที่ผู้ประกอบการควรรู้!

 

1.ให้ความสำคัญกับเทคโนโลยีมากขึ้น

เมื่อโลกก้าวไกลเรื่องเทคโนโลยีขึ้นเรื่อยๆ เจ้าของร้านแบรนด์ใหม่ๆ จะเริ่มลงทุนกับการใช้ระบบเทคโนโลยีมากขึ้น และอาจลดแรงงานคนลง ร้านจะให้ลูกค้าบริการตัวเองมากขึ้น เพื่อลดค่าใช้จ่าย ส่วนร้านดั้งเดิมเก่าแก่ ก็จะหันมาใช้ระบบการจัดการใหม่ๆมากขึ้น โดยทายาทรุ่นใหม่ที่เข้ามาบริหารร้านเพื่อควบคุมต้นทุนให้มากที่สุด

 

2. Social Marketing สำคัญมาก

ปฏิเสธไม่ได้ว่ายุคนี้ ถ้าอยากให้ร้านเป็นที่รู้จักมากขึ้น การทำการตลาดบนโลกออนไลน์สำคัญมาก อะไรที่เป็นกระแสใน Social จะส่งผลกระทบรวดเร็ว ทำให้คนอยากลองและตามไปรีวิวมากมาย แต่ที่สำคัญร้านของคุณก็ต้องมีคุณภาพด้วย เพราะอย่าลืมว่าถ้าร้านไม่ดีจริง กระแสมาไวก็ไปไวได้เช่นกัน

 

3. เดลิเวอรี่ แข่งขันสูง

ผู้บริโภคยุคใหม่ต้องการความสะดวกสบายมากขึ้น ทำให้เดลิเวอรี่จึงมาแรงตั้งแต่ปีที่ผ่านมา จนมาถึงปีนี้ และเกิดการแข่งขันกันที่สูงขึ้น ธุรกิจร้านอาหารที่ไม่มีหน้าร้านก็จะเพิ่มขึ้นด้วย ทั้งนี้ก็อยู่ที่ว่าผู้ประกอบการแต่ละรายจะงัดกลยุทธ์ไหนออกมาเพื่อดึงดูดลูกค้าได้มากกว่ากัน

 

4. มากกว่าการกิน คือการสร้างประสบการณ์ให้ลูกค้า

แม้ว่าเรื่องรสชาติจะสำคัญที่สุดในการทำธุรกิจอาหาร แต่ปัจจุบันการสร้างประสบการณ์ใหม่ๆในการทานให้กับลูกค้า เป็นสิ่งที่ทำให้ลูกค้าเกิดความตื่นตาตื่นใจปละประทับใจไม่น้อย เช่น การให้ลูกค้ามีส่วนร่วม หรือแม้แต่การกินอาหารพร้อมโชว์เทคโนโลยี AR

 

5. อาหารหรูในราคาที่เอื้อมถึง

ในปีนี้เชื่อว่าผู้บริโภคจะต้องได้เข้าถึงอาหารคุณภาพดี แต่ราคาย่อมเยาว์มากขึ้น เช่น โอมากาเสะบางร้าน ที่จะมีในราคาที่ถูกลงเท่าตัว เพื่อให้ผู้บริโภคกลุ่มอื่นได้รับประสบการณ์แบบนี้บ้าง

6. การกินแบบวิถี Locavore

Locavore คือกลุ่มคนที่มีวิถีการกินแบบอนุรักษ์นิยม ซึ่งเป็นการสนันสนุนอาหาร หรือวัตถุดิบที่มาท้องถิ่น เพื่อช่วยเหลือเศรษฐกิจในชุมชนนั้นๆ เช่นผลิตภัณฑ์การโครงการหลวง หรือจากชุมชนพื้นบ้าน เป็นต้น ซึ่งจะมีผู้บริโภคที่เลือกกินแบบนี้เพิ่มขึ้น

7. อาหารสุขภาพยังคงอยู่

ในปีที่ผ่านมาเริ่มมีผู้บริโภคที่หันมาสนใจอาหารเพื่อสุขภาพมากขึ้น ทำให้ธุรกิจอาหารสุขภาพเกิดขึ้นมากเช่นกัน ซึ่งนั่นไม่ใช่เพียงแค่กระแสชั่วคราว แต่ในปีนี้นั้นเทรนด์รักสุขภาพก็ยังคงอยู่อย่างต่อเนื่อง ดังนั้น แบรนด์ใหม่ๆ ที่จะเกิดขึ้นก็มักคำนึงถึงเรื่องสุขภาพเป็นประเด็นหลัก ไม่ว่าจะเป็นการคัดเลือกวัตถุดิบ หรือกระบวนการผลิต

 

8. Plant-based meat ต้องมา

จากความตื่นตัวในเรื่องของปัญหาสิ่งแวดล้อมทั่วโลก ทำให้ผู้บริโภคยุคใหม่หันมาใส่ใจในเรื่องนี้มากขึ้น ซึ่งการ Plant-based meat หรือเนื้อที่ไม่ได้ทำจากเนื้อนั้น เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ทำให้ผู้บริโภคมีส่วนร่วมในการช่วยลดปัญหาสิ่งแวดล้อมได้ ซึ่งในต่างประเทศมีแบรนด์ใหญ่ที่เริ่มทำแล้ว ส่วนในประเทศไทยก็เริ่มมีแบรนด์ที่เริ่มทำแล้วเช่นกัน เช่น Sizzler

9. เทรนด์ Flexitarian

เทรนด์ที่ได้รับความนิยมมากในอเมริกา โดยหลักแล้วเป็นการทานมังสวิรัติแบบยืดหยุ่น หรือ ทานมังสวิรัติเป็นหลัก เน้นทานอาหารจำพวกผักเป็นส่วนใหญ่ โดยที่สามารถทานเนื้อสัตว์ได้บ้าง เป็นกลุ่มคนที่หันมากินมังสวิรัติเพื่อสุขภาพ

10. อาหารจากแมลง
แมลงมีคุณค่าทางโปรตีนสูงกว่าเนื้อสัตว์ทั่วไปอยู่ถึง 2 เท่า ทำให้ผู้บริโภคเริ่มมีความสนใจในเมนูอาหารที่ทำจากแมลง
เราจะเห็นเมนูอาหารหรือสินค้าที่ถูกแปรรูปมาจากแมลงกันมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเมนูในร้านอาหาร หรือผลิตภัณฑ์ที่ขายตามซูเปอร์มาร์เก็ต

 

11. Zero-waste  แพ็คเกจจิ้งที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น

การที่ร้านจะเปลี่ยนมาใช้แพ็คเกจจิ้งที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมนั้น อาจทำให้มีต้นทุนที่สูงขึ้น และตามมาด้วยราคาสินค้าที่อาจสูงตาม แต่การเปลี่ยนแปลงนี้จะเป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้ร้านเกิด Food waste น้อยลงในระยะยาว แพ็คเกจจิ้งนำมาใช้ซ้ำได้ หรือย่อยสลายง่าย เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมด้วย

12. สะดวก สดใหม่ และดีต่อสุขภาพ

อย่างที่รู้กันว่ายุคนี้ ผู้บริโภคใส่ใจสุขภาพมากขึ้น แต่ก็ยังคงต้องใช้ชีวิตแบบเร่งรีบอยู่ ดังนั้น สิ่งที่ตอบโจทย์ได้ดีคือ อาหารเพื่อสุขภาพแบบพร้อมทานจะมีมากขึ้น ต้องสะดวก เร็ว และดีต่อสุขภาพด้วย

 

13. อาหารสำหรับผู้สูงอายุ
การที่สามารถครองใจกลุ่มผู้สูงอายุได้สำเร็จ จะทำให้ได้ฐานลูกค้าที่ซื้อซ้ำสูงขึ้นมาก ดังนั้นควรออกแบบสินค้าและเมนูต่างๆ ให้มีความสอดคล้องกับพฤติกรรมของผู้สูงอายุด้วย เช่น สินค้ามีน้ำหนักเบา มีฉลากคำอธิบายตัวใหญ่ หรือ ทำโปรโมชั่นส่วนลดสำหรับผู้สูงอายุ

14. เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ต่ำเกือบ 0%

ทิศทางการดื่มแอลกอฮอล์ลดลง ทั่วโลกโดยเฉพาะในโซนยุโรป เพราะกลุ่มคน Millenial ให้ความสนใจในเรื่อง
ของการดูแลสุขภาพกันมากขึ้น จึงทำให้ดื่มแอลกอฮอล์ลดลง ดังนั้น จึงเป็นโอกาสดีของผู้ประกอบการที่ทำ เครื่องดื่มทางเลือกประเภท Mocktail หรือ Functional drink

15. ทางเลือกอาหารเด็ก

เนื่องจากมีสถิติบอกว่าภายในปี 2030 เด็กทั่วโลกกว่า 250 ล้านคนจะเป็นโรคอ้วน หากยังบริโภคขนมหรืออาหารที่มีปริมาณน้ำตาลสูง ซึ่งจุดนี้ทำให้ผู้ประกอบการเริ่มปรับตัวในการผลิตขนม หรืออาหารที่มีปริมาณน้ำตาลสูง หรือไม่มีประโยชน์ให้น้อยลง

 

16. จัดส่งชุดวัตถุดิบ ส่งตรงถึงบ้าน

ร้านที่มีบริการกดสั่งวัตถุดิบที่ต้องการ แล้วจัดส่งให้ถึงบ้าน เพื่อความสะดวกของลูกค้า ซึ่งธุรกิจนี้น่าจะเหมาะกับการเจาะกลุ่มเฉพาะ เช่น คนที่กินอาหารคลีนทำเองที่บ้าน เป็นต้น

17. ยุคของการ Collaboration

จะเห็นได้ว่าที่ผ่านมา มีหลายแบรนด์ที่จับมือร่วมกันในการผลิตสินค้าใหม่ๆ เป็นการที่นำจุดเด่นของแต่ละแบรนด์มาทำร่วมกัน เป็นการแลกเปลี่ยนฐานลูกค้ากัน เพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภคให้มากที่สุด

 

18. ร้านที่สร้างมาเพื่อตอบโจทย์เฉพาะกลุ่ม

ร้านที่เปิดเพื่อลูกค้าเฉพาะกลุ่ม มีคอนเซ็ปต์ร้านที่ชัดเจน เช่น ถ้าร้านนั้นอยากเน้นเรื่องของชาเขียวเป็นหลัก อยากให้ลูกค้าได้ดื่มด่ำกับประสบการณ์การดื่มชาเขียวแบบญี่ปุ่นแท้ๆ ก็จะคัดสรรชาเขียวที่ดี หรือตกแต่งบรรยากาศร้านให้มีความเป็นญี่ปุ่นให้มากที่สุด ซึ่งกลุ่มลูกค้าก็จะเป็นกลุ่มเฉพาะคนที่รักการดื่มชาเขียว หรือ ชอบทานอาหารที่ทำจากชาเขียว ก็จะมีความอินมากกว่า

 

19. Coffee Stand 

ปีที่ผ่านมาร้านกาแฟยังคงเป็นที่นิยมสำหรับผู้ประกอบการ ซึ่งในปีนี้การเปิดร้านกาแฟ จะเป็นในลักษณะทำเป็น Slow Bar ภายใต้ข้อจำกัดของพื้นที่ ไม่จำเป็นต้องเปิดร้านใหญ่โต หรือเป็นการใช้พื้นที่ร่วมกับร้านอื่นที่สามารถส่งเสริมการขายร่วมกันได้

20. การจ่ายเงินไร้เงินสดและการเข้ามาของ Vending machine
แนวโน้มการใช้เงินสดจ่ายจะมีทิศทางที่ลดลง  แต่จะมีทางเลือกในการจ่ายเงินในแบบอื่นๆ เพิ่มขึ้น
เพื่อให้คนที่มาใช้บริการร้านได้รับความสะดวกสบายขึ้น และควรมีระบบการจ่ายเงินสำหรับชาวต่างชาติ เช่น ชาวจีน จะมีระบบจ่าย Alipay

สำหรับ Vending machine ก็จะมีปริมาณเพิ่มขึ้นหลายเท่าจากในปีที่แล้ว รวมถึงอาจจะมีความหลากหลายของสินค้าในตู้เพิ่มมากขึ้นด้วยในปีนี้

                20 เทรนด์ ธุรกิจอาหาร ที่เราได้นำเสนอไปนั้น เป็นเพียงแนวโน้มที่คาดการณ์ว่าจะเกิดขึ้นในปีนี้ ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับเหล่าผู้ประกอบการเองว่าจะสามารถนำจุดไหน ไปปรับใช้กับ ธุรกิจอาหาร ของตัวเองได้บ้าง เพราะการจะทำให้ธุรกิจประสบความสำเร็จนั้น ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่างไม่ใช่เพียงแค่ทำตามเทรนด์เท่านั้น

 

ขอบคุณข้อมูล hungrybiz

 

เรื่องแนะนำ

“อาหารเพื่อสุขภาพ” เทรนด์มาแรงสายคลีน โอกาสทองของคนอยากมีธุรกิจ

หนึ่งในปัจจัยภายในที่จะทำให้มีสุขภาพที่ดีได้นั้น คงหนีไม่พ้น “อาหาร” นาทีนี้เรื่องของ “อาหารเพื่อสุขภาพ” หรือ อาหารคลีนฟู้ด กำลังได้รับความนิยม อาจเรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเทรนด์มาแรงของคนยุคใหม่ ที่หันมาใส่ใจเรื่องสุขภาพมากยิ่งขึ้น ส่งเสริมให้ตลาดธุรกิจร้านอาหารเพื่อสุขภาพขยายตามไปด้วยเช่นกัน สำหรับคนที่สนใจอยากเปิดร้านอาหาร การลงทุนกับอาหารเพื่อสุขภาพเป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจและเริ่มต้นได้ไม่ยาก วันนี้เราจึงขอนำเสนอแนวทางที่จะช่วยให้ทุกคนตีโจทย์ลักษณะของธุรกิจร้านอาหารเพื่อสุขภาพมาเป็นแนวทางในการนำไปเริ่มธุรกิจกัน 1.จุดยืนของอาหารเพื่อสุขภาพ ธุรกิจอาหารเพื่อสุขภาพเป็นธุรกิจที่ต้องสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภคว่า อาหารของเราทำมาจากวัตถุดิบที่สดใหม่และได้คุณภาพ ปรุงรสและผ่านกรรมวิธีที่ไม่ได้ลดคุณค่าทางอาหารจนเกินไป หากสนใจลงทุนกับธุรกิจด้านนี้แล้ว เจ้าของธุรกิจอย่างเราก็ควรศึกษาหาความรู้เรื่องโภชนาการและคุณค่าทางอาหารต่างๆ ด้วยเช่นกัน เพราะเมื่อเอ่ยถึงอาหารเพื่อสุขภาพแล้ว ผู้บริโภคล้วนมองหาสิ่งดีๆ ที่จะช่วยให้พวกเขามีสุขภาพที่ดีมาจากภายใน  เรื่องของคุณภาพวัตถุดิบที่คัดสรรมาเป็นอย่างดี กรรมวิธีการปรุงอาหารที่ไม่มากเกินไปจนทำให้เสียคุณค่าทางอาหาร สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นสิ่งสำคัญที่กลุ่มคนรักสุขภาพมองเป็นหลัก ส่วนใหญ่มักจะมองหาอาหารที่ช่วยควบคุมแคลอรี่และน้ำหนัก แต่ขณะเดียวกันก็ต้องมีรสชาติที่ดี  มีเมนูให้เลือกอย่างหลากหลาย ไม่จำเจหรือน่าเบื่อจนเกินไป จะเป็นเมนูอาหารเช้า ขนมทานเล่น ของหวาน หรือเมนูหลักก็สามารถสร้างสรรค์ให้หลากหลายได้ หลักในการปรุงส่วนใหญ่นั้น  ร้านควรเน้นวัตถุดิบเพื่อสุขภาพ ไม่มีวัตถุดิบพวกหมักดอง หรือ ขัดขาว เช่นน้ำตาลทรายขาว ข้าวขาว อาหารควรไร้ไขมัน มีน้ำมันประกอบอาหารได้ในจำนวนน้อยและใช้น้ำมันพืชที่ดี เช่น น้ำมันมะกอก น้ำมันดอกทานตะวัน และปรุงรสให้กลมกล่อมแบบกลางๆมากกว่าการเน้นรสจัด ที่สำคัญควรต้องครบห้าหมู่ 2.กลุ่มผู้บริโภคอาหารเพื่อสุขภาพ แม้จะดูเหมือนว่าอาหารเพื่อสุขภาพเป็นธุรกิจที่เจาะตลาดเฉพาะกลุ่ม แต่แท้จริงแล้วกลุ่มผู้บริโภคอาหารเพื่อสุขภาพกระจายอยู่ในหลายอาชีพและช่วงอายุ ทั้งกลุ่มนักศึกษาที่อยู่หอพักหรือคอนโด ซึ่งไม่ได้มีพื้นที่ในการทำอาหารมากนัก, กลุ่มพนักงานออฟฟิศที่ไม่ได้มีเวลาดูแลตัวเองเท่าที่ควร หรือกลุ่มผู้สูงอายุซึ่งต้องเริ่มใส่ใจกับอาหารการกินมากขึ้น จะเห็นได้ว่ากลุ่มผู้บริโภคไม่ได้เฉพาะเจาะจงแค่กลุ่มคนรักสุขภาพที่เข้าฟิตเนส […]

เทรนด์อาหาร

รู้ยัง? เทรนด์อาหาร Size เล็ก กำลังมา!

หลายคนคงคุ้นเคยกับอาหารขนาดยักษ์ ที่เรียกกระแสความสนใจผู้บริโภคได้ไม่น้อย แต่รู้ไหมว่า เทรนด์อาหาร กำลังเปลี่ยนไป หันมาเสิร์ฟ อาหาร size เล็ก แทน

เปิดเพลงในร้านอาหาร

5 วิธี เปิดเพลงในร้านอาหาร ไม่ให้ละเมิดลิขสิทธิ์

ก่อนหน้านี้เรามักจะได้ยินข่าวอยู่บ่อยๆว่า ร้านอาหาร ร้านกาแฟ ที่เปิดเพลงต่างๆ ภายในร้านของตัวเอง ถูกดำเนินคดีในข้อหาละเมิดลิขสิทธิ์งานเพลง หรือแม้แต่ข่าวตัวศิลปินเอง ที่นำเพลงมาร้องก็ถูกดำเนินคดีเช่นกัน ต้องบอกเลยว่าในยุคปัจจุบันนี้ ปัญหาเรื่องลิขสิทธิ์เพลงเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นอยู่บ่อยครั้ง เพราะเป็นเรื่องที่ค่อนข้างซับซ้อน และมีรายละเอียดมาก ซึ่งเจ้าของร้านบางราย หรือตัวศิลปินที่นำเพลงมาร้องตามร้านนั้น อาจจะยังไม่เข้าใจถึงข้อกฎหมายในเรื่องลิขสิทธิ์เพลงที่ชัดเจนมากพอ วันนี้ Amarin Academy จะมาอธิบายให้ทราบว่า จะมีวิธี เปิดเพลงในร้านอาหาร อย่างไรไม่ให้ผิดกฎหมาย และหากถูกกล่าวหาว่าละเมิดลิขสิทธิ์งานเพลง ต้องทำอย่างไร มาดูกันค่ะ   5 วิธี เปิดเพลงในร้านอาหาร ไม่ให้ละเมิดลิขสิทธิ์ ตรวจสอบรายชื่อเพลงที่จะใช้เปิด ว่ามีบริษัทใดจัดเก็บค่าลิขสิทธิ์บ้าง ตรวจสอบได้ที่เว็บไซต์กรมทรัพย์สินทางปัญญา www.ipthailand.go.th เลือกใช้เพลงที่ศิลปินหรือค่ายเพลง ประกาศอนุญาตให้ใช้ได้โดยไม่เสียค่าลิขสิทธิ์ จำกัดการใช้งานเพลงเพื่อลดต้นทุนค่าลิขสิทธิ์ และลดปัญหาการถูกดำเนินคดี ตรวจสอบความเคลื่อนไหวของรายชื่อเพลงที่แจ้งจัดเก็บค่าลิขสิทธิ์ในเว็บไซต์กรมทรัพย์สินทางปัญญาอย่างต่อเนื่อง หากเกิดการละเมิดลิขสิทธิ์เพลง และต้องการจ่ายค่ายอมความจะต้องกระทำต่อหน้าเจ้าหน้าที่ตำรวจ และระบุรายชื่อเพลง และจำนวนเงินที่ยอมความในบันทึกยอมความไว้เป็นหลักฐานเสมอ   สำหรับทั้ง 5 คำแนะนำข้างต้น เจ้าของร้านที่จะ เปิดเพลงในร้านอาหาร ควรจะต้องรีบตรวจสอบเลยค่ะ ว่างานเพลงที่ใช้เปิดอยู่นั้นมีเจ้าของลิขสิทธิ์หรือไม่ และดำเนินการเจรจาค่าลิขสิทธิ์ให้ถูกต้องตามกฎหมาย ตัวเจ้าร้านเองก็จะได้สบายใจ ไม่ต้องกังวลว่าจะถูกดำเนินคดีค่ะ แต่ถ้าหากพูดถึงอีกหนึ่งกรณี […]

ผ่านวิกฤติ COVID-19 ไปด้วยกัน กับเทคนิคปรับตัวของร้านอาหารในช่วงวิกฤติ COVID-19 จาก Penguin Eat Shabu

Penguin Eat Shabu ในสถานการณ์ที่อะไรๆ ก็ดูไม่เป็นใจ มองไปทางไหนก็เห็นแต่ความเศร้าปกคลุม จะดีกว่าไหม ถ้าเรามาเติมไฟในตัวให้ลุกโชนด้วยการนั่งดูสาระดีๆ เก็บความรู้ไปต่อยอด สำหรับผู้ประกอบการร้านอาหารผ่าน LIVE บนช่องทาง LINE Official Account : LINE for Business กันดีกว่าครับ เมื่อวันศุกร์ที่ 17 เมษายน ที่ผ่านมา ผมได้นั่งฟัง “คุณต่อ-ธนพงศ์ วงศ์ชินศรี ผู้ร่วมก่อตั้ง Penguin Eat Shabu” พูดคุยถึงเรื่อง ธุรกิจร้านอาหารต้องปรับตัวอย่างไรในช่วง COVID-19? พร้อมคุณโซอี้-ภญ.โสภา พิมพ์สิริพานิชย์ LINE Certified Coach ที่มาให้ความรู้เพิ่มเติมในการใช้ LINE เพื่อให้ธุรกิจเติบโตได้อย่างน่าสนใจมาก ผมเลยนำประเด็นมาสรุปและเรียบเรียงออกมาให้เพื่อนๆ อ่านกันครับ Penguin Eat Shabu ไม่อร่อย ให้ต่อยเพนกวิ้น ร้านบุฟเฟ่ต์ชาบูขวัญใจทั้งวัยรุ่น และวัยผู้ใหญ่ ที่มาพร้อมกับสโลแกนน่ารักๆ ว่า “ไม่อร่อย ให้ต่อยเพนกวิ้น” […]

Follow Me

Contact

เว็บไซต์ : amarinacademy.com
บริษัท เอเอ็มอี อิมเมจิเนทีฟ จำกัด
ในเครือ บริษัท อมรินทร์ คอร์เปอเรชั่นส์ จำกัด (มหาชน)
Tel : 02-422-9999 ต่อ 4662 หรือ 4669, 092-254-0742
Email : amarin.academy@gmail.com

ติดต่อแจ้งปัญหาหรือร้องเรียน
02-422-9999 ต่อ 4180
(จันทร์ – ศุกร์ เวลา 09.00 – 18.00 น)
bdcx@amarin.co.th

สนใจลงโฆษณากับเว็บไซต์ Amarin Academy
Tel. 081-664-0666, 091-729-8060
E-mail : sineenart_ya@amarin.co.th

© COPYRIGHT 2024 AME IMAGINATIVE COMPANY LIMITED.