กุญแจสำคัญในการเติบโตของธุรกิจ คือ ยอดขายที่เพิ่มขึ้นและค่าใช้จ่ายที่ลดลง ดังนั้น ในยุคปัจจุบันนี้จึงมีวิธีทำการตลาดมากมาย ที่เข้ามาเป็นตัวช่วยหรือทางเลือกในการทำกำไร และช่วยลดต้นทุนค่าใช้จ่ายให้ธุรกิจของคุณ ซึ่ง Bartercard ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจของคนทำธุรกิจ ที่จะมาช่วยผู้ประกอบการในการเพิ่มยอดขาย ลดต้นทุนค่าใช้จ่าย แล้วBartercard คืออะไร จะเข้ามาช่วยผู้ประกอบการได้อย่างไรบ้าง เรามีคำตอบค่ะ
Bartercard ทางเลือกใหม่คนทำธุรกิจ
ระบบBartercard (บาร์เทอร์คาร์ด) คือ ตลาดการค้าที่ประกอบไปด้วยผู้ถือบัตรกว่า 35,000 นักธุรกิจ เพื่อทำการซื้อขาย แลกเปลี่ยนสินค้าระหว่างกันโดยไม่ใช้เงินสด โดยมุ่งหวังให้เกิดความร่วมมือ และการสร้างพันธมิตรทางธุรกิจร่วมกัน ปัจจุบันมีนักธุรกิจเข้าร่วมในระบบนี้ถึง 9 ประเทศ ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือประเทศไทยด้วย
สำหรับระบบการทำงานของบาร์เทอร์คาร์ดนั้น เป็นการพัฒนาการแลกเปลี่ยนซึ่งเคยเกิดขึ้นในสมัยก่อน ที่เป็นการแลกเปลี่ยนสินค้ากันโดยตรง แต่การแลกเปลี่ยนโดยตรงแบบเดิมนั้น ก็มีอุปสรรคอยู่ที่ความต้องการในการแลกเปลี่ยนอาจจะไม่ตรงกันในขณะนั้น ทำให้ไม่เกิดการแลกเปลี่ยนกันขึ้น ดังนั้น บาร์เทอร์คาร์ด จึงได้มีการพัฒนาหน่วยเงินอิเล็กทรอนิกส์ที่เรียกว่า “เทรดบาท” ขึ้นมา 1 เทรดบาท จะเท่ากับ 1 บาท เปรียบเสมือนคุณมีบัญชีธนาคาร โดยสามารถใช้จ่ายในการซื้อสินค้าได้จากยอดเงินคงเหลือจากการขายสินค้าของคุณ หรือวงเครดิตปลอดดอกเบี้ยที่ได้รับจากบาร์เทอร์คาร์ด
ข้อดีของ Bartercard คืออะไร?
1. ช่วยเพิ่มยอดขาย
สิ่งแรกที่คนทำธุรกิจต้องการ แน่นอนว่าคุณต้องการยอดขายที่เพิ่มขึ้น เพราะนั่นหมายถึงเงินสดหมุนเวียนที่สามารถนำไปต่อยอดให้ธุรกิจเติบโตได้ เมื่อธุรกิจของคุณจะเข้าไปอยู่ในระบบฐานข้อมูลของBartercard ระบบจะช่วยแนะนำธุรกิจของคุณให้แก่ธุรกิจอื่นๆ อีกกว่า 35,000 ธุรกิจทั่วโลกได้รู้จัก ดังนั้น ย่อมต้องมีกลุ่มลูกค้าที่คุณยังไม่เคยมี หรือรู้จักมาก่อน ซึ่งผลที่ตามมาทำให้มีโอกาสเพิ่มยอดขายจากสินค้าที่คุณมีได้ง่ายขึ้น เพิ่มรายได้ และเพิ่มโอกาสเติบโตทางธุรกิจของคุณได้ด้วย
2. ช่วยลดต้นทุนค่าใช้จ่าย
เมื่อช่วยเพิ่มยอดขายให้กับธุรกิจได้ ในขณะเดียวกันก็สามารถที่จะช่วยลดต้นทุนค่าใช้จ่ายได้เช่นกัน วัตถุประสงค์หลักของระบบนี้จะช่วยคุณลดต้นทุน ด้วยการที่คุณนำสินค้าและบริการที่มี ไปแลกเปลี่ยนสิ่งที่คุณต้องการแลกเปลี่ยนโดยตรง ซึ่งช่วยลดการใช้กระแสเงินสดในการทำธุรกิจ เช่น กาแฟ 100 แก้ว นำไปแลกกับทริปท่องเที่ยว 1 ทริป เพียงเท่านี้คุณก็สามารถนำเงินสดที่มีในมือไปต่อยอดด้านอื่นในการทำธุรกิจต่อไป
3. ช่วยขยายฐานธุรกิจแบบ B2B
Bartercardเป็นสื่อกลางให้คุณได้มีโอกาสทำความรู้จักกับธุรกิจอื่นๆ เปิดโอกาสทางการค้ามากขึ้น ซึ่งผลที่ตามมาก็คือ เมื่อเกิดความสนใจที่จะแลกเปลี่ยนสินค้าที่ต้องการซึ่งกันและกันระหว่างเจ้าของธุรกิจ ก็จะเกิดการจับมือร่วมกัน เป็นพันธมิตรธุรกิจกัน ช่วยต่อยอดธุรกิจของคุณให้ไปได้ไกลยิ่งขึ้น
และข้อดีอีกอย่างคือ เมื่อคุณมีการออกสินค้าใหม่ๆ ก็สามารถนำสินค้าตัวใหม่ไปทำการแลกเปลี่ยนซื้อขายกันโดยตรงกับเจ้าของธุรกิจอื่นๆได้ เรียกว่าเป็นการช่วยเพิ่มการค้าแบบ B2B ได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วย
4. ขยายช่องทางการตลาด
สินค้าและบริการของคุณจะได้รับการแนะนำ หรือโปรโมทให้เป็นที่รู้จักในกลุ่มสมาชิก ได้รับการโฆษณาสินค้าและบริการในระดับท้องถิ่น และระดับประเทศ ผ่านอีเมล์โปรโมท ไดเรคทอรี่ งานเทรดโชว์ งานเน็ตเวิร์คกิ้ง ไปยังสมาชิกอีกว่า 3,000 ธุรกิจในประเทศไทย หรือกว่า 55,000 สมาชิกธุรกิจทั่วโลก เปรียบเสมือนมีตัวช่วยในการโปรโมทธุรกิจให้เลยทีเดียว
5. ขยายธุรกิจด้วยสินเชื่อไม่มีดอกเบี้ย
สมาชิกจะได้รับวงเงินเครดิตปลอดดอกเบี้ยเริ่มต้นตั้งแต่ 50,000 – 200,000 เทรดบาท ซึ่งจะช่วยให้สมาชิกทำการซื้อสินค้าและบริการได้ทันทีที่ได้เริ่มสถานภาพสมาชิก โดยวงเงินปลอดดอกเบี้ยนี้ เปิดโอกาสให้สมาชิกสามารถจับจ่ายซื้อสินค้า ผ่านBartercardได้ แม้ในช่วงเวลาที่กระแสเงินสดหมุนเวียนฝืดเคือง
เรียกว่าเป็นอีกหนึ่งช่องทาง ที่น่าสนใจในการทำธุรกิจเลยก็ว่าได้ค่ะ แน่นอนว่าผู้ประกอบการเองย่อมอยากได้ทางเลือกหรือช่องทางที่จะทำให้ธุรกิจของตัวเองนั้น อยู่รอดและเติบโตไปได้ด้วยดี แต่ทั้งนี้ตัวผู้ประกอบการเองก็ควรศึกษาข้อมูลอย่างละเอียดและเลือกใช้ช่องทางที่เหมาะกับธุรกิจของตัวเองให้มากที่สุดค่ะ
ขอบคุณข้อมูล+ภาพ www.bartercard.co.th
อ่านต่อบทความที่น่าสนใจ
วิธี คำนวณต้นทุนร้านอาหาร ที่เจ้าของร้านต้องรู้! by คุณ ธามม์ ประวัติตรี
FIFO เทคนิคการจัดเก็บวัตถุดิบร้านอาหาร ที่ช่วยลดต้นทุนได้
อย่าปล่อยให้ ระบบงานครัว ทำร้านเจ๊ง ถึงเวลาเจ้าของร้านต้องวางแผน
วิธีรับมือลูกค้า ที่มีปัญหา รับมืออย่างไรให้เจ๋ง พลิกวิกฤตเป็นโอกาสได้
เปิดร้านของตัวเอง VS ซื้อแฟรนไชส์ แบบไหนดีกว่ากัน?